ตอนที่แล้วTXV –  89  การโจมตีที่สวยงาม !
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTXV –  91 อาหารรสเลิศ การต่อสู้ของหญิงสาว !

TXV – 90 วันครบรอบการกำเนิดบริษัท !


TXV  90  วันครบรอบการกำเนิดบริษัท !

        สุดท้ายเซี่ยเหล่ยและหลางซือเหยาก็เลือกบริษัทวัสดุก่อสร้างชื่อ ‘ฟอร์เรส แมนบริษัทนี้เพิ่งจัดตั้งขึ้นใหม่ แต่ก็มีขนาดใหญ่และมีทุกอย่างครบครัน เซี่ยเหล่ยสามารถสั่งซื้อวัสดุกับพวกเขาได้เลย

 

        เมื่อเซี่ยเหล่ยและหลางซือเหยามาถึง พนักงานขายก็รีบตรงเข้ามาหา แต่เมื่อเขาได้ยินว่าเซี่ยเหล่ยมาเพื่อสั่งซื้อวัสดุใหม่สำหรับการสร้างบริษัท เขาก็เรียกผู้จัดการระดับสูงของ ฟอร์เรส แมน มาแทน

 

        “สวัสดีครับ ผมคือ เฉินตู ฉือซานหากต้องการสินค้าชิ้นไหนบอกทางเราได้เลยครับ”  ผู้จัดการระดับสูงของฟอร์เรส แมน ได้แนะนำตัวเองด้วยรอยยิ้มเมื่อได้พบกับทั้งสองคน

 

        “เฉินตู?” เซี่ยเหล่ยมีปฏิกิริยาแปลกไปเมื่อฟังการแนะนำตัวของ เฉินตู ฉือซาน จบ “ขอถามได้มั้ยครับ คุณเป็นคนของตระกูลเฉินตูเหรอ?”

 

        เฉินตู ฉือซาน มองไปยังเซี่ยเหล่ยและถามอย่างลังเลว่า  “ทำไมเหรอครับ? คุณเซี่ย คุณรู้เรื่องของตระกูลเฉินตูด้วยเหรอครับ?”

 

        เซี่ยเหล่ยยิ้ม “จะไม่ใครในดินแดนห่ายจูไม่รู้เรื่องของตระกูลเฉินตูบ้างล่ะครับ? ผมแค่ไม่คิดว่าบริษัทนี้จะเป็นของตระกูลเฉินตูด้วย”

 

        “บริษัท นี้เป็น บริษัท ในเครือของ บริษัทเหวี้ยนเทียน” เฉินตู ฉือซาน กล่าว หลังจากหยุดไปครู่หนึ่ง เขากล่าวเสริมต่อ “เราไม่ออกนอกเรื่องแล้วคุยเรื่องสินค้ากันดีกว่าครับ เราสามารถให้บริการเต็มรูปแบบสำหรับบริษัทของคุณได้ตั้งแต่การออกแบบพิมพ์เขียวไปจนถึงการก่อสร้างของบริษัท เพียงแค่บอกงบประมาณของคุณให้เราทราบแล้วเราจะจัดการส่วนที่เหลือให้ทั้งหมดเองครับ”

 

        “เราจะจัดการเรื่องพิมพ์เขียวเองครับ บริษัทของคุณแค่เตรียมวัสดุและการก่อสร้างก็พอครับ” เซี่ยเหล่ยกล่าว

 

        “เราจะจัดการให้เป็นอย่างดีครับ ผมจะพาคุณไปดูผลิตภัณฑ์ของเราก่อนแล้วผมจะแจ้งราคาทั้งหมดหลังจากที่คุณเลือกสิ่งที่คุณต้องการแล้วนะครับ” เฉินตู ฉือซาน กล่าว

 

        “ครับ นำทางได้เลย” เซี่ยเหล่ยกล่าว

 

        ขณะที่เดินออกจากห้องรับแขก หลางซือเหยาก็ดึงแขนของเซี่ยเหล่ยเอาไว้ แล้วถามเบาๆ “ตระกูลเฉินตูมีอำนาจมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”

 

        เซี่ยเหล่ยลดเสียงและตอบว่า “พวกเขาเป็นตระกูลร่ำรวยที่สุดในประเทศจีน คิดว่าพวกเขาจะมีอำนาจขนาดไหนกันล่ะ?”

 

        ริมฝีปากเล็กสีพีชของหลางซือเหยาก็เปิดค้างด้วยความทึ่ง “งั้นก็มีอำนาจมากเลยสิ งั้นถ้าคุณรู้จักใครสักคนในตระกูลนี้ก็ลองพูดถึงเขาดูสิ พวกเขาอาจจะลดราคาให้เราก็ได้นะ”

 

        เซี่ยเหล่ยนิ่งไปครู่หนึ่ง เขานึกถึงเฉินตู เทียนหยินอีกครั้ง เพราะเขาไม่เพียงแต่รู้จักเธอ แต่เขาเคยช่วยชีวิตเธอไว้แล้วครั้งหนึ่ง ถ้าเขาพูดออกไป เฉินตู ฉือซาน คงต้องโทร.ไปถามเธอเรื่องนี้ แล้วเฉินตู เทียนหยินก็อาจจะให้ซื้อในราคาพิเศษก็ได้  แต่สุดท้ายเซี่ยเหล่ยก็เปลี่ยนใจทันทีเมื่ออีกความคิดหนึ่งผุดขึ้นมา “อีกฝ่ายหนึ่งเป็นหนึ่งในชนชั้นสูงแต่เราเป็นคนธรรมดา เราอาจรู้จักเขาแต่เขาอาจจะไม่รู้จักเราก็ได้นี่”

 

        หลางซือเหยายิ้ม “ฉันไม่สนใจเรื่องชนชั้นสูงหรอกนะ”

 

        เฉินตู ฉือซานพาเซี่ยเหล่ยและหลางซือเหยาไปยังโชว์รูมผลิตภัณฑ์ของบริษัท ในโชว์รูมไม่ได้จัดไว้เพียงแค่ผลิตภัณฑ์ต่างๆที่ผลิตโดยบริษัทฟอร์เรส แมน แต่ยังรวมถึงการสร้างแบบจำลองอาคาร คลังสินค้าและอื่นๆสร้างขึ้นจากวัสดุก่อสร้างใหม่ของพวกเขาเอง

 

        เซี่ยเหล่ยและหลางซือเหยาไปดูรอบ ๆ โชว์รูมและเลือกวัสดุก่อสร้างใหม่ ๆ มา

 

        ขณะที่เซี่ยเหล่ยกำลังพูดคุยเกี่ยวกับราคาวัสดุที่เขาเลือกไว้กับ เฉินตู ฉือซาน พนักงานฟอร์เรส แมนก็รีบวิ่งเข้ามาพูดว่า “ผู้จัดการครับ คุณผู้หญิงมาที่นี่แล้ว”

 

        เซี่ยเหล่ยหัวใจเต้นรัว ‘เฉินตู เทียนหยินอยู่ที่นี่เหรอ?’

 

        เฉินตู ฉือซาน พูดต่อ “ต้องขออภัยด้วยนะครับ แต่ผมต้องขอตัวก่อนสักครู่ เลือกสินค้าอื่นๆต่อได้เลยครับ หลังจากนั้นเราจะได้คุยเรื่องราคากัน”

 

        “ครับ ไม่มีปัญหา” เซี่ยเหล่ยกล่าว

 

        เฉินตู ฉือซาน และพนักงานที่มาบอกเดินไปทางออกของโชว์รูม แต่มีกลุ่มคนเดินเข้ามาก่อนที่พวกเขาจะออกไป

 

        หัวหน้าเครือข่ายทั้งหมดของเฉินตูก็คือหัวหน้าของตระกูลเฉินตูคนปัจจุบัน นั่นก็คือเฉินตู เทียนหยิน ทั้งผู้ช่วยและบอดี้การ์ดของเธอเดินตามหลังมาติดๆ

 

        เฉินตู เทียนหยินสวมชุดสีดำ เธอดูสุขุมและสง่างาม เธอไม่ชอบใส่เสื้อผ้าที่เปิดเผยร่างกายมากนักและเสื้อผ้าที่เธอมักสวมประจำจะค่อนข้างมิดชิดเสมอ แต่นั่นก็ไม่มีผลต่อความเซ็กซี่ของเธอเลยแม้แต่น้อย ผู้หญิงอย่างเธอไม่จำเป็นต้องเปิดเผยร่างกายของเธอเพื่อให้ผู้ชายชื่นชม เธอไม่จำเป็นต้องใช้รอยยิ้มหวานๆเพื่อมัดใจใครเช่นกัน  ดังนั้นเธอจึงมักจะดูเย็นชาดุจหิมะที่หนาวเหน็บและดูเข้าถึงยากสำหรับคนอื่น แม้เธอจะเป็นแบบนี้ แต่เพียงแค่เธอใส่ชุดไปรเวทสักชุดก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้ชายหลายคนยอมอยู่แทบเท้าเธอแล้ว เธอไม่จำเป็นต้องพิสูจน์อะไรหรือทำอะไร ความเซ็กซี่และความงามของเธอก็มากพอจะเอาชนะใจชายทุกคนได้แล้ว

 

        นั่นล่ะคือเฉินตู เทียนหยิน เซี่ยเหล่ยรู้สึกราวกับเป็นกวางที่ถูกไฟหน้ารถส่องตรงมายังเขาเมื่อไหร่ก็ตามที่มองเธอ

 

        “เธอคือเฉินตู เทียนหยินเหรอ?” หลางซือเหยาถามเบาๆ

 

        “ใช่ เธอนี่แหละเฉินตู เทียนหยิน” เซี่ยเหล่ยกล่าว

 

        หลางซือเหยาถอนหายใจด้วยความชื่นชม “เธอสวยมากเลยล่ะ”

 

        หลางซือเหยาไม่เคยเห็นเฉินตู เทียนหยินมาก่อน แต่ก็เดาได้ว่าเธอเป็นใครเพียงมองแค่ครั้งเดียว นี่ไม่ใช่เพราะหลางซือเหยาเป็นคนเข้าใจอะไรง่าย แต่เพราะการปรากฏตัวของเฉินตู เทียนหยินนั้นมีออร่ามากเกินไป

 

        เฉินตู ฉือซาน ต้อนรับเธอด้วยรอยยิ้ม “เทียนหยิน คุณควรจะโทรมาก่อนล่วงหน้านะครับ ผมจะได้จัดเตรียมได้ทันถ้าหากคุณบอกเราก่อน”

 

        เฉินตู เทียนหยินเพียงแค่มองไปที่เขาด้วยสายตานิ่งเฉยแบบเดิมแล้วเดินผ่านเขาไปโดยไม่ได้พูดอะไร เธอตรงไปยังเซี่ยเหล่ยและหลางซือเหยาแทน

 

        เฉินตู ฉือซาน ยืนนิ่งอยู่จุดเดิม สีหน้าของเขามีทั้งความอายและความเกลียดปนเปกันไป

 

        เซี่ยเหล่ยที่มองเหตุการณ์ทั้งหมดเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติ  เขาคิดว่า‘เฉินตู ฉือซาน ก็เป็นคนของตระกูลเฉินตูเหมือนกันนี่ แต่เฉินตู เทียนหยินกลับทำท่าทีแบบนี้กับเขา การถูกเมินนี่แย่กว่าการเห็นเขาเป็นคนแปลกหน้าซะอีกนะ แปลกจริงๆ’

 

        เฉินตู เทียนหยินมองข้ามเฉินตู ฉือซานไป แต่เขายังคงพยายามเดินตามเธอ ยกยิ้มประจบสอพลออีกครั้ง “เทียนหยิน คุณมาที่นี่เพราะมาตรวจสอบประจำวันสินะ ? ผมจะไปบอกให้ฝ่ายการเงินเตรียมบัญชีเอาไว้ให้คุณนะครับ ถ้าคุณอยากเข้าไปในเวิกค์ช็อป ผมจะคอยคุ้มกันคุณเองครับ”

 

        “ไม่จำเป็น” ในที่สุดเฉินตู เทียนหยินก็ยอมพูดกับเฉินตู ฉือซาน แต่นั่นก็แค่ 3 คำเท่านั้น

 

        เฉินตู ฉือซาน มองเซี่ยเหล่ยเพื่อขอให้เขาออกไปก่อนโดยที่ไม่รู้เลยว่าเซี่ยเหล่ยและเฉินตู เทียนหยินรู้จักกันมาก่อน

 

        เซี่ยเหล่ยเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะทักเฉินตู เทียนหยินด้วยอยู่แล้ว จึงพูดกับหลางซือเหยาว่า “ซือเหยา เราออกไปข้างนอกกันก่อนเถอะ”

 

        หลางซือเหยาพยักหน้าและเดินตามเซี่ยเหล่ยที่มุ่งหน้านำไปทางประตูแล้ว

 

        เมื่อพวกเขากำลังจะเดินสวนกัน เฉินตู เทียนหยินก็พูดขึ้น “คุณเซี่ย มาทำอะไรที่นี่หรอ?”

 

        เซี่ยเหล่ยหยุดเดินแล้วยืนนิ่ง นี่เป็นครั้งแรกที่เฉินตู เทียนหยินทักเขาก่อน เธอไม่เคยมองเขาตรงๆสักครั้ง แม้แต่ตอนนั้นที่เซี่ยเหล่ยเคยบอกเธอว่ามีระเบิดอยู่ใต้รถของเธอ

 

        เฉินตู เทียนหยินมองเซี่ยเหล่ยราวกับรอให้เขาพูดอยู่

 

        เซี่ยเหล่ยตอบ “ผมมาซื้อวัสดุก่อสร้างนิดหน่อยครับ

 

        “เตรียมการก่อสร้างอยู่หรอ ?” เฉินตู เทียนหยินกล่าว

 

        ทำไมวันนี้เธอถึงพูดเยอะเป็นพิเศษ? เซี่ยเหล่ยรับรู้ถึงความผิดปกติแล้ว แต่ก็ยังไม่แสดงท่าทีอะไรออกมา “ครับผมมีที่ดินแล้ว ก็เลยอยากสร้างบริษัทให้เสร็จเร็วๆ”

 

        “ฉันได้ยินเรื่องที่ดินนั่นมาแล้วล่ะ คุณตบหน้าฮวงยี่หู่ฉากใหญ่เลยล่ะ และนั่นก็เป็นการตบหน้าตระกูลกู๋ไปด้วย ทำได้ดีมากเลยนี่”

 

        นี่ดูจะเป็นเหตุผลที่วันนี้เฉินตู เทียนหยินพูดเยอะกว่าปกติ ตระกูลเฉินตูและตระกูลกู๋ดูเป็นมิตรต่อกันแค่ภายนอก แต่จริงๆแล้วพวกเขาก็เป็นเหมือนไวรัสร้ายของกันและกันในโลกธุรกิจ การแข่งขันกันอยู่เงียบๆก่อให้เกิดเป็นความแค้นสะสมแก่ทั้งสองฝ่าย 

 

        เซี่ยเหล่ยไม่ได้พูดอะไรออกมา ทำได้เพียงแต่ยิ้มอย่างสุภาพเท่านั้น

 

        หลางซือเหยาพูดแทรกเข้ามา “สวัสดีค่ะ คุณเฉินตู ฉันเป็นผู้ช่วยของประธานเซี่ยอืม คุณช่วยลดราคาให้เราหน่อยได้มั้ยคะ?”

 

        เฉินตู เทียนหยินมองเธอ “ราคาของเราถูกที่สุดในตลาดแล้ว จะไม่มีการลดราคาแม้ว่าฉันจะมาซื้อเองก็ตาม”

 

        หลางซือเหยายิ้มออกในตอนแรกแต่คำพูดของเฉินตู เทียนหยินทำเอารอยยิ้มเธอหายไปทันที.....

 

        เฉินตู เทียนหยินไม่ได้พูดอะไรต่อก่อนจะเดินออกไป

 

        หลางซือเหยาถอนหายใจเบาๆ แล้วพูดหงอยๆ “ดีเด่นมาจากไหนกันน่ะ? เป็นคนรวยแล้วจะดีไปกว่าคนอื่นขนาดนั้นเลยรึไง?”

 

        เซี่ยเหล่ยตบบ่าเธอเบาๆแล้วยิ้มให้ “อย่าโกรธไปเลยน่า สักวันหนึ่งเธออาจจะรวยกว่าก็ได้นะ”

 

        หลางซือเหยาเป็นคนโกรธง่ายแต่ก็หายเร็วเช่นกัน “แน่นอน ให้เงินเดือนฉันสัก 5 หรือ 6 หมื่นล้านต่อปีสิ ฉันจะได้รวยกว่าเธอในไม่กี่ปี ?”

 

        “ถ้าทำแบบนั้น ผมก็หมดตัวน่ะสิ” เซี่ยเหล่ยกล่าว

 

        “แน่นอน แล้วจากนั้นเอาไงดีนะ? คณะละครสัตว์ล่ะเป็นไง?” หลางซือเหยาหัวเราะคิกคัก “ฉันจะผูกเชือกไว้ที่คอคุณแล้วก็ให้คุณทำท่าลิงหางินให้ฉัน คิดว่าไง?”

 

        “กล้าเรียกผมว่าลิงเหรอ? อยากลองดีใช่มั้ยเนี่ย!” เซี่ยเหล่ยวิ่งไล่ตีหลอกล้อเธอ

 

        ทั้งสองคนออกมาจากร้านหัวเราะหยอกล้อจนลืมเรื่องก่อนหน้านี้ไปจนหมด

 

        เมื่อทั้งสองออกไป เฉินตู เทียนหยินก็หยุดเดินและมองยังแผ่นหลังของเซี่ยเหล่ยแล้วพูดว่า "คุณลุง ลดราคาให้คุณเซี่ยด้วยนะ"

 

        เพียงจบประโยคก็ทำเอา เฉินตู ฉือซานตาค้าง "เทียนหยิน แต่คุณเพิ่งบอกว่าไม่มีส่วนลดไม่ใช่เหรอครับ? ทำไมจู่ๆคุณถึงอยากลดให้เขาล่ะ? "

 

        “ให้ฝ่ายการเงินเตรียมบัญชีไว้เลย ฉันจะเข้าไปตรวจเวิร์คช็อปหน่อย” เฉินตู เทียนหยินตัดบทแทนคำตอบ

 

        เฉินตู ฉือซานนิ่งไปก่อนจะพูดต่อ “ครับ หวาง ไปบอกฝ่ายการเงินให้เตรียมบัญชีเอาไว้ ผมจะคอยคุ้มกันเทียนหยิน” เขาพูดพลางคิดในใจ ‘ดูเหมือนเทียนหยินจะรู้จักกับผู้ชายที่นามสกุลเซี่ยนะ แต่ทำไมเธอไม่บอกเขาต่อหน้าเลยล่ะว่าจะลดราคาให้? ขายราคาถูกให้เขา แต่กลับไม่บอกให้เขารู้… นี่มันเรื่องอะไรกัน?’

 

        เฉินตู เทียนหยินพูดขึ้นอีกครั้ง  “ไปคุยกับคุณเซี่ยก่อน ฉันไปเวิร์คช็อปเองได้”

 

        “อ่อ… ได้ครับ ผมจะไปเดี๋ยวนี้” เฉินตู ฉือซาน หันไปแล้วมุ่งหน้าไปทางประตูตามคำสั่งทันที

 

        เซี่ยเหล่ยและซือเหยายืนอยู่ในโชว์รูมสินค้าไม่ถึงสองนาทีก่อนที่ เฉินตู ฉือซาน จะเดินออกมา

 

        “คุณเซี่ย คุณหลาง ทางเรามีเรื่องแจ้ง กรุณาไปที่สำนักงานกับผมด้วยครับ” ท่าทางของ เฉินตู ฉือซาน ดูดีขึ้นกว่าก่อนหน้านี้อย่างเห็นได้ชัด

 

        “คุณไม่ต้องไปกับคุณเทียนหยินเหรอครับ?” เซี่ยเหล่ยกล่าว

 

        “เธอไม่ต้องการให้ผมไปด้วยครับ” เฉินตู ฉือซาน นำทางไปแล้วถามขึ้น “จริงสิ คุณเซี่ย คุณรู้จักเทียนหยินได้ยังไง?”

 

        เซี่ยเหล่ยกำลังคิดจะบอก เฉินตู ฉือซาน ว่าเกิดอะไรขึ้นที่บูรพาอุตสาหกรรม แต่เพีนงเสี้ยววินาทีต่อมาเขาก็เปลี่ยนใจ “จริงๆแล้วเราไม่ได้รู้จักกันหรอกครับ เราเคยเจอกันแค่ครั้งเดียวเท่านั้น”

 

        “งั้นเหรอครับ” เฉินตู ฉือซานกล่าวแม้ว่าจะไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยินก็ตาม....

 

        ในสำนักงานของ เฉินตู ฉือซาน เซี่ยเหล่ยส่งรายการสินค้าที่เลือกให้เขา

 

        เฉินตู ฉือซาน กดเครื่องคิดเลขอยู่สักพักก่อนจะพูดขึ้นว่า “ราคาวัสดุคือ 7,000,000 และค่าก่อสร้างเท่ากับ 20% ของค่าวัสดุ รวมเป็น 8,400,000 ครับ”

 

        “เอ๋? ทำไมแพงจัง?” เซี่ยเหล่ยพูดออกมาด้วยความตกใจ

 

        รอยยิ้มแปลก ๆ ปรากฏบนใบหน้าของ เฉินตู ฉือซาน “คุณโชคดีนะครับเนี่ย วันนี้เป็นวันครบรอบ 2 ปีของบริษัทเรา ซึ่งคุณจะได้รับส่วนลด 40% ครับ” เขากดเครื่องคิดเลขในมืออีกครั้งแล้วพูดต่อ “ทั้งหมด 5,040,000 ครับ แต่ตัวเลขราคานี้ดูไม่ค่อยสวยเลยนะครับ คุณจะซื้อเพิ่มอีก 40,000 ให้ยอดรวมเป็น 5,080,000 มั้ยครับ?”

 

        เซี่ยเหล่ยนิ่งค้างราวกับว่าวิญญาณของเขาได้ล่องลอยขึ้นสวรรค์ไปแล้ว

 

        ต่างกับหลางซือเหยาที่ตอบโต้ทันที  “ดีเลยค่ะ 5,080,000 เลขสวยใช้ได้ เราจะต้องจ่ายเงินเมื่อไหร่คะ?”

 

        “คุณสามารถจ่ายเงินตอนนี้หรือวันอื่น หรือจะเป็นหลังจากการก่อสร้างเสร็จสิ้นแล้วก็ได้ครับ คุณเซี่ยต้องการแบบไหนครับ?” เฉินตู ฉือซาน กล่าว

 

        เซี่ยเหล่ยไม่ได้เปล่งคำพูดใดๆออกมาแม้แต่คำเดียว พลางนึกถึงเฉินตู เทียนหยิน เซี่ยเหล่ยไม่ใช่คนโง่ เขารู้ดีว่าต้องเป็นเฉินตู เทียนหยินแน่ๆที่สั่งให้ เฉินตู ฉือซาน ลดราคาให้เขา

 

        หลางซือเหยาเตะขาเซี่ยเหล่ยใต้โต๊ะหลังจากที่เขาเงียบอยู่นาน “จ่ายเงินเมื่อไหร่ดีคะ ประธานเซี่ย?”

 

        เมื่อเซี่ยเหล่ยหลุดออกจากภวังค์ก็ตอบออกไปทันที “เต็มจำนวน ตอนนี้เลย”

 

        “ได้ครับ ผมจะให้เลขาฯของผมทำข้อตกลงให้ทันทีเลยครับ” เฉินตู ฉือซาน ยืนขึ้นแล้วยื่นมือไปหาเซี่ยเหล่ย “เป็นการร่วมงานกันอย่างมีความสุข !”

 

        เซี่ยเหล่ยเองก็ยืนขึ้นด้วย จับมือเขาแล้วเขย่าเบาๆ “เพื่อการร่วมมือกันอย่างมีความสุขครับ”  พลางคิดใจใน ‘สักวันผมจะต้องตอบแทนเฉินตู เทียนหยินเรื่องนี้ให้ได้’

 

        ติดตามตอนต่อไป....

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด