ตอนที่แล้วTWO Chapter 56 เมืองดอกไม้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTWO Chapter 58 มู่หลานเยว่

TWO Chapter 57 ฝ่ายรักษาความปลอดภัย


TWO Chapter 57 ฝ่ายรักษาความปลอดภัย

หลังจากกลับถึงบ้าน โอหยางโชวได้นำดอกไม้ที่ซื้อมาประดับไปทั่วห้อง มันทำให้ห้องดูมีชีวิตชีวามากขึ้นในทันที

พี่ชายน้องสาวทานอาหารเย็นร่วมกัน หลังจากวิ่งเล่นมาทั้งวัน ปิงเอ๋อเหนื่อยล้ามาก หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จ เธอก็กลับไปที่ห้องของเธอเพื่อพักผ่อน เธอไม่แม้แต่จะล้างมือ ช่างเป็นเด็กน้อยที่ขี้เกียจจริงๆ

เมื่อเห็นว่ายังพอมีเวลา โอหยางโชวก็เข้าไปดูที่ฟอรัมของเกมส์

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เมืองซานไห่ได้ทำให้เกิดการปะทุขึ้นในฟอรัม และไม่ใช่แค่ในประเทศจีน ในฐานะที่เป็นเมืองขนาดเล็กแห่งแรกของโลก ทุกคนกำลังพูดคุยและนินทาเกี่ยวกับซานไห่

เพื่อดึงดูดความสนใจ ชื่อของโพสน์นั้นยาวกว่าเนื้อหาสาระข้างในเสียอีก

‘บุรุษลึกลับ และคนโง่น้อย จะบอกเกี่ยวกับการสัมภาษณ์ฉีเยว่หวู่ยี่ - โดย นินทารายสัปดาห์’

‘เรื่องน่าอับอายสมัยเด็กของฉีเยว่หวู่ยี่ - โดย เพื่อนโง่เง่า’

‘เขาเป็นผู้ส่งสานแห่งสันติสุข หรือเป็นเผด็จการแห่งความโกลาหล? - โดย ผู้นำฮวงซีเหริน(Huang Shiren)แห่งเหลียนโจว’

‘ความลับของเมืองซานไห่ - โดย การถอดผ้าพันคอ’

‘น่ากลัว น่าเกลียด ฉีเยว่หวู่ยี่และเทพธิดาไป๋ฮัวกำลังเดทกัน - โดย ปาปารัสซี่รายสัปดาห์’

‘จากเบื้องล่างสู่เบื้องบน ประวัติศาสตร์เมืองแห่งโชคลาภ - โดย บันเทิงรายสัปดาห์’

‘ข่าวด่วน! ฉีเยว่หวู่ยี่กำลังประชุมลับกับชุนเซิ่นจุ่น - โดย รายงานพิเศษจากคนชั่วร้าย’

‘จากต้นกำเนิดของสปีชี่ สู่ทฤษฎีวิวัฒนาการของดาร์วิน จากนั้นก็ฉีเยว่หวู่ยี่ - ตระกูลเกาหลี’

‘คืนนั้น ฉันได้แชร์ความลับกับฉีเยว่หวู่ยี่ - โดย เอมิ’

โอหยางโชวชื่นชมคนเหล่านี้ ที่สามารถปั้นข่าวออกมาได้จากความว่างเปล่า โชคดีที่เผยแพร่เฉพาะในฟอรัม ไม่ได้แถลงข่าวอย่างเป็นทางการ ไม่เช่นนั้นเขาคงฟ้องร้องคนที่ใส่ร้ายเขาได้

ไม่สนใจโพสต์ที่ไร้สาระ เขาพบโพสต์ที่น่าสนใจ หนึ่งในนั้นเป็นโพสต์ของไป๋เสี่ยวเซิ่ง ชื่อโพส์คือ ‘คาดเดาเหรียญระดับทอง เบาะแสของซานไห่’ มันเพียงพอจะดึงดูดสายตาของเขาได้

ไป๋เสี่ยวเซิ่งแตกต่างจากคนอื่นๆที่กุเรื่องขึ้นมา ดูเหมือนเขาจะรู็เรื่องในเกมส์อยู่บ้าง ต่างจากคนอื่นๆที่ไม่รู้อะไรเลย

เขาพูดถึงความตั้งใจของไกอาในการสร้างเหรียญระดับทอง และพูดถึงว่า ซานไห่ได้หยั่งรากที่ชายแดน และเติบโตขึ้นอย่างโดดเด่น

ทุกโพสต์ของเขาอยู่ในพื้นฐานของข้อเท็จจริง สุดท้ายเขาก็สรุปได้ว่า เหรียญระดับทองของประเทศจีนอยู่ในมือของฉีเยว่หวู่ยี่ และเป็นความลับเบื้องหลังการพัฒนาของซานไห่

ถึงแม้ว่า จะมีข้อโต้แย้งบางอย่างที่ไร้สาระโดยสิ้นเชิง ตรงกันข้ามกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ข้อสรุปนี้ก็คาดเดาได้อย่างถูกต้อง โอหยางโชวเชื่อว่า อีกไม่นาน ข่าวที่ซานไห่ที่มีเหรียญระดับทอง จะกระจายไปทั่วประเทศจีน

อย่างไรก็ตาม เขาเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น เป็นเรื่องที่ดี ที่จะให้โลกรู้ว่าเขาไม่กลัว ที่จะถูกท้าทายอีกต่อไป

เขาเลิกดูฟอรัมและปิดแฮนด์เบรนของเขา เดินเข้าไปในเครื่องเล่นเกมส์ เขาเข้าสู่ระบบเมื่อ เวลาก็ 8.00 น.

…………………………………………………………………………………………………………….

ในเช้าวันนี้ พนักงานภาครัฐ และเด็กฝึกงานจากธุรกิจต่างๆที่มีทักษะ พวกเขาได้ชุมนุมกันอยู่ทีจตุรัสกลางเมือง

มีผู้ไปกับกู่ซิวเหวินเพื่อก่อตั้งหมู่บ้านใหม่ทั้งสิ้น 55 คน คนอื่นๆนอกเหนือจากนี้ เป็นคนงานนาเกลือ 250 คน เมื่อหมู่บ้านเป่ยไห่ก่อตั้งขึ้น ก็จะมีประชากรมากกว่า 300 คน ซึ่งเกินขีดจำกับของหมู่บ้านระกับ 1 ไปแล้ว

เมื่อเวลา 9.00 น. พวกเขาก็เดินทางออกจากจตุรัส ผ่านประตูตะวันออก มุ่งหน้าไปยังทางท่าเรือ ที่ท่าเรือ มีเรือประมงกว่า 40 ลำ เตรียมพร้อมอยู่แล้ว และยังมีเรือขนส่งวัสดุพื้นฐานอีกจำนวนมาก ที่กรมคลังวัสดุเตรียมไว้

โอหยางโชวไปที่ท่าเรือ เพื่อส่งกู่ซิวเหวิน

ทีแรกเขาต้องการไปกับพวกเขา เพื่อเป็นพยานในการก่อตั้งหมู่บ้านสาขา อย่างไรก็ถาม เขามีเวลาไม่มากนัก ตอนนี้เขาต้องใช้เวลาทั้งหมด ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

อีก 4 วัน ก่อนถึงวันปีใหม่ มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เขาต้องจัดเตรียมล่วงหน้า

ทุกอย่างที่จำเป็น โอหยางโชวได้กล่าวเมื่อวานนี้หมดแล้ว เขาไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติมอีก เขาตบไหล่กู่ซิวเหวินเบาๆ ยิ้ม แล้วกล่าวว่า “ดูแลให้ดี”

กู่ซิวเหวินพยักหน้าอย่างกระปรี้กกระเปร่า คำนับโอหยางโชวอย่างอ่อนน้อมถ่อมตนเพื่อขอบคุณ ชาวบ้านเป่ยไห่ก็คำนับเขาเช่นกันิเพื่อเป็นเกียรติแก่พวกเขา โอหยางโชวก็คำนับตอบอย่างเป็นทางการ จากนั้น ภายใต้การนำของกู่ซิวเหวิน พวกเขาก็ขึ้นเรือประมง แล้วออกไป

เขาเฝ้ามองเรือประมงออกไป โอหยางโชวหันมาทางเจ้าหน้าที่ด้านหลังของเขาแล้วกล่าวว่า “เอาล่ะ, ถึงเวลากลับไปทำงานแล้ว วันนี้มีอะไรให้ทำมากมาย”

กลับมาที่คฤหาสน์ เขาเรียกเจ้ากรมทั้ง 3 มาที่สำนักงานของเขาเพื่อพูดคุย

หลังจากทักทายกันแล้ว โอหยางโชวก็กล่าวขึ้น “วันนี้ที่ข้าเรียกพวกท่านทั้ง 3 มา ก็เพื่อจัดเตรียมหน่วยรักษาความปลอดภัยในดินแดน บอกข้าถึงมุมมองของพวกท่านเกี่ยวกับความคิดนี้”

ฟ่านจงหยานพยักหน้า และกล่าว “ที่จริง การขยายตัวของประชากรในดินแดนเป็นไปอย่างรวดเร็ว มีผู้อพยพเข้ามา 75 คน ในทุกๆวัน สถานะการณ์ด้านความปลอดภัยเริ่มเลวร้ายมากขึ้น ก่อนการสู้รบ พวกโจรเริ่มแพร่กระจายเป็จำนวนมาก มีความจำเป็นที่ต้องตั้งหน่วยงานที่ดูแลด้านความปลอดภัยในดินแดน”

“ข้าเห็นด้วย แต่กองกำลังรักษาความปลอดภัยจะทำงานได้อย่างอิสระ หรืออยู่ภายใต้กองทักล่ะ?” ขุ่ยหยิงหยูถาม

เทียนเหวินจิงส่ายหัวแล้วกล่าวว่า “ตามมาตรฐาน หน่วยรักษาความปลอดภัยต้องเป็นอิสระ อำนาจของกฎหมาย และการดูกฎระเบียบเป็นหน้าที่ของรัฐบาล ไม่ควรให้กองทัพเข้ามายุ่งเกี่ยว มิฉะนั้นจะเป็นปัญฆาไม่รู้จบ”

หลังจากฟังมุมมองของเจ้ากรมทั้ง 3 โอหยางโชวรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ตอนนี้เขากำลังปล่อยให้พวกเขาตัดสินใจด้วยตัวเองมากขึ้น แทนที่จะฟังคำสั่งโดยตรงจากเขาทั้งหมด เขาควรฟังมุมมองของเจ้ากรมและห้วหน้าฝ่ายต่างๆมากขึ้น รวบรวมมุมมองของพวกเขา เพื่อช่วยในการตัดสินใจ

สติปัญญาของคนคนเดียวมีจำกัด ลอร์ดที่ดีต้องเรียนรู้ที่จะใช้สติปัญญาจากคนของตน ไม่ต้องกล่าวถึงการดำเนินการอย่างเผด็จการ ที่มีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดความไม่พอใจ, จิตใจที่ปิดกั้นจะนำไปสู่ความไม่เต็มใจรับฟังความเห็นของผู้อื่น

เขายิ้มแล้วกล่าวว่า “สิ่งที่เจ้ากรมเทียนกล่าวนั้นสมเหตุสมผลมาก กองทัพและรัฐบาลจะต้องดำเนินการเป็นอิสระต่อกัน ข้าคิดจะก่อตั้งหน่วยรักษาความปลอดภัย แต่หลังจากฟังความเห็นของพวกท่าน การจัดตั้งฝ่ายพิเศษดูจะสมเหตุสมผลกว่า”

“หน่วยงานใหม่จะมีชื่อว่า ฝ่ายรักษาความปลอดภัย โดยรับผิดชอบการป้องกัน ปราบปราม และตรวจสอบอาชญากรรมเป็นหลัก เพื่อรักษาความสงบของดินแดน เพื่อจัดการจราจร เพื่อจัดการสินค้าอันตราย เพื่อป้องกันสถานที่สำคัญ และเพื่อป้องกันสิ่งอำนวยความสะดวกที่สำคัญ”

“การปกป้องสถานที่สำคัญ และสิ่งอำนวยความสะดวก พี่ใหม่หมายถึง สถานที่เช่นธนาคาร 4 สมุทร ใช่หรือไม่?” ขุ่ยหยิงหยูสนใจคำอธิบายในเรื่องนี้อย่างมาก มีสมบัติจำนวนมากอยู่ในธนาคาร แต่ตอนนี้กลับไม่มียามสำหรับพวกมัน เรื่องนี้ทำให้เธอกังวล

“ในตอนนี้ จะมีคฤหาสน์ของลอร์ด และธนาคาร 4 สมุทร ทั้ง 2 แห่งนี้จะมียามเฝ้าเป็นพิเศษ”

ในฐานะเจ้ากรมการบริการ ฟ่านจงหยานยังได้พิจารณาถึงการจัดตั้งฝ่ายดังกล่าว เขากล่าวว่า “ตามความหมายของนายท่าน งานของฝ่ายรักษาความปลอดภัยนั้นหนักมาก นอกเหนือจากหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั่วไปแล้ว พวกเขายังต้องรับผิดชอบการควบคุมสินค้าอันตรายและงานอื่นๆด้วย นายท่านมีแผนจะจัดการเช่นไรหรือ?”

“สำหรับพนักงาน ตอนนี้ข้าตั้งใจไว้ว่าให้มี 20 คน ทุกคนในฝ่ายต้องเป็นตำรวจหรือนักสืบ” โอหยางโชวตอบอย่างรวดเร็ว

“ยี่สิบคนหรือ? นี่นับเป็นฝ่ายขนาดใหญ่ ในปัจจุบัน เราไม่สามารถรับรองคนจำนวนมากขนาดนั้นในตฤหาสน์ได้ ข้าคิดว่าการตั้งสำนักงานพิเศษสำหรับฝ่ายรักษาความปลอดภัยจะเหมาะสมที่สุด” ขุ่ยหยิงหยูกล่าวด้วยรอยยิ้ม

โอหยางโชวพยักหน้า “ใช่, ข้าเห็นด้วยกับเจ้าในจุดนี้ ด้านหน้าจตุรัส ให้ก่อสร้างที่อยู่อาศัยเป็นสำนักงานสำหรับฝ่ายรักษาความปลอดภัย นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจะมีชุดเครื่องแบบ อาวุธ และเกียร์ เรื่องนี้ให้ฝ่ายคลังวัสดุจัดการ”

เทียนเหวินจิงพยักหย้าเขาไม่ได้มีปัญหาอะไรกับเรื่องนี้

เรื่องต่อไป คือ การจัดเตรียมบุคลากรที่สำคัญ ในตอนนี้ เจ้ากรมทั้ง 3 มีความสนใจกับคนที่จะรับหน้าที่นี้

ในเวลานั้นเอง เจ้าหน้าที่ดูแลแขกก็ตะโกนขึ้น “รายงานนายท่าน! อดีตทหารอาสาหลี่ไท่ มารายงานตัวตามคำสั่ง!”

ทุกคนประหลาดใจ

“ให้เขาเข้ามา!”

ชายวัยสามสิบเดินเข้ามาในสำนักงานของเขา โอหยางโชวทักทายเขา และบอกให้เขานั่งลง เขายิ้มให้กับหลี่ไท่ขณะที่แนะนำเขาให้กับเจ้ากรมทั้ง 3

หลี่ไท่เกษียนจากทหารเมื่อเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส ตอนนั้น ฟ่านจงหยานและเทียนเหวินจิงยังไม่ได้อยู่ในซานไห่ จึงเป็นเรื่องปกติที่เขาจะไม่รู้จักหลี่ไท่ แม้แต่ขุ่ยหยิงหยูก็ไม่ได้คุ้นเคยกับเขา

การเรียกของโอหยางโชวทำให้หลี่ไท่รู้สึกตื้นเต้นมาก เขาจำได้วันในการต่อสู้กับค่ายโจรครั้งแรก เขาและซ่งยี่ได้รับบาดเจ็บสาหัส และต้องเกษียนจากการเป็นทหาร

เมื่อพวกเขากำลังหดหู่ถึงขีดสุด โอหยางโชวก็มาเยี่ยมพวกเขาที่โรงหมอ ให้กำลังใจพวกเขา เขาบอกว่า เมื่อดินแดนยกระดับเป็นเมืองขนาดเล็กแล้ว เขาจะรับพวกเขาเข้าหน่วยรักษาความปลอดภัย เมื่อวันรุ่งขึ้นหลังการอัพเกรด เขาก็ได้หมายเรียกจากลอร์ดของเขา

โอหยางโชวยิ้ม “หลี่ไท่ คือ คนที่ข้าเสนอให้เป็นหัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัย นอกเหนือจากเขาแล้ว ยังมีซ่งยี่และเจ้ากุ้ย พวกเขาจะรับผิดชอบในการจัดตั้งฝ่ายรักษาความปลอดภัย”

เจ้ากุ้ยได้รับบาดเจ็บสาหัสในการต่อสู้ครั้งที่ 2 เขาถูกบังคับให้เกษียนจากการเป็นทหาร หูซ้ายของเขาถูกตัดออก ส่วนคนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 3 คน พวกเขากลายเป็นคนพิการอย่างแท้จริง และไม่สามารถใช้งานในความมั่นคงได้อีกต่อไป

พูดแล้วก็ดูแปลก คนที่โอหยางโชวแนะนำ หลี่ไท่เป็นคนตาบอด ซ่งยี่ถูกตัดนิ้ว 2 นิ้ว และเจ้ากุ้ยหูขาด 1 ข้าง ไม่มีใครสมบูรณ์เลย

ประวัติศาสตร์มักเป็นเรื่องตลก ทั้ง 3 คน ที่ได้รับบาดเจ็บในตอนนี้ เมื่อถึงปีต่อไป พวกเขาจะนำฝ่ายรักษาความปลอดภัยไปสู่ชื่อเสียงอันโด่งดัง หลี่ไท่จะเป็นที่รู้จัก ในฐานะนักสืบตาเดียว, ซ่งยี่จะเป็นที่รู็จัก ในฐานะนักสืบมือเหล็ก และเจ้ากุ้ยจะเป็นที่รู้จักในฐานะ นักสืบหูเดียว พวกเขาจะกลายเป็น 3 เทพ ของนักสืบในดินแดน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด