ตอนที่แล้วตอนที่ 13 - การวางมาดที่ล้มเหลว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 15 - การใช้จ่ายที่ไม่เพียงพอ

ตอนที่ 14 - แล็ปท็อปพัง


ตอนที่ 14 - แล็ปท็อปพัง

 

หลังจากใช้เงินไปมากกว่า 30,000 หยวนในตอนเช้า สือเหล่ยก็ไม่ได้กังวลเกี่ยวกับโควต้าในสัปดาห์นี้มากนัก

แต่ถ้าสัปดาห์หน้ามันเป็นเงิน 80,000 จริงๆ เขาจะใช้จ่ายมันอย่างไร?

เมื่อนั่งอยู่ในรถเบนซ์ สือเหล่ยเริ่มกังวลเกี่ยวกับการใช้จ่ายในสัปดาห์หน้า

แล็ปท็อปไม่มีอะไรติดตั้งอยู่ยกเว้นระบบปฏิบัติการขั้นพื้นฐาน เกมออนไลน์ขนาดใหญ่จะใช้พื้นที่ประมาณ 5 หรือ 6 GB รวมทั้งแพทช์และสกิน มันจะใช้เนื้อที่ประมาณ 10 GB

ฮาร์ดดิสในรุ่นนี้มีความจุที่ 1 TB และมันเป็นไปไม่ได้ที่สือเหล่ยจะดาวน์โหลดเกมเพียงแค่หนึ่งเกม อินเทอร์เน็ตหอพักของเขามีความเร็วที่ 4 Mbps ซึ่งมีความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุดประมาณ 400KB / S สือเหล่ยเริ่มต้นดาวน์โหลดเกมสองสามเกมและในเวลาสองวันมันก็ยังดาวน์โหลดไม่เสร็จ

สือเหล่ยไม่ได้ใส่ใจอะไรอีก เขาดันแล็ปท็อปไปทางด้านในของเตียงพร้อมกับการดาวน์โหลดที่เปิดอยู่ และมองไปที่ 'ไก่ที่ถูกถอนขน' ของเขา เขารู้สึกเหมือนชีวิตของเขาอยู่ในความหวาดกลัว เขาตัดสินใจที่จะเลี้ยงอาหารดีๆให้กับตัวเอง

ฉันต้องการกินอาหารทะเล ฉันต้องการกินกุ้งล็อบสเตอร์ ฉันต้องการกิน...... ดี! กุ้งล็อบสเตอร์หนึ่งโลครึ่ง แม้ว่าเปลือกจะถูกแกะออกไป แต่มันก็ยังจะมีเนื้อเหลืออยู่ประมาณครึ่งกิโล หลังจากการกินสิ่งนั้น เขาจะไม่อยากกินอะไรอีก

สือเหล่ยรู้สึกเบื่อหน่ายต่อคทาเป็นอย่างยิ่ง ทำไมมันถึงไม่ปล่อยให้ฉันแกล้งทำเป็นเท่ห์บ้าง? ฉันจะสั่งอาหารมาเต็มโต๊ะและเทมันทิ้งถ้าฉันกินไม่หมด! มันจะรู้สึกดีแค่ไหนถ้าเขาสามารถเดินเข้าไปในร้านอาหารและสั่งเมนูอาหารทั้งหมดของร้านได้? แต่เห็นได้ชัดว่าไม่มีทางที่คทาจะยอมให้เขาทำเช่นนั้นได้

เขาค้นหาร้านอาหารทะเลที่อยู่ใกล้ๆอย่างซังกะตาย เขาสั่งกุ้งกุ้งออสเตรเลี่ยนล็อบสเตอร์มา 1.5 กิโลกรัม ปูสีฟ้าผัดมาอีกสองตัว เขาคำนวณราคาอย่างเงียบๆ เมื่อตระหนักได้ว่ามันเกือบจะเป็นเงิน 2,000 หยวน เขาถอนหายใจออกมาราวกับว่าเส้นทางการใช้เงินทั้งหมดของเขายังอีกยาวไกล

เมื่อมีประสบการณ์จากสองสัปดาห์ที่ผ่านมา สือเหล่ยไม่ได้เป็นมือใหม่อีกต่อไป อย่างน้อยมาตรฐานอาหารของเขาได้เพิ่มขึ้นจากกุ้งแม้น้ำที่หน้ามหาวิทยาลับมาเป็นกิ้งล็อบเตอร์ในร้านอาหารทะเล

แต่เขาไม่สามารถเพียงแค่กินอย่างนี้ได้ ประการแรก อัตราการใช้จ่ายมันไม่สูง แม้ว่าเขาจะกินมากแค่ไหนมันก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าโควต้ารายสัปดาห์เป็น 20,000 ถึง 40,000 หยวนก็ไม่เป็นอะไร แต่เขาจะกินอะไรถ้าโควต้ารายสัปดาห์เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 80,000 หรือ 100,000 หยวนในเวลาไม่กี่สัปดาห์? กินกุ้งออสเตรเลี่ยนล็อบสเตอร์ทุกๆมื้องั้นหรือ? แม้ว่ามันจะอร่อย แต่เขาก็จะเบื่อถ้าเขากินมากเกินไป

ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า มันอาจกล่าวได้ว่าสือเหล่ยจะกินกุ้งล็อบสเตอร์ในแบบใหม่ๆ

ตอนแรก มันเป็นกุ้งล็อบสเตอร์นึ่งกับกระเทียมสับตามปกติ ตามด้วยซาซิมิ แล้วพริกไทยกับเกลือ หลังจากนั้นมันก็กลายเป็นเรื่องไร้สาระเล็กน้อย เขาขอให้ร้านอาหารต้มกุ้งล็อบสเตอร์ในน้ำมันพริกตามสไตล์อาหารเสฉวน ในขณะที่เขากินกุ้งล็อบสเตอร์อย่างต่อเนื่องเป็นเวลาสองสามวัน ร้านอาหารก็น้อมรับความต้องการของเขา แต่ก็พูดอย่างเลี่ยงไม่ได้ว่าเขาสิ้นเปลืองมันไปอย่างสิ้นเชิง

ไม่เพียงเท่านั้น สือเหล่ยยังได้คิดค้นวิธีการใหม่ๆขึ้นอีกเมื่อเขาไปไกลถึงขณะที่ว่าขอให้ร้านอาหารสับกุ้งล็อบสเตอร์เพื่อที่จะปั้นมัน และทำเป็นเกี๊ยว

ในเย็นวันศุกร์ เขาขอให้ร้านอาหารหั่นกุ้งล็อบสเตอร์และดองมันกับผักพนักงานเสิร์ฟในร้านอาหารต่างพากันมองด้วยความตกตะลึง

หลังจากมื้อนี้ ในที่สุดสือเหล่ยก็ได้ใช้เงินโควต้า 40,000 หยวนในสัปดาห์นี้เสร็จสิ้นแล้ว เขาตบหน้าท้องของเขาความพึงพอใจ และคิดว่าเขาไม่สามารถกินเช่นนี้ได้ในสัปดาห์หน้า

ถ้าเขาจะกินอะไรแบบนี้ เค้าจะลองกินข้าวผัดกุ้งล็อบสเตอร์ดู สือเหล่ยกลับหอพักตัวเองด้วยความพึงพอใจ ทันทีที่เขาก้าวเข้ามาข้างใน เขาก็ได้ยินเสียงกรีดร้องและตะโกนของจางโม่

"นายตะโกนบ้าอะไร? พูดดีๆถ้านายมีอะไรจะพูด นอกจากนี้นายควรจะกลับบ้านในสัปดาห์นี้ไม่ใช่หรือ? " สือเหล่ยหยุดการตะโกนของจางโม่ และตำหนิเขาอย่างไม่พอใจ

ฉับพลัน สือเหล่ยก็เข้าใจเหตุผลเบื้องหลังการตะโกนของจางโม่ได้เมื่อเขามองเข้าไปด้านใน เขาเกือบจะลืมไปว่าเขาซื้อคอมพิวเตอร์เอเลี่ยนแวร์มูลค่า 20,000 หยวนมา และเขาเก็บมันไว้บนชั้นวางหนังสือขนาดเล็กที่ด้านในของเตียงเพื่อดาวน์โหลดเกม

เขาไม่ทราบว่าจางโม่พบมันได้อย่างไร รวมทั้งกำลังควบคุมจอยเกมและสนุกไปกับมัน ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้กลับบ้านเพราะเหตุนี้

"ก้อนหิน นายปล้นธนาคารมาเมื่อเร็วๆนี้หรือ? โอ้ เวร นายไม่ได้ขายความบริสุทธิ์ของนายไปใช่ไหม? นายทิ้งมันไว้ตั้งแต่หัววันและเพิ่งกลับมาในเวลานี้......"

"เชี่ย!" สือเหล่ยไม่ค่อยสนใจที่จะพูดคุยกับจางโม่ ซึ่งเป็นคนที่เยิ่นเย้อและพูดมากเหมือนกับรถไฟ

"มาอธิบายให้ฉันฟังว่าเอเลี่ยนแวร์นี่มันคืออะไร? ฉันตรวจสอบคุณสมบัติและองค์ประกอบ มันราคาประมาณ 20,000 หยวนใช่ไหม? จอยเกมนี่ก็เป็นของแท้เช่นกัน ทั้งสองรวมกันจะต้องมีราคาอย่างน้อย 25,000 หยวนใช่ไหม?"

"ฉัน เพื่อนของนาย เป็นลูกเศรษฐี!" สือเหล่ยนั่งอยู่บนเตียงอย่างมั่นใจ และขยับแล็ปท็อปห่างออกมาจากจางโม่

จางโม่ตื่นตระหนกและเอื้อมมือออกไปด้วยความปรารถนาที่จะยึดมันกลับมา "ฉันเล่นอยู่ ก้อนหินอย่างกไปหน่อยน่า ปล่อยให้ฉันเล่นหน่อย" ในเมื่อสือเหล่ยไม่ยอมให้เขาใช้แล็ปท็อป เขาก็สุภาพมากยิ่งขึ้นและนั่งลงถัดจากสือเหล่ย ก่อนจะถามขึ้นอีกครั้ง "อย่าบอกฉันนะว่าบ้านของนายได้ถูกรื้อถอนและได้เงินมาหลายล้านจากมัน? เดี๋ยว ไม่สิ บ้านของนายอยู่ในเมืองเล็กๆ แม้ว่าจะถูกรื้อถอนไป เว้นเสียแต่ว่านายจะมีเป็นสนาม แต่ก็ไม่มีทางที่นายจะได้เงินมาเป็นสิบล้านจากมัน"

"ทำไมนายถึงสนใจมันมาก? ทำไมนายถึงไม่เชื่อว่าฉันเป็นลูกเศรษฐี? ดูเหมือนว่าฉันจะเจียมเนื้อเจียมตัวมากเกินไปในช่วงสามปีที่ผ่านมานะ!" จางโม่กรอกตาของเขา ไม่โต้เถียงกับสือเหล่ย และกล่าวว่า "ให้ฉันเล่นมันหน่อยสิ ฉันไม่ได้จะทำลายมันนะ!"

สือเหล่ยมีความคิดที่ว่ายังไม่ได้ใช้สิ่งนี้ หลังจากที่เขาซื้อแล็ปท็อปมา เขายังไม่ได้ใช้มันยกเว้นแต่การดาวน์โหลดเกม ถ้าคทาระบุว่าเขาเพียงแค่ซื้อมันมาเป็นเครื่องประดับ และเงิน 20,000 หยวนที่ถูกใช้ไปไม่ได้ถูกนับรวมในโควต้ารายสัปดาห์ มันก็ไม่มีทางที่สือเหล่ยจะรอดชีวิตไปได้

เขาเหลือบไปที่เกมและมันได้ดาวน์โหลดเสร็จแล้ว จางโม่ได้ติดตั้งมันทั้งหมด

สือเหล่ยพูด "นายไม่สามารถเล่นมันได้คนเดียว ฉันยังไม่ได้แม้แต่จะเล่นมันหลังจากซื้อมา ฉันเพิ่งจะดาวน์โหลดมันมาเท่านั้นเอง "

"เวรเอ้ย ไม่แปลกใจที่อินเทอร์เน็ตช้ามากในช่วง 2 วันที่ผ่านมา เพราะนายดาวน์โหลดเกมเหล่านี้นี่เอง ถ้าอย่างงั้น นายต้องปล่อยให้ฉันเล่นมันสามวัน!"

"เล่นด้วยกัน!" สือเหล่ยตอบกลับ

จางโม่เมื่อคิดว่านี่เป็นแล็ปท็อปของสือเหล่ย เขาก็พูดได้แค่ "ได้ ฉันก็ติดตั้งพวกมันเหมือนกัน งั้นมาเล่นเกมกันเถอะ"

เขาเสียบจอยเกมอีกอัน และกดเข้าเกมฟุตบอลทันทีสือเหล่ยเลือกทีมบาร์ซ่า ในขณะที่จางโม่เลือกเรอัลมาดริด และต่อสู้กันอย่างดุเดือด พวกเขาเล่นจนถึงตีสองครึ่ง และวางจอยเกมลงในขณะที่จางโม่ได้กล่าว "ตามที่คิดไว้เกี่ยวกับเอเลี่ยนแวร์ มันน่าพอใจมากๆ จอยเกมก็เยี่ยมเช่นกัน ฉันขอให้พ่อแม่ของฉันซื้อมันให้หนึ่งเครื่องเมื่อเรียนจบ" ขณะที่เขาพูด ท้องของเขาก็ร้องออกมา จางโม่จึงพูดขึ้นอีก "ฉันหิวจากการเล่น ไปหาบาร์บีคิวกินกันเถอะ! ก้อนหิน นายต้องเลี้ยงฉัน!"

"ทำไมฉันถึงต้องเลี้ยงนาย?" สือเหล่ยกรอกตาของเขาเมื่อคิดว่าเขาได้ใช้โควต้าในสัปดาห์นี้ไปหมดแล้ว และเขาจะมีเงินไปเลี้ยงอีกได้ยังไง?

"นายซื้อรองเท้าไนกี้และไอโฟน แล้วตอนนี้ก็เอเลี่ยนแวร์ ทำไมนายถึงไม่เต็มใจที่จะเลี้ยงบาร์บีคิวฉันล่ะ?"

"มันเหนื่อยแล้ว ฉันอยากจะนอน ไว้ค่อยคุยกันพรุ่งนี้!" สือเหล่ยโบกมือของเขาและเริ่มเก็บแล็ปท็อป

จางโม่ส่ายหน้าขณะที่ยืนขึ้น และโบกมืออย่างห้าวหาญ "ไม่เป็นไร ฉันไม่ใส่ใจกับคำพูดของคนที่มีเงินแต่ไม่เต็มใจ ฉันจะเลี้ยงนาย นายได้ยินไหม? " แต่ขณะที่เขาโบกมือของเขา เขาก็ฟาดเข้ากับแก้วบนโต๊ะ

มันเป็นแก้วขนาดใหญ่ 1 ลิตรซึ่งยังคงเต็มอยู่ครึ่งหนึ่ง และมันก็หกลงบนแล็ปท็อป

แล็ปท็อปก็ทำได้ดีมากเช่นกัน ในวินาทีถัดมา ควันสองสายลอยออกมาจากมัน ด้วยเสียง 'ป๊อป' หน้าจอก็เปลี่ยนเป็นสีดำ ......

ในทันใดนั้นเอง สือเหล่ยและจางโม่ได้ตื่นตระหนกขึ้นมา.........

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด