ตอนที่แล้วตอนที่ 38 - สัญญาทาส
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 40 - กระเป๋าฉีก

ตอนที่ 39 - ยอมรับสัญญา


ตอนที่ 39 - ยอมรับสัญญา

 

สือเหล่ยดื่มน้ำซุปแสนอร่อยในขณะที่ยืนอยู่ตรงกลางทางเดินเล็กๆในมหาวิทยาลัย แต่ซุนอี้อี้ดูเหมือนจะไม่ค่อยมีความสุขมากนัก แต่เธอดูเหมือนจะรู้สึกผิด และออกจากมหาวิทยาลัยไปพร้อมกับกล่องเก็บความร้อน

ซุนอี้อี้เป็นคนที่ยึดติดกับคำพูดของเธอ และเธอเป็นคนจริงในหมู่สาวๆทั้งหลาย วันที่สองเธอกลับมาพร้อมกับกล่องซุปอีกอัน

เมื่อสือเหล่ยกำลังดื่มน้ำซุป ซุนอี้อี้ก็ถือโอกาสเอากระดาษอีกแผ่นใส่ลงในกระเป๋าของสือเหล่ย

แม้ว่าสือเหล่ยจะไม่คิดว่าตัวเองเป็นสุภาพบุรุษ แต่แน่นนอนว่าเขาไม่ใช้คนที่จะหาประโยชน์จากความยากลำบากของผู้อื่น อีกทั้ง นี่มันยุคสมัยแล้ว สัญญาทาสงั้นเหรอ? มันฟังเหมือนเศษที่หลงเหลือมาจากสังคมยุคเก่า ในฐานะนักศึกษาระดับมหาวิทยาลัยของคนรุ่นใหม่ สือเหล่ยเลยพยายามขัดขวางแผนการของซุนอี้อี้ตามธรรมชาติ

แต่หลังจากครั้งที่สามที่สือเหล่ยปฏิเสธสัญญาของซุนอี้อี้ ซุนอี้อี้จึงร้องไห้ออกมา ในมหาวิทยาลัยที่เงียบสงบ มันได้ดึงดูดความสนใจของผู้คนเป็นจำนวนมากได้ทันทีและสือเหล่ยก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไง

"อี้อี้ หยุดร้องไห้ เมื่อกี้นี้เธอยังสบาย แล้วทำไมเธอถึงร้องไห้ออกมาอีกล่ะ? ซุปของเธอแสนอร่อย และฉันไม่ได้บอกว่ามันไม่ดี นอกจากนี้ฉันยังกินมันจนหมดในครั้งเดียว แม้ว่าฉันจะบอกว่าเธอไม่ควรจะมาในวันพรุ่งนี้ แต่นั่นเป็นเพราะในตอนนี้ฉันคิดว่าแม่ของเธอต้องการการดูแลและเอาใจใส่จากเธอ และเธอไม่ควรจะเสียเวลามาที่นี่" สือเหล่ยเด๋อด๋าแต่เขาก็ไม่ได้ใช้คำพูดที่แย่ออกมา

ดวงตาของซุนอี้อี้แดงก่ำจากการร้องไห้และสือเหล่ยเพิ่งจะตระหนักได้ว่าสาวน้อยคนนี้อาจจะร้องไห้มาเป็นจำนวนมากตลอดสองวันที่ผ่านมา

เขาก็คิดว่าเขาอาจจะพลาดบางสิ่งบางอย่างไป อย่าบอกฉันนะว่าอาการป่วยของแม่ซุนอี้อี้ทรุดตัวลง? เขารีบถาม "อี้อี้ การผ่าตัดของคุณป้าไม่ประสบความสำเร็จงั้นเหรอ? มันต้องไม่เป็นไร ถ้ามันไม่ได้ผลในเวลานี้ พวกเราสามารถทำมันได้อีกครั้ง อย่ากังวลเรื่องเงิน ฉันจะจัดการเอง! "

หลังจากได้ยินเรื่องนี้ ซุนอี้อี้ก็ร้องไห้ออกมามากยิ่งขึ้น และสือเหล่ยก็เริ่มตื่นตระหนกและสับสนมากยิ่งขึ้น

นักศึกษาบางคนได้ขยับเข้ามาหาเขาอย่างเงียบๆ แม้ว่าพวกเขาจะเดินเข้ามาอย่างช้าๆ แต่เห็นได้ชัดว่าถ้าพวกเขาเห็นว่าสือเหล่ยกำลังรังแกเด็กสาวล่ะก็ พวกเขาก็พร้อมที่จะเข้าไปชกสือเหล่ยอย่างไร้ความปราณี ปฏิกิริยาระหว่างพวกเขาในฐานะที่เป็นนักศึกษาในยุคนี้คือความตรงไปตรงมาและรุนแรง

"อี้อี้ หยุดร้องไห้เถอะ อย่างน้อย อย่างน้อยเธอก็บอกฉันมาว่าเกิดอะไรขึ้น? " ซุนอี้อี้เงยหน้าขึ้น เธอรู้สึกผิดและมองไปที่สือเหล่ยอย่างจริงจัง เธอเปิดปากขึ้นมาเล็กน้อยแต่มีเพียงเสียงสะอื้นดังออกมาและเธอก็ไม่สามารถพูดได้เต็มประโยค เธอรู้สึกผิดจริงๆ

ในฐานะของเด็กสาว เธอไม่รู้ว่าเธอต้องเขียนสัญญานั้นให้สมบูรณ์แบบอย่างไร เธอคิดสือเหล่ยจะยอมรับมันได้มีความสุข แต่เธอไม่เคยคิดเลยว่าสือเหล่ยจะปฏิเสธเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ซุนอี้อี้เป็นเด็กสาวที่ค่อนข้างเรียบง่าย เมื่อเธอคิดถึงสัญญานั้น เธอก็ไม่คิดว่ามันจะมีอะไรผิดพลาด ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถเข้าใจได้ว่าทำไมสือเหล่ยถึงปฏิเสธเธอ

จากมุมมองของเธอ มีเพียงเหตุผลเดียวเท่านั้นที่ทำให้สือเหล่ยปฏิเสธเธอ นั่นเป็นเพราะว่าเขาคิดว่าเธอเป็นเด็กไม่ดี

ซุนอี้อี้กรีดร้องอยู่ภายใน 'พี่หิน ฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่ไร้ยางอายแบบนั้น ทำไมพี่ถึงปฏิเสธฉัน? หรือพี่เริ่มที่จะไม่ชอบฉันแล้ว?'

ถ้าเธอพูดมันออกมาจริงๆ ความเข้าใจผิดนั้นคงจะได้รับการแก้ไข แต่การส่งกระดาศสัญญานั่นให้กับสือเหล่ยได้ดึงความกล้าของเธอทั้งหมดไม่แล้ว และมันก็เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะพูดในสิ่งที่ต้องการออกมาได้อีก

"เขากำลังรังแกคุณอยู่เหรอ?" ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ใกล้ๆกับพวกเขากางแขนของเขาออกมาและถามเธอ

ซุนอี้อี้ไม่คิดว่าจะมีใครเข้ามาพูดกับเขาขณะที่เธอยังคงร้องไห้ออกมา แต่เป็นสือเหล่ยที่สะดุ้งออกมาและรีบพูดอย่างรวดเร็ว "ไม่ ไม่ เข้าใจผิดแล้ว พวกเรามาด้วยกัน ฉันเองก็ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงร้องไห้ และเธอก็ยอมบอกฉันแม้ว่าฉันจะถาม ...... "

"หืมม ฉันกลัวว่ามันจะเป็นเพราะนายกำลังเอารัดเอาเปรียบเธออยู่หน่ะสิ ใช่ไหม? นายมาจากคณะไหน? พวกเรามีนักศึกษาแบบนี้ในมหาวิทยาลัยของเราได้อย่างไร? " ชายคนนั้นพูดออกมาอีกและมองไปที่สือเหล่ยอย่างไม่สุภาพ คนสองคนข้างๆเขาได้ก้าวเข้ามาราวกับว่าอยากจะกดดันสือเหล่ย

สือเหล่ยลูบหน้าผากของเขาอย่างพูดไม่ออกเมื่อคิดว่าในทุกวันนี้ทำไมถึงมีคนเป็นจำนวนมากชอบแสดงตัวออกมาปกป้องสาวงามกันนัก?

"อี้อี้ เธอช่วยบอกพวกเขาหน่อยได้ไหมว่าฉันไม่ได้รังแกเธอ?" สือเหล่ยถามซุนอี้อี้อย่างช่วยไม่ได้ ซุนอี้อี้เงยหน้าขึ้นและมองไปที่ชายหนุ่มทั้งสาม เธอต้องการเปิดปากของเธอขึ้นเพื่ออธิบายให้สือเหล่ย แต่เธอไม่สามารถแม้แต่จะพูดออกมาได้เป็นคำเมื่อเธอยังสะอื้นออกมาเรื่อยๆ

“หยุดโกหกได้แล้ว เห็นได้ชัดว่านายกำลังรังแกเธออยู่......”

ทั้งสามคนค่อยๆล้อมกรอบพวกเขา แต่เสียงตะโกนก็ดังขึ้นมาจากไกลๆ "ก้อนหิน...... " จากนั้นเมื่อพวกเขาหันหน้าไปก็ราวกับว่าพื้นดินกำลังสั่นอยู่ ชายร่างอ้วนหนักประมาณ 100 กิโลกรัมกำลังวิ่งเข้ามายังพวกเขาและเขายังวิ่งค่อนข้างเร็วซึ่งไม่เหมาะกับขนาดร่างกายเขาเลย

ฉับพลัน จางโม่ปรากฏตัวต่อหน้าสือเหล่ย เขาเหลือบมองไปที่ทั้งสามคนและสบถออกมาด้วยหางตา "เซี่ยวซิ นายกำลังทำอะไร? รีบไสหัวไปซะ!"

สือเหล่ยรู้สึกโล่งใจเพราะดูเหมือนจางโม่จะรู้จักทั้งสามคน ถึงแม้ว่าเขาจะยังไม่รู้ว่าทำไมซุนอี้อี้ถึงร้องไห้ แต่อย่างน้อยมันก็ยังไม่มีอะไรเลวร้ายเกิดขึ้น

ใบหน้าของหนึ่งในสามคนนั้นเปลี่ยนเป็นสีแดงและพูดกับจางโม่ "เขากำลังรังแกผู้หญิง พวกเรา...... "

จางโม่ยกฝ่ามือของเขาขึ้นซึ่งมันดูเหมือนลูกชึ้น และตบลงไปที่หัวของเขา "นายกำลังคิดจะปกป้องสาวงามงั้นเหรอ? กลับไปช่วยน้องสาวนายเถอะ! ฉันจะพูดอีกครั้งหนึ่ง ไสหัวไปซะ ไม่งั้นนายโดนฉันตบอีกแน่! นี่เป็นเพื่อนของฉัน! "

ชายคนนั้นหดคอของตัวเองและถอยกลับไปขณะที่พึมพำออกมา "นายตบไปแล้ว....." เมื่อเขาเห็นจางโม่กำลังจ้องมองมาที่เขา เขาจึงรีบหันกลับไปและวิ่งหนีไปทันที อีกสองคนเมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่ดีแล้วจึงได้ไล่ตามชายคนนั้นไปเช่นกัน

ในที่สุดจางโม่ก็หันกลับมาที่สือเหล่ยและพูด "มีอะไรกัน? นายทำให้สาวสวยคนนี้ร้องไห้ได้ยังไง? " สือเหล่ยแทบจะจินตนาการออกว่าเจ้าอ้วนนี้กำลังคิดอะไรอยู่เมื่อฟังจากน้ำเสียงล้อเลียนของเขา จางโม่อาจจะคิดว่าเขากำลังสลัดเธอทิ้งเพราะเขาเป็นลูกเศรษฐี

"เมื่อก่อนเธอเป็นเพื่อนบ้านของฉัน เราโตมาด้วยกัน และเรากำลังพูดคุยกัน ฉันไม่รู้ว่าทำไมแต่อยู่ดีๆเธอก็เริ่มร้องไห้...... อี้อี้ ทำไมเธอถึงร้องไห้? เธอต้องอธิบายมานะ ดูสิ แม้แต่เพื่อนของฉันยังคิดว่าฉันเป็นคนไม่ดีเลย "

ซุนอี้อี้รู้สึกกระอักกระอ่วนและตกใจ ก่อนนี้เธอยังไม่สามารถพูดในสิ่งที่ต้องการกับสือเหล่ยได้เลย แล้วในตอนนี้ที่มีคนแปลกหน้าคนอื่นยืนอยู่ด้วย เธอจะพูดมันออกมาได้ยังไง?

เธอไม่สนใจอะไรอีก ซุนอี้อี้ยัดสัญญาลงในมือสือเหล่ยด้วยแรงทั้งหมดของเธอและวิ่งออกไป

สือเหล่ยไม่คาดคิดกับสิ่งนี้ เขาถือกระดาษไว้ในมือและมองอย่างตกตะลึงไปที่ซุนอี้อี้ที่หายไปจากสายตาของเขา เขาอยากจะวิ่งไล่ตามเธอไปแต่จางโม่รัดคอของเขาไว้ในแขนและพูดล้อเลียนออกมา "อธิบายมาว่าเกิดอะไรขึ้น? ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร? เธอสวยจริงๆ สือเหล่ย นายไม่ถ่อมตัวไปหน่อยเหรอ? นายมีคู่หมั้นที่น่ารักแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร? นายไม่บอกพวกเราได้ยังไง? คนสวยคนนั้นเพิ่งมอบจดหมายน้อยให้กับนาย คลาสสิกจริงๆ จดหมายรักงั้นเหรอ?"

"หุบปาก!" สือเหล่ยเตะและส่งเจ้าอ้วนบินขึ้นไปในอากาศ แม้ว่าเขาจะไม่มีอารมณ์ใดๆกับซุนอี้อี้ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่ทำอะไรจางโม่

 

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด