ตอนที่ 238: ดราม่า (1)
ขอทับนะครับชื่อตอน
___________________________
เคทลินตั้งครรภ์ นั่นคือสิ่งที่แองเจเล่ไม่เคยคาดหวัง
มันเป็นเวลาหลายปีตั้งแต่ที่เขาออกจากบ้านเกิดของเขา เด็กอยู่ในร่างกายของเคทลินเป็นเวลานาน แองเจเล่รู้ว่าเธอน่าจะไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างดีจากคนในท้องถิ่นเนื่องจากผู้คนชอบกระจายข่าวลือ บางทีเธออาจอยู่ในดินแดนของตระกูลของเธอตลอดเวลาแต่โชคดีที่เธอสามารถรอดจากภัยพิบัตินั้นได้
แองเจเล่ไม่แน่ใจว่าทำไมมันใช้เวลานานสำหรับเด็กที่จะเกิด บางทีมันอาจเป็นเพราะสายเลือดพิเศษของเขา
แม่ของเขาเป็นเอลฟ์ไม้และเอลฟ์ไม้มักจะเลือกสืบพันธุ์กับมนุษย์เนื่องจากอัตราการสืบพันธุ์ที่สูง
แองเจเล่สงสัยว่าทำไมเขาถึงล้มเหลวในการควบคุมตัวเองในระหว่างที่มีเพศสัมพันธ์กับเคทลินและบางทีสายเลือดพิเศษของเข้าอาจจะเข้าไปในร่างกายของเธอ นั่นอาจเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงต้องใช้เวลาหลายปีในการคลอดเด็ก
อย่างไรก็ตามเขามั่นใจว่าเป็นลูกของเขา ในฐานะพ่อมดมันจะมีความเชื่อมโยงพิเศษทางจิตกับผู้สืบทอด พวกเขาจะรู้ได้เองว่าลูกเกิดมา
ถ้าเด็กมีพรสวรรค์เขาก็ต้องการที่จะนำมายังโนล่าแต่ถ้าเด็กไม่มีพรสวรรค์รังสีในโนล่ามันมากเกินไปสำหรับเด็ก
นี่คือแผนของแองเจเล่และการตัดสินใจของเขา เขาเข้าใจได้ว่าทำไมเคทลินจึงตัดสินใจที่จะเก็บลูกไว้ หลังจากที่มีผู้สืบสายโลหิตพ่อมดในตระกูลมันก็จะมอบสิ่งที่เธอต้องการ
ฟุบ
ลูกไฟสีม่วงระเบิดด้านบนของโคมไฟน้ำมัน แสงจากลูกไฟส่องลงบนใบหน้าของแองเจเล่และผนัง
เขาเอามือขวาออกจากด้านบนของโคมไฟและจ้องไปที่มัน มันร้อนมากและนั่นเป็นผลมาจากการระเบิด
'ข้าต้องเผามือขวาวันละครั้ง....การปลูกฝังเนื้อเต่าอาจเป็นความผิดพลาดใหญ่' แองเจเล่ส่ายหัวและดับเปลวไฟสีม่วงที่เหลืออยู่
เขาลุกขึ้นยืนและเดินไปที่หน้าต่างของห้องทดลองทางชีวภาพเพื่อมองไปข้างนอก
มันเป็นเวลาเก้าโมง แสงแดดได้ทำให้ดินแดนนี้อุ่นขึ้น อากาศมันร้อนและแห้ง
สายลมอุ่นได้เข้าผ่านหน้าต่างและพัดผ่านใบหน้าของแองเจเล่ มันช่วยทำให้อารมณ์ของเขาดีขึ้นเล็กน้อย
'ข้ายังไม่มีความคืบหน้าในการศึกษาหินพิภพและตอนนี้ข้าก็ยังมีเด็กอย่างกะทันหัน นอกจากนี้ยังมีการแต่งงานกับอิซาเบล....เคราะห์ซ้ำกรรมซัด...' แองเจเล่ขมวดคิ้ว
ทันใดนั้นควันสีฟ้าก็ลอยออกมาจากปลายนิ้วของเขาและรูนสีน้ำเงินก็เริ่มกะพริบบนเล็บของเขา
"กรีน ตอนนี้เจ้ามีเวลาไหม" เสียงของอิซาเบลดังก้องอยู่ในหูของเขา
"อิซาเบล เกิดอะไรขึ้น" แองเจเล่ตอบทันที
"เจ้ารู้ไหมว่าย่าของข้าต้องการให้เจ้าแต่งงานกับข้า" อิซาเบลพูดเสียงสั่น
"ใช่ เธอบอกกับข้าเมื่อวานซืน ท่านแฟลนมาหาข้าหลังจากที่เจ้าจากไป สำหรับการแต่งงานถ้าเจ้าไม่ต้องการข้าก็สามารถไปพูดกับเธอได้ เราเป็นเพื่อนที่ดีแต่ไม่เคยมีความรักที่ลึกซึ้งระหว่างเรา" แองเจเล่ยิ้ม อิซาเบลเป็นผู้หญิงที่ดีแต่แองเจเล่ไม่ชอบบุคลิกของเธอ อิซาเบลไร้เดียงสาเกินไปและแองเจเล่ไม่มีเวลาที่จะปกป้องเธอตลอดเวลา
"ใช่ ข้าขอโทษแต่ข้าไม่คิดว่าเราจะเป็นคู่ที่ดี" อิซาเบลลังเลชั่วครู่และตอบ "ที่จริงแล้วมีคนที่ข้าตกหลุมรักอยู่ตอนนี้....ย่าของข้าอาจจะสังเกตเห็นแต่เธอไม่ชอบตัวเลือกของข้า"
"หา นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้ยินเจ้าพูดเรื่องนี้" แองเจเล่ตกใจ "คนที่โชคดีคนนั้นเป็นใคร เจ้าสามารถบอกข้าเรื่องเขาได้ไหม"
"ชื่อของเขาคือเรย์มอนด์ ข้าพบเขาครั้งแรกในครั้งที่สามที่ข้าออกจากดินแดนของตระกูลของข้า" อิซาเบลตอบเสียงนุ่มนวล เธอฟังดูอายเมื่อพูดถึงชายของเธอ
แองเจเล่ส่ายหัว แม้ว่าอิซาเบลดูเหมือนว่าเธอจะไร้อารมณ์แต่เธอก็ยังมีหัวใจที่บริสุทธิ์และมันฟังดูเหมือนว่าพวกเขาหลงรักกัน เขานึกถึงคำที่แฟลนบอกว่าในคืนนั้นและเขาก็รู้สึกหดหู่
"แล้วเขาเป็นอย่างไร ข้าหมายถึง...." แองเจเล่รู้สึกเสียใจหลังจากพูด
"เขาเป็นผู้ชายที่เยี่ยมยอดและเขาก็ดูแลข้าอย่างดี...." อิซาเบลลดเสียงลง "เอาล่ะ หยุดพูดถึงเขาเถอะ ข้าติดต่อเจ้าเพราะข้าต้องการขอโทษเรื่องย่าของข้า"
"ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ ข้าขอให้เจ้าทั้งสองคนโชคดี" แองเจเล่ตอบเสียงเบา
"ขอบคุณ"
การสื่อสารถูกตัดออก
แองเจเล่ยืนข้างหน้าต่างพร้อมกับหรี่ตาและเขาเริ่มคิด เขารู้สึกได้ถึงเรื่องแหม่งๆในเหตุการณ์ทั้งหมดแต่เขาไม่สามารถหาเรื่องราวได้ว่าทำไม ยังไม่มีหลักฐานที่สนับสนุนสมมุติฐานของเขาดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะยอมแพ้และมุ่งมั่นกับโครงการหินพิภพแทน
อิซาเบลไม่เคยติดต่อเขาอีกหลังจากที่สนทนาสั้นๆที่พวกเขามี
เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ในการเรียนรู้ศึกษาหินพิภพและทดสอบรูปแบบพื้นฐาน แองเจเล่ยังทำสมาธิทุกวันแต่พลังจิตของเขาแทบจะไม่ขยับ นอกจากนี้เขายังได้ทำยาพื้นฐานสำหรับการใช้ชีวิตประจำวัน
หลายวันผ่านไป
ตอนเที่ยงของวันที่ห้า
ข้างนอกมืด มีเมฆหนาปิดกั้นแสงแดดที่สดใสและมันดูเหมือนว่าฝนจะตก
แองเจเล่กำลังเก็บตัวอย่างวัสดุบางอย่างข้างทะเลสายและเขาต้องการที่จะปลูกพืชที่ถูกปกเปื้อนจากเนื้อเต่าในบริเวณนี้
ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงเหมือนแกะร้อง
แองเจเล่เอนตัวไปด้านข้างและเห็นแกะตัวมหึมาสีขาวค่อยๆหยุดข้างป้ายบอกทางที่ระบุว่าพื้นที่นี้เป็นดินแดนของพ่อมดกรีน มีอัศวินที่สวมชุดเกราะเต็มตัวกระโดดลงมาจากแกะอย่างรวดเร็ว
อัศวินลาดตะเวนสองคนเดินไปที่แกะและชายคนนั้นก็ยื่นกระบอกไม้ให้พวกเขา พวกเขารีบส่งให้แองเจเล่
"นายท่าน มีจดหมายมาจากตระกูลโจเนสที่ถูกส่งโดยไปรษณีย์"
"ขอบคุณ" แองเจเล่คว้ากระบอกไม้และปลดผนึก ภายในมันมีม้วนหนังสีเหลืองอ่อน
เขาคลี่ม้วนและอ่านมัน การแสดงออกของเขาเปลี่ยนไป
จดหมายมาจากตระกูลโจเนสแต่ไม่มีชื่ออยู่ มันดูเหมือนว่าผู้ส่งไม่อยากทิ้งร่องรอยใดๆไว้ดังนั้นจึงส่งทางไปรษณีย์
ข้อมูลในจดหมายนี้เรียบง่าย มันระบุสิ่งที่อิซาเบลทำเมื่อเร็วๆนี้
แองเจเล่วางจดหมายและเขารู้ว่าบางอย่างไม่ถูกต้อง เขาพยายามพูดกับอิซาเบลโดยใช้รูนสื่อสารแต่ไม่มีใครตอบ
"เอมี่ เตรียมอินทรีให้ข้า"
"ค่ะนายท่าน"
หลายนาทีต่อมาอินทรีดำก็ออกจากบ้านและบินไปยังตำแหน่งที่เห็นอิซาเบลครั้งสุดท้าย
**********************
แองเจเล่ไม่แน่ใจว่าเขามีพลังพอที่จะช่วยอิซาเบลในครั้งนี้ไหม
เขาพบว่ามันยากที่จะเชื่อว่าอิซาเบลทำสิ่งผิดๆมากมายในหลายวัน
ข้อหนึ่งคือเธอได้ส่งส่วนหนึ่งของทรัพยากรของตระกูลของเธอไปให้ใครบางคนโดยไม่ได้รับอนุญาตและเธอก็ขโมยมรดกสืบทอดที่สำคัญของตระกูลก่อนที่จะลอบออกจากดินแดน ข้อสองเธอเข้าไปในดินแดนของตระกูลเบนนิสและขโมยมรดกสำคัญของตระกูลสองชิ้น รายงานบอกว่าอิซาเบลได้รับบาดเจ็บจากยามของตระกูลเบนนิสก่อนที่เธอจะหลบหนี ตระกูลเบนนิสได้กดดันตระกูลโจเนสอย่างมากหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและแฟลนต้องตั้งค่าหัวของอิซาเบล
แฟลนไม่รู้ว่าหลานสาวของเธอหาวิธีทำลายรูนที่เธอตั้งเพื่อติดตามชีวิตประจำวันของเธอได้อย่างไร เธอเป็นหัวหน้าตระกู,ดังนั้นเธอจึงต้องแจ้งให้สภาทราบว่าอิซาเบลทำอะไร สภาของผู้อาวุโสยังโหวตให้หาทางออกที่ดีที่สุดในตอนนี้
ไม่มีใครคาดว่าอิซาเบลจะกลายเป็นคนร้ายเพราะเธอเป็นเด็กดี
นอกจากนี้จดหมายยังบอกว่าทีมได้รับมอบหมายให้ตามล่าอิซาเบล ทั้งสองตระกูลต้องการจับตัวเธอและถามเธอโดยเร็วที่สุด
หอคอยหกวงแหวนได้ให้ความสำคัญกับเหตุการณ์นี้มากและองค์กรก็ได้กดดันตระกูลโจเนสให้หาคำตอบ
แองเจเล่พยายามมองหาอิซาเบลก่อนที่ทีมจะจับเธอ อย่างไรก็ตามเขาล้มเหลว
*************************
ภายในปราสาทดำที่สร้างในกลุ่มต้นไม้
ในที่สุดแองเจเล่ก็พบอิซาเบลในคุกที่มีการป้องกันอย่างแน่นหนา คุกถูกเรียกว่าดวงตาแห่งป่าทมิฬและมันถูกควบคุมโดยหอคอยหกวงแหวน มีวงเวทป้องกันนับไม่ถ้วนถูกตั้งไว้รอบๆมันและพ่อมดภายในก็ไม่สามารถใช้คาถาใดๆได้เนื่องจากบาเรียพลังงานพิเศษ
ทีมเจ้าหน้าที่พ่อมดฝึกหัดพาแองเจเล่ผ่านทางเดินและมุ่งหน้าไปยังห้องขังใต้ดิน สถานที่นี้สกปรกและมันมีกลิ่นเหมือนเนื้อเน่า
อิซาเบลถูกขังในกรงเดี่ยวที่มีทางเข้าเพียงทางเดียว
มันไม่มีอะไรในห้องมืด อิซาเบลกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้จ้องไปที่เพดานสีดำราวกับว่าเธอได้สูญเสียจิตวิญญาณของเธอแล้ว
แคร๊ง
ประตูโลหะของกรงขังปิดตัวลง
แองเจเล่มองไปรอบๆก่อนที่จะเข้าห้อง
มีเพียงสิ่งเดียวที่เขาเห็นคือเก้าอี้และแม่มด
"เฮ้ กรีน มันเป็นเจ้า" อิซาเบลลุกขึ้นยืน เธอดูหดหู่และเหนื่อยล้า แก้มของเธอบางและรอบดวงตาของเธอมีขอบสีดำ
"ข้าไม่เข้าใจ เจ้าทำแบบนี้ทำไม" แองเจเล่ขมวดคิ้ว
"ตระกูลของข้าไม่ชอบเรย์มอนด์" อิซาเบลฝืนยิ้ม
"เรย์มอนด์ หืม" แองเจเล่ส่ายหัว "มันดูเหมือนว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นระหว่างเจ้าทั้งสองแต่ข้ารู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องนี้ เจ้าจำเป็นต้องรู้ว่าการก้าวไปสู่ขั้นต่อไปควรเป็นสิ่งสำคัญกับเจ้าในตอนนี้และสิ่งที่เจ้าทำมันผิดกฎ ข้าสามารถพูดคุยกับท่านแฟลนและพยายามทำให้เธอเปลี่ยนใจได้แต่ดูทุกสิ่งทุกอย่างที่เจ้าทำ.....เจ้าเพียงแค่มองหาปัญหา"
"ข้ารู้ผลที่ตามมา...." อิซาเบลยังคงสงบ "แต่ข้าเชื่อเขา เขาจะไม่โกหกข้า...!" ทันใดนั้นอิซาเบลก็เริ่มไอหลังจากที่พูดและเธอก็ปิดปากด้วยมือทั้งสองข้างแต่แองเจเล่เห็นเลือดไหลออกมาผ่านช่องว่างระหว่างนิ้วของเธอ