ตอนที่แล้วตอนที่ 2 : นายน้อยหลิงหลานได้ถือกำเนิด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 4 : เสียงเด็กที่อยู่ในใจ

ตอนที่ 3 : การประเมินทารกแรกเกิด!


หลังจากที่ทำความสะอาดร่างกายเรียบร้อย หลานหลัวเฟิงและหลิงหลาน ได้ถูกย้ายไปพักที่ห้องของโรงพยบาลอันหรูหราที่หลิงฉินได้เตรียมเครื่องมือพิเศษที่ใช้ตรวจสอบทารกไว้แล้ว“นายหญิงให้ฉันตรวจสอบสภาพของนายน้อย” น่าเสียดายที่ทารกดันเป็นเด็กผู้หญิง แม้ว่ามีโอกาสที่จะได้รับสือทอบมรดกทางทหารจาก หลิงเซียว ผู้เป็นนายใหญ่ของตระกูล แต่ไม่มีทางที่จะได้รับอาวุธที่แข็งแกร่งที่สุดซึ่งแสดงถึงความเข้มแข็งของสหพันธ์

กฎหมายของสหพันธ์อนุญาติให้แค่ผู้ชายที่สามารถสืบทอดมรดกทางทหารได้ แม้ว่าจะดูเหมือนว่ามันเป็นสิ่งที่ลำเอียง ก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ ผู้ที่ใช้ หุ่นรบ นั้นไม่มีผู้หญิงแม้แต่คนเดียว

การที่จะเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบ นั้นยากมาก ไม่เพียงแต่จะต้องมีจิตใจที่เข้มแข็งเท่านั้น ยังจะต้องมีร่างกายที่แข็งแกร่งอีกด้วย เป็นเพราะว่าหุ่นรบนั้น ต้องอาศัยทั้งจินตนาการและการเคลื่อนไหวของร่างกายทำงานร่วมกันก่อให้เกิดการโจมตีที่อันตราย ซับซ้อนและเกิดเทคนิกการสู้รบที่หลากหลาย

 

ซึ่งการใช้พลังในแต่ละครั้งนั้นจะมีพลังงานบางส่วนสะท้อนกลับไปยังผู้ใช้งาน ถ้าหากผู้ใช้มีร่างกายที่ไม่แข็งแกร่งแค่การเคลื่อนไหวเพียงแค่เล็กน้อยนั้นอาจจะส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บได้

ความแตกต่างระหว่างชายและหญิงนั้นอาจจะไม่ต่างกันมากเมื่อใช้พลังทั่วๆไป แต่เมื่อจะใช้ หุ่นรบ ไม่มีผู้หญิงแม้แต่คนเดียวที่สามารถทนรับพลังนี้ได้ แม้ว่าเธอจะฝึกฝนร่างกายมามากแค่ไหนก็ตาม แสดงว่าเห็นว่าข้อแตกต่างทางธรรมชาตินั้นไม่สามารถถูกขจัดไปด้วยการฝึกฝน

เรามาพูดถึงมรดกทางทหารที่สามารถสืบทอดได้กันเถอะ ผลประโยชน์เหล่านี้เรียกว่าแหล่งข้อมูลที่มีคุณค่าที่ได้รับการปลูกฝังจากประเทศชาติที่ลงทุนเงินจำนวนมากเพื่อฝึกฝนกำลังคนและเฟ้นหาผู้ที่มีความสามารถ เป้าหมายสูงสุดคือผู้ที่ได้รับการสืบทอดนั้นจะสามารถใช้หุ่นรบได้สักวันและกลายเป็นกำลัง อาวุธ ให้กับประเทศชาติ

 

ดังนั้นผู้หญิงที่ไม่สามารถควบคุม หุ่นรบ ได้นั้นจึงไม่ได้รับการเหลียวแลจากสหพันธ์ อย่างที่นักการเมืองเคยกล่าวไว้ว่าพวกเขาไม่สามารถนำเงินภาษีของประชาชนไปทำในสิ่งที่ไม่เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติได้ ดังนั้นกฎหมายที่ลำเอียงนี้จึงถูกเข็นออกมาโดยไม่มีเสียงคัดค้านใดๆจากประชาชนเลย

หลิงหลาน ไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยเลย หลังจากที่เธอร้องไห้ครั้งแรกหลังจากออกมาจากท้องแม่เธอก็ได้เริ่มการฝึก ทันทีที่ร่างกายของเธอสัมผัสโลกภายนอกเธอก็รับรู้ได้ถึงพลังปราณจำนวนมาก

เธอไม่รู้ว่าสิ่งนี้คืออะไรแต่เธอก็ไม่คิดที่จะพลาดโอกาสทองนี้ไป หลิงหลานเข้าสู้สมาธิทันทีโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง

 

แน่นอน หลิงหลานนั้นเป็นเพียงทารกแรกเกิดที่ควรจะทำเพียงแค่กินและนอน ดั้งนั้นการที่หลิงหลาน เข้าสู่การนั่งสมาธิเพื่อฝึก ผู้ที่คอยดูแลก็ไม่ได้รู้สึกผิดปกติอะไรเนื่องจาดคิดว่าเธอแค่นอนหลับไปเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นคำพูดจากแม่ที่เคยพูดเมื่อคลอดเธอ ทำให้หลิงหลานมั่นใจว่าเธอจะได้รับความคุ้มครองอย่างดีเธอจึงปล่อยตัวตามสบายและให้ความสนใจกับการฝึก

หลานหลัวเฟิงค่อยๆส่ง หลิงหลาน ให้กับลุงฉินอย่างระมัดระวังและคอยดูลุงฉินที่ค่อยๆวางลูกสาวของเธอลงไปในอุปกรณ์โปร่งแสงรูปไข่

แสงสีเขียวและแดงสลับกันพาดผ่านตัวของหลิงหลานทันใดนั้นก็เกิดเสียงเตือนของเครื่องดังขึ้นมา "เกิดอะไรขึ้น?"หลาน หลัวเฟิง รีบลุกขึ้นนั่งบนเตียงของเธอ ใบหน้าซึ่งซีดลงเนื่องจากการคลอดครั้งล่าสุดของเธอทำให้รู้สึกเบื่อหน่ายกับความตกใจและกังวลเรื่องลูกของเธอ

หลิงฉินก็รู้สึกประหลาดใจที่เกิดเสียงหวีดเตือนที่ไม่คาดคิดนี้ อย่างไรก็ตามเขาก็รีบเดินไปตรวจสอบ แล้วเสียงหวีดเตือนก็เงียบลงไปและการประเมินกลับมาเป็นปกติ

 

ทุกคนยังตื่นตระหนกและไม่แน่ใจ แต่พวกเขาไม่กล้าที่จะหยุดการประเมินของ หลิงหลาน และยังคงอดทนคอยต่อไป หลิงหลานไม่ได้สนใจเรื่องเรื่องที่เกิดขึ้นรอบตัวเธอ แต่ทันใดนั้นเกิดเสียงของเด็กคนหนึ่งขึ้นมาในจิตใจของเธอ “โชคดีที่ไหวตัวทัน ไม่อย่างงั้นความลับของโฮสต์ของฉันจะต้องถูกเปิดเผยแน่นอน!!....ฮ่า..ฮ่า……” ในที่สุดอุปกรณ์ประเมินเริ่มรายงานผลการตรวจสอบ ข้อมูลการประเมิน:

ร่างกาย: [S] rank!

ความเข้มแข็งของจิตใจ: Tier 2!

ศักยภาพ: [S] rank!

ภาพรวมการประเมิน: ยอดเยี่ยม! , ควรมุ่งเน้นที่การเพาะปลูก

 

หลิงฉินรู้สึกประหลาดใจกับผลลัพธ์เหล่านี้ ด้วยความไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยินเขารีบวิ่งไปดูรายงานการประเมิณที่พิมพ์โดยเครื่องผลการประเมิณที่พิมพ์ออกมาด้วยหมึกสีดำพิสูจน์ว่าสิ่งที่เขาได้ยินนั้นเป็นความจริง [S] rank! สมรรถภาพทางกายขั้นสูงที่เป็นของหายากแม้กระทั่งในหมู่ทารกชายที่ปรากฏในอัตรา 1 หรือ 2 ในพัน แน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกที่สุด บิดาของหลิงหลานเป็นอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์เกิดมาพร้อมกับสมรรถภาพทางกายของ [SS] ซึ่งเกิดขึ้นในอัตรา 1 ในหลายหมื่น หลิงฉินสงสัยว่าสมรรถภาพทางกายที่ดีของ หลิงหลาน ต้องสืบทอดมาจากพ่อของเธอแน่นอน แต่ทีน่าแปลกใจยิ่งกว่าคือเธอมีระดับความเข้มแข็งทางจิตใจที่ระดับ 2 มีโอกาศเกิดขึ้น 1 ในหมื่นคน ซึ่งมากกว่าบิดาของเธอที่มียศพลตรีและมีระดับความเข้มแข็งของจิตใจที่ 1 เสียอีกศักยภาพ [S] rank! ซึ่งเท่ากับบิดาของเธอ  พลตรีหลิงเซียวผู้สามารถใช้หุ่นรบได้ หรือบางทีเธออาจจะสามารถใช้หุ่นรบ ได้เช่นกัน? ผู้ใช้หุ่นรบ….คำพูดของ หลิงฉิน ส่งผลให้ หลานหลัวเฟิงน้ำตาไหลออกมา หรือครอบครัวเธอจะเป็นครอบครัวแรกที่มีบุตรสาวที่สามารถใช้หุ่นรบได้ ถ้ามันเกิดขึ้นจริงมันจะเป็นการตบหน้าพวกสหพันธ์ทั้งหมดถึงแม้ว่า หลาน หลัวเฟิง จะตกใจกับผลลัพธ์ของการประเมินของ หลิงหลาน  เธอผู้เป็นแม่ ความคิดแรกของเธอคือการปกป้องลูกของเธอ เธอกล่าวด้วยเสียงที่ตึงเครียด "ลุงฉินผลการประเมินของหลิงหลานต้องถูกปิดเป็นความลับไว้"

 

ถ้าการประเมินของ หลิงหลาน ถูกเปิดเผยต่อสาธารณชน สหพันธ์ต้องแนะนำให้เธอเข้ารับการฝึกฝนอย่างเข้มข้น ถ้า หลิงหลาน เป็นเด็กชาย เธอก็คงไม่กังวล แต่ในความเป็นจริง หลิงหลาน เป็นเด็กผู้หญิงและเธอไม่ต้องการที่จะเห็นลูกสาวของเธอต้องทนทุกข์ทรมานกับชีวิตแบบนั้น นอกจากนี้ถ้าประเทศกำลังตัดสินใจที่จะส่งนักฝึกอบรมพิเศษมาแทน ความลับเรื่องเพศของ หลิงหลาน ก็น่าจะถูกเปิดเผยออกไปด้วย ดังนั้น หลาน หลัวเฟิง จึงพิจารณาว่าการประเมินของ หลิงหลาน จะต้องถูกปิดผนึกไว้

จริงๆแล้วตั้งแต่ก่อนที่ หลิงหลาน จะเกิดมาเธอได้ตัดสินใจแล้วว่าจะให้ หลิงหลาน ได้ใช้ชีวิตตามที่เธอต้องการ เธอไม่ต้องการให้ หลิงหลาน เดินตามรอยเท้าพ่อของเธอและกลายเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพ หลานหลัวเฟิง รู้ดีว่าตราบเท่าที่ หลิงหลานไม่ได้ก่ออาชญากรรมรุนแรงใดๆ เช่นการทรยศหักหลังประเทศชาติ เธอจะสามารถได้รับผลประโยชน์ทางทหารจากการเสียสละของ หลิงเซียว ได้ ตามที่เธอต้องการโดยไม่ต้องกังวล หรือต้องการใช้ชีวิตอย่างหรูหรา เธอก็ไม่คัดค้าน

 

หลานหลัวเฟิง มองไปที่หลิงหลาน ในเครื่องประเมินด้วยดวงตาแห่งความรักและเสียใจ  "ขอโทษนะ หลิงหลานที่ทำให้ชีวิตของลูกต้องผิดปกติ... นั่นเป็นเพราะว่าลูกเป็นลูกสาวของ หลิงเซียว  แม่จะไม่อนุญาติให้ใครอื่นนอกจากลูกได้รับสิ่งที่ควรจะได้จากการเสียสละของพ่อ”

"แต่ยังไงลูกก็ยังเป็นลูกสาวของแม่เสมอ และแม่รักลูกมากดังนั้นแม่จึงไม่อยากเห็นแก่ตัว ไม่ต้องการให้ลูกแบกรับ  ภาระของครอบครัวหลิง แม่จะไม่บังคับลูกไปในทางใดทางหนึ่ง ลูกมีอิสระที่จะเลือกเส้นทางที่ลูกต้องการต่อให้มันเป็นสิ่งที่ไม่มีค่า แม่ก็จะคอยสนันสนุนลูกตลอดไป… " เห็นได้ชัดว่าความรักของแม่นั้นปราศจากเหตุผลและเงื่อนไข ถ้าในอนาคต หลิงหลาน ต้องการที่จะทำลายครอบครัว หลิง บางที หลานหลัวเฟิง อาจจะเป็นคนช่วยวางแผนการให้ด้วยความกระตือรือร้นก็ได้

*********

ติดตามได้ที่ >>> Facebook

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด