ตอนที่แล้วบทที่ 7 สัญลักษณ์แห่งมังกร!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 9 ทักษะดาบอัสนี!

บทที่ 8 ความอัปยศ!


 

ศิษย์ระดับสูงผู้นี้นั้นรูปร่างสันทัดมีกล้ามเนื้อทั่วทั้งร่างกาย อายุประปาณ 15 ถึ 16 ปี ดูสง่างาม เขาเตะลงไปที่เข่าของซ่งหยูอย่างแรง และความแข็งแกร่งของเขานั้นสามารถที่จะตัดต้นไม้ให้ขาดครึ่งได้ในพริบตา!

"พลั๊ก!"

หลังจากเสียงการเตะที่เข่าเสียงดัง พลั๊ก! ซ่งหยูก็ล้มทั้งยืนจนเข่าเกือบจะแตะพื้น ในเวลาเดียวกันที่น้ำหนักจากเสาหินทั้งสองท่อนก็เพิ่มแรงกดดันเขาให้ยิ่งหนักขึ้น ทำให้เขาต้องแบกรับน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้น!

"ผู้มีนามว่าเทียน? จากตระกูลเทียนเฟิง?แท้จริงนั้นเขาคือผู้ประเมินที่มีนามว่าเทียน จากห้องโถงไร้หมอกนี่เอง!"

ซ่งหยูเข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งในหมดทันที! ตระกูลเทียนเฟิงนั้นมีอิทธิพลมากภายในนิกายฯ นักบ่มเพาะขั้นสูงสุดนามว่าเทียนนั้น เป็นผู้ปกครองห้องโถงไร้หมอกด้านนอก และนั่นก็หมายความว่าเขาสามารถใช้อิทธิพลในการมอบอภิสิทธิ์สำหรับศิษย์ของตน...

เนื่องจากเหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นระหว่างการประเมินของซ่งหยูในห้องโถงไร้หมอกเมื่อไม่นานมานี้ ซูเซี่ยงเฉิงผู้ที่ต้องการเรียกร้องความเป็นธรรมแก่ศิษย์นอกที่มาจากครอบครัวที่ยากจน และนั่นก็คือเหตุผลที่เขาเอ่ยปากท้าทายผู้อาวุโสเทียน และเกิดการณ์ต่อสู้กันขึ้น ......

เหตุการณ์นี้เริ่มต้นขึ้นโดยซ่งหยู และจบลงด้วยการที่ผู้อาวุโสเทียนได้สูญเสียการอำนาจห้องโถงไร้หมอก ทำให้เกิดบันดาลโทสะ และเกิดการต่อสู้กันในที่สุด!

"เสาสัญลักษณ์ของข้านี้ ถูกแกะสลักไว้เหนือเสามีน้ำหนักเทียบเท่าภูเขาทั้งลูก ข้าจะลองดูว่าเจ้าจะสามารถอดทนต่อแรงกดดันของมันได้หรือไม่?"

ศิษย์ระดับสูงผู้นั้นไม่สามารถซ่อนความประหลาดใจของเขาได้ เมื่อเขาเห็นซ่งหยูยังคงยืนได้หลังจากถูกเตะที่เข่าเข้าอย่างแรง!

และยกย่องเขาว่า "ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเจ้าสามารถผ่านการประเมินมาด้วยพละกำลังเพียงอย่างเดียว! และเจ้าก็จะทรมารมากขึ้น หากเจ้าต่อต้านมัน แค่เจ้าเชื่อฟังข้า คุกเข่าลงรอที่นี่สักสองสามชั่วยาม และหลังจากนี้อาจารย์ข้าคงจะยกโทษให้เจ้าเอง!"

"พั๊วะ!"

เขาเตะเข้าไปที่เข่าซ่งหยูอีกครั้ง และกล่าวด้วยเสียงหัวเราะว่า"เจ้าจะต้องทุกทรมารมากขึ้นกว่านี้แน่! ฮ่า! ฮ่า!"

ขาของซ่งหยูเริ่มงอมากขึ้น หลังจาถูกเตะเข้าที่เข่าอย่างจังอีกครั้ง! และความกดดันจากเสาทั้งสองมันยิ่งทำให้เขาต้องแบกรับแรงกดดันที่เพิ่มมากขึ้น!

เจ้าคงสังสัยว่าเหตุใดแล้วเจ้าจึงหามีผู้ฝึกสอนคนใดมารับตัวใช่หรือไม่? หลังจากที่ซ่งหยูถูกเตะลงที่เข่าเข้าอย่างจังอีกครั้ง ทำให้เหล่าจำนวนเหล่าศิษย์ที่เพิ่มมากขึ้นที่กำลังห้อมล้อมมุงดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งเกี่ยวแม้แต่น้อย!

หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น เหล่าศิษย์หลายคนต่างก็พากันเดินมายังหน้าลานฝึก และสถานที่นี้ก็เต็มไปด้วยกิจกรรม แต่เหล่าศิษย์ส่วนใหญ่ก็สังเกตมาจากไกลๆ ถึงเหตการณ์ที่เกิดขึ้นโดยไม่มีใครกล้าเข้ามาแทรกแซง

และนั่นเป็นเพราะอิทธิพลของผู้อาวุโสเทียน เหตุที่ต้องเสียหน้าในห้องโถงไร้หมอกนั้น ทำให้ผู้บ่มเพาะขั้นสูงสุดคนอื่นๆ ไม่กล้าพอที่จะยอมรับซ่งหยูเป็นศิษย์นั่นเอง!!

ซ่งหยูถูกบังคับให้คุกเข่าลงบนขาข้างหนึ่งด้วยมือของเขาที่ยันพื้นดินเอาไว้ เพื่อไม่ให้เข่าแตะถึงพื้น บนหน้าผากของเขามีเลือดไหลซึมออกมา เนื่องจากความหนักอึ้งที่เขาต้องแบกรับแรงกดดันมาเป็นเวลานาน...

เขาไม่มีใครกล้ารับเขาเข้าเป็นศิษย์ หรือว่าเส้นทางของเขาจะสิ้นสุดลงเพียงเท่านี้ และเขาจะไม่มีวันสำเร็จขั้นสูงสุดเช่นนั้นหรือ?

ศิษย์คนนั้นได้เตะลงไปที่เข่าซ่งหยูอีกครั้งอย่างต่อเนื่อง และกล่าวพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปาก" ตระกูลเทียนเฟิงนั้นสูงกว่าที่จะยอมรับเจ้าเป็นศิษย์ได้ พวกเขาเหล่านั้นปฏิเสธที่จะรับเจ้า เพราะตระกูลเทียนเฟิงนั้นจะพิจารณาเฉพาะมีคุณสมบัติที่โดดเด่นสุดเท่านั้น ณ ตอนนี้ไม่มีโอกาสที่จะให้เจ้า ซึ่งเป็นผู้กระทำผิดอีกต่อไป! วันนี้สิ่งที่เจ้าต้องทำคือ คุกเข่าและสำนึกผิดที่นี่ หากเจ้าฉลาดพอก็ควรแบกความอัปยศของเจ้าออกไปจากที่นี่เสีย!

เหล่าศิษย์หลาย ๆ คนบนลานส่ายหัวของพวกเขาขณะที่พวกเขาได้เห็นเหตุการณ์ ศิษย์หญิงคนหนึ่งส่ายหัวและกล่าวว่า " พวกตระกูลเทียนเฟิงนั้นเป็นหนึ่งในสิบอันดับแรกของชนเผ่าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในแถบนี้ก็ว่าได้

จากเหตุการณ์ในห้องโถงไร้หมอกวันนั้นทำให้พวกเขารู้สึกสูญเสียอำนาจและเสียหน้ามาก ข้าเเกรงว่าเขาอาจจะถูกขับออกจากนิกายฯ"

"เกิดอะไรขึ้น?" บางคนก็ไม่รู้เรื่องทั้งหมด และถามด้วยเสียงที่เงียบ

"ข้าได้ยินมาว่าเมื่อหลายวันก่อนอาจารย์ซู ต่อสู้กับผู้อาวุโสเทียน เพราะศิษย์จากตระกูลซ่ง ผู้อาวุโสเทียนเจ็บหนัก และอาจารย์ซูก็ได้สิทธิ์ในการควบคุมห้องโถงไร้หมอก พวกตระกูลเทียนเฟิงนั้นคงไม่พอใจ และหาเรื่องกดดันอาจารย์ซูจึงทำให้เกิดเรื่องเช่นนี้เป็นแน่!"

"ท่านอาจารย์ซูนั้นเป็นผู้สำเร็จการบ่มเพาะขั้นสูงที่มีชื่อเสียงที่สุดในเหล่าศิษย์ในของนิกายฯ และมีผู้อาวุโสของนิกายหลายคนต่างสนับสนุนเขา ดังนั้นพวกตระกูลเทียนเฟิงจึงมิสามารถทำอะไรเขาได้ แต่ชายตระกูลซ่งผู้นั้นหามีใครสนับสนุนเขาไม่! ข้าคิดว่าเรื่องมันคงไม่จบแค่นี้เป็นแน่!

"มิเพียงแต่ปัญหาที่จะตามมาเท่านั้น! แต่วันนี้ผู้อาวุโสเทียนก็มาที่นี่ด้วยเช่นกัน ในนามอาจารย์ผู้ฝึกสอน หรือไม่ก็อาจจะมาที่นี่เพื่อรอดูว่าชายตระกูลซ่งจะเป็นอย่างไร?"

ซ่งหยูครางในลำคอเงียบๆ "อ๊ากกกกก! และมองไปยังลานฝึกเพื่อดูว่าผู้อาวุโสเทียนกำลังนั่งอยู่ที่นั่น และมองย้อนกลับมาด้วยความรู้สึกที่ท้อแท้!

ทันใดนั้นราวกับว่ามีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นภายในใจของเขา ความอับอาย ความโกรธ และไม่มีใครให้การสนับสนุน ความรู้สึกท้อแท้ทั้งหลายก็สุมเข้ามาภายในจิตใจเขา!

"ตระกูลเทียนเฟิง ... "ตะโกนด้วยความคับแค้นใจ

ทันใดนั้นก็มีเสียงออกมาจากร่างกายของเขา และกระดูกของเขาก็สั่นสะเทือนราวกับแผ่นดินไหว จิตวิญญาณที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าไหลเป็นระลอกคลื่นออกมาจากระหว่างคิ้วของเขา ปารกฏเป็นกรงเล็บคู่ของมังกร และเขาก็กลายร่างเป็นมังกรในที่สุด!

"กรรรรรรร-!"

เสียงมังกรที่คำรามดังกังวานไปทั่วอย่างต่อเนื่องและชัดเจนยิ่งขึ้น ความขุ่นเคืองที่เกิดขึ้นภายในใจของ

ซ่งหยูนั้น ก็ยิ่งกลายร่างเป็นตัวตนที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น จากนั้นเขาก็ค่อยๆ ลุกขึ้นในขณะที่ต้องต่อต้านกับแรงกดดันของเสาหินทั้งสอง!

ราวกับว่ามังกรกำลังเคลื่อนไหวอยู่เหนือร่างกายของเขาอย่างเกรี้ยวกราด!............

ศิษย์ระดับสูงผู้นั้นถึงกับตกใจ ขณะที่เขาท่องบางอย่างไปที่เสาแกะสลัก และทันใดนั้นเสาทั้งสองท่อนก็กลายเป็นภูเขาขนาดใหญ่ ที่มีรูปร่างคล้ายกระดองเต่ากระแทกกดทับลงมาบนร่างของซ่งหยู!

ศิษย์ของผู้อาวุโสเทียนเพิ่มแรงผลักดันให้เสาทั้งสองท่อนกดทับร่างมังกรของซ่งหยู! เพื่อหยุดยั้งการเคลื่อนไหวของมังกรภายในร่างของซ่งหยู!

"ตระกูลเทียนเฟิง ... "เขาตะโกนด้วยความคับแค้นใจ

ซ่งหยูตะโกนเสียงดังด้วยความโกรธ เมื่อเขาค่อยๆ ลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ แม้จะมีแรงกดดันจากภูเขาทั้ง 2 ลูกก็ตาม รัศมีของความเกรี้ยวกราดดังไปทั่วด้วยเสียงคำราม จากนั้นหัวมังกรก็โผล่ขึ้นมาจากหลังของซ่งหยู

ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่สุดของมังกร! มังกรยกหัวขึ้นอย่างช้าๆ และดวงตาของมันก็สะท้อนแสงระยิบระยับราวกับลูกแก้วที่โดนไฟส่อง ในขณะที่กรงเล็บของมันล็อคไว้กับไหล่ของเขาอย่างน่าเกรงขาม!

ซ่งหยูดันตัวและยืนขึ้น รองเท้าฟางของเขาถูกบดขยี้เป็นชิ้น ๆ เขายกขาที่แข็งกระด้างขึ้นบนพื้น

การเหยียบทำให้พื้นดินสั่นสะเทือน และทันใดนั้น! ด้วยพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ ภูเขาทั้งสองลูกก็ถูกระเบิดกระจายเป็นเศษก้อนกรวดลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าเสียงดังกึกก้องไปทั่ว!

ศิษย์ของผู้อาวุโสเทียนคับแค้นใจยิ่ง นักเมื่อเห็นภูเขาทั้งสองลูกนั้นถูกระเบิดออกกระจัดกระจายไปทั่ว ด้วยพละกำลังมหาศาลของมังกร เขาไม่สามารถหยุดยั้งซ่งหยูได้อีกต่อไป และทั้งหมดมันก็ถูกทำลายโดยมังกรในร่างของซ่งหยู!......

"เจ้าคนน่ารังเกียจเทียนเฟิงเจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครกัน!?"ซ่งหยูคำรามในร่างมังกร

ศิษย์ของผู้อาวุโสเทียนเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก ขณะที่ซ่งหยูกวาดขาของเขาที่ถูกล้อมรอบไปด้วยร่างของมังกรที่พันอยู่รอบขาของเขา ซึ่งมันแข็งแกร่งและทรงพลังยิ่ง!

เนื่องจากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ศิษย์ผู้นั้นได้เตะไปที่เข่าทั้งคู่ของซ่งหยู และจากการระเบิดของมังกรในร่างซ่งหยูนั้น ภูเขาทั้งสองลูกกลายเป็นจุล ทำให้เสาสัญลักษณ์ทั้งคู่พังทลายในทันที และในขณะที่ศิษย์ชั้นสูงผู้นั้นตามมาเพื่อหาโอกาสโจมตีซ่งหยูอีกครั้ง ซ่งหยูที่รอหาโอกาสอยู่นานก็เตะกลับเข้าอย่างแรงโดยที่เขาไม่อาจที่จะหลบหลีกได้ทัน!

ความแรงที่ซ่อนอยู่ในการเตะนั้น และมีความแข็งแกร่งที่ซ่อนอยู่อย่างไม่น่าเชื่อ !

หลังจากที่ซ่งหยูเตะโดนศิษย์ระดับสูงผู้นั้นเข้าอย่างจังพร้อมกับเสียงระเบิดที่ดังขึ้น ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนไปทั่วบริเวณ และภาพเงาของร่างหนึ่งที่ถูกส่งด้วยแรงเตะ ก็กระแทกเข้ากับประตูและหน้าต่างของลานฝึกอย่างแรง ทำให้ประตูและหน้าต่างเหล่านั้นแตกเป็นชิ้น ๆ !

ร่างกายเขาสูญเสียการควบคุม เขารวบรวมพลังที่เหลือกระโดดกลางอากาศ เพื่อมุ่งตรงไปยังผู้อาวุโสเทียน และคุกเข่าลงตรงหน้า ไม่เพียงแค่นั้นพื้นดินรอบ ๆ ตัวเขาก็เต็มไปด้วยเลือดซึ่งไหลนองออกมาจากหัวเข่า!

เหล่าของศิษย์ผู้อาวุโสเทียนต่างจ้องมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้แต่ผู้อาวุโสเทียนก็ยังตกตะลึงกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า.....

เหล่าศิษย์คนอื่นๆ ที่ยืนอยู่นอกลานฝึกก็จ้องมองเหตุการณ์อย่างตื่นตระหนก พวกเขาเชื่อว่าซ่งหยูต้องถูกลงโทษอย่างหนัก และคุกเข่าเป็นเวลาหลายชั่วยาม และหลังจากนั้นก็จะกดดันให้เขาออกจากนิกายด้วยความอับอาย!

เนื่องจากซ่งหยูเพิ่งเข้ามาบนลานฝึกแห่งนี้ และวิชาการบ่มเพาะของเขาคงแค่ระดับพื้นฐาน ซึ่งต่างจากศิษย์ระดับสูงผู้นั้น ที่อยู่ที่นี่มาเป็นระยะเวลานาน ระดับการบ่มเพาะเขาน่าจะสูงกว่าซ่งหยูเป็นแน่....

นอกจากนี้ซ่งหยูไม่มีอะไรที่จะเทียบกับเขาได้เลย และเขายังมีเสาสัญลักษณฯที่ใครๆก็พากันย่ำเกรง...

-------------------------------------------------

แต่อย่างไรก็ตาม! ตอนนี้ซ่งหยูได้ส่งให้ศิษย์ผู้อาวุโสเทียนผู้นั้นบินด้วยการเตะเพียงครั้งเดียว! และทำให้เสาสัญลักษณ์ฯ ของเขาแตกหัก และได้รับบาดเจ็บไม้น้อยด้วยการเตะที่ทรงพลังของซ่งหยู

ซ่งหยูดึงขากลับขึ้น และปัดฝุ่นบนเสื้อขนสัตว์สัตว์ของเขา และจ้องมองไปที่ลานฝึกเพียงเพื่อ

มองดูผู้อาวุโสเทียนที่กำลังจ้องมองกลับมาที่เขาเช่นกันด้วยใบหน้าที่มืดมน!

ศิษย์ผู้นั้นคุกเข่าอยู่ตรงหน้าด้วยความรู้สึกอับอายและโกรธแค้น เขาพยายามที่จะลุกขึ้น แต่ด้วยอาการบาดเจ็บทำให้เขาต้องทนอยู่ในท่าเดิม.....

ด้วยความแรงของการเตะของซ่งหยู จะร้ายกาจสักเพียงใด? และว่าเขาจะมีระดับการบ่มเพาะอยู่ในระดับ

ที่สูงกว่าซ่งหยู และได้เข้านิกายเร็วกว่า ยังถูกซ่งหยูเอาคืนหนักขนาดนี้ ในขณะนี้กล้ามเนื้อขาเส้นประสาทและกระดูกของเขาสั่นไหวด้วยอาการเจ็บปวดอย่างยิ่ง และการบาดเจ็บในขณะนี้ทำให้เขาไม่สามารถรวบรวมพลังได้ ทำได้เพียงนั่งคุกเข่าอยู่ท่าเดิมเท่านั้น!

"พละกำลังที่มหาศาลของมัน!"

เขารู้สึกรู้สึกโกรธมาก ทันใดนั้น ก็ปรากฏดาบที่แหลมคมที่มีภาพแกะสลักอันงดงามก็ลอยขึ้นกลางอากาศ

มันเป็นอาวุธจิตวิญญาณของเขา!.....

โดยไม่ลังเลใด ๆ ศิษย์ผู้นั้นใช้อาวุธจิตวิญญาณของเขาหวังเอาคืนซ่งหยู ในขณะที่ดาบพุ่งตรงไปครึ่งทางในอากาศแล้วมันก็กระจายตัวแยกออกเป็นดาบหลายร้อยเล่ม ส่องประกายด้วยแสงสีขาว กำลังพุ่งตรงไปยังซ่งหยู!

ด้วยแสงของดาบนั้นเป็นที่แน่ชัดว่ามันเป็นเทคนิคที่ร้ายแรงและขั้นสูงของนิกายฯ ซ่งหยูสามารถมองเห็นคลื่นแสงสีขาวที่กำลังส่งรัศมีความโกรธแค้นกำลังยิงตรงมาที่ตัวเขา!

นับว่าเป็นข้อดีของการสำเร็จวิชาขั้นสูงของนิกาย ถึงแม้ว่าตอนนี้ซ่งหยูจะประสบความสำเร็จในระดับเดียวกันกับศิษย์ระดับสูงผู้นี้ หากแต่เขาก็ยังขาดเทคนิคที่ดีในการตอบโต้อย่างเหมาะสม เและเขาอาจไม่สามารถที่จะรับมือกับอาวุธวิญญาณดาบนี้ได้!

เทคนิคการสร้างภาพขององค์จักรพรรดิสุย พระราชวังเปลวอัคคี และสัญลักษณ์แห่งมังกรนั้นเป็นวิธีการบ่มเพาะทางด้านร่างกายและจิตวิญญาณ เป็นการปรุงแต่งจิตวิญญาณโดยไม่ต้องสู้รบ ดังนั้ซ่งหยูจึงไม่สามารถปลดปล่อยจิตวิญญาณของเขาในระดับสูงสุดได้

ด้วยแสงแห่งดาบที่หนาทึบ กำลังกวัดแกว่งไป-มาอยู่เบื้องหน้าซ่งหยู อย่างไรก็ตามภายใต้อำนาจแห่งจิตวิญญาณในร่างของมังกรนั้นก็ได้กระโดดด้วยความเร็วหลบหลีก และถอยห่างได้อย่างง่ายดาย...

แสงแห่งดาบนั้นไล่ตามเขา และมีดดาบนับร้อยตกลงมาจากฟากฟ้าราวกับฝนตกด้วยความแรง และเร็วอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยความรวดเร็วในการหลบหลีกของเขา ความร้ายแรงของแสงแห่งดาบนั้นแม้มันจะสามารถเจาะทะลุร่างกายได้อย่างง่ายดาย แม้จะเป็นเหล็กกล้ามันก็สามารถทะลุผ่านได้อย่างน่าสะพรึง!

"หยุดเสียทีเจ้าคนพาล!"ซ่งหยูตะโกน

ซ่งหยูกัดฟันแน่น เขาปลดปล่อยจิตวิญญาณออกมาจากร่างลงในแผ่นปูนขนาดใหญ่ใต้ฝ่าเท้าเขา ยกขึ้นไปในอากาศ และขว้างมันอย่างแรงไปยังศิษย์ระดับสูงผู้นั้นที่กำลังนั่งคุกเข่าในลานฝึก!

"ตู้มมมมมมม"

ศิษย์ระดับสูงผู้นั้นคุกเข่าอยู่บนลานฝึกอย่างตกตะลึง และรีบรวบรวมความคิด เขาเรียกคืนอาวุธวิญญาณดาบของเขา และสั่งให้ดาบเปลี่ยนทิศทางไปขวางกันแผ่นปูนที่กำลังตรงเข้ามาหาเขาจนตัดแผ่นปูนนั้นกลายเป็นเศษหินชิ้นเล็กๆกระจายไปทั่ว

ทันใดนั้น! บริเวณนั้นก็เต็มไปด้วยฝุ่นละออง และเศษกรวดที่กระจายลอยฟุ้งอยู่ทั่วบริเวณ

"ไอ้เศษขยะไร้ประโยชน์! เจ้าไม่สามารถแม้แต่จะทำอะไรข้าได้แม้แต่ปลายเล็บ!"

เห็นเช่นนั้นทำให้ผู้อาวุโสเทียนถึงกับโกรธมาก เขาแอบสอดมือเข้าไปในแขนเสื้อ และแอบสะบัดนิ้วของเขาบังคับให้จิตวิญญาณของศิษย์ผู้นั้นยิงอาวุธดาบออกไปด้วยความเร็วปานสายฟ้าแลบ ที่ซ่งหยูไม่เคยเห็นมาก่อน ผู้อาวุโสเทียนซ่อนการกระทำที่ซ่อนเร้นไว้เป็นอย่างดี จนไม่มีใครสังเกตเห็นได้รวมถึงซ่งหยู!

"เหตุใดมันจึงได้รวดเร็วปานสายฟ้าเยี่ยงนี้! ข้าไม่เคยเห็นมาก่อนเลย!? ซ่งหยูกล่าวในใจ ในขณะที่มันเป็นอาวุธจิตวิญญาณที่ร้ายแรงและมันกำลังพุ่งตรงมาหาเขา ในขณะที่เขาไม่สามารถแม้จะเตรียมรับมือมันได้ทัน!....

......................................................................................................................

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด