ตอนที่แล้วTXV – 73 ลูกค้าปริศนา !
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTXV 75 – สอดแนมศัตรู

TXV – 74 เราจะเป็นพี่น้องกันตลอดไป !


TXV – 74 เราจะเป็นพี่น้องกันตลอดไป !

 

          เซี่ยเหล่ยเชิญจู้งเหว่ยและเจียงซินร่วมรับประทานอาหารกับเขาเพื่อเฉลิมฉลองร่วมกับ หม่าเสี่ยวอัน จูเสี่ยวหง และคนอื่นๆในร้านทุกคนต่างพูดคุยกันบนโต๊ะอาหารและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างมีความสุขมื้ออาหารมื้อนี้เป็นมื้ออาหารที่มีความสุขที่สุดสำหรับเซี่ยเหล่ยก็ว่าได้…

 

          หลังจากที่ส่งจู้งเหว่ยและเจียงซินกลับไป เซี่ยเหล่ยและหม่าเสี่ยวอันเดินทางไปที่สำนักงานธุระกิจเมืองห่ายจู เพื่อไปลงทะเบียนก่อตั้งบริษัท

 

          “เหล่ย คิดชื่อบริษัทไว้รึยัง”  หม่าเสี่ยวอันถาม

 

          “มันต้องคิดอีกหรอ ? ก็อาชาสายฟ้าอุตสาหกรรมไง ?” เซี่ยเหล่ยกล่าว

 

          “อ่อ…..เอาคำว่า ‘อาชา’ ออกดีมั้ย ? มันเป็นบริษัทของนายมีชื่อผมอยู่ในนั้นผมรู้สึกแปลกๆ” หม่าเสี่ยวอันกล่าว

 

          เซี่ยเหล่ยยิ้ม “ถึงบริษัทจะเป็นของผมแต่คุณก็เป็นเหมือนพี่ชายของผมเอง พวกเราผ่านร้อนผ่านหนาวมาด้วยกันตั้งมากมายและนายก็ต้องช่วยจัดการบริษัทหลังจากที่ก่อตั้งแล้วด้วย เราก็ต้องรับคนงานเพิ่มซึ่งนายก็ต้องเป็นคนจัดการพวกเราจะต้องคัดสรรคนงานที่มีคุณภาพและพวกเราจะต้องพึ่งพาอาศัยกันแบบนี้ต่อไปอีกเรื่อยๆ”

 

          “เหล่ย… ผม….” หม่าเสี่ยวอันรู้สึกประทับใจกับคำพูดของเซี่ยเหล่ยจนไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้

 

          เซี่ยเหล่ยยักไหล่ “เสี่ยวอัน เราเป็นเพื่อนเล่นกันตั้งแต่เด็ก พวกเราช่วยเหลือกันเหมือนเป็นพี่น้องกันในชีวิตจริงๆและผมคงไม่ทิ้งพี่ชายของผมให้ลำบากหรอก”

 

          “ห๊ะ ‘ในชีวิต’ ? ถ้าผมได้เป็นพี่ชายของคุณจริงๆในชีวิตของนายก็ดีหน่ะสิ ถึงจะไม่ใช่พี่ชายแท้ๆผมก็จะขอติดตามการกระทำของนายและผมจะยืนเคียงข้างเพื่อช่วยเหลือนายตลอดไป...”

 

          เซี่ยเหล่ยหัวเราะ “ได้เลย ผมจะให้คุณติดตามชีวิตผมตลอด ฮ่าๆ”

 

          พวกเขาคุยกันไปหัวเราะกันไปตลอดทาง เมื่อเซี่ยเหล่ยขับรถไปถึงสำนักงานธุระกิจเมืองห่ายจู เขาจอดรถและเดินเข้าไปในสำนักงานกับหม่าเสี่ยวอัน

 

          มันไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะขอจดทะเบียนก่อตั้งบริษัท เซี่ยเหล่ยกรอกข้อมูลบางอย่างและส่งหลักฐานจำนวนสินทรัพย์ที่มีทั้งหมดและก็รอให้สำนักงานทางธุรกิจเซ็นอนุมัติจากนั้นอาชาสายฟ้าอุตสาหกรรมก็จะก่อตั้งขึ้นมาอย่างสมบูรณ์

 

           หลังจากออกจากสำนักงานเซี่ยเหล่ยก็ขับรถกลับไปยังอาชาสายฟ้าเวิกค์ช็อป

 

          “เหล่ย ถึงเวลาที่จะมีผู้หญิงไว้ข้างกายสักคนนึงแล้วล่ะ” ระหว่างทางหม่าเสี่ยวอันพูดสิ่งนี้ออกมา “คุณกำลังจะเป็นเจ้าของบริษัทคุณต้องมีผู้หญิงที่อยู่เคียงข้างคุณเสมอเพื่อที่จะให้คำปรึกษาและให้กำลังใจคุณเหมือนบริษัทอื่นๆ  เห็นรึปล่าวพวกเขามีผู้หญิงในบริษัทตั้งมากมายมีทั้งภรรยา มีทั้งเลขานุการส่วนตัวและตำแหน่งอื่นๆอีกมากมาย”

 

          “นายก็รู้จักผมดีนี่ ผมไม่ใช่คนใจง่าย” เซี่ยเหล่ยกล่าว

 

          “นายควรหาภรรยาสักคนนะ แล้วแต่งงานกับเธอซะเพื่อให้เธอคอยดูแลนายเช่นการทำกับข้าว การเลี้ยงลูกหรือแม้แต่กลางคืนพวกคุณจะ…. ฮี่ ฮี่ เจียงหยู่ยี่ก็ไม่เลวนะ เธอมีความรู้สึกบางอย่างกับคุณผมสามารถรับรู้ได้เลย คงมีแต่นายนั่นแหละที่เป็นคนโง่ที่ไม่เห็นความรู้สึกของเธอ” หม่าเสี่ยวอันหัวเราะออกมา

 

          “อย่ามาตลก ! ผมกับเธอก็เป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น นอกจากนี้ถ้าผมแต่งงานกับเธอไป เธอคงกดขี่ข่มเหงผมทั้งวันอย่างแน่นอน ซึ่งผมไม่ชอบแบบนั้นเลย” เซี่ยเหล่ยกล่าว

 

          หม่าเสี่ยวอันอึ้งไประยะหนึ่งแล้วหัวเราะอีกครั้งก่อนจะพูดว่า “จริงด้วยเธอกล้าทำแบบนั้นอยู่แล้วผมสังเกตได้จากพฤติกรรมของเธอและนาย ถ้าพวกคุณทั้งสองคนแต่งงานกันเธอคงอยู่เหนือนายทุกอย่างแน่นอน ฮ่าฮ่า ชีวิตนายจะต้องลำบากขึ้นแน่ๆ”

 

          เซี่ยเหล่ยยิ้มออกมาแบบเซ็งๆและไม่เต็มใจที่จะพูดต่อไปในตอนนี้ภาพของเฉินตู เทียนหยินปรากฏขึ้นมาในหัวของเขา จากนั้นเซี่ยเหล่ยถอนหายใจออกมา ‘ผมต้องบ้าแน่ๆ’

 

           ทันใดนั้นมีรถบรรทุกขับสวนมาอย่างรวดเร็วทำให้เซี่ยเหล่ยตกใจและรีบเปลี่ยนเลนส์ไปทันที...

 

          รถบรรทุกเฉี่ยวชนรถโฟล์คสวาเก้น โปโลของเซี่ยเหล่ย….

 

          “แม่Xเอ้ย… มีใบขับขี่รึปล่าววะ !” หม่าเสี่ยวอันตะโกนออกไปจากหน้าต่างรถ

 

          คนขับรถบรรทุกดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้ยินคำด่าทอหม่าเสี่ยวอันเลยจากนั้นรถบรรทุกได้ขับออกไปอย่างรวดเร็ว…

 

          เซี่ยเหล่ยสั่นเล็กน้อย “ทำไมถึงได้ขับรถเร็วขนาดนี้ ?”

 

          “บางทีเขาอาจเป็นแค่พนักงานก่อสร้างขับรถไปด้วยความสนุกเท่านั้นหรือไม่บางทีเขาก็รีบทำจำนวนชั่วโมงเพื่อหารายได้ไปเลี้ยงครอบครัว” หม่าเสี่ยวอันกล่าว

 

          เซี่ยเหล่ยก็ไม่ได้พูดอะไรต่อและขับรถต่อไปจนมาถึงอาชาสายฟ้าเวิกค์ช็อปในไม่กี่นาที

 

          เซี่ยเหล่ยค่อยๆชะลอรถแล้วให้รถมันไหลไปหยุดที่ขอบริมถนนเขาเห็นสือจิงชิวยืนอยู่ที่หน้าห้องทำงานของเขาก่อนที่เขาจะลงจากรถ ‘สือจิงชิวเธอมาทำอะไรที่นี่ในเวลานี้กันนะ ถ้าเธอจะมาสั่งซื้ออุปกรณ์จากร้านของเรามันก็คงจะดีเราจะมีลูกค้าเพิ่มขึ้นหลังจากที่ได้จดทะเบียนอาชาสายฟ้าเวิกค์ช็อปขึ้นเป็นบริษัทอย่างสมบูรณ์แบบ’

 

          หลังจากอัพเกรดอาชาสายฟ้าเวิกค์ช็อปเป็นอาชาสายฟ้าอุตสาหกรรมแน่นอนว่าจะต้องมีเพิ่มขึ้นค่าใช้จ่ายก็ต้องสูงขึ้นเพื่อแจกจ่ายให้กับพนักงานแต่ละคน ถ้าเขาได้ร่วมงานกับบริษัทอุตหากรรมจีน รายได้ของบริษัทเขาจะเพิ่มขึ้นและจะทำให้มีมากพอที่จะเลี้ยงดูพนักงานทุกคนให้มีกินมีใช้และช่วยสนับสนุนวิถีชีวิตของพวกเขาให้ดีขึ้น

 

          สือจิงชิวเห็นเซี่ยเหล่ยลงจากรถเธอโบกมือให้เขาพร้อมกับกล่าวทักทายว่า “เหล่ย ฉันรอคุณตั้งนาน”

 

          เซี่ยเหล่ย ยิ้มและกล่าวทักทายเธอว่า “จิงชิว ไม่ได้เจอกันตั้งนาน”

 

          ทันใดนั้นหม่าเสี่ยวอันตะโกนมาว่า “ระวัง !”

 

          เซี่ยเหล่ยกำลังหันกลับไป.. ทันใดนั้นหม่าเสี่ยวอันพุ่งตัวไปข้างหน้าและผลักตัวเซี่ยเหล่ยออกไป

 

          ทันใดนั้นรถบรรทุกพุ่งชนมาอัดร่างของหม่าเสี่ยวอัน ร่างกายของเขากระเด็นขึ้นไปในอากาศและเลือดกระอักออกมาจากริมฝีปากเขา…..

 

          ปัง ! ร่างของหม่าเสี่ยวอันร่วงหล่นมายังหลังคารถโปโลของเซี่ยเหล่ยจากนั้นแรงกระแทกทำให้ร่างของหม่าเสี่ยวอันกลิ้งไปอีกหลายตลบจนสุดท้ายร่างเขานอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น

 

          หม่าเสี่ยวอันนอนอยู่บนริมฟุตบาทบริเวณนั้นเต็มไปด้วยเศษแก้วที่แตกมาจากกระจกรถโปโลและเลือดกำลังไหลออกมาจากจมูกและปากของเขาอย่างต่อเนื่อง….

 

          “เสี่ยวอัน !” เซี่ยเหล่ยรีบวิ่งไปยังร่างของหม่าเสี่ยวอัน

 

          “พว…..เร…..เป็น…...พี่น้...” ก่อนที่เขาจะพูดจบประโยคหม่าเสี่ยวอันไม่ได้พูดอะไรต่ออีก ลมหายใจเฮือกสุดท้ายถูกปล่อยออกมา….และจากนั้นเขาก็ไม่หายใจอีกแล้ว

 

          “ไม่ !” เซี่ยเหล่ยคำรามออกมาพร้อมกับน้ำตาที่หยุดไม่ได้

 

          พนักงานของอาชาสายฟ้าเวิกค์ช็อปต่างวิ่งมารายล้อมร่างของหม่าเสี่ยวอัน ทั้งจูเสี่ยวหงและเฉินอาเจียวต่างร้องไห้ออกมา….

 

          ทันใดนั้นเซี่ยเหล่ยยืนขึ้นและเดินตรงไปยังจุดที่รถบรรทุกจอดอยู่

 

          คนขับรถบรรทุกเปิดประตูและกระโดดลงมาจากรถ คนขับรถยังเป็นเด็กอยู่ในวัย 20 ต้นๆผิวหนังของเขาเต็มไปด้วยรอยสักทั่วร่างกาย เขาได้รับบาดเจ็บจากการแรงปะทะเล็กน้อยเท่านั้นซึ่งมันไม่ส่งผลอะไรต่อร่างกายของเขาเลย...

 

          คนขับรถมองไปที่ร่างของหม่าเสี่ยวอันบนพื้นหลังจากที่ออกมาจากรถบรรทุกแล้วใบหน้าของเขาแทบจะไม่รู้สึกอะไรเลยแถมเขายังมองอย่างแปลกใจเมื่อเห็นเซี่ยเหล่ยวิ่งตรงมาหาเขา

 

          เซี่ยเหล่ยคว้าคอและตะโกนด้วยความโกรธ “มึง ไอ้ชาติชั่ว ! มึงต้องชดใช้สำหรับชีวิตของหม่าเสี่ยวอัน”

 

          “อย่าทำอะไรบุ่มบ่ามเลย คุณจะเอาเงินเท่าไหร่ล่ะ ?” คนขับรถบรรทุกกล่าว

 

          ในตอนนี้ไม่มีใครสามารถควบคุมความโกรธของเซี่ยเหล่ยได้ คำพูดของคนขับรถบรรทุกเป็นเหมือนชนวนระเบิดที่ทำให้เขาไม่สามารถควบคุมสติได้ เขาต่อยไปที่ใบหน้าของคนขับรถบรรทุกบวกกับความโกรธสุดขีดของเซี่ยเหล่ย ทำให้ฟัน 2 ซี่หักไปจากปากของเขาในทันที…

 

          “เงิน ? มึงคิดว่ากูต้องการเงินอย่างนั้นหรอ ?” เซี่ยเหล่ยเตะไปที่ช่องท้องของเขาอย่างแรง

 

          คนขับรถบรรทุกร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ขณะที่เซี่ยเหล่ยกำลังกระทืบเขาอยู่บนพื้นด้วยอารมณ์โกรธจัด

 

          “อัก !” ความเจ็บปวดเริ่มทวีคูณมากขึ้นเขามีเหงื่อไหลออกมาทั่วใบหน้าของเขา ก่อนหน้านี้ใบหน้าของเขาแทบจะไม่รู้สึกว่าตัวเองทำผิดเมื่อชนคนตาย แต่ตอนนี้สายตาเขาเปลี่ยนไป ดวงตาเขาเต็มไปด้วยความกลัวจากความอำมหิตของเซี่ยเหล่ย.....

 

          เซี่ยเหล่ยยิ่งกระทืบเขามากขึ้นรื่อยๆทันใดนั้นหวางโย่วฟู่และฉิ้วหยงรีบวิ่งไปหาเซี่ยเหล่ยเพื่อหยุดการกระทำของเขา

 

          “คุณอย่าไปทำเขาอีกเลย เจ้านายเหล่ย ! คุณกำลังจะฆ่าเขา” ฉิ้วหยงพูดอย่างกังวล “ถ้าคุณฆ่าเขาคุณจะต้องติดคุก คุณไม่ควรติดคุกเพราะคนแบบนี้ !”

 

          จูเสี่ยวหงรีบวิ่งมาหาเซี่ยเหล่ยเช่นกันพร้อมกับร้องไห้ตลอดเวลาเธอพูดขึ้นมาว่า “หยุดทำร้ายเขาได้แล้ว พี่เหล่ย พี่เสี่ยวอันคงไม่อยากให้คุณทำแบบนี้..ได้โปรด...พอได้แล้ว….”

 

          เซี่ยเหล่ย สงบสติอารมณ์ลงเล็กน้อยเขาจำบางสิ่งขึ้นมาได้ว่า “ชายคนนี้พยายามจะฆ่าผมก่อนหน้านี้แล้วเขาจงใจทำเรื่องแบบนี้ ! โทรหาตำรวจ ! มันเป็นการเจตนาฆ่าผู้อื่น !”

 

          คนขับรถบรรทุกพูดว่า “อย่ามาพูดเรื่องไร้สาระ ! ผมไม่เคยคิดว่าเรื่องนี้มันจะเกิดขึ้นมาก่อน ผมไม่สามารถควบคุมรถบรรทุกของผมได้และผมก็ไม่รู้จักคุณด้วย ผมจะพยายามฆ่าคุณได้ยังไงล่ะ ? อย่ามาพูดถ้าไม่มีหลักฐานไม่งั้นผมจะฟ้องคุณข้อหาหมิ่นประมาท !”

 

          สายตาของเซี่ยเหล่ยเป็นไปทันที “หล่าวฉี่ ส่งมึงมาใช่มั้ย ?”

 

          “ใครคือ หล่าวฉี่ ?” สายตาของคนขับรถบรรทุกเปลี่ยนไป “ผมไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดถึงอะไร ?”

 

          “กูจะฆ่ามึงงงง !!!!!” เซี่ยเหล่ยไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้อีกครั้งและพุ่งตรงไปหาเขา

 

          จูเสี่ยวหงวิ่งไปข้างหน้าเพื่อห้ามเซี่ยเหล่ย เซี่ยเหล่ยผลักตัวเธอออกไปจากแขนของเขา เธอพูดพร้อมน้ำตาว่า “พี่เหล่ย ได้โปรด….อย่าทำเขาเลย”

 

          ทันใดนั้นคนขับรถบรรทุกพยายามวิ่งหนี

 

          หวางโย่วฟู่เตะตัดขาคนขับรถบรรทุกจนเขาร่วงลงไปที่พื้น

 

          เฉินอาเจียวและพนักงานคนอื่นๆต่างมารุมจับตัวของคนขับรถบรรทุกเอาไว้….

 

          สือจิงชิวเดินมาหาเซี่ยเหล่ยอย่างกระวนกระวายใจ “เหล่ย … ฉัน….ฉันเรียกรถพยาบาลและเรียกตำรวจให้แล้วนะ ใจเย็นๆ...มันไม่คุ้มเลยที่จะเอาตัวเองไปแลกกับคนแบบนี้”

 

          เซี่ยเหล่ยทรุดตัวลงไปบนถนนราวกับว่าเขาเป็นอัมพาตพร้อมกับน้ำตาที่ไหลรินออกมาจนไม่สามารถควมคุมได้

 

          ความทรงจำของหม่าเสี่ยวอันแล่นซ้ำในหัวของเซี่ยเหล่ยเป็นฉากๆ ขณะที่มีรถพยาบาลรถตำรวจอยู่ข้างหลังเขาแต่ไม่เสียงเหล่านั้นไม่สามารถเข้าไปในหัวของเขาได้เลย ตอนนี้เขาเหมือนอยู่บนโลกเพียงคนเดียวและหม่าเสี่ยวอันก็เป็นคนช่วยชีวิตเขาไว้แต่ตอนนี้เขากลายเป็นร่างที่ไม่หายใจอีกต่อไปแล้ว เมื่อก่อนหน้านี้พวกเขาเพิ่งหยอกล้อเล่นกันราวกับว่าพวกเขาเป็นพี่น้องกันจริงๆ ตอนนี้หม่าเสี่ยวอันเดินทางไปอีกโลกหนึ่งแล้วซึ่งจะมีวันเจอกันอีก……

 

          ภาพในวัยเด็กที่เล่นด้วยกันกับหม่าเสี่ยวอัน เขานึกถึงภาพตัวเองกำลังว่ายน้ำร่วมกับหม่าเสี่ยวอันและแกล้งเพื่อนผู้หญิงในชั้นเรียนโดยการเอากบไปใส่ในกระเป๋าของเธอด้วยกันและเหตุการณ์หลายๆอย่างที่เขาทำร่วมกันเสมอมา…..

 

          หม่าเสี่ยวอันไม่อยู่แล้ว….

 

          “โว้ยยยยยยยยยยยยยย-----------------” เซี่ยเหล่ยตะโกนไปยังท้องฟ้า

 

          แต่เหมือนว่าสวรรค์จะไม่เข้าข้างชีวิตเขาเลย…..

 

          ติดตามตอนต่อไป…..

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด