ตอนที่แล้วตอนที่ 61 - จักรพรรดิและเครื่องประหารหัวสุนัข
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 63 - เรื่องราวของการเปิดบัญชี

ตอนที่ 62 - การกระทำของคนร่ำรวย


ตอนที่ 62 - การกระทำของคนร่ำรวย

 

เมื่อเห็นว่ามันยังไม่เย็นมาก สือเหล่ยไม่ได้สนใจจะเรียกรถอีกคน แต่เขาได้เดินไปยังห้างสรรพสินค้าที่อยู่ใกล้ๆแทน

ชั้นแรกของห้างสรรพสินค้าคือแบรนด์ที่หรูหราทั้งหมด เมื่อเขาได้คำนวณมาก่อนแล้ว สือเหล่ยได้เกินเข้าไปในร้านอาร์มานี่

แม้ว่าเขาจะสวมเสื้อผ้าธรรมดาๆ แต่พนักงานก็ไม่ได้ดูถูกเขาเมื่อพวกเขาทำงานอยู่ในร้านแบรนด์เนม เธอทักทายเขาด้วยรอยยิ้ม

เขามีเงินเหลือประมาณ 90,000 หยวน สือเหล่ยรู้ว่าเขาไม่ควรโชว์พาวมากเกินไปในร้านนี้ เพราะเขาต้องประหยัดเงินไว้สำหรับทั้งสามคนในคืนนี้

ดังนั้นสือเหล่ยจึงพูดออกมา "เลือกสูทมาให้ฉันที ไม่เป็นต้องทางการมากเกินไป และเอาเสื้อเชิ้ตที่เข้ากับมันด้วย จากนั้นเอารองเท้าหนังที่ไม่ฉูดฉาดเท่าไรมาให้ฉันอีกหนึ่งคู่"

พนักงานถามอย่างสุภาพ "นายท่าน คุณต้องการสีไหนเป็นพิเศษไหม?"

"แค่ไม่ต้องมีสีสันมากหรือฉูดฉาดเกินไป ฉันต้องการทำตัวติดดินและมันจะดีที่สุดถ้าคนอื่นๆไม่สามารถรับรู้ได้ว่าพวกมันมาจากแบรนด์ของคุณ"

พนักงานพยักหน้า ถึงแม้ว่าคนส่วนใหญ่จะซื้อแบรนด์ที่หรูหราเหล่านี้เพื่อการโชว์ แต่คนมั่งคั่งที่แท้จริงจะทำตรงกันข้าม พวกเขาเพียงแค่ไม่ต้องการเสียเวลาในร้านราคาถูกเนื่องจากแบรนด์หรูๆอย่างน้อยก็มีการการันตีถึงคุณภาพ

พนักงานช่วยสือเหล่ยเลือกเบลเซอร์(สูทแบบไม่เป็นทางการ)สีน้ำตาลอ่อนและเสื้อเชิ๊ตสีขาวที่เรียบง่ายอีกหนึ่งตัว รองเท้าของเขาก็พร้อมแล้วเช่นกัน พนักงานพูดกับสือเหล่ย "นายท่าน คุณอยากได้กางเกงบ้างไหม? กางเกงยีนส์กับรองเท้าหนังดูไม่ค่อยเข้ากันเท่าไร "

สือเหล่ยพยักหน้าและพูด "ฉันจะลองมันซะหน่อย!"

พนักงานหากางเกงให้และสือเหล่ยก็เข้าไปในห้องเปลี่ยนชุด เขาเปลี่ยนอย่างรวดเร็วและออกมา

ก่อนหน้านี้เมื่อสือเหล่ยเดินเข้ามา พนักงานรู้สึกว่าสือเหล่ยค่อนข้างดูดี เว้นเสียแต่ว่าเสื้อผ้าราคาถูกของเขาไม่เหมาะกับเขาจริงๆ ในตอนนี้ที่เขาสวมใส่อาร์มานี่ เขาดูดีขึ้นมามากและมันได้ส่งเสริมความโดดเด่นของเขาขึ้นอีกเป็นกอง

"นายท่าน นี่มันเหมาะกับคุณจริงๆ" พนักงานสาวจ้องมองไปที่สือเหล่ยและพูดออกมา สือเหล่ยมองตัวเองในกระจกและพยักหน้าเล็กน้อยราวกับว่าเขาดูหล่อขึ้นมาจริงๆ

เขาได้ตรวจสอบป้ายราคาในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว เบลเซอร์มีราคามากกว่า 10,000 หยวนเล็กน้อย กางเกงราคา 6,000 หยวน รองเท้าราคา 9,000 หยวน เสื้อเชิ๊ตราคา 3,000 หยวน เมื่อรวมราคาแล้วมันยังไม่ถึง 30,000 หยวน

"โอเค คิดเงินเลย" สือเหล่ยหมุนตัวหน้ากระจกและรู้สึกว่าเขาดูหล่อเหลาขึ้นมาก เขาคิดว่าถ้าเขาเป็นผู้หญิงเขาก็คงจะตกหลุมรักตัวเอง แม้ว่าเขาจะไม่ใช่ผู้หญิงก็ตาม เขาก็คงจะกลายเป็นเกย์เพราะตัวเอง

แม้ว่าพนักงานจะเคยชินกับเสื้อเชิ๊ตราคาสองสามพัน แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะซื้อเสื้อผ้ามูลค่ามากกว่า 10,000 หยวนโดยไม่ลังเลเช่นสือเหล่ย โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรู้สึกไม่ใส่ใจเมื่อสือเหล่ยหยิบบัตรของเขาออกมา มันแสดงให้เธอเห็นมากยิ่งขึ้นว่าเขาไม่ได้สนใจเรื่องเงิน 30,000 หยวนเท่าไร พนักงานอุทานออกมาอย่างเงียบงันว่านี่คือคนรวยจริงๆและเขาไม่ได้โชว์ออฟใดๆออกมาเลย คนอื่นๆที่ซื้อของแบรนด์เนมก็เพื่อการโชว์ออฟ แต่พ่อรูปหล่อคนนี้ซื้อมันเพราะเขาต้องการ

พนักงานเอาใบเสร็จมาให้เขาอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นว่าสือเหล่ยดึงกางเกงขึ้น พนักงานจึงพูดออกมา "นายท่าน คุณต้องการเข็มขัดไหม? เสื้อผ้าแบรนด์เนมไม่เหมือนกับของทั่วไปและแน่นอนว่าไม่ได้เหมาะกับทุกคน ฉันเห็นว่าเอวของคุณมันหลวมไปนิดนึง"

สือเหล่ยคิดนิดนึงและพูด "ฉันต้องการแบบง่ายๆ ไม่เอาอันที่มีโลโก้ยักษ์อยู่ด้านหน้า มันหนักเกินไปและมันจะลากกางเกงลงไป "

พนักงานปิดปากของเธอและยิ้ม เธอเลือกเข็มขัดที่เรียบง่ายมาให้เขาหนึ่งอันอย่างรวดเร็ว เวร ราคาของมันอีก 6,000 หยวน ฉับพลัน มูลค่าการซื้อของร้านนี้ก็เกิน 35,000 หยวน

สือเหล่ยแตะบัตรของเขาและรับใบเสร็จมา พนักงานถามเขาด้วยความห่วงใย "นายท่าน คุณจะออกเลยงั้นเหรอ?"

สือเหล่ยพยักหน้า พนักงานรีบพูดอย่างรวดเร็ว "ฉันจะตัดป้ายราคาให้คุณ" สือเหล่ยจึงนึกขึ้นมาได้เนื่องจากผู้คนจะหัวเราะเยาะเขาได้ถ้าเขาไม่ทำ

สือเหล่ยพยักหน้าอย่างอายๆและพูด "ขอโทษทีที่ทำให้คุณลำบาก"

พนักงานยิ้มและพูดออกมา "ไม่เลย!"

จากนั้นเธอก็เดินไปข้างหลังสือเหล่ย และยกมือของเธอขึ้นตัดป้ายราคา จากนั้นก็พูด "นายท่าน โปรดดึงเสื้อของคุณขึ้นเล็กน้อย มีป้ายราคาอยู่ในกางเกงของคุณ"

หลังจากที่เธอตัดป้ายราคาบนกางเกงแล้ว เธอก็ยืดตัวขึ้นไปหาป้ายราคาบนคอเสื้อของสือเหล่ย

สือเหล่ยไม่ได้สูงเกินไป แต่พนักงานยังสูงไม่พอ แม้ว่าเธอจะสวมรองเท้าส้นสูงและยืดตัวขึ้น แต่เธอก็ยังสูงไม่พอ

เธอขยับเข้าใกล้สือเหล่ยอย่างเลี่ยงไม่ได้และหน้าอกของเธอได้สัมผัสเข้ากับหลังของสือเหล่ย เธอไม่ได้สังเกตเห็น แต่สือเหล่ยรู้ว่ามีบางอย่างอยู่บนหลังของเขา มันเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่สือเหล่ยตระหนักได้ว่ามันคืออะไร เขาหน้าแดงและบางส่วนของร่างกายของเขาเริ่มกระสับกระส่าย

บางทีอาจเป็นเพราะมันยากที่ตัดป้ายราคาบนปกเสื้อ การที่พนักงานถูเข้ากับหลังของสือเหล่ยทำให้ปากของสือเหล่ยแห้งผากจากการคิดถึงฉากจากหนังผู้ใหญ่ของญี่ปุ่น

พนักงานใช้เวลาประมาณห้านาทีเพื่อตัดป้ายราคาบนเสื้อ ดวงตาของสือเหล่ยพร่ามัวและรู้สึกเหมือนกับเขาเพิ่งนวดแผนไทยมา ถึงแม้ว่ามันจะเป็นที่น่าพอใจ แต่เมื่อพนักงานออกไป เขาก็รู้สึกราวกับเขาได้สูญเสียบางอย่างไป

โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนนั้นของร่างกายของเขาที่แข็งเหมือนกับเหล็ก สือเหล่ยลดศีรษะลงเล็กน้อยและเห็นสิ่งที่นูนขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ เขารีบหดบั้นท้ายของเขากลับไปและโน้มตัวให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เขายังล้วงมือใส่กระเป๋าและกดมัน

"โปรดกลับมาอีกครั้งนะคะ" พนักงานกล่าวอย่างสุภาพ

สือเหล่ยพยักหน้าด้วยความตื่นตระหนกและวิ่งหนีไป พนักงานรู้สึกสับสนจนกระทั่งเธอเห็นสือเหล่ยวิ่งหนีไปพร้อมกับหลังที่งอลงครึ่งหนึ่งของเขา

ทันใดนั้นใบหน้าของพนักงานก็เปลี่ยนเป็นสีแดงและตำหนิตัวเองอย่างเงียบงัน "ไอ้หยา เขาคงไม่คิดนะว่าฉันกำลังพยายามจะเกลี้ยกล่อมเขา?"

แต่หลังจากคิดว่าเขายังเป็นวัยรุ่น และเธอยังไม่ได้ฉวยโอกาสจากเขานัก เธอนึกขึ้นมาได้ถึงความรู้สึกของเธอเมื่อสัมผัสกับสือเหล่ยก่อนหน้านี้และพึมพัมกับตัวเอง "มันคงจะดีถ้าฉันได้ทำแบบนั้นจริงๆ น่าเสียดาย......"

ในเวลานั้น สือเหล่ยได้ซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ำและใจเย็นลงหลังจากนั้นครู่หนึ่งเมื่อคิดได้ว่านี่เป็นเหตุผลว่าทำไมคนรวยถึงต้องการซื้อของแบรนด์เนม เพราะพวกเขาได้รับผลประโยชน์เช่นนี้นี่เอง

……

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขากำลังคิดอะไรมากเกินไป!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด