ตอนที่แล้วตอนที่ 49 - บัตรลงทุนนิ้วโป้งทองคำ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 51 - สู้ๆ เด็กน้อย

ตอนที่ 50 - ระดับของมือใหม่


ตอนที่ 50 - ระดับของมือใหม่

 

"นี่เป็นบัตรระดับ E บัตรนี้จะทำให้คำทำนายของเจ้าเป็นจริงได้หนึ่งครั้ง และคำพยากรณ์นี้สามารถใช้ได้เฉพาะกับสิ่งอื่นๆที่ไม่เกี่ยวข้องกับเงินเท่านั้น"

เมื่อเห็นว่าสือเหล่ยต้องการจะเปิดปากพูดอีกครั้ง คทาจึงพูดขึ้นมาก่อน "พอแล้ว พวกเราควรจะพูดถึงเรื่องที่เจ้าเพิ่งเสร็จสิ้นระดับมือใหม่...... "

"ไม่ต้องรีบน่า ฉันยังมีคำถามที่จะถามอยู่"

"พิจารณาจพทัศนคติของเจ้าที่ไม่แย่นัก เจ้าสามารถถามคำถามได้อีก 3 ข้อเกี่ยวกับการ์ดสองใบนี้!" เห็นได้ชัดว่าคทาใจร้อนมากๆ

สือเหล่ยโพล่งออกมา "ทำไมท่านถึงทำแบบนี้ แค่สามคำถามเท่านั้นเองเรอะ?"

"ใช่!" คทาตอบอย่างเย็นชา"เหลืออีกสองครั้ง!"

"เห้ย! นั่นก็นับงั้นเรอะ?!"

"ใช่ เอาล่ะคำถามสุดท้าย!"

สือเหล่ยตื่นตระหนก "นี่มันอะไรกันเนี้ย ท่านกำลังล้อฉันเล่นอยู่ใช่ไหม?"

เมื่อรู้สึกว่ามีบางสิ่งผิดปกติ สือเหล่ยรีบโบกมือของเขาอย่างรวดเร็ว "นี่ไม่ใช่คำถามที่ฉันอยากจะถาม เดี๋ยวก่อน ให้ฉันคิดถึงคำถามสุดท้ายที่ฉันจะถามซะก่อน!"

คทาเงียบลงแต่สือเหล่ยก็ได้ลอบบ่นคทาอย่างลับๆนับร้อยนับพันครั้ง

"เอาล่ะ คำถามสุดท้าย มันจะเป็นกำไรของฉันหรือไม่ ถ้าฉันใช้เงินที่ได้จากบัตรสีดำในการลงทุนด้วยบัตรลงทุนนิ้วโป้งทองคำ?" สือเหล่ยถามอย่างระมัดระวัง

"คำถามโง่ๆ! ไม่มีคำถามที่มีประโยชน์เลยงั้นเรอะ สำหรับระดับของเจ้าในตอนนี้ เจ้าไม่สามารถแม้แต่จะใช้โควต้ารายสัปดาห์สำหรับการลงทุนได้ แล้วเจ้าจะได้กำไรมาจากไหน? โอเค เวลาสำหรับถามคำถามหมดลงแล้ว พวกเราจะเริ่มพูดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากที่เจ้าเสร็จสิ้นการฝึกฝนของมือใหม่กัน"

สือเหล่ยขมวดคิ้วและส่ายหน้: "เดี๋ยวก่อน คำพูดนี้ไม่ถูกต้อง การใช้จ่ายนั้นไม่ได้ห้ามฉันจากการลงทุน แต่มันจะไม่นับรวมการใช้จ่ายในรูปแบบของการลงทุน ฉันหวาดกลัวที่จะลงทุนเพราะมันมีความเสี่ยง ถ้าฉันขาดทุน ฉันจะไม่มีความสามารถในการชดเชยเงินที่หายไป แต่ตอนนี้มันแตกต่างออกไปแล้ว หลังจากที่ได้รับบัตรนิ้วโป้งทองคำใบนี้ ฉันสามารถมั่นใจได้ว่าการลงทุนของฉันจะทำกำไรเท่านั้น ยกตัวอย่างหุ้น ฉันแค่ต้องถอนเงินทุนและกำไรออกมา จากนั้นฉันสามารถก็ใช้เงินทุนไปตามการใช้จ่ายรายสัปดาห์ได้  คำถามของฉันไม่ใช่ว่าเงินเหล่านั้นสามารถใช้สำหรับการลงทุนได้หรือไม่ แต่สิ่งที่ฉันต้องการรู้ก็คือหลังจากที่ฉันใช้เงินเหล่านั้นเพื่อการลงทุนแล้วและสร้างกำไรได้ กำไรจะเป็นของฉันใช่ไหม!?"

คทาเงียบไปสักพัก จากนั้นก็พ่นลมหายใจออกมาอย่างไม่มีความสุข "ดูเหมือนว่าสติปัญญาของเขาจะกลับมาแล้วและเจ้าได้เห็นข้อผิดพลาด แต่โชคร้าย ถ้าเจ้าต้องการหารายได้จากสิ่งนี้มันเป็นไปไม่ได้ หากเจ้าต้องการได้รับผลกำไรจากการลงทุน เจ้าจะต้องใช้เงินของตัวเอง หากเจ้าใช้โควต้ารายสัปดาห์ในการลงทุน ผลกำไรที่เจ้าได้รับมา มันจะนับเป็นส่วนหนึ่งในโควต้าที่เจ้าต้องใช้ กล่าวอีกนัยหนึ่ง ยิ่งเจ้ามีรายได้มากเท่าไร เจ้าก็ยิ่งต้องใช้จ่ายมากเท่านั้นภายในระยะเวลาที่กำหนด มิฉะนั้น ฮีฮี เจ้าก็รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น"

คทาคิดว่าสือเหล่ยจะมืดมนลงไปหลังจากได้ยินคำตอบ แต่สือเหล่ยกลับยิ้มออกมาเล็กน้อยราวกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ภายใต้ความคิดของเขา

สือเหล่ยถามคำถามนี้ไปไม่ใช่เพราะว่าเขาต้องการใช้เงินจากบัตรสีดำในการลงทุน แต่เพราะเขาอยากจะทำความเข้าใจกับระบบให้มากยิ่งขึ้น ยิ่งเขารู้มากเท่าไรก็ยิ่งมีประโยชน์มากขึ้นเท่านั้น แม้ว่าคำถามเหล่านี้ดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์ แต่ถ้าเขาถามมากพอ สือเหล่ยก็จะมีโอกาสได้ข้อสรุปบางอย่างออกมาได้

"โอเค จบคำถามนี้ละกัน แล้วที่ท่านกล่าวถึงการเสร็จสิ้นช่วงฝึกฝนของมือใหม่ล่ะ? "

คทาพูดออกมา "ตามการประเมินผล เจ้าทำผลงานได้ค่อนข้างโดดเด่นในช่วงฝึกฝน แม้ว่าส่วนใหญ่มันจะเป็นการใช้จ่ายตามปกติ แต่เจ้าได้ซื้อตัวซุนอี้อี้มาหนึ่งปีซึ่งมันเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมมาก ในท้ายที่สุด ผลการประเมินของเจ้าสำหรับช่วงฝึกฝนจึงเป็น 93 คะแนน"

"คะแนนเต็ม 100 คะแนนงั้นเหรอ?" สือเหล่ยถามอย่างไม่รู้ตัว

คทาไม่แสดงอาการใดๆออกมาว่าจะตอบคำและพูดต่อ "เนื่องจากโควต้าดั้งเดิมคือ 10,000 หยวน เพราะฉะนั้นรางวัลสูงสุดที่เจ้าจะได้รับคือ 10,000 หยวน ซึ่งเจ้าทำได้ 93 คะแนน ดังนั้นเจ้าจะได้รับเงินรางวัลไปฟรีๆ 9,300 หยวน"

“9,300 หยวน? มันจะไม่ถูกนับรวมในโควต้าและฉันสามารถใช้มันได้อย่างอิสระใช่ไหม?”

"ถ้าเจ้าไม่ใช่คนโง่ ข้าคิดว่าเจ้าสามารถหาคำตอบได้เองนะ" คทากลายเป็นเยือกเย็นขึ้นมาในฉับพลันและสือเหล่ยก็ยังไม่เคยชินกับมัน เกิดอะไรขึ้นกัน?

"ดี แต่ก็ไม่ค่อยดีนัก โชคดีที่ตอนนี้ฉันมีบัตรการลงทุน ฉันจะใช้มันได้อย่างง่ายและควรจะใช้ในการลงทุน ไม่ว่าจะยังไงก็ตามแม้ว่าฉันต้องการใช้เงินในตอนนี้ แต่ฉันก็จะใช้เงินที่ได้จากบัตรสีดำและจะไม่แตะต้องเงินของฉัน งั้นก็คงหมายความว่าจะมีการให้คะแนนหลังจากที่ฉันเลื่อนระดับในแต่ละครั้งและได้รับเงินรางวัลแบบนี้ใช่ไหม?"

“ใช่”

คทาเมื่อเห็นว่าสือเหล่ยยังถามไม่หยุด มันจึงพูดขึ้นมาในทันที "เจ้าเป็นเพียงทาสในระดับหนึ่ง...... อืม พนักงานในระดับหนึ่งซึ่งไม่ได้ดีไปกว่ามือใหม่นัก และสิ่งที่เจ้าสามารถรู้ได้ก็มีจำกัด อย่าพูดอะไรไร้สาระและอย่าท้าทายความอดทนของข้าอีก! มันคงจะไม่ดีแน่นอน! "

สือเหล่ยครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งและคิดว่าสิ่งที่คทาพูดก็มีเหตุผล

"งั้นคำถามสุดท้าย อืม ถ้าจะพูดให้ถูก มันไม่ใช่คำถามแต่เป็นคำว่า 'การใช้จ่าย' ที่ถูกกำหนดโดยบัตรสีดำ ฉันคิดว่าฉันมีสิทธิ์ที่จะรู้ว่ามันหมายถึงอะไร? "

คทาบังคับตัวเองให้พูดออกมา "รีบพ่นมันออกมา!"

สือเหล่ยจัดระเบียบความคิดของตัวเองอย่างรอบคอบและสรุปสถานการณ์ที่ผ่านมา ก่อนจะพูดออกมาทีละคำ "ประการแรก การใช้จ่ายต้องทำด้วยฉันเอง ประการที่สอง สัญญาใดๆจากการใช้จ่ายต้องได้มีค่าเท่ากันหรือต่ำกว่ามูลค่าจริงๆ" สือเหล่ยมั่นใจว่าทั้งสองประเด็นเป็นข้อสรุปที่เขาได้จากชายที่ถูกสังหาร

"ประการที่สาม มันต้องเป็นสัญญาการซื้อขายจริงๆและฉันไม่สามารถมอบเงินให้กับผู้อื่นได้"

นี่เป็นประสบการณ์ของสือเหล่ย โชคดีที่สิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งล่าสุดทำให้เขาสูญเสียแค่เส้นผมของเขาเท่านั้น

"ประการที่สี่ การใช้จ่ายทั้งหมดจะต้องถูกนำมาใช้จริงๆ" นี่เป็นบทเรียนที่ได้รับมาจากการที่ซุนอี้อี้ช่วยชีวิตสือเหล่ยไว้ ไม่เช่นนั้นเงิน 60,000 หยวนก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้สือเหล่ยตาย

"ประการที่ห้า ถ้าเงินในโควต้ายังถูกใช้ไปไม่ครบ ฉันสามารถใช้เงินของตัวเองเพื่อทดแทนได้ และนี่คือคำถามแรกของฉัน ฉันสามารถมาที่ตู้เอทีเอ็มได้ทุกเมื่อที่ต้องการเพื่อถามท่านเกี่ยวกับเรื่องการใช้จ่ายของฉันได้หรือไม่?"

"ดูเหมือนว่าคะแนนสูงๆที่เจ้าได้รับมาจะไม่ใช่แค่โชคดีเท่านั้น แม้ว่าสติปัญญาของเจ้าจะมีจำกัด แต่เจ้าก็เฉียบขาดมาก " คทาแสดงความคิดเห็นเป็นครั้งแรก จากนั้นมันก็พูดต่อ "ในตอนนี้ เจ้ามีโอกาสเพียงสัปดาห์ละหนึ่งครั้งเท่านั้นเพื่อที่จะตรวจสอบจำนวนเงินทั้งหมดที่ใช้ไป"

สือเหล่ยพยักหน้าและพูด "ตราบเท่าที่มันอยู่ภายในสัปดาห์นั้น ท่านต้องบอกโควต้าที่เหลืออยู่ทุกๆครั้งที่ฉันถามใช่ไหม? หากการคำนวณโควต้าที่เหลืออยู่ของบัตรสีดำแตกต่างกับที่ฉันคำนวณได้ ฉันขออนุญาตสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ไหม?"

"ไม่ ข้าสามารถบอกได้แค่ว่ามันขาดไปเท่าไร เจ้าต้องการให้ข้าส่งเมลเพื่อแจ้งรายละเอียดการใช้จ่ายให้เจ้าอย่างนั้นเรอะ? เหอะ นี่เป็นเรื่องไร้สาระ! "

สือเหล่ยไม่ย่อท้อ เขายิ้มและกล่าวว่า "ประการที่หก เมื่อฉันใช้จ่าย ฉันได้รับอนุญาตให้เลี้ยงคนที่ถูกตัดสินว่าเป็นเพื่อนของฉันโดยบัตรสีดำได้ งั้นปัญหามันก็อยู่ตรงนี้ ถ้าพ่อแม่หรือญาติและเพื่อนของฉันต้องการเงิน ฉันสามารถจ่ายเงินให้กับพวกเขาได้ไหม?"

"คำถามนี้น่าสนใจกว่าคำถามที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าเจ้าจะค่อยๆปรับตัวเข้ากับบทบาทของตัวเองแล้ว" เป็นตามปกติที่คทาจะแสดงความคิดเห็นก่อนที่จะตอบ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด