ตอนที่ 61 การใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย
เมื่อเสียวเมิงอิงเห็นว่าเจียงเฉินจ่ายเงินเต็มจำนวนสองร้อยสี่สิบล้านแล้วดวงตาของเธอก็สว่างขึ้นและเธอรู้สึกว่าความเจ็บปวดนั้นมันคุ่มค่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้จัดการแอบยกนิ้วโป้งให้
“ผมพอใจกับบ้านอย่างแน่นอนแต่ผมก็พอใจกับผู้จัดการฝ่ายขายมากยิ่งขึ้น” เจียงเฉินยิ้มและจับมือกับผู้จัดการทั่วไปหลังจากลงนามในเอกสารที่จำเป็น
ผู้จัดการทั่วไปตอบด้วยเสียงหัวเราะด้วยรูปลักษณ์ที่ผู้ชายทุกคนจะเข้าใจขณะที่เขาผ่านหลักฐานการเป็นเจ้าของและกุญแจอิเล็กทรอนิกส์ไปยังเจียงเฉิน เขาสัญญาว่าภายในสามวันเจียงเฉินอาจย้ายเข้ามาอยู่ได้
คฤหาสน์มีเทคนิคพร้อมใช้งานได้ตลอดเวลาแต่เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะพึงพอใจสูงสุดแล้วอสังหาริมทรัพย์หว่านฮั่วจะดำเนินการให้ฟรีในการทำความสะอาดและการตรวจสอบ เนื่องจากมันเป็นที่ดินใหม่โดยไม่มีเจ้าของก่อนหน้านี้แล้วมันต้องมีการปัดฝุ่นอย่างน้อยที่สุด เมื่อเทียบกับค่าศูนย์ในสองร้อยสี่สิบล้านแล้วค่าใช้จ่ายในการทำความสะอาดก็ไม่สำคัญ
ขั้นตอนที่น่าเบื่อได้เสร็จสิ้นลงในระยะเวลาอันสั้น แล้วเจียงเฉินก็ยินดีกับการทำงานของผู้จัดการทั่วไปก่อนที่เขาจะออกจากสำนักงานใหญ่อสังหาริมทรัพย์หว่านฮั่วที่หรูหรา
เมื่อเขาออกไปเขาก็เหลือบมองไปที่ฟางหยวนหยวนที่ยังคนตกตะลึงด้วยรอยยิ้มอันสนุกสนานและโบกสัญญาและกุญแจของเขา เสียวเมิงอิงเดินตามเขาด้วยรอยยิ้มที่มีความหมายแล้วเลียริมฝีปากเธออย่างมีความทะเยอทะยาน
ในการรับรู้การทำงานของเธอแล้วผู้จัดการทั่วไปได้ยกย่องยอดขายของเธอซึ่งหมายความว่าเธอจะได้รับการเลื่อนตำแหน่ง
แต่เมื่อเทียบกับค่าคอมมิชชั่นหนึ่งล้านดอลลาร์แล้วเธอก็สนใจมากยิ่งขึ้นในเจ้าของคฤหาสน์ที่ร่ำรวยและยังหล่อเหลาและโสด สำหรับเรื่องเซียชียู? เธอไม่มีอะไรต้องกังวล
ในแง่ของเทคนิคแล้วมันเป็นไปไม่ได้ที่หญิงบริสุทธิ์จะให้ความพึงพอใจแก่เขาเหมือนเธอที่ทำได้ เธอมั่นใจว่าร่างกายที่มึนเมาของเธอจะสามารถดึงดูดเขาได้ ทั้งหมดที่เธอต้องทำตอนนี้คือรอเวลาของเธอและโทรหาเขาที่เบอร์โทรที่เธอแอบจดจำไว้
เธอเชื่อมั่นว่าด้วยเหยื่อที่เหมาะสมไม่มีใครจะสามารถต้านทานการกัด
แน่นอนว่านี่เป็นความคิดของตัวเองทั้งหมด
แม้ว่าเจียงเฉินจะไม่เคยเป็นคนที่ดีมาก่อนแต่เขาก็รักษาความสมดุลไว้ในใจ
เมื่อเสียวเมิงอิงเดินออกจากออฟฟิศแล้วเพื่อร่วมงานของเธอก็ล้อมรอบเธอและถามเธออย่างรวดเร็วเกี่ยวกับชายผู้ซึ่งได้รับการต้อนรับจากผู้จัดการทั่วไป
“พูดความจริงมา! คุณใช้เคล็ดลับอะไรที่จะขุดคนรวยคนนั้น?” พนักงานขายหญิงคนหนึ่งที่มีรูปร่างที่งดงามผลักดันเธอไปทางด้านข้างของเสียวเมิงอิง
“ไม่ ไม่ มันเป็นข้อตกลงปกติ” เสียวเมิงอิงตอบอย่างสุภาพแต่ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยเครื่องสำอางปกปิดของเธอ
“คุณมีกลิ่นนั่นกับคุณ ฮิฮิ คุณไม่สามารถหนีจมูกของฉันได้” สาวน่ารักสูดดมแถวใบห้นาของเสียวเมิงอิง
หลังจากที่เธอถูกล้อเลียนไปแล้วเสียงเมิงอิงในที่สุดก็ “ไม่เต็มใจ” เปิดเผยประสบการณ์ของเธอ
เมื่อพวกเธอได้ยินเกี่ยวกับจ้อตกลงสองร้อยสี่สิบล้านแล้วพนักงานฝ่ายขายก็อ้าปากค้างโดดยไม่มีข้อยกเว้น เสียงเมิงอิงแม้กระทั่งพูดว่าชายคนนั้นไม่ได้กระพริบตาเมื่อจ่ายเงินเต็มจำนวนแล้วยิ่งทำให้พวกเธอบ้ามากยิ่งขึ้น
“เมิงอิง คุณเยี่ยมที่สุด คุณต้องรู้เบอร์โทรศัพย์ของผู้ชายคนนั้นใช่มั้ย? รีบบอกฉันเร็ว” หญิงสาวทรงผมหยักโศกถามตรงไปตรงๆขณะที่จับมือของเธอไว้
“ใช่ ใช่ การแบ่งปันคือการดูแล”
ภายในเธอมีความสุขเพลิดเพลินกับการเยินยอของเพื่อนร่วมงานของเธอแต่ภายนอกเธอรักษาความสงบของเธอ
[อีดอ... กูรู้สิ่งที่มึ.คิดทั้งหมด]
แม้แต่หญิงสาวที่ทำท่าทางด้วยความไร้เดียงสาและความบริสุทธิ์ด้วยใบหน้าที่น่ารักของเธอก็กลัวเสียงเมิงอิงกับการกระทำของเธอบนเตียง เธอทำยังไงถึงมาได้บทสรุอย่างนี้? จากยอดขายของเธอแล้วเธออยู่ในสามอันดับแรก
ผู้หญิงคนอื่นๆทุกคนมีแผนการของตัวเอง ข้อตกลงสองร้อยสี่สิบล้านเป็นจุดแข็งของเสีนวเมิงอิงขณะที่เป็นที่หนึ่งในแผนกและเนื่องจากมันไม่สามารถสั่นสะเทือนได้แล้วมันจะฉลาดกว่าที่จะประจบเธอ แล้วในอนาคตเธอก็จะอ่อนโยนต่อพวกเธอทุกคน
เมามัวจากความเยินยอของพวกเธอแล้วเธอก็โบกมืออย่างสง่างามและสัญญาว่าจะเลี้ยงทุกคนในคืนนี้แล้วก็เกิดเสียงร้องดีใจเกิดขึ้น ค่าคอมมิชชั่นเพียงอย่างเดียวคือ 2 ล้านดังนั้นแน่นอนว่าเธอไม่ได้ขาดเงิน
สาวๆทุกคนมีจุดประสงค์ร่วมกันซึ่งอย่างไรก็ตามก็คือการติดต่อกับคนที่รวยและหล่อเหลา ไม่มีใครอยากเป็นพนักงานขายอสังหาริมทรัพย์ในชีวิตที่เหลืออยู่โดยเฉพาะชีวิตที่สั้นของอาชีพ สิ่งเดียวที่พวกเขาสามารถทำตอนนี้คือหารายได้แต่ที่สำคัญกว่าคือหาคนรวย และแม้ว่าเสียวเมิงอิงจะมีข้อได้เปรียบของเธอแต่สาวๆก็ยังคงมีการแข่งขันของพวกเธอเอง
สาวผมหยักโสกเป็นตัวอย่างแม้ว่าเธอจะไม่บริสุทธิ์แต่เธอจะชนะด้วยอายุของเธอ ขณะที่เธอเพิ่งจบการศึกษาเมื่อเร็วๆนี้ เธอเลยไม่มีประสบการณ์กับกฏเกณฑ์ทางธุรกิจมากนัก ถ้าเธอร้องไห้และเน้นความไร้เดียงสาของเธอในการที่เธอบังเอิญสูญเสีญครั้งแรกของเธอแล้วมันก็จะเป็นเรื่องที่น่าสนใจ
กุญแจสำคัญคือการได้รับเบอร์โทรร พวกเธอทั้งหมดแอบวางแผนที่จะทำให้เธอเมาแล้วทำให้เธอหลุดมันออกมา
เสียวเมิงอิงผู้ซึ่งได้รับการสรรเสริญได้สังเกตเห็นฝางหยวนหยวนยืนอยู่ที่เคาน์เตอร์ด้านหน้า
[คุณจะไม่ประจบฉันเหรอ?] เสียวเมิงอิงขมวดคิ้วแล้วก็ยิ้มเยาะเย้ยเมื่อเธอจำได้ว่าสาวใหม่คนนี้มีความขัดแย้งกับเจียงเฉิน
“ฉันไม่ได้มีเบอรโทรของมิสเตอร์เจียง คนสำคัญอย่างเขาไม่เคยชอบฉัน” เสียวเมิงอิงกล่าวด้วยความเศร้า จากนั้นดวงตาของเธอดูเหมือนจะบังเอิญสบตากับฝางหยวนหยวนและราวกับว่านึกถึงสิ่งที่สำคัญที่สุด เธอเลยถามอย่างสนุกสนาน “โอ้! ฉันจำได้ว่าฝางหยวนหยวนเป็นเพื่อนร่วมชขั้นของมิสเตอร์เจียง ทำไมพวกเราไม่ถามเธอล่ะ?”
สาวๆทุกคนหยุดชั่วคราวและเริ่มหัวเราะ
ใบหน้าของฝางหยวนหวนมีความเศร้าหมองทั่วใบหน้าเมื่อเธอได้ยินเสียงหัวเราะเยาะเย้ยของพวกเขาแล้วมันราวกับพวกเขากล่าวว่า “อีดอ.. คุณไปมั่วปาร์ตี้กับคนห้าคนซึ่งทำให้คุณเป็นพนักงานขายได้แต่เมื่อชิ้นเนื้อถูกป้อนเข้าปากของคุณแล้วคุณก็คลายมันให้กับคนอื่น”
“ฉัน ฉันไม่รู้ ฉันไม่ได้สนิทกับเขา” ฝางหยวนหยวพูดติดอ่าง มันเป็นเรื่องโกหกเช่นกันเนื่องจากเธอเกือบจะได้อยู่กับเขาในอดีต
มันสายเกินไปแล้วสำหรับความเสียใจ ถ้าเธอเพียงยอมรับคนที่น่าสงสารในเวลานั้น...
ความอายและเสียใจเธอเลยรีบเคลียร์โต๊ะของเธอและจากไปพร้อมกับกระเป๋าของเธอ การทำงานได้สิ้นสุดลงแล้วและเธอต้องการที่จะหนีจากความลำบากใจของเธอ
สำหรับการเยาะเย้ยเบื้องหลังเธอแล้วเธอไม่สามารถได้ยินมันได้อีกต่อไป มันไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอได้รับความโหดร้ายของโลก
เธอไม่ได้ถามเหตุผลเบื้องหลังเหตุการณ์เหล่านี้ แทนที่เธอเกลีดชังเจียงเฉินและคนอวดดีอย่างเสียวเมิงอิงและแม้กระทั่งไม่พอใจกับเสียชียูซึ่งไม่ได้มีส่วนร่วมในเรื่องนี้
ความเกลียดชังของเธอผสมกับความรู้สึกผิดและเสียใจจนกลายเป็นพิษที่ทำให้เธอรู้สึกท้อ
เสียวเมิงอิงได้สังเกตเห็นการแสดงออกของฝางหยวนหยวนโดยปราศจากความรู้สึกผิดหรือความเห็นอกเห็นใจ ถ้าผู้หญิงคนนั้นได้รับข้อตกลงแทนแล้วผู้จัดการฝ่ายขายจะเป็นของคนอื่น แล้วมันจะเป็นเธอที่จะประจบสอลพอในขณะที่มองอย่างดูถูก
สถานที่ทำงานไม่น้อยกว่าสนามรบโดยเฉพาะสถานที่เต็มไปด้วยผู้หญิง
ดังนั้นเธอไม่จำเป็นต้องมีความเมตตาและไม่มีใครจะรู้สึกเห็นอกเห็นใจกับฝางหยวนหยวน
พวกเขาจะใช้โอกาสนี้เพื่อพิสูจน์ความภักดีต่อเจ้านายที่อยู่ยงคงกระพัน