TWO Chapter 67 ฝ่ายการศึกษาและวัฒนธรรม
TWO Chapter 67 ฝ่ายการศึกษาและวัฒนธรรม
ในตอนบ่าย โอหยางโชวเดินไปที่ค่ายทหาร เพื่อเลื่อนขั้นให้กับทหารอาสา
บริเวณลานของค่านยทหาร กองทหารอาสาจัดแถวอย่างเป็นระเบียบ โอหยางโชวเดินไปหน้าห้องเปลี่ยนขั้น แล้วางมือไว้บนประตู เพื่อเปิดใช้งานห้องเลื่อนขั้น
“เปลียนเป็นทหารขั้น 1”
“แจ้งเตือนระบบ : ยืนยันการเปลี่ยนขั้น กรุณาเลือกจำนวนการเปลี่ยนขั้น”
“100คน!”
“แจ้งเตือนระบบ : โปลดเลือกประเภททหารที่ต้องการเปลี่ยนขั้น โดยสามารถเลือกได้ 3 ปรเภท คือ ทหารราบ ทหารเรือ และทหารม้า โดยมีค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนขั้น 50 เหรียญเงิน, 100 เหรียญเงิน และ 150 เหรียญเงิน ตามลำดับ”
“ฉันเลือกทหารราบ!”
“แจ้งเตือนระบบ : ยืนยันการเปลี่ยนขั้นเป็นทหารราบ หักเงิน 50 เหรียญทองจากผู้เล่นฉีเยว่หวู่ยี่โดยอัตโนมัติ”
หลังจากทหารทั้ง 100 คนได้เลื่อนขั้นเรียบร้อยแล้ว โอหยางโชวก็ตรวจสอบสถานะของทหารราบ
ชื่อ : ไท่ตาน(Tie Dan)
อัตลักษณ์ : ทหารราบจากกองทหารราบที่ 1แห่งเมืองซานไห่
อาชีพ : ทหารราบ
ขั้นทหาร : 1
พลังต่อสู้ : 12
การบริโภค : 2 หน่วย/วัน
ทักษะ : การฟันขั้นต้น
อุปกรณ์ : มีดขั้นพื้นฐาน, เกราะขั้นพื้นฐาน, โล่ขั้นพื้นฐาน
การประเมิน : เป็นหน่วยพื้นทหารที่สุดของทหาร ถ้าคุณต้องการให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้น นอกเหนือจากการฝึกอบรมอย่างเข้มงวดแล้ว คุณต้องมอบอาวุธที่ดีกว่านี้ให้พวกเขา
ใน Earth Online ทหารราบสามารถแบ่งออกได้หลายประเภท ได้แก่ ทหารโล่ดาบ, ทหารหอก, ทหารขว้างขวาน, ทหารเขวี้ยงแหลน, ทหารธนูยาว, ทหารธนูสั้น นอกจากนี้ยังแบ่งเป็นทหารราบเบาและทหารราบหนัก เมื่อเปลี่ยนขั้นทหารเสร็จสิ้น โอหยางโชวได้เลือกให้พวกเขาเป็นทหารโล่ดาบขั้นต้น
เมื่อเทียบกับทหารม้า ค่าสถานะของทหารราบจะด้วยกว่า เพราะฉะนั้น ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนขั้นจึงถูกกว่ามาก พลังต่อสู้ต่ำกว่าถึง 3 แต้ม และความแตกต่างที่สำคัญที่สุดคือ อุปกรณ์ของพวกเขา
หลังจากที่จ่ายเงินสำหรับการเปลี่ยนขั้นทหาร ตอนนี้เขายังเหลือเงินอีก 80 เหรียญทอง ในถุงเก็บของของเขา เขาเริ่มเป็นกังวลเรื่องเงินอีกครั้ง ดูเหมือนคงถึงเวลาแล้วที่กองทัพของเขาจะต้องออกล่าโจรเพื่อหาเงิน
เขาเรียกขุนพลซี หลินยี่ และหัวหมู่ทุกคนเข้ามาในห้องประชุมภายในค่ายทหาร แล้วกล่าวว่า “ท่านขุนพล ถึงเวลาแล้วที่เราจะเคลื่อนไหว ตอนนี้ดินแดนของเรามีพื้นที่ขนาดใหญ่ถึง 100 ตารางกิโลเมตร และแน่นอนว่า ต้องมีค่ายโจรๆหลายแห่ง ข้าจำเป็นที่ต้องบอกท่านว่า ดินแดนของเรามีปัญหาด้านการเงิน และเราจะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้หรือไม่นั้น ทั้งหมดขึ้นอยู่กับท่าน”
คำพูดของโอหยางโชวทำให้เลือดของพวกเขาเดือดพล่าน โดยเฉพาะจางต้าหนิวและเจ้าซีฮูที่แทบจะบ้าคลั่ง ทั้ง 2 คน เป็นทหารขั้น 8 พวกเขาอยู่ห่างจากทหารขั้น 9 พวกเล็กน้อยเท่านั้น การแข็งขันระหว่างพวกเขานั่นรุนแรง พวกเขาหวังว่า การต่อสู้ในครั้งนี้จะช่วยทำลายคอขวด และทำให้พวกเขาเลื่อนขั้นได้
จางต้าหนิวและเจ้าซีฮูก้าวออกไปพร้อมกัน แล้วกล่าวเสียงดังว่า “นายท่าน, ภารกิจการทำลายค่ายโจรนั่น ท่านสบายใจได้ เราสัญญาว่าเราจะจัดการมันให้เรียบร้อยสมบูรณ์”
โอหยางโชวพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “กำลังใจในการทำงานสูงเป็นสิ่งที่ดี นับตั้งแต่ตอนนี้ ให้ขยายพื้นที่การค้นหาและค้นหาในทุกตารางนิ้ว เมื่อพบพวกมันให้รีบแจ้งข้าในทันที ครั้งนี้ข้าจะนำพวกเจ้าไปด้วยตัวเอง”
“ครับ!!!” ทุกคนกล่าวพร้อมกัน
โอหยางโชวเดินออกจากค่ายทหาร เขาเดินไปตามถนนพาณิชย์ มองเห็นร้านต่างๆเปิดให้บริการ เขาเห็นว่า ข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัดระหว่างเกมส์และโลกจริงก็คือ ในเกมส์ไม่มีวันหยุด
ขณะที่โอหยางโชวเข้าไปในสำนักงานของเขาเขาพบว่าตู่เสี่ยวหลานมารอเขาอยู่แล้ว
เธอกล่าวอย่างสุภาพ “นายท่าน ข้ามีเรื่องจะรายงาน”
จากการประเมินครั้งล่าสุด ตู่เสี่ยวหลานถูกลงโทษโดยโอหยางโชว เมื่อเธอเข้ามาพบเขาในครั้งนี้ เธอดูระมัดระวังมาก
“นายท่าน, ข้าได้ตรวจสอบธัญพืชในยุ้งฉางแล้ว พบว่าตอนนี้ เราเหลือธัญพืชเพียง 2000 หน่วยเท่านั้น เรากำลังประสบปัญหา และเราจึงต้องขอความช่วยเหลือของท่าน”
โอหยางโชวตบหน้าผากหัวเอง ไม่กี่วันมานี้เขายุ่งมาก จนลืมเกี่ยวกับการซื้อธัญพืช ถ้าไม่นับธัญพืชหลายพันที่เขายึดได้จากค่ายโจรก่อนหน้านี้ ธัญพืชของซานไห่ก็คงจะหมดลงแล้ว และมันคงทำให้เกิดภาวะการขาดแคลนอาหาร เขากล่าวออกไปว่า “ผ่อนคลายเถอะ เรียกคนงานบางคนมา แล้วตามข้าไปที่ตลาด”
โอหยางโชวเดินออกจากคฤหาสน์ แล้วเดินตรงไปที่ตลาดขั้นกลาง เขาเปิดส่วนวัสดุ ใช้เงิน 50 เหรียญทอง เพื่อซื้อธัญพืช 50000 หน่วย ธัญพืชพวกนี้คงอยู่ได้ไม่นานนัก เมื่ออัพเกรดเป็นเมืองขนาดเล็กระดับ 2 แล้ว เขาคงต้องซื้อเพิ่มเติม
หลังจากอัพเกรดเป็นเมืองขนาดเล็ก ปัญหาการขาดแคลนธัญพืชก็ทวีความรุนแรงมากขึ้น ถ้าไม่ใช่ว่าเขามีทรัพยากรอย่างเพียงพอ ภายในเมืองของเขาคงเข้าสู่ภาวะข้าวยากหมากแพง หลังจากแก้ปัญหานี้ เวลาก็ล่วงเลยมาถึง 18.00 น. แล้ว โอหยางโชวยังไม่มีเวลาดูแลเหนียนทั้ง 2 ตัว ในคอกม้า เขาออกจากระบบไป
……………………………………………………………………………………………………………
ในโลกจริง วันนี้เป็นวันที่ 2 ของปีใหม่ โอหยางโชวไม่ได้ไปเยี่ยมเยือน เพื่อน ครอบครัว หรือแม้แต่ออกไปเดินเล่นข้างนอก เมื่อวานเขาใช้เวลาทั้งวันในงานวัด เขาจึงรู้สึกเหนื่อยมากแล้ว วันนี้เขาเลือกที่จะพักผ่อน โดยมีปิงเอ๋อ และเซว่เอ๋ออยู่ด้วย พวกเขากำลังนั่งดูการ์ตูนในทีวี
……………………………………………………………………………………………………………
ในวันรุ่งขึ้น หัวหน้าฝ่ายทะเบียนคนใหม่ก็เข้ามาในสำนักงานของเขา
โอหยางโชวบอกให้เขานั่งลงแล้วกล่าวว่า “งานฝ่ายทะเบียนที่ทำอยู่เป็นเช่นไรบ้าง?”
“ขอบคุณนายท่านที่เป็นห่วง ทุกอย่างเรียบร้อยดีขอรับ” โจวไห่เฉินกล่าวอย่างสุภาพ
“ดีแล้ว, เจ้ามาหาข้าในวันนี้เพราะมีผู้มีความสามารถพิเศษที่น่าสนใจใช่หรือไม่?”
โจวไห่เฉินพยักหน้าพร้อมยิ้ม แล้วกล่าวว่า “ถูกต้อง ในหมู่ผู้อพยพ มีนักวิชาการชื่อ สูซูต้า(Xu Shuda) เขาเคยทำงานด้านการศึกษา ข้าคิดว่าเขาน่าใจ จึงรีบมารายงานให้นายท่านทราบ”
“นักวิชาการ? นี่เป็นความสามารถพิเศษที่หาได้ยาก เจ้าทำดีแล้ว เรียกเจ้ากรมฟ่าน และสูซูต้ามาพบข้าที่นี่ ข้ามีเรื่องจะคุยกับพวกเขา”
“ครับ!” โจวไห่เฉินมีข้อสงสัยบางอย่าง แต่เขาไม่ได้ถามออกมา พวกรีบออกไปเรียกพวกเขา
ในเวลาไม่ถุง 5 นาที ฟ่านจงหยาน โจวไห่ฉวน และสูซูต้าก็เดินเข้ามาในสำนักงานของเขา คนที่ยืนอยู่ด้านหลังก็คือ สูซูต้า โอหยางโชวตรวจสอบสถานะของเขา
ชื่อ : สูซูต้า[Xu Shuda](ระดับทอง)
อัตลักษณ์ : ชาวเมืองซานไห่
อาชีพ : ข้าราชการพลเรือน(จินซี)[Jinshi]
ความจงรักภักดี : 75
ความเป็นผู้นำ : 20
กำลัง : 18
สติปัญญา : 45
การเมือง : 60
ความเชี่ยวชาญพิเศษ : การศึกษา(ความคืบหน้าทางการศึกษา เพิ่มขึ้น 15%), ความรู้แจ้ง(ยกระดับคุณภาพชีวิต เพิ่มขึ้น 10%)
การประเมิน : นักวิชาการที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องการศึกษา บุคลิกภาพดี เป็นคนละเอียดถี่ถ้วน ความรู้ลึกล้ำ
หลังจากที่ดูสถานะของสูซูต้าแล้ว โอหยางก็พอใจเป็นอย่างมาก นี่เป็นความสามารถพิเศษด้านการศึกษา ความเชี่ยวชาญพิเศษทั้ง 2 ของเขานั้นยอดเยี่ยมมาก เขามั่นใจมากขึ้น และตัดสินใจทำสิ่งต่อไป
หลังจากกล่าวทักทายอย่างสุภาพ โอหยางโชวก็กล่าวเข้าเรื่อง “ขณะที่ประชากรของเราเพิ่มมากขึ้น โรงเรียน, ศาลบรรพบุรุษ, วัดมห่าโจ้ว, วิทยาลัยเหลียนโจว ฯลฯ สิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้ได้รับการปรับปรุง การศึกษาและวัฒนธรรมของเรากำลังขายตัวมากขึ้น ในอตีต ข้าต้องการจัดตั้งฝ่ายการศึกษาและวัฒนธรรม แต่ข้าไม่อาจหาคนที่เหมาะสมมาเป็นหัวหน้าฝ่ายได้ จนกระทั่งตอนนี้ เมื่อได้พบท่านสู ดังนั้น ข้าจึงตัดสินใจว่า ข้าจัดตั้งฝ่ายการศึกษาและวัฒนธรรมขึ้น ภายใต้การดูแลของกรมการบริหาร โดยมีท่านสูเป็นหัวหน้าฝ่าย”
สูซูต้าไม่คิดว่า ในเวลาสั้นๆหลังจากที่เขาเพิ่งมาถึงเมืองแห่งนี้ เขาจะได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่สำคัญเช่นนี้ เขารีบกล่าวว่า “ขอบคุณนายท่าน ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง!”
“แจ้งเตือนระบบ : ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่นฉีเยว่หวู่ยี่, สูซูต้าได้รับการสนันสนุนจากลอร์ดของเขา ความจงรักภักดีเพิ่มขึ้น 5 หน่วย”
ฟ่านจงหยานพยักหน้าของเขาอย่างพอใจ “ขอแสดงความยินดีกับท่านด้วย เขาเป็นคนที่มีความสามารถที่ยอดเยี่ยว ในโอกาสนี้ ข้าขอให้นายท่านถอดข้าออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการวิทยาลัยเหลียนโจวด้วย”
“โอ้? ทำไมท่านถึงกล่าวเช่นนั่นล่ะ? มีอะไรผิดพลาดหรือไม่?”
“ไม่ ไม่ ไม่ใช่เช่นนั้น การศึกษาสงผลกระทบโดยตรงต่อดินแดนของเรา มันควรจะอยู่ใต้ความดูแลของคนที่เหมาะสม และงานของข้าในกรมการบริหารก็ยุ่งมากแล้ว ข้าแทบจะไม่มีเวลาได้ทำหน้าที่นั้นมากนัก ข้าจึงขอแนะนำสูซูต้าให้เป็นผู้นวยการวิทยาลัยเหลียนโจวแทนข้า”
โอหยางโชวตระหนักถึงความตั้งใจของเขา เขาหันไปหาสูซูต้าแล้วกล่าวว่า “ดี, เนื่องจากเป็นเช่นนั้น ข้าคงต้องให้ท่านรับผิดชอบงานเพิ่มขึ้น ข้าหวังว่าท่านจะร่วมมือกับอาจารย์ซูเจ๋อได้ดี ท่านสามารถพัฒนาด้านการเรียนการสอน และพัฒนาวิทยาลัยเหลียนโจวตามความเหมาะสมได้”
สูซูต้าพยักหน้าอย่างเคร่งขรึมแล้วกล่าวว่า “ขอบคุณนายท่าน ข้าจะพยายามอย่างดีที่สุด”
ความจริง ฝ่ายการศึกษาและวัฒนธรรมได้เพิ่มอำนาจให้กับกรมการบริหารในรัฐบาล มี 5 ฝ่ายอยู่ภายใต้กรมการบริหาร ขณะที่กรมอื่นๆมีรวมกันเพียง 6 ฝ่าย และยังมีกองทัพ การจัดตั้งฝ่ายการศึกษาทำให้สมดุลของกรมทั้ง 3 พังทลาย
นี่เป็นส่วนหนึ่งของแผนของโอหยางโชว เขาไม่ต้องการให้โครงสร้างในอนาคตของรัฐบาลของเขา เป็นเหมือนกับโครงสร้างโบราณ เขาอาศัยอยู่ในยุคปัจจุบัน เขาได้สัมผัสกับระบบการปกครองที่ดี ด้วยความสัมพันธ์นี้ เขาจึงสามารถปรับเปลี่ยนมันให้เหมาะสมกับเมืองซานไห่ ดังนั้น เขาคิดว่ามันคงไม่ใช่เรื่องฉลาดที่จะปฏิบัติตามโครงสร้างโบราณ