ตอนที่แล้วตอนที่ 44 - กฎแห่งทาสหมายเลขสาม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 46 - ช่วยชีวิต

ตอนที่ 45 - การปกปิดและการหลอกลวง


ตอนที่ 45 - การปกปิดและการหลอกลวง

 

เสียงของคทาดังขึ้นมาด้วยความดูหมิ่น เขาไม่รู้ด้วยซ้ำเมื่อมันเริ่มต้นเมื่อไหร่ แต่เสียงของคทาเริ่มเต็มไปด้วยอารมณ์

"ทาสที่ต่ำต้อย แต่เดิมข้าพอใจกับความสามารถในด้านตรรกะของเจ้ามาก แต่ตอนนี้ ความรู้สึกของเจ้าคงจะส่งผลต่อสมองของเจ้าจริงๆ ในกฎแห่งทาสหมายเลขสาม มันได้ตอบข้อสงสัยเจ้าไว้ชัดเจนแล้ว ภายใต้กฎหมายเลขสาม เจ้าไม่ควรที่จะสงสัยว่าข้ากำลังหลอกลวงเจ้า"

สือเหล่ยนิ่งไปชั่วขณะเมื่อเขานึกถึงบทสนทนาของพวกเขาให้ดียิ่งขึ้น

เกี่ยวกับกฎแห่งทาสหมายเลขสาม

"หลังจากที่ทาสเสร็จสิ้นการฝึกฝนสำหรับมือใหม่ เขาจะกลายเป็นทาสของธนาคารพัฒนาทาสอย่างเป็นทางการ"

เนื่องจากเขาต้องเสร็จสิ้นการฝึกฝนเพื่อที่จะกลายเป็นทาสอย่างเป็นทางการ แล้วถ้าสือเหล่ยบอกว่าเขาไม่ต้องการจะกลายเป็นทาสของใคร งั้นมันยังไม่เพียงพอที่จะบอกว่าเขาต้องการจะลาออกอีกเหรอ? คทาพูดอย่างชัดเจนว่าก่อนที่เขาจะกลายเป็นทาสอย่างเป็นทางการ สือเหล่ยมีสิทธิ์ที่จะเลือกลาออก บางทีการตัดสินใจที่จะลาออกอาจตามมาด้วยบทลงโทษบางอย่าง เนื่องจากธนาคารพัฒนาทาสบ้าๆแห่งนี้ไม่ได้เป็นองค์กรการกุศล การลงโทษอาจทำให้เขาต้องชดใช้เงินทั้งหมดที่เขาใช้ไปหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายอาจถูกนำออกไปและไม่ใช่แค่เส้นผมของสือเหล่ย แต่เขาก็สามารถเลิกจากมันได้อย่างแน่นอน

ทำไมไอ้คทาบ้านี่ถึงบอกว่ามันไม่ได้หลอกลวงสือเหล่ย? เห็นได้ชัดว่ามันทำ

การปิดบังและการหลอกลวงจริงๆแล้วนั้นแตกต่างกัน แต่การปกปิดควรจะอยู่บนฟื้นฐานที่สือเหล่ยไม่รู้อะไรเลยและไม่ได้ถามคำถามใดๆ ในทำนองเดียวกัน คทาสามารถเลือกที่จะไม่พูดถึงมันได้ มิฉะนั้นแล้ว มันจะสามารถผลักดันสือเหล่ยลงสู่เหวลึกเช่นนี้ได้อย่างไร?

แต่สือเหล่ยบอกไว้อย่างชัดเจนว่าเขาไม่ต้องการที่จะกลายเป็นทาสของใคร ถึงแม้ว่าการสอบถามของเขาจะไม่ได้แน่นหนา แม้ว่าเขาจะโพล่งมันออกมาโดยไม่รู้ตัวก็ตาม แต่คทาก็ไม่ควรจะมองข้ามมันราวกับว่าสือเหล่ยไม่ได้สงสัยอะไร?

……

สือเหล่ยไม่สามารถเข้าใจได้แม้ว่าจะคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากขนาดไหน เขาก็ยังคงรู้สึกเหมือนว่าถูกหลอก

เขาไม่สามารถเก็บกักความโกรธไว้ได้อีก ไอ้คทาบ้านี่ เห็นได้ชัดว่ามันกำลังหลอกลวงเขา แต่มันกลับทำเป็นว่าไม่เคยละเมิดกฎใดๆ

สือเหล่ยลอบด่ามันแม้ว่าเขาจะเข้าใจว่าการก่นด่าของเขาจะไม่ได้ส่งผลกระทบต่อคทาที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังหน้าจอ

ในขณะที่สือเหล่ยกำลังสบถคำด่าออกมามากมายภายในจิตใจ ฉับพลันเขาก็หยุดลงทันทีเมื่อมีความคิดบางอย่างสว่างวาบในหัว เขาถาม "ฉันจะถูกลงโทษอย่างแน่นอนเมื่อฉันฝ่าฝืนกฏ แล้วมันจะอย่างไรถ้าท่านฝ่าฝืนกฏ? ท่านไม่ควรจะได้รับการลงโทษด้วยงั้นหรือ? "

คทาดูเหมือนจะตกใจเนื่องจากมันไม่ได้ตอบ ซึ่งน่าจะเป็นเพราะมันกำลังประหลาดใจอยู่

คทาเปล่งเสียงหัวเราะอย่างแปลกประหลาดออกมาหลังจากนั้นชั่วขณะ "เป็นทาสที่ฉลาดอะไรแบบนี้ ดูเหมือนว่าการเดินทางครั้งนี้จะน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ไม่มีใครก่อนหน้านี้เลยที่สามารถคิดถึงเรื่องนี้ได้ "

แม้ว่ามันจะไม่ได้ตอบคำถามของสือเหล่ยอย่างตรงไปตรงมา แต่การกระทำของคทาก็ได้บ่งชี้ว่าสือเหล่ยเดาถูก

"ตอบฉันมา การลงโทษของท่านเป็นอย่างไรถ้าแกละเมิดกฎ!"

"เจ้าทาสบัดซบ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าควรถาม เจ้าเป็นเพียงทาสต่ำต้อย เจ้ากล้าพูดกับข้าด้วยน้ำเสียงแบบนั้นได้ยังไง! ข้าเป็นคทาอันสูงส่ง ข้าสามารถสังหารเจ้าได้ตลอดเวลาเช่นเดียวกับชายคนนั้น!" คทาพูดออกมาราวกับว่ามันไม่พอใจ

ตรงกันข้ามกับสือเหล่ยที่ใจเย็นลงมาอย่างสิ้นเชิง เขาพ่นลมหายใจออกมาอย่างเยือกเย็นและพูดต่อ "แม้ว่าฉันจะกลายเป็นทาสอย่างเป็นทางการ ฉันก็เป็นทาสของธนาคารพัฒนาทาส ไม่ใช่ทาสของแก เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเรา แกไม่เคยรู้ว่าใครเป็นทาสและใครไม่เป็น ฆ่าฉันงั้นเหรอ? ถ้าแกพยายามที่จะฆ่าฉันเมื่อฉันไม่ได้ฝ่าฝืนกฎใด แกจะเป็นคนที่ทำผิดกฎซะเอง แม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าผลของการที่แกละเมิดกฏ แต่ฉันคิดว่ามันคงไม่ดีไปกว่าการที่ฉันถูกฆ่า หรือบางที แกอาจจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่เหนือธรรมชาติแต่ไม่มีร่างกาย ผลลัพธ์ที่ตามมาอาจจะเป็นการที่แกถูกลบล้างออกไปอย่างหมดสิ้น! "

คทาตกลงสู่ความเงียบงันอย่างสมบูรณ์แบบเมื่อมันไม่ได้ตะโกนแข่งกับสือเหล่ย บางทีมันเองก็ประหลาดใจกับคำพูดของสือเหล่ย มันจะไม่เคยคิดว่าสือเหล่ยจะสามารถวิเคราะห์ได้ไกลขนาดนี้

"แกไม่จำเป็นต้องตอบคำถามนี้อีกเพราะฉันได้พบคำตอบที่ถูกต้องแล้ว ถ้าฉันเป็นทาสของธนาคารพัฒนาทาส แล้วแกจะทำอะไรฉันได้? พวกเราทั้งสองต่างอยู่ภายใต้ธนาคารพัฒนาทาส บัตรสีดำใบนี้ต่างหากที่ดูเหมือนจะเป็นเจ้านายที่แท้จริง อย่าพยายามแสร้งทำเป็นว่าเจ๋งและโชว์ออฟต่อหน้าฉันอีก ฉันไม่ชอบ!"

คทาแสดงความโกรธที่แท้จริงออกมาเป็นครั้งแรก "บัดซบ! เจ้าทาสที่ต้อยต่ำ ถ้าเจ้ากล้าที่จะขัดใจข้าแบบนี้อีก ข้า...... "

สือเหล่ยตัดประโยคของคทาอย่างไรใยดีและหัวเราะ "แล้วจะทำไมถ้าฉันขัดใจแก? แกมีอำนาจเพียงแค่การสนทนากับฉันเท่านั้นเอง แกไม่สามารถแม้แต่จะลงโทษที่ฉันสงสัยแกได้ การลงโทษทั้งหมดถูกสร้างขึ้นโดยบัตรสีดำใบนี้ "

"เจ้าไม่ต้องการจะลองแน่ เจ้าต้องคิดไม่ถึงแน่นอนว่าอะไรจะเกิดขึ้นถ้าเจ้ารบกวนข้าจริงๆ! เจ้าคิดจริงๆเหรอว่าว่าข้าไม่มีอำนาจที่จะลงโทษเจ้า? เจ้าสิ่งมีชีวิตที่ต่ำต้อย!" คทายังคงโกรธมากยิ่งขึ้น แต่ในหูของสือเหล่ยมันกลับฟังดูดีมากยิ่งขึ้นเพราะเขารู้ว่าคทาไม่สามารถลงโทษเขาได้ตามต้องการ

สือเหล่ยหัวเราะด้วยความดูหมิ่นและพูด "บางทีแกอาจจะมีพลังเหนือธรรมชาติจริงๆ บางทีแกอาจจะสามารถฆ่าฉันได้ทุกเมื่อที่แกต้องการ ถ้าฉันไม่ได้คิดมากเกินไป แต่ฉันก็เชื่อว่าถ้าแกฆ่าฉันภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ที่ฉันไม่ได้ทำผิดกฏอะไร แกก็จะต้องถูกลงโทษโดยบัตรสีดำ หยุดโกหกได้แล้ว เมื่อเทียบกับฉัน แกต้องทำตามกฏที่เข้มงวดซะยิ่งกว่า"

คทาหอบหายใจด้วยความโกรธแต่ก็ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ เห็นได้ชัดว่าสือเหล่ยพูดความจริง

ในขณะที่สือเหล่ยใจเย็นลงอย่างสิ้นเชิงและได้ฟื้นฟูความสามารถในการคิดของเขา ในที่สุดเขาก็เข้าใจถึงเหตุผลของการที่เขาบอกว่าเขาไม่ต้องการจะกลายเป็นทาสของใครแล้วคทาก็ยังไม่ได้ละเมิดกฏแต่อย่างใด

จากการเดาของเขาก่อนหน้านี้ คทาได้พูดออกมาขณะที่สือเหล่ยใส่บัดรลงไปในตู้เอทีเอ็มและป้อนรหัสผ่านลงได้ เขาได้กลายเป็นทาสของธนาคารพัฒนาทาส หรือในอีกคำพูดหนึ่งคือการเป็นทาสของบัตรสีดำ แน่นอนคำว่า 'ทาส' เป็นเพียงคำกล่าวด้วยความคิดด้านเดียวของบัตรสีดำเท่านั้น หรืออาจเป็นเพียงแค่คำที่คทาสร้างขึ้นเพื่อสนองต่อความโง่ของเขา ถ้าให้พูดตามความเป็นจริง มันก็เทียบได้กับสัญญาระหว่างสือเหล่ยกับบัตรสีดำ

ถ้าบัตรดำถูกอธิบายว่าเป็นบริษัท งั้นเมื่อสือเหล่ยได้ใส่รหัสผ่านลงไป มันก็เท่ากับว่าเขาได้ลงนามในสัญญากับบริษัทนี้และกลายเป็นหนึ่งในพนักงานของบริษัท กับบัตรสีดำที่ทำหน้าที่เป็นนายจ้าง มันได้มอบเงินให้กับสือเหล่ยที่สอดคล้องกับระดับของเขาในทุกๆสัปดาห์ สือเหล่ยเป็นเหมือนกับพนักงานที่ต้องดำเนินการตามสัญญาและใช้เงินให้หมดภายในช่วงเวลาที่ถูกกำหนดมา มิฉะนั้นเขาจะได้รับโทษจากนายจ้าง ระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง คทามีบทบาทเป็นผู้สื่อสาร นายจ้างไม่ยืดหยุ่น แต่คทามีความยืดหยุ่น มันมีความคิดเป็นของตัวเองและเพื่อให้บรรลุเป้าหมายบางอย่าง มันก็สามารถเลือกที่จะบอกหรือปกปิดเขาได้ แต่ตราบเท่าที่พนักงานอย่างสือเหล่ยมีส่วนเกี่ยวข้องกับกฏของนายจ้าง คทาจะต้องให้คำอธิบายอย่างชัดเจน

ดังนั้นตามตรรกะบัตรสีดำ สือเหล่ยได้กลายเป็นพนักงานหลังจากที่เขาป้อนรหัสผ่านลงไป ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถว่าอะไรได้ที่เขาบอกว่าไม่ต้องการจะกลายเป็นทาสของใคร

มุมมองของเขาไม่ถูกต้อง ทำให้ตรรกะเหล่านั้นล้วนไร้ผล

ในเวลานั้นถ้าสือเหล่ยไม่ได้พูดว่าเขาไม่ต้องการจะกลายเป็นทาสของใคร แต่เป็นเขาไม่ต้องการเงินที่ได้จากบัตรสีดำและเขาต้องการที่จะกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ ถ้าเป็นแบบนั้นคทาก็ต้องบอกเขาตามความเป็นจริงและสือเหล่ยก็สามารถลาออกมาได้

แต่ตอนนี้มันก็สายเกินไปแล้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด