Chapter 60: สุนัขกลายพันธุ์
เมื่อเห็นสุนัขกลายพันธุ์นั้นเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ชายหนุ่มที่มีกล้ามนั้นก็ไม่สามารถที่จะต่อต้านได้อีกต่อไป เขาตะโกน “วิ่ง” และยิงปืนอย่างสิ้นหวังไปที่สุนัข
“วู้ชชชช”
เขานั้นเลี้ยวรถSUVทันที ปืนกลเบาที่อยู่บนดาดฟ้าก็เลี้ยวเช่นกันแต่ ปากกระบอกปืนนั้นก็ยังไล่ตามสุนัขกลายพันธุ์อยู่ดี และก็ยิงมันอย่างเมามัน
อย่างไรก็ตาม การเลี้ยวนั้นเร็วเกินไปซึ่งทำให้ด้านหนึ่งของรถนั้นลอยขึ้นมาจากพื้น
“หยางฉิงฉิง!” ชายหนุ่มที่มีกล้ามเนื้อนั้นกรีดร้อง สุนัขกลายพันธุ์นั้นรวดเร็วมาก มันเป็นเรื่องยากที่แท้จริงที่จะหลบหนีมัน เขานั้นสิ้นหวังจนจำเป็นต้องให้รถ SUV อีกคันช่วยเหลือเขา
ในรถSUV อีกคันหนึ่ง หยางฉิงฉิงนั้นเต็มไปด้วยความอ่อนเพลีย สุนัขกลายพันธุ์นั้นเป็นสัตว์ร้ายที่กลายพันธุ์ที่น่าหวาดกลัวเท่าที่เธอเคยเจอมา มันเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมากสำหรับเธอที่จะกระโดดไปที่ด้านหลังของสัตว์ร้ายหรือไม่ก็ไปรอบของๆมัน แค่เพียงขนาดของมันก็ทำให้เธอนั้นหวาดหวั่นแล้ว มันพุ่งอย่างบ้าคลั่ง ถ้าเธอนั้นถูกชนโดยมัน เธอจะได้รับบาดเจ็บอันสาหัสอย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น ความว่องไวของมันนั้นมันมากเกินไป แม้ว่าหยางฉิงฉิงนั้นจะเร็ว แต่เมื่อเปรียบเทียบกับสุนัขกลายพันธุ์แล้ว เธอนั้นอ่อนแอกว่ามันอย่างแน่นอน เพียงแค่โดนมัน ‘ข่วน’ โดยกรงเล็บที่คมกริบของมัน กรณีที่ดีที่สุดของมันก็คือความตายที่รวดเร็วที่สุด
เมื่อได้ยินชายหนุ่มที่มีกล้ามร้องขอความช่วยเหลือ หยางฉิงฉิงก็ขับรถเข้าไปใกล้ๆโดยสัญชาตญาณ แต่เธอก็ยังคงลังเลที่จะช่วยเหลือเขา สุนัขกลายพันธุ์นั้นห่างจากเธอเพียงห้าสิบเมตร และเมื่อเห็นร่างกายของมัน เธอก็เหมือนกับว่าความแข็งแกร่งของเธอนั้นหมดลง
“วู้ชชชชช!’
ในทันทีนั้น รถมินิบัสซึ่งอยู่ด้านหลังพวกเขา ก็เปลี่ยนตำแหน่งกับรถของหยางฉิงฉิง
[เจียงจู้อิงกำลังทำมัน] หยางฉิงฉิงคิด เธอนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องทำอะไรในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ แต่ในตอนนี้เธอจะต้องทำมัน
ถ้าการต่อสู้ทั้งหมดนั้นจำเป็นต้องให้เจียงจู้อิงสู้ ถ้าอย่างนั้น เธอจะมีพวกเขาไว้ทำไม? เจียงจู้อิงนั้นกลายเป็นผู้นำไม่ใช่เพียงแค่ความสามารถในการรับผิดชอบ แต่ก็เพราะว่าเธอนั้นแข็งแกร่งที่สุด และเป็นความหวังของพวกเขา ในช่วงเวลาสำคัญแล้ว เธอนั้นคือความหวังในการเอาชีวิตรอดของพวกเธอ
หยางฉิงฉิงนั้นจ้องไปยังที่นั่งผู้โดยสาร เพียงแค่เธอนั้นคิดเกี่ยวกับเจียงจู้อิงนั่งอยู่ที่นั่ง ในมุมมองของเธอนั้น เจียงจู้อิงนั้นดึงดูดความสนใจของผู้คนมาเสมอๆ และทุกคนนั้นเชื่อฟังต่อเธอ
หยางฉิงฉิงนั้นอิจฉามัน และเธอจึงเกลียดเจียงลู่ฉี เมื่อเขานั้นได้รับสิทธิพิเศษที่เขาไม่ควรที่จะมีมัน เธอนั้นยังคงอิจฉาความสามารถที่เก่งกาจของเจียงจู้อิงและเธอรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมเลยที่เจียงจู้อิงนั้นได้รับพลังที่น่ามหัศจรรย์แบบนี้
อย่างไรก็ตาม เธอนั้นก็ยอมรับความสามารถของเจียงจู้อิง มันมีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างเธอและเจียงจู้อิง ดังนั้นมันไม่สำคัญหรอกว่าเธอนั้นไม่โอเคกับมันอย่างไร เธอก็ต้องยอมรับว่าเธอนั้นไม่สามารถที่จะไล่ตามเจียงจู้อิงได้
เมื่อเห็นเจียงจู้อิงจะเริ่มช่วยเหลือเขาก่อนเธอ หยางฉิงฉิงนั้นรู้สึกขมขื่น เธอนั้นหวาดกลัวเป็นอย่างมาก เธอรู้ว่าเจียงจู้อิงนั้นสังเกตเห็นถึงความลังเลของเธอและตัดสินใจที่จะต่อสู้ด้วยตัวของเธอเอง แต่เธอนั้นประหลาดใจเมื่อเจียงจู้อิงนั้นไม่ได้เปิดหน้าต่างเลย แต่รถมินิบัสนั้นก็ยังพุ่งไปหาสุนัขกลายพันธุ์อย่างตรงๆ
[เธอกำลังทำอะไรอยู่นะ?] ก่อนที่ผู้รอดชีวิตทั้งหมดนั้นจะตระหนักถึงว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ในช่วงพริบตานั้น รถมินิบัสก็ปะทะกับสุนัขกลายพันธุ์
“ปัง!”
พวกเขานั้นมึนงงกันทั้งหมด! การปะทะนั้นเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ถูกต้อง ดังนั้นผู้คนที่อยู่บนรถ SUV และรถSUV นั้นสามารถที่จะหนีและเอาชีวิตรอดได้
พวกเขาคิดว่ารถมินิบัสนั้นพุ่งชนเข้ากับสุนัขกลายพันธุ์ ซึ่งทำให้พวกเขานั้นรอดมาได้ และหลังจากนั้นมันก็ถึงเวลาของเจียงจู้อิงที่จะทำอะไรบางอย่างแล้ว
ชายหนุ่มที่มีกล้ามนั้นไม่มีเวลาที่จะปาดเหงื่อของเขา เขานั้นส่งคนขับ “ขับกลับไปได้แล้ว พวกเราจำเป็นจะต้องไปนำพี่ชายของหัวหน้ามาด้วย รถมินิบัสนั้นคงได้รับความเสียหายที่รุนแรงเกินไปจนไม่สามารถซ่อมได้”
[หัวหน้านั้นกำลังจะไปสู้กับสุนัขกลายพันธุ์ พี่ชายของเธอนั้นเป็นแค่คนธรรมดา ดังนั้นถ้าเขานั้นอยู่ตรงนั้นเขาจะบาดเจ็บได้อย่างงายดายและทำให้หัวหน้านั้นทำให้วอกแวก หัวหน้านั้นคงรู้สึกแบบเดียวกัน ดังนั้นพวกเราจะต้องไปช่วยเหลือเขา]
ในทางตรงกันข้ามที่พวกเขาคาดไว้ รถมินิบัสนั้นโยกเยกไปมา มันถอยหลังและหลังจากนั้นก็เร่งความเร็วขึ้น พุ่งเข้าหาสุนัขกลายพันธุ์อีกครั้ง ในครั้งนี้สุนัขนั้นได้กระโดดหลบไปด้านข้าง ดังนั้นรถมินิบัสจึงชนพลาด
ผู้คนนั้นตกตะลึงเกี่ยวกับมัน แต่มันไม่ใช่เรื่องที่พลาด มันคือเรื่องที่ว่ารถมินิบัสยังสามารถที่จะขยับต่อได้!
การชนกันนั้นทำให้สุนัขกลายพันธุ์ได้รับบาดเจ็บ สัตว์ร้ายที่บ้าคลั่งและน่าหวาดกลัวนั้นคำรามอย่างหนักแน่น มันได้เปลี่ยนการโฟกัสจากรถSUV กลายเป็นรถมินิบัส สุนัขนั้นไม่ได้รับบาดแผลรุนแรงกับกระสุนปืนที่โดนยิงในตอนแรก แต่มีเพียงแค่มันมีความเสียหายเล็กน้อยบนร่างกายของมัน และอย่างอื่นของมันนั้นก็สีมันผ่านไป
อย่างไรก็ตาม รถมินิบัสก็พุ่งกระแทกไปตรงนั้น และความเร็วของมันก็ไม่มีทางที่มันจะช้า ดังนั้นสุนัขนั้นสั่นอย่างเลวร้ายและมันเจ็บเป็นอย่างมาก
เจียงลู่ฉีนั้นไม่ได้หยุดที่จะโจมตีต่อไป เขานั้นถอยรถกลับมาหลายเมตร ซึ่งเป็นด้วยเสียงอันดังกึกก้อง รถมินิบัสก็พุ่งเข้าไปหาสุนัขอีกรอบหนึ่ง รถนั้นได้เลี้ยวเพื่อที่จะชนสุนัขนั้น ในช่วงกระบวนการนี้ ซอมบี้จำนวนมากนั้นถูกชนเหมือนกับเป็นแมลงวัน และมันก็ตายไป ผู้รอดชีวิตนั้นตกตะลึง ฉากทั้งหมดนี้มันดุร้ายเกินไป!
รถมินิบัสนั้นยังคงเหมือนเดิม แม้แต่ด้านหน้าของมันก็ไม่มีร่องรอยความเสียหายเลย ผู้รอดชีวิตนั้นไม่รู้ว่า เมื่อเจียงลู่ฉีสู้กับหมูป่ากลายพันธุ์แล้ว รถมินิบัสนั้นมีสภาพรถที่เลวร้ายมาก หมูป่ากลายพันธุ์นั้นมีความสามารถที่ทรงพลังอย่างมาก และมันเป็นเรื่องที่ง่ายมากสำหรับมันที่จะทนต่อพลังของรถมินิบัส อย่างไรก็ตาม สุนัขกลายพันธุ์นั้นคล่องตัวกว่ามาก มันไม่ได้ทรงพลังเท่ากับหมูป่ากลายพันธุ์ ดังนั้นมันไม่สามารถที่จะปะทะเข้ากับรถมินิบัสได้หลายครั้ง แต่เล็บที่แหลมคมและฟันของมันได้พิสูจน์มาแล้วว่าโหดร้ายแค่ไหน
มากยิ่งไปกว่านั้น ก่อนที่มายังเมืองหนานจิงนั้น รถMCV ของเขาได้ดูดซับพลังงานกลายพันธุ์มาแล้วซึ่งมันได้มาจากพลังที่กระจัดกระจายของพี่ชายหยู่หลังจากที่เขาตายลง แต่พลังงานนี้มันไม่เพียงพอ มันสามารถที่จะทำได้เพียงแค่พัฒนาการป้องกันของรถMCV เท่านั้น ดังนั้นความสามารถในการป้องกันของมันนั้นแข็งแกร่งกว่าแต่ก่อน
ความสามารถในการเลี้ยวด้วยความเร็วสูงสุดของรถมินิบัสและความสามารถเร่งความเร็วได้อย่างฉับพลันนั้นสามารถที่จะเป็นคู่แข่งกับรถสปอร์ตได้เลย เสียงคำรามของเครื่องยนต์นั้นยังดังกึกก้องไปในหูของทุกผู้คน รถคันนี้มันเหมือนกับรถมินิบัสโทรมๆ แต่จริงๆแล้วมันยืดหยุ่นเป็นอย่างมาก
“เชี่..!” เจียงลู่ฉีนั้นไม่มีเวลามากังวลใจกับความประหลาดใจของทุกคน
สุนัขกลายพันธุ์นั้นคล่องแคล่วมาก เขานั้นสำเร็จในการชนมันเพียงแค่ครั้งเดียว เนื่องจากเขานั้นทำมันโดยที่มันไม่ได้คาดคิด และทำมันในช่วงเวลาที่น่าประหลาดใจ แต่หลังจากนั้น เนื่องจากรถSUV นั้นอยู่ต่อไปจากสุนัขกลายพันธุ์ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่เสี่ยงมากที่จะใช้ปืนใหญ่สุญญากาศต่อหน้าพวกเขา แต่ความสามารถในการ ‘ปะทะ’ และ ‘เร่งความเร็วอย่างฉับพลัน’ ยังสามารถที่จะใช้งานได้อยู่
แม้มันจะมีขนาดใหญ่และความป้องกันที่แข็งแกร่งก็ตามที สุนัขกลายพันธุ์นั้นภายใต้การชนโดยน้ำหนักที่มาก มันก็สามารถที่จะได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงได้ และเพียงการปะทะอีกไม่กี่ครั้งมันก็จะทำให้ความสามารถในการป้องกันนั้นอ่อนแอลงได้
ในส่วนของรถSUV ที่เจียงลู่ฉีทำไปนั้นไม่ได้เพื่อช่วยเหลือ เขาเพียงแค่เห็นโอกาสที่จะพุ่งชนสุนัขนั่น ยิ่งไปกว่านั้น ในช่วงเวลาที่สุนัขกลายพันธุ์นั้นปรากฏตัว เขานั้นรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้น
ถึงแม้ว่าเจียงลู่ฉีนั้นจะกังวลเกี่ยวกับความสามารถอันน่าหวาดหวั่นของสุนัขกลายพันธุ์ก็ตามที มันก็เป็นโอกาสที่ดี หรือไม่ก็ “โชคดี” สำหรับเขาที่ได้พบกับสัตว์ป่ากลายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว
เขานั้นมีนิวเคลียสกลายพันธุ์อยู่แล้วชิ้นหนึ่ง และสำหรับสุนัขกลายพันธุ์นั้นก็จะกลายเป็นนิวเคลียสชิ้นที่สองให้แก่เขา เขานั้นเตรียมพร้อมที่จะเอามันมา แน่นอนว่า มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะฆ่าสุนัขกลายพันธุ์เลย
เพียงแค่หลังจากนั้น จางไฮ่ก็ขับรถFreezerและพุ่งเข้าไปยังใกล้ๆ เมื่อรับชมเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขานั้นตกตะลึงและกรีดร้อง “เชี่...เอ้ย! สุดยอด! แม่งโคตรสุดยอดเลย!”
[มันไม่ใช่เพียงแค่เป็น “บ้านเคลื่อนที่” มันก็ยังเป็นรถหุ้มเกราะอีก!]
เจียงลู่ฉีนั้นจดจ่อ ตาของเขานั้นมีเพียงแค่สุนัขกลายพันธุ์ ..... ทุกครั้งที่เขาหันพวงมาลัย ทิศทางและมุมของเขานั้นได้อย่างถูกต้องนั้นทำให้จางไฮ่นั้นตกใจ
[นี่มัน คนขับรถที่แม่งโคตรสุดยอดเลยโว้ย!]
แต่จางไฮ่นั้นไม่รู้ว่าเจียงลูฉี่นั้นเป็นไก่อ่อนเมื่อเป็นเกี่ยวกับการขับรถ เขานั้นไม่มีแม้แต่ใบขับขี่ด้วยซ้ำ
ความแม่นยำและความคล่องแคล่วของเขานั้นได้ผลลัพธ์มาจากการคำนวณของเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวและการแนะนำของมัน
จางไฮ่นั้นไม่ได้เพียงแค่ขับรถกลับไปและเฝ้าดูการต่อสู้ ในรถของเขานั้น คนที่มีพลังเหนือธรรมชาตินั้นโผล่ออกมาและโจมตีเมื่อสุนัขกลายพันธุ์นั้นหลบรถมินิบัส เขานั้นเด้งตัวออกมาและติดอยู่กับหอกของเขา สุนัขนั้นดึงดูดความสนใจกับการโจมตีของหอกนั่น
“ปัง!”
รถมินิบัสนั้นพุ่งชนอย่างรุนแรงที่สุนัขอีกครั้ง.....
