ตอนที่แล้วตอนที่ 29 - จินตนาการและความเป็นจริง 
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 31 - จับไว้ให้แน่น

ตอนที่ 30 - การโกหกสีขาว


ตอนที่ 30 - การโกหกสีขาว

สือเหล่ยไม่อยากโกหก แต่ไม่ว่าจะเป็นใคร เขาก็ไม่สามารถอธิบายถึงแหล่งที่มาของเงินได้ และตอนนี้เขากำลังเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ต้องการจะรักษาชีวิตของใครบางคน เขาจึงทำได้แค่โกหกสีขาวไปเท่านั้น

ที่ด้านข้างของซุนอี้อี้ สือเหล่ยพยายามอย่างสุดความสามารถและสามารถปลอบโยนเธอได้ในที่สุด

สือเหล่ยพูดออกมา "อย่าบอกคุณป้านะว่าฉันเป็นคนให้เงินเธอ"

ซุนอี้อี้เบิกดวงตาที่สวยงามของเธอขึ้น ขนตาของเธอยังคงเต็มไปด้วยน้ำตาซึ่งน่าชวนมองดุจน้ำค้างในยามเช้า

"ทำไมหรือ?"

สือเหล่ยลูบหัวของเธอและกล่าวว่า "คุณป้าจะมีภาระทางด้านจิตใจได้ เธอจะคิดอย่างแน่นอนว่าพวกเราไม่สามารถหาเงินจำนวนมากเช่นนั้นได้"

ซุนอี้อี้ก้มหัวลงในทันที เธอถูรองเท้าผ้าใบของเธอเข้ากับพื้นและพูดด้วยเสียงต่ำ "พี่หิน ฉันอาจจะต้องใช้เวลานานจริงๆในการคืนเงินให้กับคุณ ฉัน...... "

"ฉันไม่รีบ พวกเราสามารถพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ในภายหลังได้ ฉันไม่ได้พูดกับเธอเกี่ยวกับการคืนเงิน มันแค่ฉันเป็นกังวลว่าคุณป้าอาจจะไม่ต้องการที่จะยอมรับมัน"

"แล้วฉันควรจะพูดกับแม่ยังไงล่ะ?"

สือเหล่ยคิดและพูดออกมา "เธอสามารถบอกคุณป้าได้ว่าฉันทำงานอยู่ที่บริษัทด้านยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ส่วนใหญ่บริษัทของฉันวิจัยและพัฒนาอุปกรณ์สำหรับการผ่าตัดบายพาสหัวใจ เมื่อได้รับการส่งเสริมให้เข้าสู่ตลาด แม้ว่าราคาจะถูกกว่าอุปกรณ์รุ่นก่อน แต่โรงพยาบาลต่างก็กังวลว่าผลลัพธ์ทางการแพทย์ของมันจะไม่ดีเท่าที่ควร ดังนั้นบริษัทของฉันจึงกำลังโปรโมตสินค้านี้อยู่ และเราต้องการหาผู้ป่วยที่ต้องการผ่าตัดหัวใจเพื่อทำการทดลองใช้พวกมัน ไม่เพียงแต่เราจะยกเว้นค่าใช้จ่ายสำหรับอุปกรณ์ให้ แต่เรายังยินดีที่จะจ่ายค่ารักษาและค่าฟื้นฟูหลังการผ่าตัดให้อีกด้วย โรงพยาบาลจะได้สังเกตเห็นจากการผ่าตัดว่าอุปกรณ์ของเรามีประสิทธิภาพจริงหรือไม่ สำหรับโรงพยาบาล พวกเราจะบอกหมอเองและฉันเชื่อว่าพวกเขายินดีที่จะบอกโกหกไปพร้อมกับพวกเรา เพราะถึงอย่างไร สุขภาพของคุณป้าก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้"

ซุนอี้อี้ตะลึงงัน เธอกระพริบตาและไม่รู้ว่าจะตอบสือเหล่ยยังไง

สือเหล่ยทำได้แค่พูดออกมา "อย่างไรก็ตาม อย่าพูดอะไร เพียงแค่ฟังฉันพูดคุยกับเธอและร่วมมือกับฉันสักหน่อย เธอแค่บอกว่าฉันโทรหาเธอในตอนเช้า ฉันพาเธอไปที่บริษัทของฉันและการพูดคุยก็เกือบจะเสร็จสิ้นแล้ว พวกเราแค่ต้องการให้คุณป้ายอมรับและลงนามในสัญญา"

ซุนอี้อี้พยักหน้าอย่างงงงวยและทั้งสองก็กลับไปที่โรงรถซึ่งได้รับการปรับปรุงให้เป็นบ้านเช่า

เมื่อแม่ของซุนอี้อี้เห็นสือเหล่ยเข้ามา เธอรีบบอกให้ซุนอี้อี้ไปเอาน้ำมาให้สือเหล่ยและได้ลุกขึ้นจากเตียงด้วยตัวเอง

สือเหล่ยรีบไปพยุงแม่ของซุนอี้อี้อย่างรวดเร็ว และช่วยให้เธอพิงเข้ากับหัวเตียง เขานั่งลงบนเตียงและถามด้วยรอยยิ้ม "คุณป้า วันนี้คุณเป็นอย่างไรบ้าง?"

แม่ของซุนอี้อี้รวบผมที่หน้าผากของเธอ ถึงแม้ว่าเธอจะมีอายุเพียงแค่ 40 ปี แต่ผมสีเทาก็ปรากฏขึ้นมาแล้ว ดูเหมือนว่าเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมามันช่างรุนแรงกับเธอเหลือเกิน

แม่ของซุนอี้อี้พยายามจะยิ้มออกมา "ก็เหมือนกับทุกวัน จริงๆแล้วฉันก็สบายดี แต่ฉันไม่สามารถปล่อยอี้อี้ไปได้ ฉันมันไร้ประโยชน์จริงๆ ทั้งโดนหลอกลวงและยังมาเจ็บป่วยแบบนี้อีก ถ้าไม่ใช่ว่าอี้อี้ยังเด็กอยู่และยังไม่ได้เข้ามหาวิทยาลัย ฉันก็อยากจะตายไปซะจริงๆ......."

“แม่….. อย่าพูดแบบนั้น…...” น้ำตาของซุนอี้อี้เริ่มไหลออกมาอีกครั้ง

สือเหล่ยปลอบโยนเธออย่างรวดเร็ว "คุณป้า คุณไม่ควรคิดแบบนี้ อี้อี้ต้องได้ไปเรียนที่มหาวิทยาลับ เธอจะเรียนจบและหางานดีๆทำ เธอจะมีลูกและดูและคุณด้วย!"

"เธอรู้วิธีปลอบโยนผู้คนแบบนี้อยู่เสมอตั้งแต่เธอยังเด็กเลยนะ แต่ร่างกายของฉัน ...... " การแสดงออกของแม่ซุนอี้อี้เต็มไปด้วยความกังวล

สือเหล่ยยิ้มและกล่าวว่า "คุณป้าไม่ต้องกังวลมากเกินไปเกี่ยวกับอาการเจ็บป่วยของป้า เหตุผลที่ผมเรียกอี้อี้ออกมาในเช้าวันนี้ก็เพื่อการช่วยป้าแก้ปัญหานี้"

"สือเหล่ย เธอห้ามบอกครอบครัวของเธอนะ ครอบครัวของเธอไม่ได้ร่ำรวยอะไรและมันก็เป็นเรื่องยากที่พ่อแม่ของเธอจะหาเงิน ในปีนี้ พ่อแม่ของเธอต้องใช้ชีวิตยากลำบากขึ้นเพราะเธออยู่มหาวิทยาลัย มันเป็นปัญหาของฉัน พวกเราจะจัดการมันเอง ...... "

สือเหล่ยพูดแทรกแม่ของซุนอี้อี้ขึ้นมา "คุณป้าไม่ต้องตกใจและรอให้ผมพูดจบก่อน มันเป็นแบบนี้ หลังจากที่ผมเข้ามหาวิทยาลัย ผมต้องการแบ่งเบาภาระของครอบครัว ดังนั้นผมจึงทำงานพาร์ทไทม์เยอะมาก ซึ่งในตอนนี้ผมกำลังทำงานอยู่ที่บริษัทเกี่ยวกับอุปกรณ์ทางการแพทย์และยา และขายอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับพวกเขา เมื่อคืนผมได้พบกับอี้อี้และเธอได้บอกเรื่องของคุณป้ากับผม ดังนั้นผมจึงคิดว่ามันต้องเป็นโชคชะตาแน่ๆ บริษัทของผมเพิ่งพัฒนาอุปกรณ์สำหรับการผ่าตัดบายพาสหัวใจ ราคาที่บริษัทของผมตั้งไว้ต่ำกว่าที่โรงบาลใช้อยู่ในขณะนี้ บางทีอาจเป็นเพราะมันเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ แต่เนื่องจากมีความไว้วางใจค่อนข้างต่ำในโรงพยาบาลและพวกเขาไม่เต็มใจที่จะใช้อุปกรณ์ของพวกเรา ดังนั้นบริษัทจึงได้ตัดสินใจที่จะหากลุ่มอาสาสมัครที่เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจและต้องการการผ่าตัดแต่ไม่สามารถจ่ายค่ารักษาพยาบาลได้ บริษัทของเรายินดีที่จะให้ใช้อุปกรณ์ต่างๆฟรีและยังจ่ายค่าผ่าตัดรวมทั้งค่ารักษาในช่วงฟื้นฟูให้อีกด้วย อย่างไรก็ตามมันเป็นอุปกรณ์ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่และคนส่วนใหญ่มองว่าเป็นความเสี่ยง แต่ผมทำงานในบริษัท ดังนั้นผมจึงรู้ว่าเราสามารถไว้ใจได้ เพื่อประโยชน์ในการขยายตลาดของบริษัท มันจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องจ่ายเงินเพื่อโฆษณา ซึ่งโรงพยาบาลเองก็ตกลงที่จะทำเช่นนี้ ประการแรกพวกเขาสามารถทดลองได้ว่าผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ใช้ได้ผลจริงหรือไม่ ประการที่สองพวกเขาสามารถช่วยผู้ป่วยที่มีปัญหาทางด้านการเงินได้ เหล่าแพทย์รู้สึกไม่ดีที่เห็นผู้ป่วยจำนวนมากที่ไม่สามารถได้รับการรักษาได้เนื่องจากปัญหาทางด้านการเงิน ดังนั้นในเช้าวันนี้ ผมจึงได้ไปที่บริษัทของผมและพูดคุยกับเจ้านายของผมเพื่อบอกกล่าวถึงสภาพของคุณป้า เจ้านายบอกว่าบริษัทเองก็พร้อมที่จะทำให้ทุกวิถีทาง เนื่องจากคุณป้าเป็นเพื่อนบ้านของผม มันจึงเป็นเรื่องง่ายที่จะบรรลุข้อตกลงนี้ ดังนั้นผมจึงเรียกอี้อี้ออกไปและผู้จัดการก็เป็นคนที่รับผิดชอบในการอธิบายกระบวนการต่างๆ........ อี้อี้ เล่าให้คุณป้าฟังสิ"

ซุนอี้อี้ไม่รู้ว่าจะเสริมอย่างไร เธอทำได้แค่บังคับตัวเองให้พูดออกมา "แม่ หนูคิดว่าผู้จัดการดูดีจริงๆ นอกจากนี้ พี่หินยังบอกว่าบริษัทของเขาค่อนข้างมีความน่าเชื่อถือ และอุปกรณ์ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่นั้นก็ไม่ได้แย่ บริษัทของพี่หินบอกให้หนูกลับมาพูดคุยเรื่องนี้กับแม่และตัดสินใจโดยเร็ว"

แม่ของตกใจ เธอไม่คิดว่าอะไรแบบนี้จะเกิดขึ้น เธอค่อนข้างกังวลใจและพูดออกมา "บริษัทของเธอจะจ่ายให้ทั้งหมดจริงๆเหรอ? “

สือเหล่ยเมื่อเห็นว่าแม่ของซุนอี้อี้ไม่ได้สนใจเรื่องคุณภาพของอุปกรณ์แม้แต่น้อยแต่กลับกังวลเฉพาะเรื่องของค่าใช้จ่ายเท่านั้น มันก็ทำให้เขารู้ว่าเขาได้ประสบความสำเร็จแล้ว

ดังนั้นเขาจึงรีบพูดออกมา "ใช่แล้ว งบประมาณของบริษัทผมที่มอบให้กับอาสาสมัครนั้นไม่เกิน 40,000 หยวน ผมได้ยินมาจากอี้อี้มาว่าอาการของคุณป้า คุณหมอบอกว่าป้าต้องใช้อุปกรณ์ไม่น้อยกว่าสามตัว บอกกับค่าผ่าตัดและการฟื้นฟูหลังผ่าตัด คุณป้าต้องใช้เงินเกือบๆ 100,000 หยวน และอุปกรณ์สามตัวมีค่าใช้จ่ายประมาณ 40,000 ถึง 50,000 หยวน บวกกับประกันสุขภาพอีก 40,000 หยวน มันก็มากเพียงพอสำหรับผู้ป่วยที่เป็นอาสาสมัครในการผ่าตัดจนกระทั่งพวกเขาสามารถฟื้นฟูได้อย่างเต็มที่ในเวลาเดียวกัน บริษัทของเรายังได้ซื้อประกันสำหรับผู้ป่วยก่อนการผ่าตัดไว้ด้วยเพื่อผลประโยชน์ของอาสามัครอย่างถึงที่สุด"

"สือเหล่ย เธอไม่ได้โกหกฉันใช่ไหม? สิ่งดีๆแบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? " แม่ของซุนอี้อี้รู้สึกประหลาดใจ เงิน 40,000 หยวนต่อคน ถ้ามีคนแปดหรือสิบคนเป็นอาสาสมัคร เธอก็ไม่อาจจะจินตนาการได้เลย

สือเหล่ยยิ้มและกล่าวว่า "คุณป้า คุณไม่ต้องเป็นห่วงเพราะผมไม่ได้โกหกคุณ มันเป็นเรื่องบังเอิญ บริษัทของผมต้องการที่จะขยายตลาด แต่โรงพยาบาลยังกังวลเกี่ยวกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ดังนั้นถ้าคุณป้ายินดีที่จะเป็นอาสาสมัคร บริษัทของผมจะขอบคุณมาก หากทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีหลังการผ่าตัด โรงพยาบาลจะยอมรับผลิตภัณฑ์ที่บริษัทของเราผลิต ถ้าโรงพยาบาลแห่งหนึ่งยินดีที่จะซื้อ โรงพยาบาลอื่นๆก็จะรู้ว่าผลิตภัณฑ์ของเรามีราคาถูกกว่า บริษัทอื่นๆ และจะซื้อมันจากพวกเรา ค่าใช้จ่ายสำหรับการผ่าตัดของคุณป้าจะนับเป็นอะไรได้กับบริษัทของเรา"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด