ตอนที่แล้วตอนที่ 15 - การใช้จ่ายที่ไม่เพียงพอ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 17 - เด็กสาวที่แต่งหน้าสโมคกี้อาย 

ตอนที่ 16 - สอนพิเศษ  


ตอนที่ 16 - สอนพิเศษ

 

สือเหล่ยนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ จากนั้นก็ส่ายหัวของเขาในทันที "เป็นไปไม่ได้ ฉันสามารถแม้แต่จะนับจำนวนเงินทั้งหมดที่ฉันได้ใช้ไปในสัปดาห์นี้ได้นอกจากนี้ ฉันยังได้บวกยอดเงินทั้งหมดที่ใช้จ่ายไปแล้ว ฉันไม่ได้ให้ทิปใดๆ และไม่ได้สูญเสียอะไร ไม่ได้ถูกปล้น คุณกำลังโกหกฉัน!"

"ทาสที่โง่เง่า เจ้านายอันทรงเกียรติของเจ้าจะหลอกลวงเจ้าไปทำไม?"

สือเหล่ยถามด้วยความไม่เชื่อ "งั้นพูดมา การใช้จ่ายอันไหนที่ไม่ได้นับเป็นโควต้า?"

คทาหัวเราะอย่างเย็นชา และสบถออกมา "โง่เง่า การบอกเจ้าว่าเจ้ายังเหลืออีก 780 หยวนก็เป็นความกรุณาสำหรับเจ้าแล้ว แต่เจ้ายังจะขอให้ข้าบอกเหตุผลกับเจ้าอีกหรือ? แน่นอนว่า ถ้าเจ้าอยากจะรู้ ในวันพรุ่งนี้เมื่อการลงโทษมาถึง เจ้าก็จะได้รู้เอง"

เมื่อมันพูดจนจบประโยค คทาก็ได้รับความพึงพอใจเป็นอย่างมากที่สุดจากการแสดงออกอย่างกังวลและกระวนกระวายของสือเหล่ย มันหายไปจากหน้าจอและบัตรสีดำได้ถูกดันออกมา

สือเหล่ยหยิบบัตรสีดำและขบคิดอย่างลึกซึ้งว่าการใช้ใช้จ่ายไหนในสัปดาห์ที่มีจำนวน 780 หยวน เขาคิดอะไรไม่ออกและไม่เข้าใจว่ามันผิดพลาดตรงไหน

แต่จากคำพูดของคทา เขาสามารถเข้าใจได้ว่ายังมีโควต้าในสัปดาห์นี้เหลืออยู่ 780 หยวนจริงๆ เขาอาจจะต้องสร้างยอดเงิน 780 หยวนขึ้นมาเอง แต่ภายใต้สถานการณ์ที่ต้องใช้จ่ายเช่นนี้ เงิน 780 หยวนคือสิ่งที่ต้องมาเป็นอันดับแรก

สือเหล่ยหยิบบัตรเอทีเอ็มของตัวเองออกมาและตรวจสอบยอดเงินของมัน บัดซบ มันไม่พอเนื่องจากมันมีเหลืออยู่แค่ประมาณ 600 หยวน

ขณะที่สือเหล่นเดินออกมาจากตู้เอทีเอ็ม เขาค่อนข้างจะเศร้าใจ แต่ข่าวดีก็คือชีวิตของเขายังปลอดภัย จากกฎที่เขารู้ในขณะนี้ เขาไม่ได้ละเมิดต่อกฏข้อใดๆเนื่องจากคทาไม่สามารถลงโทษเขาได้เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุจากคนอื่น

นี่เป็นข่าวดี

ตราบเท่าที่กฎยังมีอยู่ มันไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อเขาเท่านั้น แต่มันยังวางข้อจำกัดให้กับคทาอีกด้วย ดังนั้นแน่นอนว่าสือเหล่ยจะไม่ตายโดยไร้เหตุผล

แต่สือเหล่ยยังเหลือเงินอีก 780 หยวนในโควต้าสัปดาห์นี้ ซึ่งทรัพย์สินทั้งหมดของเขามีเพียงประมาณ 600 หยวนเท่านั้น.......

'จางโม่ แม้ว่านายจะไม่ต้องชดใช้แล็ปท็อปของฉัน แต่นายคงจะเต็มที่จะรับผิดชอบเงิน 100 หยวนที่เหลือนี้........'

เมื่อเก็บบัตรลงกระเป๋า สือเหล่ยก็กลับไปที่หอพักของเขาอย่างรวดเร็ว

จางโม่ได้กลับมาแล้ว โต๊ะเต็มไปด้วยสิ่งที่เขาไม่สามารถซื้อได้ เช่นบาร์บีคิวซึ่งเป็นเนื้อสัตว์ทั้งหมด รวมทั้งชามกุ้งประมาณ 1 กิโลกรัม และเบียร์อีกสองกล่องที่อยู่ด้านข้าง สือเหล่ยได้อยู่ร่วมห้องกับเขามาเป็นเวลาสามปี นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นจางโม่ใช้เงินจำนวนเท่านี้

"ในที่สุดนายก็กลับมา ...... " เมื่อเห็นสือเหล่ยปรากฏตัวที่ประตู จางโม่ก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ "ฉันไปเช็คแค่ที่ห้องน้ำและนายก็ไม่อยู่ ฉันกลัวแทนตาย ฉันคิดว่านายจะไม่สามารถทำใจได้......."

สือเหล่ยหยิบรองเท้าของเขาออกมาและปามันใส่หัวของจางโม่ "ไร้สาระ! อย่าคิดมากนัก!  ฉันเพียงแค่ไปอึ และฉันคิดว่านายจะใช้เวลาสักพักเพื่อไปซื้อบาร์บีคิว ดังนั้นฉันจึงออกไปเดินเล่น ฉันนั่งเล่นเกมอยู่ที่นี่ตลอดทั้งคืน คอของฉันเกือบหักแหนะ ฉันเลยต้องไปออกกำลังกายสักหน่อย"

จางโม่โดนปาโดยรองเท้าแต่ไม่โกรธแม้แต่น้อย เขาพึมพัม "ก้อนหิน แล็ปท็อป...... ฉันจะคุบกับครอบครัวของฉันในวันพรุ่งนี้และขอให้พวกเขา........"

"พูดกับตูดฉันหน่ะสิ! ฉันบอกนายแล้วว่าฉันเป็นลูกเศรษฐี เงินแค่นี้จะเป็นอะไรไป! ฉันจะโกรธจริงๆถ้านายยังพูดถึงแล็ปท็อปอีก!" ขณะที่จางโม่ยังเหวออยู่ สือเหล่ยก็พูดขึ้นมาอีกประโยคอย่างรวดเร็ว "ในความเป็นจริง ฉันต้องขอบคุณนาย"

จางโม่ตกใจเป็นอย่างยิ่ง 'ขอบคุณฉัน?'

เขามองไปที่สือเหล่ย "ก้อนหิน นายบ้าไปแล้วเพราะแล็ปท็อปของนายงั้นหรือ?"

“นี่มันอะไรกันเนี้ย! อย่าพูดมาก เปิดเบียร์มาให้ฉัน พูดก็พูดเถอะ พวกเราเป็นเพื่อนกันมาสามปีแล้ว และฉันไม่เคยเห็นนายใจกว้างเท่านี้มาก่อน ฉันต้องใช้เงินของนายให้คุ้มซะแล้ว!”

"ฉันไม่จำเป็นต้องชดใช้มันจริงๆหรือ?" จางโม่นั่งลงตรงข้ามกับสือเหล่ย เขาถามด้วยความไม่เชื่อในขณะที่สือเหล่ยกำลังกระดกเบียร์และสวาปามบาร์บีคิว

"ทำไมนายพูดถึงแต่มันกัน? มันแค่ 20,000 หยวนเท่านั้น ฉันจะซื้อมันใหม่ก็ได้ อันที่จริงรออีกสักสองสัปดาห์ ฉันจะซื้อตัวราคา 80,000 หยวนมาโชว์ให้นายดู!"

จางโม่หมดสิ้นคำพูด มันยังคงค่อนข้างยากสำหรับเข้าที่จะเชื่อว่าสือเหล่ยเป็นลูกเศรษฐีจริงๆ พวกเขาเป็นเพื่อนกันมาสามปีแล้ว และอยู่ห้องร่วมกัน ทุกๆคนรู้สถานการณ์ทางการเงินของครอบครัวสือเหล่ยอยู่ไม่มากก็น้อย มันไม่สมเหตุสมผลมากจริงๆที่สือเหล่ยอยู่ดีๆก็กลายเป็นลูกเศรษฐี

“แต่เมื่อพูดถึงมันอย่างจริงจัง ฉันจะซื้อบางอย่างในวันพรุ่งนี้ แต่ฉันเพิ่งรู้ว่ายังขาดเงินอยู่อีก 200 หยวน พ่อแม่ของฉันกำลังเดินทางอยู่ในตอนนี้ ฉันไม่สามารถติดต่อกับพวกเขาได้ และพวกเขาไม่สามารถโอนเงินให้กับฉันได้ ดังนั้นฉันต้องรอไปจนถึงสัปดาห์หน้าที่พวกเขาจะกลับมา เอาเงินมาให้ฉันยืมสัก 200 หยวนก่อน” สือเหล่ยชนแก้วกับจางโม่และกระดกเบียร์ลงไป และตามด้วยกุ้ง

นับตั้งแต่ที่เขาได้รับบัตรสีดำบัดซบนั่น สือเหล่ยพบว่าเขามาอยู่ในจุดที่สามารถโกหกได้แล้วและความสามารถในการหลอกลวงผู้คนก็ค่อยๆดีขึ้นทุกวัน

จางโม่ตกตะลึง ในที่สุดเขาก็เชื่อว่าตัวจริงของสือเหล่ยเป็นลูกเศรษฐีที่ร่ำรวย แต่ตอนนี้สือเหล่ยกลับต้องการยืมเงิน และเพียงแค่ 200 หยวนเท่านั้น ซึ่งมันทำให้เขาสงสัยสือเหล่ยขึ้นมาอีกครั้ง

"ฉันถังแตกจริงๆ ฉันบอกพ่อแม่ของฉันเมื่อวานนี้ว่าฉันจะไม่กลับบ้านในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ดังนั้นพวกเขาจึงโอนเงินใช้จ่ายของสัปดาห์นี้มาให้ฉัน ...... แต่ฉันทำแล็ปท็อปของนายพังและฉันก็รู้สึกเสียใจ ดังนั้นฉันจึงซื้ออาหารพวกนี้มาเป็นจำนวนมาก และฉันได้ใช้เงินทั้งหมดของตัวเองไปแล้ว อย่างที่นายรู้ ฉันได้เงินเพียงแค่ประมาณ 300 ถึง 400 หยวนต่อสัปดาห์เท่านั้น ในตอนนี้ฉันมีเพียงไม่กี่เหรียญที่เหลืออยู่ ยังดีที่ฉันมีเงินประมาณ 100 หยวนเหลืออยู่ในบัตรโรงอาหารของฉัน ฉันพร้อมที่จะใช้ชีวิตในสัปดาห์นี้ด้วยการกินให้น้อยลงแล้ว ...... "

สือเหล่ยฟังมันและไม่ได้จริงจังอะไรกับมันมาก เขาขาดอีกแค่ประมาณ 100 หยวนเท่านั้นเขาอาจจะถามเพื่อนร่วมห้องคนอื่นๆในวันพรุ่งนี้และมันก็ไม่น่ายากเกินไป

จางโม่มีความคิดขึ้นมาจึงพูดขึ้น "ถ้านายต้องการเงินจริงๆ ฉันมีไอเดีย ฉันต้องสอนพิเศษในวันพรุ่งนี้ และเพิ่งจะยอมรับข้อเสนอนี้เมื่อไม่นาน ฉันยังไม่ได้บอกชื่อของฉันเลย ฉันเพิ่งถูกเรียกและวางแผนที่จะพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ในวันพรุ่งนี้ ครูสอนพิเศษจะได้รับเงินหลังจากจบการสอน นายสามารถไปทำได้วันพรุ่งนี้ ราคาที่เราตกลงกันไว้คือ 60 หยวนต่อชั่วโมง และจะสอนครั้งละสองชั่วโมง มันเป็นเพียงเงินเล็กน้อย แต่ก็ทำให้ฉันมีรายได้บ้าง มันน่าจะพอถ้าฉันมอบมันให้กับนาย"

สือเหล่ยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และคิดว่ามันเป็นความคิดที่ไม่เลวนัก จากนั้นเขาจึงพูดขึ้นมา "ทำไมนายถึงเริ่มสอนพิเศษในวันพรุ่งนี้?"

"ฉันต้องการหารายได้มาบ้าง นายรู้ไหม? ลุงคนที่สองของฉันกำลังจัดงานให้ฉันและมันไม่ใช่ปัญหาใหญ่นัก ฉันกำลังจะเรียนจบ ฉันต้องการหารายได้บางส่วนเพื่อซื้อเสื้อผ้าที่ดีกว่าเพราะฉันไม่ต้องการขอเงินครอบครัวของฉันเพื่อซื้อมัน "

"แล้วนายให้งานของนายกับฉัน ...... "

"เฮ้ มันไม่เป็นไร นายไม่ได้ให้ฉันแม้แต่จะรับผิดชอบกับแล็ปท็อปราคาแพงเช่นนี้ แม้ว่าฉันจะรับผิดชอบครึ่งหนึ่ง แต่มันก็ยังเป็นเงินถึง 10,000 หยวน เราเป็นเพื่อนใช่ไหม?"

สือเหล่ยพยักหน้าและตกลง หลังจากจัดการเบียร์ของพวกเขาเสร็จ เขาก็แซวกันด้วยเสียงหัวเราะ "ถึงแม้ว่านายจะไปได้พรุ่งนี้ แต่พวกเขาอาจจะไม่ต้องการนายก็ได้ ดูร่างกายที่เต็มไปด้วยไขมันของนายสิ มันไม่ได้ดูเหมือนคนดีๆอย่างฉันเลย"

"เชี่ย! เขาเรียกว่ารูปร่างคนรวยเว้ย!"

ทั้งสองหยอกล้อกันและโยนความจริงที่ว่าแล็ปท็อปพังทิ้งไปด้านหลัง

หลังจากตื่นขึ้นมาในตอนเช้า สือเหล่ยได้ติดต่อกับครอบครัวที่เรียกจางโม่ และยืนยันว่าเขาจะไปที่บ้านของเธอในเวลา 13:30 น. เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ถ้าทุกสิ่งทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่น พวกเขาจะเริ่มการเรียนการสอนในทันที

สือเหล่ยคำนวณเวลา ถ้ามันไม่ราบรื่นเขาจะกลับมาที่มหาวิทยาลัยประมาณ 2 ทุ่มและหายืมเงิน 100 หยวน ซึ่งมันไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไร

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด