ตอนที่แล้วตอนที่ 35 - รสนิยมที่แปลกประหลาด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 37 - ความสัมพันธ์ ≠ การแต่งงาน

ตอนที่ 36 - ฝันร้าย


ตอนที่ 36 - ฝันร้าย

 

ในขณะที่ซดโจ๊ก เขาก็ถามออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ "แม่ของเธอลาหยุดเมื่อวาน พวกเธอไปเล่นที่ไหนกัน?"

จางเหลียงเหลียงตอบด้วยความไม่พอใจ "อย่าพูดถึงมัน ฉันโกรธอยู่"

สือเหล่ยวางช้อนลงแล้วถาม "เกิดอะไรขึ้น? บอกฉันมา "

"ฉันบอกว่าอย่าพูดถึงมัน มันไม่ใช่เรื่องที่น่าสนใจอะไร "

"งั้นก็บอกฉันมาว่าอะไรที่ทำให้เธอไม่มีความสุขและทำให้ฉันสนุกขึ้นมาบ้าง!"

"เฮ้! คุณลุง!!"

"เธอกำลังเรียกฉันว่าลุง ชื่อนั้นมันไม่แก่ไม่หน่อยเหรอ?"

จางเหลียงเหลียงทำราวกับว่าเธอไม่ได้ใส่ใจที่จะพูดกับสือเหล่ย และก้มลงกินโจ๊กต่อ ที่ปลายสายตาของเธอ เธอยังเห็นว่าสือเหล่ยยังรอเธออยู่ เธอจึงหยุดกินและพูดออกมาอย่างช่วยไม่ได้ "คุณอยากฟังมันจริงๆงั้นเหรอ?"

จางเหลียงเหลียงถอนหายใจเมื่อสือเหล่ยหยักหน้าและพูดออกมา "ฉันไม่รู้ว่าเมื่อวานนี้เกิดอะไรขึ้นกับจางเหมยเหมย เมื่อฉันออกจากห้อง เธอได้ทำอาหารเช้าให้ฉัน นั่นเป็นจุดเริ่มต้นจริงๆของฝันร้าย คุณไม่รู้หรอกว่าอาหารที่น่าสะอิดสะเอียนที่ถูกทำขึ้นโดยคนอย่างจางเหมยเหมยนั้นเป็นยังไง บางครั้งฉันก็ชื่นชมเธอจริงๆ มันเป็นแค่ไข่ทอดกับขนมปังปิ้ง แต่มันกลับน่ากลัวมากกกกกกกกๆเมื่อมันผ่านมือเธอมา"

สือเหล่ยพูดไม่ออก เขาสามารถจินตนาการถึงภาพของจางเหมยเหมยพยายามทำอาหารให้จางเหลียงเหลียงได้ ไข่ทอดและขนมปังสองชิ้นได้ถูกปู้ยี่ปู้ยำจนมันดำเหมือนกับถ่านและจากออกมาจากเครื่องปิ้งขนมปัง

"ฉันอดไม่ได้จริงๆ ดังนั้นเมื่อเธอไปที่ห้องครัว ฉันจึงเทไข่และขนมปังทิ้งไปและกินเฉพาะโยเกิร์ตเป็นอาหารเช้าเท่านั้น" การแสดงออกของจางเหลียงเหลียงราวกับว่ามันไม่มีความหวังในโลกนี้เหลืออยู่แล้ว และสือเหล่ยก็รู้สึกเห็นใจเธอเพราะมีแม่ที่ไม่สามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างของที่กินได้กับของที่กินไม่ได้

"ตอนนั้นฉันกำลังรอคุณมาและสอนฉัน แต่ฉันไม่รู้ว่าจางเหมยเหมยกำลังทำอะไรอยู่และเธอได้บอกว่าจะพาฉันออกไปเล่นข้างนอก ฉันคิดว่ามันต้องเป็นเธอที่โทรบอกให้คุณไม่ต้องมา นอกจากนี้ นับตั้งแต่ฉันเกิดขึ้นมา ฉันไม่เคยมีความทรงจำใดๆว่าจางเหมยเหมยพาฉันออกไปเล่นข้างนอก ตราบเท่าที่เธอมีความสุขและฉันต้องการจะขอเงิน เธอก็จะโอนเงินให้ฉัน 5,000 หยวน ดังนั้นฉันจึงแสร้งทำเป็นว่ามีความสุขและออกไปกับเธอ คุณคิดไม่ถึงแน่นอนว่าเธอพาฉันไปที่ไหน"

ในเรื่องนี้สือเหล่ยไม่อยู่ในตำแหน่งที่จะพูดได้จริงๆ เพราะเขายังหนุ่มยังแน่นอยู่และเขาไม่รู้ว่าพ่อแม่จะพาลูกๆออกไปเล่นที่ไหน เขาพยักหน้าออกมาและถามว่า "ที่ไหน?"

"เธอพาฉันไปที่สวนสนุก จริงๆแล้วแม้ว่าฉันจะไม่ได้มีความสุขมากที่ได้ออกไปข้างนอกกับเธอ แต่ฉันก็มีความสุขเมื่อรู้ว่าเรากำลังจะไปสวนสนุกกัน ดังนั้นพวกเราจึงออกเดินทางไปยังหลงเฉิงที่มีสวนสนุกที่มีชื่อเสียงกันใช่ไหม? ถ้าเป็นคนธรรมดา มันก็อาจจะใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วครึ่งเท่านั้นในการขับรถประมาณ 130 กิโลเมตร แต่เหมยเหมยไม่รู้ทางและไม่รู้วิธีใช้ GPS เธอจึงไม่สามารถหาทางหลวงได้หลังจากผ่านไปกว่าชั่วโมง ในที่สุด ฉันต้องบอกเธอให้กับเธอถึงจะได้ขึ้นไปบนทางหลวง แต่เธอกลับถามฉันว่าฉันคุ้นเคยกับถนนหนทางมากขนาดนี้ได้ยังไง เธอถามขนาดที่ว่าฉันใช้ทางหลวงเพื่อไปเล่นที่อื่นๆใช่ไหม พระเจ้า แม้ว่าฉันจะไปสถานที่แบบบาร์จริงๆ แต่ฉันก็ไม่เคยออกจากหวู่ตง ฉันบอกว่าฉันแค่ตาม GPS แต่เธอก็ไม่เชื่อฉัน เธอบอกว่าแม้แต่เธอยังสับสนกับ GPS และไม่รู้แม้แต่วิธีใช้มัน ในเวลานั้น สัญชาตญาณของฉันได้บอกว่ามันกำลังจะเป็นฝันร้ายแน่นอน แต่พวกเราก็อยู่บนทางหลวงกันแล้ว และฉันก็ไม่สามารถออกไปได้ คุณเข้าใจไหม?"

สือเหล่ยพยักหน้าอย่างเงียบๆและกล่าวว่า "แล้ว?"

"จากนั้นเรามาถึงหลงเฉิงและไปที่สวนสนุก พวกเราออกมาก่อนสิบโมงเช้า แต่เวลาที่พวกเรามาถึงสวนสนุกมันกลับเป็นเที่ยงสี่สิบ จางเหมยเหมยบอกว่าพวกเราควรหาอะไรกินก่อน ซึ่งฉันเองก็ไม่มีปัญหา เพราะถึงอย่างไรฉันก็ไม่ได้หวังอะไรมากกับการมาเที่ยว ดังนั้นพวกเราจึงไปหาอะไรกินกันก่อน เมื่อพวกเรากำลังรออาหารมา จางเหมยเหมยเอาโทรศัพท์ออกมาและบอกว่าเธอต้องตอบอีเมลที่สำคัญ ดังนั้นเธอจึงทิ้งฉันไว้ในร้านอาหารและกลับไปเอาแล็ปท็อปของเธอที่รถ ฉันรออยู่เป็นเวลาสองชั่วโมและเมื่อเธอกลับมามันก็เป็นเวลาบ่ายสามแล้ว พระเจ้า คุณไม่เห็นพนักงานเสิร์ฟที่จ้องมอง พวกเขาอยากจะฆ่าฉันจริงๆคุณรู้ไหม? บางทีพวกเขาอาจจะคิดว่ามีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นกับพวกเรา และอยากให้พวกเราเช็คบิลเร็วๆ คุณจะทำยังไงหลังจากกินเสร็จฮะ?"

สือเหล่ยทำได้แค่ส่ายหัวของเขาเท่านั้น จางเหมยเหมย ทนายความสาวคนนั้นดูเหมือนจะไม่น่าไว้ใจได้จริงๆ

"หลังจากที่ เธอกลับมาเธอยังได้ขอโทษและสัญญาว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก จากนั้นเราก็ซื้อตั๋ว สำหรับสถานที่ต่างๆเช่นสวนสนุก เห็นได้ชัดว่าการมันจะยิ่งสนุกถ้าเล่นเครื่องเล่นที่ตื่นเต้นและน่ากลัว ใครจะบ้ามาที่สวนสนุกและถ่ายรูปกับมาสคอตเหล่านั้นล่ะ?! แต่จางเหมยเหมยกลับทำ ฉันบอกว่าฉันอยากจะไปเล่นรถไฟเหาะ แต่เธอบอกว่าแค่เธอมองไปที่มันก็รู้สึกเวียนแล้วและมันน่ากลัวเกินไปที่จะดูมันหมุนควง เช่นเดียวกับเทอร์โบดรอป เครื่องเล่นที่บินและหมุนไปมา 360 องศา เธอต่อต้านพวกมันทั้งหมดและเธอคิดว่ามันอันตรายมากเกินไป ดังนั้นฉันจึงแนะนำได้แค่ล่องแก่งเท่านั้น แต่เธอก็บอกว่าเธอไม่ได้เอาชุดมาเปลี่ยนถ้าเสื้อผ้าของพวกเราเปียก ดังนั้นฉันจึงคิดว่าเธอไม่ได้ต้องการพาฉันมาเล่นอะไรจริงๆ ได้ ฉันเองก็ไม่อยากที่จะเถียงกับเธอ งั้นเรือโจรสลัดก็น่าจะไม่เป็นอะไรใช่ไหม? นั่นไม่ใช่สิ่งที่อันตรายจริงๆคุณรู้ใช่ไหม? แต่เธอก็ยังไม่เห็นด้วย เธอไม่ยอมให้ฉันขึ้นแม้แต่ชิงช้าสวรรค์เพราะหากมีอะไรเกิดขึ้นกับวงล้อของชิงช้าสวรรค์ มันจะไม่สามารถหยุดได้ คุณลุง บอกฉันหน่อยสิว่าฉันจะเล่นอะไรได้บ้าง? ม้าหมุนงั้นเหรอ?”

สือเหล่ยอดหัวเราะออกมาไม่ได้ ถ้าเขาอยู่ในเหตุการณ์ด้วย เขาก็คงจะคิดว่าจางเหมยเหมยนั้นก็น่าเบื่อเช่นกัน

"งั้นท้ายที่สุดแล้วเธอเล่นอะไรล่ะ?"

จางเหลียงเหลียงหายใจเข้าลึกๆและถอนหายใจออกมา คิ้วของเธอขมวดเหมือนกับหมาแก่และพูดออกมา "เธอแนะนำให้ฉันไปเล่นรถบั๊ม ฉันคิดว่ามันน่าจะโอเค จึงตัดสินใจไปเล่นมัน แต่หลังจากที่เข้าคิวมานาน เธอดันขับรถหลบทุกๆหลังจากที่เธอขึ้นรถ แม้แต่เด็กอายุห้าขวบยังขับรถไปรอบๆและทำให้เธอกลัวมาจนกรีดร้องออกมา และแม้กระทั่งเธอได้บ่นออกมาว่าพ่อแม่ของพวกเขาไม่ดูลูกๆของตัวเองเลย คุณเคยเห็นใครที่หลบหลีกรถคันอื่นๆทั้งหมดในการเล่นรถบั๊มไหม? นี่มันคือวิธีเล่นรถบั๊มแบบบ้าบอชัดๆ นี่มันการขับรถจริงๆงั้นเหรอ? เธอเหยียบคันเร่งทันทีเพื่อหลบหลีกรถคันอื่น จากนั้นก็กดเบรคลงจนสุดเพื่อหลบรถอีกคัน สิบนาที! ฉันเกือบจะอ้วกออกมา มันตื่นเต้นซะยิ่งกว่าการเล่นไวกิ้งอีก!"

สือเหล่ยหัวเราะออกมาอย่างดัง

"ประเด็นคือหลังจากที่จางเหมยเหมยออกมาจากรถบั๊ม เธอร้องครวญครางออกมาราวกับว่าเธอเพิ่งผ่านศึกกับผู้ชายมากว่าร้อยรอบ เธอยังพูดอีกว่าเครื่องเล่นนั่นบ้าเกินไปและต้องการหาเครื่องเล่นอันอื่นที่อันตรายน้อยกว่านี้"

คนที่นั่งอยู่บนโต๊ะทั้งหมดหันหน้ามาและมองไปที่พวกเขา ใบหน้าของสือเหล่ยคล้ำลงและจ้องมองไปที่เธอ "เธอเป็นแค่เด็กตัวกระเปี๊ยก อย่างพูดบ้าๆแบบนั้นออกมานะ! เธอรู้ไหมว่าการผ่านศึกมาเป็นร้อยรอบมันหมายถึงอะไร?!"

จางเหลียงเหลียงเบ้ปากของเธอและพูดออกมาด้วยความรังเกียจ "คุณสามารถเห็นของพวกนี้ได้บนอินเทอร์เน็ตหนิ? คุณลง อย่าแกล้งทำเป็นไร้เดียงสาหน่อยเลย! "

สือเหล่ย "...... "

"จางเหมยเหมยลากฉันไปขึ้นรถบัสสำหรับเที่ยวชมสถานที่ นี่เป็นสิ่งที่เหมาะสำหรับคนแก่เท่านั้น และมันเหมาะกับเธอจริงๆ แต่ตั้งแต่ที่ฉันออกมา ฉันไม่ใส่ใจจะพูดอะไรและถือว่ามันจะช่วยให้เธอลดความเครียดลงมาได้ แต่เมื่อเธอเข้าแถว เธอก็เริ่มโทรศัพท์และก็โทรจนกระทั่งพวกเรากลับมาที่หวู่ตง และเธอยังไม่สังเกตเห็นเลยว่าฉันได้กลับไปแล้ว คุณคิดว่าฉันพูดเกินจริงไปหรือเปล่าล่ะ? แต่ฉันจะบอกคุณว่านี่เป็นความจริง หลังจากที่จางเหมยเหมยสังเกตเห็นว่าฉันได้หายตัวไป ปฏิกิริยาแรกของเธอไม่ใช่การโทรหาฉัน แต่เป็นการโทรหาตำรวจและขอให้ตำรวจโทรหาฉัน ฉันบอกว่าฉันคิดว่าเธอน่ารำคาญเกินไป ฉันจึงซื้อตั๋วรถไฟความเร็วสูงและกลับไปที่หวู่ตง เธอตำหนิฉันทางโทรศัพท์และฉันก็โกรธมากจนฉันเอาโทรศัพท์ให้คนขับแท็กซี่"

สือเหล่ยยกชามขึ้นและยกมันให้กับจางเหลียงเหลียง ก่อนจะพูดออกมา "เด็กน้อย ฉันขอคาราวะเธอจริงๆ"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด