ตอนที่แล้วChapter 64: ตำแหน่งของอิริเดียม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 66: ดาบยาวที่พิเศษ

Chapter 65: บริษัทโลหะพิเศษ


“เฮ้ ไอหนู มันเสียของนะ ถ้าจะให้เนื้อไอแก่นี่ อย่างดีนายก็น่าจะให้แค่อาหารธรรมดาก็พอ ถ้านายต้องการที่จะแลกเปลี่ยนเนื้อนั่นกับอาหารธรรมดา พวกเราจะช่วยนายเอง” ทหารพูด

 

ตามจริงแล้ว กองกำลังทหารนั้นไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับธุระของคนอื่น ที่จริงแล้วมันก็คือลักษณะความโลกเฉพาะตัวของทหาร เขาจึงเข้าไปวุ่นวายด้วย ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่บุคคลที่มีพลังนอกเหนือธรรมชาติก็ตามที เขาก็จะหาเนื้อบางอย่างและหลังจากนั้นก็แลกมันกับสิ่งดีๆ เช่นบุหรี่ สำหรับผู้รอดชีวิตแล้ว กองกำลังทหารนั้นเก็บตุนเสบียงจำนวนมาก แต่มันไม่ได้เกี่ยวข้องเลยกับทหารที่ถูกจ้างโดยเงินเดือนประจำที่จำกัด เขานั้นจะมีชีวิตอยู่ดีกว่านี้ถ้าเขาสามารถที่จำเงินพิเศษบางส่วนได้

 

เขาคิดว่าข้อเสนอของเขานั้นค่อนข้างมีเหตุผล แต่เขาก็ประหลาดใจ เมื่อเจียงลู่ฉียิ้มและพูด “มันโอเค ฉันก็ยังมีอาหารธรรมดาบางส่วนด้วย อาหารบางส่วนของฉันก็จะเน่าเสียไป เพราะว่าตู้เย็นของฉันไม่สามารถที่จะใส่มันได้ทุกอย่าง การสิ้นเปลืองนั้นเป็นอาชญากรรมที่เลวร้ายที่สุด มากับฉันและฉันจะให้นายบางส่วนด้วย”

 

อาหารนั้นเต็มตู้เย็นไปหมดแล้ว แม้แต่บนหลังคาของรถMCV ก็ตาม เมื่อฟังเจียงลู่ฉีพูด ทหารก็หมดคำพูด เจียงลู่ฉีแสดงท่าทีให้เห็นว่าวัตถุดิบที่เขามีนั้นเยอะมาก เขานั้นไม่ได้สนใจมันไปทั้งหมด แม้แต่ตู้เย็นก็ไม่สามารถที่จะใส่อาหารทั้งหมดได้ เขานั้นมีอาหารมากแค่ไหนกันแน่?

 

[เนื้อสัตว์ป่ากลายพันธุ์ ?!] ศาสตราจารย์ผู้สูงวัยนั้นตกตะลึงหลังจากที่ได้ยินทหารพูด

 

[กระเป๋าที่ใส่เนื้อนั่นมาจากสัตว์กลายพันธุ์?] เขาคิดว่ามันคือเนื้อวัวด้วยซ้ำ!

 

ศาสตราจารย์ผู้สูงวัยนั้นเคยเห็นเนื้อกลายพันธุ์อยู่ครั้งหนึ่ง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาถือมันบนมือของเขา มีเพียงแค่พวกที่มีพลังนอกเหนือธรรมชาติจึงมีสิทธิพิเศษที่จะกินเนื้อพวกนี้ และในกองกำลังทหาร มันเป็นเหมือนเงินที่มีค่าแพงมาก เนื้อและกระสุนในตอนนี้นั้นเหมือนกับทองก่อนที่จุดจบของโลกจะมาถึง ศาสตราจารย์นั้นปกติแล้วกินแค่ข้าวเลว เขาก็ยังโชคดีที่ได้กินชิ้นเนื้อธรรมดามาเล็กน้อย แต่ส่วนของเนื้อสัตว์กลายพันธุ์แล้ว เขาไม่สามารถที่จะคิดถึงมันได้

 

ศาสตราจารย์ผู้สูงวัยมองไปที่เนื้อ ถึงแม้ว่าเขาต้องการที่จะกินมัน เขาก็ไม่สามารถที่จะยื่นมือไปเอามันได้ แต่โบกมือปฏิเสธรัวๆ “ฉันไม่สามารถที่จะรับมันได้ มันล้ำค่าเกินไป ฉันไม่สมควรที่จะได้รับสิ่งนี้”

 

“มันไม่เป็นอะไรหรอก เพียงแค่มันไป และผมต้องการที่จะถามคุณเพิ่มด้วย” เจียงลู่ฉีพูด

 

ศาสตราจารย์ผู้สูงวัยนั้นไม่ได้ตอบแต่ถามกลับมา “มันคืออะไร? ฉันเป็นเพียงแค่คนแก่คนหนึ่ง ฉันไม่คิดว่าฉันจะสามารถที่จะช่วยเหลือเธอได้มากสักเท่าไหร่”

 

“คุณรู้ไหมว่าผมสามารถที่จะหาวัตถุดิบอย่างอื่นในเมืองหนานจิงได้จากที่ไหน?” เจียงลู่ฉีพูดถึงวัตถุดิบอย่างอื่นทั้งหมดที่เขาจำเป็นต้องใช้มัน ศาสตราจารย์นั้นเป็นคนพื้นเมืองและมีความรู้ เขาน่าจะรู้บางอย่างเกี่ยวกับพวกมัน

 

ศาสตราจารย์นั้นได้ยินบทสนทนาของเจียงลู่ฉีกับทหารมาก่อนหน้านี้ แต่เขาไม่สามารถที่จะจำมันได้อย่างทันทีเกี่ยวกับแร่ที่สามารถหาเจอได้

 

ตั้งแต่เจียงลู่ฉีถาม เขาพยายามรีดสมองและพยายามรื้อฟื้นเกี่ยวกับบางอย่าง “พวกเราไม่มีแร่พวกนั้นในมหาวิทยาลัย แม่งความจำที่แก่เอ้ย!” ศาสตราจารย์ผู้สูงวัยนั้นพึมพำ

 

เขาคิดอยู่ชั่วครู่หนึ่ง หลังจากนั้นก็พึมพำเกี่ยวกับสถานที่บางแห่ง หลังจากนั้นเขาก็ส่ายหัว ทันนั้นใดดวงตาที่เลอะก็กว้างขึ้น “มันมีที่นั่น! สวนอุตสาหกรรมแห่งใหม่ที่พึ่งสร้างเมื่อปีก่อน มันถูกเรียกว่า บริษัทโลหะพิเศษ ซึ่งศูนย์ใหญ่และคลังสินค้าก็อยู่ตรงนั้นเช่นกัน” เขาพูด

 

[คลังสินค้า....] บริษัทนี้นั้นเชี่ยวชาญอย่างเจาะเจาะที่ตลาดแร่ คลังสินค้าของพวกเขานั้นน่าจะมีวัตถุดิบที่เขาต้องการ และยิ่งไปกว่านั้น อิริเดียมไม่น่าจะหาเจอในบริษัทนั้นเพราะว่ามันหายาก

 

วัตถุดิบที่จำเป็นสำหรับการสร้างห้องปฏิบัติการชีวภาพ ไม่สามารถที่จะหาได้จากค่ายทหาร แต่ศาสตราจารย์ที่ชราภาพเช่นนี้นั้นช่วยระบุสถานที่ให้แก่เขา

 

“โชคร้ายที่ฉันไม่เคยไปแถวนั้น ดังนั้นฉันไม่สามารถที่จะวาดแผนที่ให้ได้” ชายแก่พูดอย่างเสียใจ

 

“มันโอเคครับ ผมจะหามันด้วยตัวของผมเอง” เจียงลู่ฉีพูดอย่างดีใจ ตอนนี้เขานั้นไม่จำเป็นที่จะต้องตั้งรายการและรอ ทุกอย่างมันง่ายขึ้นตั้งแต่เขารู้ว่าที่ไหนที่จะสามารถหาสิ่งที่เขาต้องการได้”

 

เจียงลู่ฉียื่นเนื้อให้แก่ชายชราโดยตรง ศาสตราจารย์สูงวัยก็รีบหยิบกระเป๋าไปในทันที เขาต้องการที่จะปฏิเสธมัน แต่กลิ่นของเนื้อนั้นโชยออกมาจากกระเป๋าและทำให้ท้องของเขาร้อง

 

มันทำให้ชายชรานั้นละอายใจ เขามองไปที่เจียงลู่ฉีด้วยความขอบคุณอย่างสุดซึ้งและพูด “ขอบคุณมาก! ขอบคุณมากจริงๆ! แต่แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว!”

 

ศาสตราจารย์ชรานั้นเดินเตร็ดเตร่อยู่ทุกวันและบางครั้งเขาก็จะให้คำแนะนำแก่ผู้รอดชีวิต ผู้คนนั้นมองเขาเป็นเพียงคนแก่ ดังนั้นมีเพียงบางคนที่มีอารมณ์ดีที่คุยกับเขา แต่พวกเขาก็ไม่ได้สนใจในคำพูดของเขาอย่างจริงจัง ส่วนพวกที่ผู้ที่มีอารมณ์เลวร้ายนั้น พวกเขาตะโกนไล่เขาให้จากไป

 

ชายชรานั้นอาศัยอยู่ในค่ายและทำไร่ทุกวัน เขานั้นเบื่อเป็นอย่างมากกับมัน ดังนั้นเขาจึงหาทางที่เขาสามารถจะฆ่าเวลาได้ เขานั้นไม่เคยคิดว่าเลยว่าจะได้รับรางวัลจากการช่วยเหลือคนอื่น นอกเหนือจากความประหลาดใจของเขาแล้ว เขารู้สึกขอบคุณกับเจียงลู่ฉีมาก

 

สำหรับเจียงลู่ฉีเมื่อเปรียบเทียบกับตำแหน่งของอิริเดียมและแร่อย่างอื่นแล้ว เนื้อพวกนี้มันไม่ได้สำคัญอะไรเลย แต่ชายแก่นั้นปฏิเสธสำหรับเนื้อจำนวนมาก เจียงลู่ฉีจึงทำตามสิ่งที่เขาปรารถนา

 

เนื้อพวกนั้นนั้นมีคุณค่าทางโภชนาการมาก และมันสามารถที่จะเก็บได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง อย่างน้อยเขาก็สามารถที่จะให้ความชีวิตชีวากับเขาบ้าง ไม่ต้องมองอย่างนานก็ตามที เขานั้นมีเท้าข้างหนึ่งอยู่บนปากหลุมแล้ว

 

ในเวลาเดียว เจียงจู้อิงก็เรียก “พี่ชาย! พี่กำลังทำอะไรอยู่? มาช่วยฉันหน่อย”

 

“พี่กำลังไป” เจียงลู่ฉีตอบ เจียงลู่ฉีมองกลับไปและเห็นว่าเจียงจู้อิงและทีมของเธอนั้นรวมตัวกันอยู่ตรงโต๊ะหนึ่ง ซึ่งมีผู้รอดชีวิตคนอื่นที่อยู่ในห้องโถง ก็ยืนอยู่ตรงนั้นด้วย

 

[พวกเขา บางทีกำลังจะแลกเปลี่ยนอาวุธกัน] ในเวลานี้ เจียงจู้อิงมีเวลาที่ยากที่จะตัดสินกับมัน เธอนั้นคงจะถามความเห็นของเขา มันเป็นเหมือนนิสัยของเธอไปแล้ว

 

ในความจริงแล้ว เธอนั้นรู้ว่าอาวุธอันไหนนั้นเข้ามือหรือไม่ เธอนั้นปรารถนาสำหรับอาวุธนั้นอย่างมาก ดังนั้นเธอนั้นได้วิเคราะห์และยืนยันกับมันว่ามันเหมาะ แต่เธอนั้นเคยชินกับการถามเจียงลู่ฉีเป็นอย่างแรกอยู่ดี

 

ดังนั้นทันทีที่ ฝูงชนนั้นหลบไปด้านข้างและจ้องไปที่เจียงลู่ฉี

 

กลุ่มผู้รอดชีวิตอีกกลุ่มหนึ่งและทหารที่พึ่งคุยกับเขานั้นจ้องไปที่เจียงลู่ฉีอย่างสงสัย

 

โดยเฉพาะทหารนั้น เขานั้นคิดว่าเจียงลู่ฉีคือสมาชิกคนใหม่ของทีม มันกลับกลายเป็นว่าเขานั้นเป็นพี่ชายคนโตของเจียงจู้อิง?

 

ความสงสัยนั้นเหตุผลหลักเป็นเพราะว่าเจียงลู่ฉีนั้นเหมือนเป็นคนธรรมดา การกระทำของเจียงจู้อิงนั้นเป็นสิ่งที่คาดไว้ แต่สำหรับทีมของเธอละ?

 

หยางฉิงฉิงและคนอื่นๆนั้นไม่ได้สนใจที่จะจริงจังกับเจียงลู่ฉีในตอนแรก แต่สำหรับการต่อสู้ในวันนี้และแสดงให้เห็นว่าพวกเขานั้นอ่อนแอกว่า ดังนั้นพวกเขาจึงเปิดทางให้เจียงลู่ฉี

 

“ตรวจสอบมันให้หนูหน่อย” เจียงจู้อิงที่ถือดาบยาวซามูไรอยู่ ดาบซามูไรนี้มันยาวมากกว่าหนึ่งเมตรครึ่งซะอีก

 

ดาบซามูไรอันนี้มันเหมือนกับดาบที่ถูกใช้โดย ฉีจี้กวง(1) ดาบซามูไรอันนี้นั้นถูกทำขึ้นมาเพื่อเจียงจู้อิงโดยกองกำลังทหาร เธอนั้นฝากของเข้าไปและในตอนนี้เธอนั้นก็มีเนื้อทั้งหมดที่เธอจำเป็นสำหรับการจ่ายมันแล้ว

 

ดาบซามูไรนี้นั้นมันยากที่จะเปรียบเทียบกับดาบซามูไรธรรมดาๆ

 

• ฉีจี้กวงเป็นวีรบุรุษมือปราบ ในราชวงศ์หมิง ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะวีรบุรุษและแม่ทัพ

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด