ตอนที่ 34 - คนขับที่เบื่อหน่าย
ตอนที่ 34 - คนขับที่เบื่อหน่าย
สือเหล่ยผลักจางเหลียงเหลียงลงไปในรถแท็กซี่และใบหน้าของเขาก็เข้มงวด
จางเหลียงเหลียงยังคงพูดออกมารัวๆ
"คุณลุง คุณเป็นหัวหน้าแก๊งค์มาเฟียงั้นเหรอ?คุณต้องเป็น ผมแดงคนนั้นเป็นคนคุมบาร์แถบนี้ เขาสุภาพกับคุณมาก คุณต้องเป็นหัวหน้าของเขาใช่ไหม?"
สือเหล่ย "...... "
"เขาต้องการตีสนิทกับฉันมาก่อนแต่ฉันไม่สนใจเขา ถ้าฉันรู้ว่าเขากำลังทำงานให้คุณอยู่ แม้ว่าฉันจะไม่ได้สนใจเขา แต่ฉันก็จะไว้หน้าเขาบ้างและให้เขาดื่มและร้องเพลงกับพวกเรา"
สือเหล่ย "...... "
"คุณลุง ถ้าคุณมาแฮงค์เอ้าท์ที่นี่ ทำไมฉันไม่เคยเจอคุณมาก่อนเลย? บางทีเราอาจจะเคยเจอกันมานานแล้ว อาจจะเคยไหล่ชนกันมาแล้ว แต่ในเวลานั้นฉันยังไม่ได้รู้จักคุณ และคุณก็ไม่ได้รู้จักฉันด้วย......."
สือเหล่ย "...... "
"คุณลง ทำไมคุณไม่พูด! คุณมีลูกน้องอยู่กี่คน? คุณดูแลบาร์ทั้งถนนเลยหรือเปล่า? คุณจะทำอย่างไรเมื่อมีคนก่อปัญหา? "
สือเหล่ยไม่สามารถอดทนไว้ได้อีกและตะโกนออกมา "เงียบ!"
จางเหลียงเหลียงปิดปากของเธออย่างเชื่อฟัง ยกเว้นแต่ว่าดวงตาของเธอได้ส่องประกายออกมาราวกับดวงดาว ซึ่งแสดงถึงความชื่นชมของเธอที่มีต่อสือเหล่ย
ความเงียบได้คงอยู่เพียงหนึ่งนาทีเท่านั้นก่อนที่จางเหลียงเหลียงจะถามออกมาอีกครั้ง "คุณลุง คุณจะพาฉันไปไหน? คุณจะพาฉันกลับไปที่ห้องงั้นเหรอ? ฉันยังคงบริสุทธิ์อยู่นะคุณรู้ไหม ถึงแม้ว่าฉันมักจะบ้าบอไปสักหน่อย แต่ฉันก็ไม่เคยปล่อยให้ผู้ชายคนไหนแตะต้องมาก่อน....."
สือเหล่ยปวดหัวขึ้นมาทันทีเมื่อจินตนาการของเด็กสาวได้คิดไปไกลอย่างสิ้นเชิง
คนขับรถแท็กซี่นั่งอยู่ด้านหน้าได้เหลือบมองพวกเขาหลายต่อหลายครั้งผ่านทางกระจกหลัง สือเหล่ยทำได้แค่ขบฟันของเขาและข่มความโกรธของตัวเองเอาไว้ ก่อนจะอธิบายออกมาอย่างอดทน "ฉันจะไปส่งเธอที่บ้าน"
จางเหลียงเหลียงเหลอหลาไปสักพัก แต่ความคิดหนึ่งก็โผล่ขึ้นมาในหัวของเธอและเธอได้พูดออกมา "โอ้ คุณชอบทำมันที่บ้านของผู้หญิง...... คุณรู้ไหมว่าวันนี้แม่ของฉันไม่อยู่บ้าน......"
สือเหล่ยกุมขมับของตัวเอง ถ้าเขารู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ เขาจะไม่เข้าไปยุ่งเรื่องของเธอและลากเธอออกมาจากบาร์ เดิมทีมันไม่ใช่เรื่องของเขาแต่อย่างใดเนื่องจากพวกเขาเป็นแค่คนแปลกหน้าทั่วๆไปที่มาเจอกันโดยบังเอิญ และพวกเขาไม่แม้แต่จะถือว่าเป็นเพื่อนกัน ยกเว้นวันที่สือเหล่ยไปบ้านของเธอ เขารู้สึกเห็นใจเธอเมื่อเธอทำให้ตัวเองเป็นแบบนี้เพื่อเรียกร้องความสนใจจากแม่ของเธอ
เขาหวังดีจึงพาเธอออกมาจากบาร์ แต่ตอนนี้สือเหล่ยรู้สึกเสียใจจริงๆที่ทำแบบนี้
หลังจากคิดอยู่พักหนึ่ง สือเหล่ยได้ตัดสินใจที่จะทำให้มันชัดเจน
"อย่างแรกนะ ฉันไม่ใช่หัวหน้าแก๊งค์ ไฟสีแดงนั่นและลูกน้องของเขา ไฟสีเขียวและไฟสีเหลือง พวกเขาเพียงแค่ต้องการปล้นเงินของฉัน แต่ฉันขัดขืนและไล่พวกเขาออกไป หลังจากนั้นพวกเขาจึงไม่กล้าที่จะยั่วโมโหฉัน แม้แต่ฉันก็สงสัยว่าใครจะโง่พอที่จะเอาทั้งสามคนนี้เป็นลูกน้องนอกจากนี้วิธีการย้อมผมของพวกเขายังเหมือนกับไฟจราจรอีก"
จางเหลียงเหลียงหัวเราะอย่างสนุกสนาน "ลุงบ้า คุณเป็นคนตลกจริงๆ ไฟจราจร คุณเรียกแบบนั้นได้ยังไง? ฮ่าฮ่าฮ่า มันตลกจริงๆ"
สือเหล่ยไม่ได้ยิ้มแต่ยังคงตีหน้านิ่ง "อย่างที่สอง ฉันไม่ได้คิดจะพาเธอไปที่ห้อง ไม่ต้องคิดถึงการทำบางสิ่งระหว่างเราเลย มันเป็นเพียงเพราะแม่ของเธอจ้างฉันเป็นครูสอนพิเศษของเธอและฉันเห็นเธอกำลังแฮงค์เอ้าท์อยู่กับเด็กน่าสงสัยเหล่านั้น ดังนั้นฉันจึงวางแผนที่จะพาเธอกับบ้าน"
"คุณเป็นแค่ครูสอนพิเศษเท่านั้น ดังนั้นคุณจึงคิดว่าจะมีสิทธิ์มายุ่มย่ามกับชีวิตของฉันเหรอ?" จางเหลียงเหลียงรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
สือเหล่ยไม่สนใจเธอและพูดต่อ "อย่างที่สาม เธอคิดว่าตอนนี้เธอเจ๋งแล้วงั้นหรือ? โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากทำร้ายชายคนนั้นที่แซวเธอ และไม่มีใครกล้ามากวนเธออีก? นั่นเป็นเพราะแม่ของเธอมีความสัมพันธ์ที่ดีกับตำรวจ ชายคนที่แซวเธอแค่มาอยู่ผิดที่ผิดทาง ดังนั้นตำรวจจึงลำเอียงและช่วยเหลือเธอ มิฉะนั้นด้วยการกระทำของเธออย่างน้อยมันก็คงพอทำให้เธอถูกส่งตัวไปยังศูนย์กักขังเป็นเวลาประมาณครึ่งปี และนั่นก็คือเธอโชคดี
จางเหลียงเหลียงเบิกตาของเธอขึ้นและเริ่มเดือดขึ้นมา "คุณลุง ฉันคิดว่าคุณเป็นคนที่น่าสนใจมาก่อน แต่ฉันไม่คิดเลยว่าคุณจะเป็นพวกหัวโบราณและไม่ยืดหยุ่นแบบจางเหมยเหมย คนขับ หยุดรถ ฉันจะลง! "
คนขับชะลอรถลง หันหัวของเขากลับมาและมองไปที่สือเหล่ย สือเหล่ยโบกมือของเขาและกล่าวว่า "อย่าใส่ใจเธอ เพียงแค่ไปที่ย่านเฟิงหัวก่อน"
จากนั้นสือเหล่ยจึงมองไปที่จางเหลียงเหลียงและพูด "ในตอนนี้เธอกำลังอยู่ในวัยที่ดื้อรั้น กับสถานการณ์ในครอบครัวของเธอ เธอจะไม่คิดว่ามันแปลก แต่เธอต้องเข้าใจว่าเมื่อเธอเลี้ยงและยุ่งเกี่ยวกับคนเหล่านั้น เธอได้ใช้เงินของแม่เธอ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอมีเงินเพียงพอที่จะซื้อเครื่องดื่มให้กับพวกเขา เธอคิดจริงๆเหรอว่าเธอจะได้รับการปฏิบัติเช่นนี้? คุณจะถูกมอมและพาไปโรงแรมโดยที่เธอไม่รู้ว่าเธอจะถูกข่มขืนกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เธอค่อนข้างโชคดีที่เมื่อเธอเพิ่งเริ่มต้นเกเร คนโง่ๆบางคนได้มาแซวเธอและเธอได้ทำร้ายเขา แม่ของเธอได้เส้นสายของเธอเพื่อจัดการและแม้กระทั่งส่งเขาเข้าศูนย์กักกัน ซึ่งในท้ายที่สุดสถานบันเทิงแบบนี้ก็มักจะผูกมิตรไว้กับคนรวย ดังนั้นเธอจึงไม่ได้พบกับคนไม่ดีจริงๆ แต่ฉันมั่นใจและสามารถบอกเธอได้เลยว่าถ้าเธอยังทำแบบนี้ต่อไป เธอจะต้องพลาดท่าบ้างแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้น มันไม่สำคัญว่าแม่ของเธอจะมีเส้นสายแค่ไหน ยังไงมันก็ไม่สามารถป้องกันสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วได้ เธอคงคิดว่าฉันกำลังสอนเธออยู่ เธอคงคิดว่า่แม่ไม่ได้สนใจเธอ แต่ถ้าแม่ของเธอไม่ได้สนใจจริงๆ ทำไมเธอถึงพยายามที่จะช่วยเธอจัดการเรื่องพวกนั้นล่ะ? ถ้าไม่มีแม่ของเธอ เธอก็คงจะเป็นชิ้นเนื้อเน่าๆไปแล้ว!"
สือเหล่ยมองเห็นดวงตาของจางเหลียงเหลียงหดลงอย่างรุนแรง เสียงเล็กๆลอดออกมาจากลำคอของเธอ เช่นเดียวกับเสียงของลูกสุนัขที่เปล่งออกมาเมื่อตื่นตระหนก
สือเหล่ยรู้ดีว่าคำพูดของเขาอาจจะรุนแรงไปสักหน่อย แต่เขาก็ไม่รู้สึกเสียใจแต่อย่างใด
"คุณเป็นอะไรกับฉันฮะ? ฉันต้องการให้คุณยุ่งเรื่องของฉันงั้นเหรอ? " ในที่สุด จางเหลียงเหลียงได้ตะโกนออกมา
คนขับรถเหยียบเบรกขณะที่รถแท็กซี่ค่อยๆหยุดลงที่ประตูของเฟิงหัว เขาหันกลับมาและพูด "เรามาถึงแล้ว ทั้งหมด 21 หยวน"
จางเหลียงเหลียงดึงที่จับประตูอย่างรุนแรงราวกับว่าเธอต้องการจะออกไป แต่ประตูด้านซ้ายของรถแท็กซี่ไม่สามารถเปิดออกมาจากด้านในได้และที่เธอดึงไปจึงไร้ผล
สือเหล่ยเอาเงินออกและมอบให้คนขับ ขณะที่เขารอคนขับทอนเงิน จางเหลียงเหลียงก็เริ่มจะผลักไสเขาเหมือนคนบ้า ราวกับว่าเธอต้องการจะออกไป
คนขับรถส่งเงินทอนให้สือเหล่ย เขาถอนหายใจออกมาลึกๆอย่างฉับพลัน "เด็กน้อย เธอคิดว่ามันเจ๋งเหรอที่เป็นหัวหน้ามาเฟีย?"
สือเหล่ยและจางเหลียงเหลียงทั้งคู่ต่างตกใจ จากนั้น พวกเขาจึงหันไปเห็นว่าคนขับก้าวออกไปนอกรถ
เมื่อยืนอยู่นอกรถ คนขับถอดแจ็คเก็ตออกและพูดตรงไปยังพวกเขาว่า "มานี่ ออกมา ฉันจะแสดงให้พวกคุณเห็น"
สือเหล่ยลงจากรถมาาด้วยความสับสน และทันทีทีจางเหลียงเหลียงก้าวลงมา เขาได้คว้าแขนเธอไว้เธอป้องกันไม่ให้เธอวิ่งหนี
คนขับเดินไปรอบๆพร้อมกับแจ็คเก็ตที่อยู่ในมือ เขาสวมเสื้อลำลองอยู่ภายใน
แขนของผู้คนขับเต็มไปด้วยรอยสัก แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถมองเห็นมันได้จากชัดเจนในความมืด แต่มันก็ดูเหมือนมังกรสองตัวที่พันอยู่รอบๆแขนของเขา
"ฉันยังมีสิ่งนี้อยู่ที่อกและหลัง แต่ฉันจะไม่แสดงให้พวกคุณเห็น ย้อนกลับไปในอดีต หวู่ตงมีเขตอื่นๆเช่นเขตกูหลัว ที่นั่นมีบาร์ที่ชื่อว่าหลัวหลาน คุณรู้จักไหม?
สือเหล่ยไม่รู้จักแต่จางเหลียงเหลียงรู้จักขณะที่เธอพยักหน้าออกมาโดยจิตใต้สำนึก
"ในเวลานั้น ฉันได้ดูแลพื้นที่แถบๆนั้นอยู่และทุกๆบาร์ต้องจ่ายเงินให้กับฉัน มีสาวน้อยมากมายเช่นเธอที่อยากเป็นของฉันด้วยเหตุผลเช่นเดียวกับเธอ พวกเธอคิดว่ามันดูเจ๋งที่จะเป็นผู้หญิงของหัวหน้าแก๊งค์" คนขับจุดบุหรี่และดวงตาของเขาได้แสดงความคิดถึงต่ออดีต