ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE2 ศิษย์คนใหม่ของปีศาจเฒ่า

GE1 ความฝันแรก สร้อยหยกหยินหยาง


Chapter 1 ความฝันแรก สร้อยหยกหยินหยาง

 

1 ล้านปีที่แล้ว มีอสูรตนนึ่งตกลงสู่ห้วงนิทราในความว่างเปล่าแรกเริ่ม เหินห่างจากแสงแห่งสวรรค์ มีดาราจักรนับหมื่นคอยโคจรอยู่รอบๆ เขาสวมใส่ชุดคลุมสีม่วงทั้งยังเป็นการดำรงอยู่ในจุดสูงสุด ลมหายใจของเขาทำให้ดาราจักรนับไม่ถ้วนถูกทำลายและเกิดใหม่เป็นจักรวาลมากมายนับไม่ถ้วนเช่นเดียวกัน

 

บนร่างกายของเขามีทวีป ภูเขา เมืองโบราณ และแดนสวรรค์นับล้าน มนุษย์อันเล็กจ้อยราวกับมดมากมายนับไม่ถ้วนกำลังนั่งคุกเข่าลงบนพื้น เคาะระฆังทอง และสวดอธิฐานต่อความว่างเปล่า

 

“ได้โปรดตื่นเถิดท่านจักรพรรดิแห่งนิรันดร์ ได้โปรดสอนสั่ง ‘เต๋า’ ให้แก่ ‘โลกอันศักดิ์สิทธิ์’ ในแดนสวรรค์อันยิ่งใหญ่ด้วยเถิด...”

 

“เดี๋ยวสิ.. ให้ข้างีบอีกนิดนึง ข้ากำลังฝันถึงเรื่องราวอันน่าสนใจของเจ้าหนูหนิงฝานอยู่ อา…..”

 

 

มิติและเวลาต่างเคลื่อนคล้อยกระทั่ง 1 ล้านปีได้ผ่านพ้นไป

 

ณ สี่แดนสวรรค์และโลกทั้ง 9 โลกพิรุณนิรันดร์ เมืองเยว่ ภูเขาหลีเมิ่ง นิกายเหอฮวน..

 

ภายในประตูของนิกายเหอฮวนมีเพียงผู้บ่มเพาะที่เป็นอิสสตรี วิธีการบ่มเพาะของพวกนางนับว่าชั่วร้ายและน่าอายเป็นอย่างมาก

 

นอกห้องผสานกาย.. มีสตรีวัยแรกรุ่นเปลือยกายมากมายเดินออกมาจากห้อง อากรับกริยาของพวกนางช่างแปลกนัก พวกนางเดินเอาขาแนบชิดติดกันราวกับรักษาพรหมจรรย์ แต่สิ่งที่น่าสังเกตุที่สุดคือที่ขาของพวกนางแต่ละคนกลับมีของเหลวกำลังไหลหยดลงมาบนพื้น

 

บนขาเรียวงามราวกับหยกของพวกนางมีคราบโลหิตเปรอะอยู่ โลหิตเหล่านั้นคือสัญลักษณ์แห่งพรหมจรรย์ของพวกนางและนั่น...คือสิ่งที่พวกนางเป็นผู้พรากมันไปด้วยตนเอง

 

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พวกเราจะเข้าร่วมนิกายปีศาจอย่างเป็นทางการ….”

 

ใบหน้าอันงดงามของพวกนางย้อมไปด้วยสีแดงระเรื่อราวกับพวกนางยังคงใฝ่ตัณหา แม้พวกนางจะสูญเสียพรหมจรรย์แต่พวกนางกลับไร้ซึ่งความเศร้าทั้งเปี่ยมไปด้วยความยินดี

 

เมื่อออกจากห้องผสานกาย พวกนางมุ่งหน้าไปยังบริเวณที่พัก ภายในห้องผสานกายยังคงมีเสียงกระเส่าของเหล่าสตรีดังมาเป็นสายราวกับคลื่นน้ำ

 

ภายในห้องแห่งนั้น พวกนางเคารพบูชาพระพุทธรูปสีดำ

 

ตะเกียงทองแดงยังเปล่งแสงอันนิ่งสงบและเต็มไปด้วยน้ำมัน สตรีแรกรุ่นมากมายต่างกำลังเย้าหยอกเด็กหนุ่มผู้หนึ่งที่ใจกลางของห้องเบื้องล่างขวาของพระพุทธรูป

 

สตรีนางนึงมัดผมทรงซาลาเปาสองลูกบนหัวได้เอนกายพลางประทับหน้าอกอันงดงามของนางลงบนริมฝีปากของเด็กหนุ่ม ใบหน้าของนางแดงระเรื่อ ดวงตาของนางพร่ามัวด้วยความปิติ

 

สตรีอีกนางนึงปล่อยผมยาวสลวยได้นั่งในท่าดอกบัวของพระโพธิสัตว์ค่อมอยู่บนลำตัวท่อนล่างของเด็กหนุ่ม

และสตรีอีกนางเปลือยยอดปทุมและเริ่มใช้ริมฝีปากของนางซุกไซ้ไล่จากลำคอขึ้นไปยังคางและ...ของเด็กหนุ่มราวกับงู

 

แม้สตรีเหล่านี้ไม่ได้มีหน้าตาอัปลักษณ์และพวกนางก็กำลังปรนิบัติเด็กหนุ่มอยู่ก็ตาม แต่เด็กหนุ่มกลับไร้ซึ่งความสุข

ดวงตาทั้งสองข้างของเด็กหนุ่มหลี่ลงราวกับอ่อนเพลียปนเศร้าโศก

 

เขาคือกระถางที่ถูกตระกูลของตนทรยศและขายให้กับนิกายเหอฮวนเพื่อเป็นทาสกามให้กับเหล่าสตรีผู้ชั่วร้าย

ร่างกายท่อนล่างของเขาด้านชาไร้ความรู้สึก เพียงแค่หนึ่งวัน เขากลับถูกขืนใจด้วยสตรีราว 100 คนทั้งเหล่าสตรีกว่าครึ่งยังเป็นสตรีพรหมจรรย์

 

“นี่คือกระต่ายน้อยของพี่สาวผู้นี้ อร่อยใช่มั้ยหล่ะ…?”

 

สตรีทรงผมซาลาเปานาบหน้าอกเล็กๆของนางลงไปที่ปากของเด็กหนุ่มพลางกล่าวถามอย่างเย็นชา

 

“ห่วยแตก น่าสะอิดสะเอียน พวกเจ้าทุกคนฆ่าข้าซะ!”

 

เด็กหนุ่มผู้ปากแข็งกล่าวตอบ

 

“ฮึ่ม! เจ้ายังกล้าพูดเช่นนี้ เจ้าก็เป็นแค่กระถาง เป็นแค่เครื่องมือชิ้นนึง มามะ...มาให้พี่สาวของเจ้าขโมยแก่นหยางเพื่อหล่อเลี้ยงหยินของพวกข้าซะดีๆ!”

 

เจตนาสังหารอันชวนขนหัวลุกปรากฏในดวงตาของสตรีทรงผมซาลาเปา นางเปลี่ยนกลายเป็นคนไร้ซึ่งความอ่อนโยนของอิสสตรี นางตบปากของเด็กหนุ่มจนทำให้ทำให้ริมฝีปากของเขาเปรอะไปด้วยโลหิต

 

หลังจากนั้น นางก็กลับมาเป็นสตรีที่งดงามและอ่อยช้อยอีกครั้ง นางเชยคางของเด็กหนุ่มขึ้นพลางกล่าวถามด้วยความกังวล

 

“ยอดดวงใจของข้า เจ้าเจ็บหรือเปล่า?”

 

“หากเจ้าไม่ฆ่าข้า วันนึง...ข้าจะล้างบางนิกายเหอฮวนของพวกเจ้าให้สิ้นซาก!”

 

เด็กหนุ่งไร้ซึ่งการบ่มเพาะ แต่ดวงตาของเขากลับเปี่ยมไปด้วยความเกลียดชังราวกับบรรลุไปยังสรวงสวรรค์

 

“ฮ่าฮ่า แม้เจ้ายังเด็กแต่คำกล่าวของเจ้ากลับยิ่งใหญ่ ก็ได้...พี่สาวผู้นี้จะรอดูว่าเจ้าจะทำลายนิกายเหอฮวนของพวกข้าได้ยังไง แต่ว่านะ...ฮ่าฮ่า ไม่มีกระถางคนไหนที่ทนกับความรักอันเร่าร้อนของพวกข้าได้เกิน 3 วันหรอก พอผ่าน 3 วันไป พลังหยางของเจ้าถูกรีดออกไปจนหมด... แต่ด้วยที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดนี้ ดูเหมือนว่าเจ้าคงไม่อาจข้ามผ่านคืนนี้ไปได้เจ้าจะตายด้วยความอ่อนเพลีย ฮ่าฮ่า มาสิ มาจูบริมฝีปากของพี่สาวผู้นี้...”

 

สตรีผมซาลาเปาเชยคางเด็กหนุ่มขึ้นพร้อมกับมอบรอยจูบและทำความสะอาดริมฝีปากของเขาจนสะอาด

 

นิกายเหอฮวน คือนิกายที่เหล่าผู้บ่มเพาะสตรีฝึกฝนศาตร์อันชั่วร้ายที่ต้องการแก่นหยางของบุรุษ ทำให้ฝ่ายธรรมะต่างรังเกียจเดียดฉันท์พวกนาง

 

จริงๆแล้วพวกนางไม่ได้ชื่นชอบเด็กหนุ่ม แต่พวกนางจะทรมานเขาไปเรื่อยๆจนตาย

 

จันทราเริ่มปรากฏขึ้นบนท้องฟ้ายามค่ำคืน ในที่สุด  สตรีกลุ่มท้ายก็กลับเข้าไปยังบริเวณที่พักของพวกนาง ภายในห้องผสานกายเหลืออยู่เพียงเด็กหนุ่มและแก่นหยางที่สลายไป

 

แต่เดิมเด็กหนุ่มเป็นผู้ที่มีผิวขาวผ่อง แต่ตอนนี้ ทั่วร่างของเขากลับเต็มไปด้วยรอยจูบของเหล่าสตรีผู้ชั่วร้าย แต่เดิมเด็กหนุ่มเป็นคนผมยาวสลวย แต่บัดนี้กลับเต็มไปด้วยน้ำลายและของเหลวภายในร่างกายของสตรี

 

แก่นหยางภายในร่างกายของเขาสูญสลายหายไปทั้งยังถูกคุกคามจนเกือบถึงชีวิตด้วยสตรีที่ชั่วร้ายเหล่านั้น เพียงแต่ ความเคียดแค้นภายในดวงตาของเขากลับไม่ลดลงแม้แต่น้อย แม้เบื้องนอกจะเต็มไปด้วยเกลียดชัง แต่ภายในกลับมีร่องรอยของความกังวล

 

“ข้าสงสัยจริงๆว่าน้องกู่กำลังทำอะไรอยู่ เป็นไปได้มากว่าเขาอาจจะถูกพวกทรยศขายให้กับนิกายปีศาจไปแล้ว...”

 

นามของเด็กหนุ่มคนคือ ‘หนิงฝาน’ บุตรแห่งข้ารับใช้ของ ‘ไห่หนิง’ แห่งตระกูลหนิง เขาถูกผู้ที่ทรยศตระกูลหนิงขายให้กับนิกายปีศาจแห่งหนึ่ง

 

เขามีน้องชายอยู่คนนึงชื่อ ‘หนิงกู่’ ซึ่งเขาก็ถูกขายออกไปเช่นกัน

 

นี่คือโลกแห่งการบ่มเพาะ โลกที่ปลาใหญ่กินปลาเล็ก โลกที่ผู้ทรงพลังข่มเหงผู้อ่อนแอ แม้แต่สตรี หากการบ่มเพาะของนางแข็งแกร่ง นางย่อมสามารถข่มขื่นบุรุษที่นางชื่นชอบได้!

 

“น่ารังเกียจ น่ารังเกียจ น่ารังเกียจ!”

 

หนิงฝานขบฟัน เขามักจะใจดีกับผู้คนอยู่เสมอแต่เขากลับคิดไม่ถึงว่าตนจะตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้

“ข้าอยากหนีจากนิกายเหอฮวน ข้าอยากเข้าร่วม ‘ประตูนิรันดร์’ เพื่อล้างแค้น!!”

 

เขาดิ้นรนที่จะลุกขึ้น แต่นิ้วของเขากลับไร้ซึ่งเรี่ยวแรง ร่างกายท่อนล่างของเขามึนชาไร้ความรู้สึกจากเหล่าสตรีที่ขึ้นควบอย่างต่อเนื่องจนทำให้เขาไม่สามารถขยับเคลื่อนไหวได้

 

ประตูบานใหญ่ของห้องผสานกายไม่ได้ลงกลอนไว้ สตรีเหล่านั้นก็ไม่ได้ผูกหนิงฝานไว้เช่นกัน พวกนางไม่คิดว่าหนิงฝานจะมีเรี่ยวแรงเหลือให้หลบหนีออกไปจากห้องผสานกายแห่งนี้

 

และพวกนางก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่าหนิงฝานจะรอดพ้นจากคืนนี้ไปได้

 

สิ่งที่ยากที่สุดในโลกใบนี้คือการอดทนกับความรักของเหล่าสตรีผู้งดงาม สตรีผู้ชั่วร้ายกว่า 100 คนข่มขืนหนิงฝานจนทำให้แก่นหยางของเขาเหือดแห้ง และความตายก็อยู่เพียงแค่เอื้อม

 

“นี่ข้ากำลังจะตายจริงๆหรอ? หนิงกู่...เจ้าต้องรอดแล้วแก้แค้นแทนข้าด้วย!”

 

หนิงฝานหลับตาลงอย่างไร้ซึ่งความหวังลมหายใจของเขาอ่อนลง...อ่อนลง

 

ยามค่ำคืนอันเงียบสงัด มีเพียงเสียงจักจั่นดังกังวาลอยู่เบื้องนอก หนิงฝานรู้ว่ามันคือการเกี้ยวพาราสีของเหล่าจักจั่น เมื่อคิดถึงความกระหายใคร่อยากในการผสมพันธุ์ของพวกมัน เขากลับรู้สึกคลื่นไส้เป็นอย่างมาก

 

*แคร้ก* แต่ขณะที่หนิงฝานจะสิ้นลม จู่ๆประตูบานใหญ่ของห้องผสานกายกลับเปิดออก

 

สตรีแรกรุ่นนางนึงในชุดขาวแอบเข้ามาในห้อง นางอายุประมาณ 13 ปีและมาพร้อมกับซาลาเปานึ่งในมือ

 

“เจ้าอายุเท่าไหร่? เจ้ายังอยากมีอะไรกับข้าอยู่หรือหรอ? ฮึ่ม.. ทั้งยังเยาว์แต่กลับไร้ซึ่งการเรียนรู้ พวกเจ้ามันคือสิ่งชั่วร้ายอย่างแท้จริง เร็วสิ..รีบฆ่าข้าสิ!”

 

หนิงฝานหันหน้าจ้องมองสตรีในชุดขาวด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความชิงชัง

 

“พี่ชาย ข้า...ข้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อ ‘ทำเรื่องแบบนั้น’ กับท่าน”

 

เมื่อนางพบว่าหนิงฝานเปลื่อยเปล่าอยู่ ใบหน้าน้อยๆของนางกลับแดงระเรื่อ นางหันหน้าหนีไปทางอื่นก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

 

“ฮึ่ม.. มีแต่คนแบบเจ้าที่กล้า ‘ทำแบบนั้น’ กับข้า! ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า! แค้ก แค้ก แค้ก…..”

 

หนิงฝานหัวเราะอย่างน่าอนาถ แต่ด้วยความที่เขาไร้ซึ่งเรี่ยวแรงอยู่แล้วจึงทำให้เขาเริ่มไอ

 

สตรีนางนั้นรีบตรงเข้ามาหาเขาก่อนจะวางซาลาเปาลงบนพื้น นางวางมือเรียวงามลงบนแผ่นอกของหนิงฝานอย่างอ่อนโยนเพื่อให้ทำเขารู้สึกดีขึ้น

 

“ข้าจะไม่ขอบคุณเจ้า!”

 

หนิงฝานตะเบงเสียงเหยียดหยาม

 

“ขะ...ข้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อทำเรื่องแบบนั้นกับท่านจริงๆนะ พี่ชาย...ข้าก็ถูกป้าผู้ชั่วร้ายของข้าลักพาตัวมาเหมือนกัน พี่ชายของข้าเองก็ถูกพวกมันทำให้กลายเป็นกระถางและตายไปเมื่อ 3 ปีก่อน แต่เพราะพวกเขายังเห็นว่าข้าเด็กอยู่เลยไม่ได้สังหารข้า แต่ถ้าข้าอายุมากกว่านี้อีกหน่อย ข้า...ข้าคงต้องเสียพรหมจรรย์ให้กับกระถางสักใบแล้วต้องเข้าร่วมกับนิกายปีศาจ...”

 

เมื่อนางกล่าวถึงพี่ชายที่เสียชีวิตไป น้ำตาของนางจึงเริ่มไหลรินลงอาบแก้ม ใบหน้าของนางช่างดูไร้เดียงสาต่างจากสตรีชั่วร้ายพวกนั้น นั่นทำให้หนิงฝานรู้สึกเชื่อถือคำกล่าวของนางมากขึ้นเล็กน้อย

 

“พี่ชาย...ท่านต้องรอดนะ ท่านจะตายไม่ได้”

 

นางมองหนิงฝานอย่างเศร้าสร้อย นางรู้สึกว่าหนึงฝางช่างเหมือนกับพี่ชายของนางนัก

 

นิกายปีศาจจะไม่ยอมให้คนที่เป็นกระถางได้กินได้ดื่ม แต่สตรีนางนี้กลับฝืนกฏแอบเอาซาลาเปานึ่งมาให้

 

นางช่างมีเมตตานัก!

 

“ข้าก็ไม่อยากตายเหมือนกัน! ข้าอยากแก้แค้น ข้าอยากช่วยน้องชายของข้า”

 

หนิงฝานยิ้มอย่างขมขื่น

 

“พี่ชาย.. กินซาลาเปานี่ซะ บางทีท่านอาจจะไม่ตายถ้าท่าน… ท่านถูกพวกนางรีดเค้นจนเหือดแห้ง ดังนั้น ท่านต้องเติมพลังให้ตัวท่าน โชคร้ายที่ข้าไม่มี ‘เส้นโลหิตนิรันดร์’ ทำให้ข้าไม่สามารถบ่มเพาะได้ มิเช่นนั้น ข้าย่อมสามารถจับไก่ฟ้ามาทำซุปที่มีประโยชน์ให้ท่าน”

 

“เด็กโง่ เจ้ามีสองมือและสองเท้า เจ้าควรจะหนีไป หนีไปจากนิกายปีศาจ ไปใช้ชีวิตเฉกเช่นมนุษย์ทั่วไปเฉกเช่นสตรีทั่วไป เจ้าไม่ควรอยู่ที่นี่ ที่แห่งนี้สกปรกนัก! แค้ก แค้ก แค้ก...”

 

หนิงฝานรู้ว่าเขาต้องตาย แต่ก่อนเขาจะตาย กลับมีสตรีนางนึงที่ห่วงใยทั้งยังให้ความอบอุ่นแห่งชีวิตแก่เขา

 

เขารู้สึกอิ่มเอมและไม่อยากให้สตรีนางนี้ต้องตายในสถานที่อันเลวร้ายเช่นนี้

 

“พวกนางวางยาพิษข้า มันไม่มียาแก้พิษและข้าไม่อาจหลบหนีไปจากที่นี่ได้ พี่ชาย... ท่านไม่ต้องพูดแล้ว กินซาลาเปาพวกนี้เถอะ เดี๋ยวข้าป้อนท่านเอง”

 

เมื่อใกล้ถึงยามรุ่ง หนิงฝานก็เริ่มหายใจลำบาก เขาไม่สามารถกลืนซาลาเปาได้

 

“เจ้า...หนีไป...”

 

หนิงฝานรู้ว่าความตายกำลังย่างเข้ามา เขาไม่อยากให้สตรีไร้เดียงสานางนี้ได้เห็นสภาพของเขาเมื่อยามที่ความตายมาเยือน

 

“พี่ชาย…”

 

จิตใจของนางเริ่มเจ็บปวด นางรู้ว่าหนิงฝานกำลังจะตาย เหล่าบุรุษผู้เป็นกระถางล้วนมีสภาพเช่นเดียวกับหนิงฝานในตอนนี้ ก่อนที่พวกเขาจะสิ้นลม

 

พี่ชายของนางก็มีสภาพเช่นนี้

 

“เจ้าไปได้แล้ว!”

 

หนิงฝานขบฟันก่อนตะโกนขึ้น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตายและร่างกายของเขาก็เริ่มเย็นลง

 

“พี่ชาย ข้า...ข้าจะไป ข้าพบสร้อยหยกนี่ในภูเขา สวมมันไว้แล้วร่างกายของท่านจะไม่หนาว”

 

สาวน้อยถอดสร้อยหยกที่อยู่ตรงหน้าอกของนางออกก่อนใช้มืออันอบอุ่นวางมันลงไปที่มือของหนิงฝาน

 

นางถอนหายใจเบาๆพลางปาดน้ำตาก่อนจะออกจากห้องผสานกายไป

 

“เจ้า...เจ้าชื่ออะไร?”

 

หนิงฝานเริ่มไร้สติอย่างช้าๆ

 

“ข้า...ข้าชื่อ ‘จื่อเฮ่อ’”

 

สาวน้อยไม่อาจเหลียวหลังกลับมา นางปาดน้ำตาก่อนจะรีบออกไปจากห้องผสานกายอย่างรวดเร็ว

 

“ยังไงพี่ชายก็ต้องตาย แต่วันนึงข้าก็ต้องตายเหมือนกัน พวกเราช่างมีโชคชะตาที่น่ากลัวนัก”

 

ลมหายใจของหนิงฝานเริ่มไม่คงที่ก่อนเขาจะเข้าสู่สภาวะกึ่งเป็นกึ่งตาย เขารู้สึกได้ว่าหัวใจของเขาไม่ได้หนาวเหน็บอีกแล้ว ภายในนั้นมีร่องรอยของความอบอุ่นมาแทนที่

 

ทันใดนั้น เขาพลันเห็นภาพลวงตาภาพหนึ่ง เขายึดกุมสร้อยคอหยกไว้ในมือ มันอบอุ่นเป้นอย่างมาก

 

เขาฝันในช่วงเวลาสั้นๆ ในความฝันนั้น เขาอยู่ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยหมอกควัน ที่เบื้องหน้าของเขามีแผ่นจารึกสูงตระหง่าน มันอยู่ในดวงอาทิตย์ครึ่งขาวครึ่งดำที่ลอยอยู่บนฝากฟ้า มีคำอยู่หลายคำเขียนอยู่บนนั้นแต่มันช่างเปล่งประกายเจิดจ้านัก ทำให้หนิงฝานไม่อาจแยกแยะได้ชัดเจน

 

ทันใดนั้น เขารู้สึกได้ว่าร่างกายของเขาค่อยๆอบอุ่นขึ้นอย่างช้าๆ

 

สาวน้อยนามจื่อเฮ่อไม่ได้โกหกเขา สร้อยหยกโบราณนี้ทำให้ร่างกายของเขาอบอุ่นขึ้นจริงๆ...

 

หนิงฝานไม่ได้สังเกตุเห็นว่าเมื่อยามที่เขาไร้สติ ของเหลวจากเหล่าสตรีผู้ชั่วช้าของเค้าได้เปรอะสร้อยหยกจนทำให้มันเกิดเงาแสงสีแดงลางๆ

 

แก่นหยางที่ถูกสูบไปจนหมดของเขากลับค่อยๆฟื้นคืนมาอย่างช้าๆ

 

 

และทันใดนั้น พลันบังเกิดเสียงสวดมนต์อันลึกลับโบราณดังมากจากภายในสร้อยหยก

“สมบัติซวนหยิน สร้อยคอหยินหยาง นำพาสวรรค์เป็นภรรยา นำพาพิภพเป็นสนม นำพากามรมย์เป็นกระถาง เส้นทางอันยิ่งใหญ่แห่งการบ่มเพาะหยินหยาง...”

 

บทสวดมนต์ดังกังวานอยู่ในหัวอยู่ในหัวของหนิงฝานเป็นเวลานาน และนามแห่งปีศาจของเขา ‘หนิงกงสื่อ’ จะถูกจารึกนับแต่บัดนี้เป็นต้นไป!...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด