ตอนที่แล้วTWO Chapter 49 เทียนเหวินจิง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTWO Chapter 51 ฝ่ายการเกษตร

TWO Chapter 50 กำแพงเมือง


TWO Chapter 50 กำแพงเมือง

หลังจากเสร็จสิ้นการจัดตั้งกรมคลังวัสดุแล้ว โอหยางโชวก็หันไปรอบๆ เพื่อประกาศเรื่องที่ 2

เขามองไปรอบ ยิ้มแล้วกล่าวว่า “ข้าตัดสินใจที่จะเริ่มต้นโครงการขนาดใหญ่ ในขณะที่ใช้ประโยชน์จากช่วงฤดูหนาว และช่วงว่างานของการก่อสร้างในดินแดน โครงการนี้จะต้องใช้แรงงาน และวัสดุเป็นจำนวนมาก ข้าจะหารือเรื่องนี้กับทุกคน”

ขุ่ยหยิงหยูยิ้ม “ถ้าพี่ใหญ่มีอะไรจะพูด ก็เชิญพูดออกมาตรงเถอะ ไม่จำเป็นต้องอ้อมค้อมใดๆ”

โอหยางโชวจ้องไปที่เธอ “รั้วรอบๆหมู่บ้านถูกสร้างตั้งแต่เริ่มก่อตั้งหมู่บ้าน มันได้รับความเสียหายจากการรุกรานของสัตว์ร้าย เมื่อเห็นว่า เรากำลังจะอัพเกรดเป็นเมืองขนาดเล็กระดับ 1 ข้าจึงเห็นว่า เราควรปรับปรุงพวกมัน”

เจ้าเต๋อหวังและเจ้าเต๋อเสี้ยนพยักหน้าอย่างไม่เต็มใจ พวกเขาอยู่ในกลุ่มคนที่สร้างพวกมันขึ้นมา คิดย้อนกลับไป หมุ่บ้านซานไห่เพิ่งถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อต้นปี พวกเขารู้สึกประทับใจในเหตุการณ์นั้นอย่างมาก

ในฐานะหัวหน้าฝ่ายก่อสร้าง เจ้าเต๋อหวังกล่าวว่า “มี 2 วิธีในหารอัพเกรดรั้ว วิธีแรก คือ รื้อรั้วเดเเดิม แล้วสร้างรั้วใหม่ วิธีที่ 2 คือ การรักษารั้วเดิมไว้ และสร้างรั้วใหม่ในพื้นที่อื่น นายท่านคิดเห็นอย่างไร?”

“รั้วที่มีอยู่เดิม เป็นไปตามมาตรฐานของหมู่บ้านระดับ 3 เท่านั้น เมื่อเราอัพเกรดดินแดนแล้ว มันไม่อยู่ในมาตรฐานของดินแดนในระดับต่อไป มันจะถูกรื้ออกโดยอัตโนมัติ ตามความเห็นของข้า เราควรสร้างรั้วใหม่ตามมาตรฐานของเมืองขนาดเล็กระดับ 3 ซึ่งมีพื้นที่ 3 ตารางกิโลเมตร” โอหยางโชวตอบ

“ถ้าเป็นเช่นนั้น นายท่านต้องการสิ่งใดก่อสร้างกำแพง ไม้ อิฐ หรือดิน” เจ้าเต๋อหวังเป็นหัวหน้าฝ่ายก่อสร้างมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว เขาจึงมีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับมัน

โอหยางโชวส่ายหัวแล้วกล่าวว่า “วัสดุทั้ง 3 ธรรมดาเกินไป กำแพงนี้จะถูกรักษาไว้อย่างถาวร แม้ว่าเราจะขยายเมืองในอนาคต แต่ก็ยังสามารถใช้มันเป็นกำแพงชั้นในได้ ดังนั้น ข้าจึงเสนอให้ใช้หินเพียงอย่างเดียวในการส่อสร้างกำแพง กำหนดให้กำแพงสูง 9 เมตร และกล่าว 5 เมตร ข้าคิดว่าการสร้างกำแพงทั้งหมด ต้องใช้หินประมาณ 600000 หน่วย ถ้าข้าให้เวลาฝ่ายก่อสร้าง 1 เดือน เจ้ามั่นใจแค่ไหนว่าจะสามารถก่อสร้างโครงการขนาดใหญ๋นี้ทันเวลา”

เมื่อเจ้าเต๋อหวังได้ยินเช่นนั้น หลังศีรษะของเขาก็เสียวซ่าน เขากล่าวตอบช้าๆว่า “ตามความต้องการของนายท่าน เราต้องใช้หินเฉลี่ยถึง 20000 หน่วย/วัน เหมืองหินต้องใช้คนถึง 400 คน เพื่อที่จะผลิตได้ขนาดนั้น และฝ่ายก่อสร้างจะต้องมีแรงงาน 300-400 คน ในการก่อสร้างโครงการนี้”

“พี่ใหญ่ ในฐานะหัวหน้าฝ่ายการเงิน ข้าต้องเตือนให้ท่านทราบว่า การใช้แรงงานจำนวนมาก เราก็ต้องจ่ายค่าจ้างจำนวนมากเช่นกัน ท่านเตรียมไว้พร้อมแล้วหรือไม่?”

“เหตุที่ข้าตั้งโครงการนี้ขึ้นมาหลังจากการปฏิรูป ก็เพื่อให้ชาวบ้านมีโอกาสได้รับเงินเพิ่มเติม ตอนนี้เป็นช่วงพักฤดูหนาว พวกชาวไร่ชาวนามีงานน้อยมากให้ทำ ข้าคิดว่าโครงการนี้จะช่วยให้พวกเขาลดปัญหาสถานการณ์ทางการเงินของพวกเขาได้” โอหยางโชวอธิบายด้วยรอยยิ้ม

ขุยหยิงหยูพยักหน้า และไม่ได้พูดอะไรอีก

จากนั้น ฟ่านจงหยานก็ลุกขึ้น แล้วกล่าวว่า “ในเมื่อนายท่านมีความต้องการอันยิ่งใหญ่ ทำไมเราไม่ทำให้มันละเอียดมากขึ้นล่ะ เราจะสร้างประตูขนาดใหญ่ 3 แห่งที่กำแพงใหม่, ทุกประตูมีหอธนู และทุก 4 มุมเมืองควรสร้างป้อมปราการ เพื่อปรับปรุงการป้องกันของดินแดน”

“นอกจากนี้ ข้าแนะนำให้เราเริ่มขุดคูเมือง โดยใช้น้ำจากแม่น้ำมิตรภาพ เราควรขุดคูให้กว้าง 8 เมตร เมื่อรวมกับหุบเขาด้านตะวันออก มันจะกลายเป็นกำแพงธรรมชาติที่สมบูรณ์ ไม่เพียงแต่จะเอื้อต่อการป้องกันของเมืองเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ชาวบ้านในดินแดนใช้น้ำได้สะดวกขึ้น เหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว” เทียนเหวินจิงกล่าวเสริม

หลังจากฟังคำแนะนำจากเจ้ากรมทั้ง 2 โอหยางโชวกล่าวว่า “ข้อเสนอของทั้ง 2 ท่านนั้นดีมาก และมันจะถูกนำมาเสริมในโครงการนี้ทั้งหมด โครงการนี้จะอยู่ภายใต้การควบคุมของกรมการบริหาร กรมคลังวัสดุ และฝ่ายการเงิน ทำงานร่วมกัน”

ทุกคนพยักหน้า การมีส่วนร่วมในโครงการขนาดใหญ่เช่นนี้ทำให้เลือดของพวกเขาเดือดพล่าน หลังจากเสร็จสิ้นโครงการนี้ การป้องกันของซานไห่จะเพิ่มขึ้นหลายเท่า

การประชุมเสร็จสิ้น และทุกคนแยกย้ายกันออกไปทำงาน

เมื่อเวลา 15.00 น. ผู้มีความสามารถพิเศษทั้งหมดในหมู่บ้านซานไห่ ได้ถูกเชิญไปที่ห้องโถง เพื่อเข้าร่วมพิธีลงนามโดยกรมคลังวัสดุ สำหรับข้อตกลงกับร้านค้า

โดยมีเจ้ากรมคลังวัสดุเทียนเหวินจิง และโอหยางโชว เป็นประธานในงาน ช่างไม้ขั้นสูงหลู่กวงจี และช่างตัดเย็บขั้นมาสเตอร์มู่ฉิงซี นั่งอยู่แถวหน้า

เจิ้งซานเปาลงนามในนามของฝ่ายขนส่ง หลู่กวงซีลงนามในการผลิตวัวไม่- ม้าไม้ ตู่เสี่ยวหลานลงนามในนามของฝ่ายทรัพยากร และมู่ฉิงซีลงนามในข้าตกลงการตัดเย็บเสื้อผ้าของเธอ

การลงนามในคำสั่งซื้อขนาดใหญ่ทั้ง 2 ฉบับ ทำให้ผู้มีความสามารถพิเศษที่ถูกเชิญมาร่วมงานนี้มีความมั่นใจ และกระตือรือร้นมากยิ่งขึ้น

ในขณะนั้น ชาวประมงขั้นสูงกางซู(Kangshu) ก็กล่าวขึ้นว่า เขายินดีที่จำทำหน้าที่เป็นตัวแทนชาวประมง เพื่อลงนามในข้อตกลงการซื้อ-ขาย กับกรมคลังวัสดุ ก่อนที่จะมีการปฏิรูป ชาวประมงได้สะสมปลาไว้เกือบ 20000 หน่วย และเกือบทั้งหมดถูกเก็บไว้ในคลังสินค้า

หลังจากการปฏิรูป ชาวประมงก็ทำปลาเค็มตากแห้ง สำหรับส่งไปขายในตลาดขั้นต้น โอหยางโชวได้คำนวณส่วนต่างจากภาษี 20% ของตลาด คิดเป็น 12 เหรียญทองแดง/หน่วย รายได้หลักของเขา คือการเก็บภาษีทางการค้า

เมื่อมีการลงนามในข้อตกลงซื้อ-ขายนี้แล้ว ทุกคนก็แยกย้ายกันออกไป

หลังจากจบเรื่องนี้ โอหยางโชวได้เรียกเจ้ากรมคลังวัสดุเข้ามา เพื่อให้เขาเตรียมคนขนย้ายสินค้าไปยังตลาดขั้นต้น เพื่อขายสินค้า นอกจากนี้ พวกเขายังได้เก็บเนื้อสัตว์อีก 31 ล้านหน่วย เนื้อเค็ม 160000 หน่วย และเบคอน 60000 หน่วย ไว้ในคลังสำรอง ส่วนที่เหลือจะถูกขายพร้อมกับเพื้ออื่นๆ

ปลา เนื้อสัตว์ และเบคอน ขายได้ประมาณ 15 เหรียญทองแดง/หน่วย เมื่อเสียภาษี 20% แล้วเขาได้รับเงินประมาณ 144 เหรียญทอง

ตอนนี้โอหยางโชวมีเงิน 246 เหรียญทอง เขาใช้เงินอย่างขมขื่น ซื้อชุดตัดเย็บระดับทองดำในราคา 120 เหรียญทอง เพื่อมอบให้กับมู่ฉิงซี

ชื่อ : ชุดอุปกรณืตัดเย็บ(ระดับทองดำ)

คุณสมบัติ : ประสิทธิภาพในการตัดเย็บ เพิ่มขึ้น 20%, ความเชี่ยวชาญด้านการตัดเย็บเพิ่มขึ้น 20%

การประเมิน : มันเป็นฝันของช่างตัดเย็บที่จะได้ใช้ชุดอุปกรณ์นี้ เหมาะสำหรับช่างตัดเย็บขั้นมาสเตอร์

กลับจากตลาด เขาเดินไปที่ร้านตัดเย็บของมู่ฉิงซี และมอบชุดตัดเย็บระดับทองดำให้กับเธอ เธอมีความสุขมากหลังจากได้รับมัน

เมื่อเขากลับไปที่คฤหาสน์ เวลาก็ล่วงมาถึง 18.00 น. แล้ว โอหยางโชวกลับไปที่ห้องของเขา แล้วออกจากระบบไป

……………………………………………………………………………………………………………………………………………

เช้าวันรุ่งขึ้น โอหยางโชวไปที่ค่ายทหาร เพื่อเปลี่ยนขั้นผู้สมัครใหม่ 6 คน การทำลายค่ายโจรครั้งล่าสุด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 4 คน และผู้เสียชีวิต 2 คน

การทำลายค่ายโจรในครั้งนี้มีความสูญเสีย แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ได้มีการเก็บเกี่ยวสำหรับทหารม้า พวกเขายึดอาวุธและชุดเกราะได้เป็นจำนวนมาก เพียงพอที่จะให้เป็นอุปกรณ์สำรอง

ที่สำคัญกว่านั้น หลังจากผ่านการต่อสู้อันขมขื่น ทหาร 50 เลื่อนเป็นทหารผ่านศึกขั้น 5 จางต้าหนิว เจ้าซีฮู และหัวหมู่คนอื่นๆได้เลื่อนเป็นทหารหัวกระทิขั้น 7

ในหมู่ทหารใหม่ พวกเขาได้เลื่อนเป็นทหารทั่วไปขั้น 3 และมีบางคนที่โดดเด่น ได้เลื่อนเป็นทหารผ่านศึกขั้น 4 พวกเขาถูกสังเกตการโดยขุนพลซี และถูกมอบตำแหน่งผู้นำตามผลงาน

กลุ่มผู้นำใหม่ เป็นผ้มีความสามารถ 2 คน คนแรกคือ โจวเฟิง(Zhou Feng) อายุ 23 ปี ได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหมู่ของหมวดทหารม้าที่ 2 หมู่ที่ 2 อีกคนคือ เลียวไค(Liao Kai) อายุ 25 ปี ได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหมู่ของหมวดทหารม้าที่ 1 หมู่ที่ 3

กลับไปที่คฤหาสน์ เทียนเหวินจิงรอเขาอยู่ในสำนักงาน โอหยางโชวยิ้มแล้วกล่าวว่า “ท่านไม่สามารถที่หน้าประตูได้หรือ?”

ใบหน้าของเทียนเหวินจิงไม่แสดงความรู้สึกใดๆขณะที่เขาตอบ “นายท่านต้องการให้เป็นเรื่องสนุกหรือ? เมื่อวานนี้ข้าได้สำรวจดินแดนของเรา และได้สังเกตเห็นบางอย่างเกี่ยวกับการเลี้ยงสัตว์ ในดินแดนของเรามีการเลี้ยงสัตว์เพียง 2 ชนิด คือ หมูและโค”

“ท่านคิดยังไงกับเรื่องนี้ล่ะ?”

“นอกเหนือไปจากหมู โค และสัตว์เลี้ยงขนาดใหญประเภทอื่นๆ เรายังสามารถฝึกสัตว์ปีกเช่น ไก่ และเป็ดให้เชื่องได้ ข้าไม่รู้ว่านายท่านคิดอย่างไรในเรื่องนี้?”

โอหยางโชวตบหน้าผากตัวเองอย่างแรง “โอ้! ข้าลืมคิดไปได้ยังไงกัน ข้ามัวแต่คิดเรื่องการฝึกสัตว์ป่าให้เชื่อง และมองข้ามสัตว์ปีกขนาดเล็กไป”

“ท่านคิดว่า การเลี้ยงสัตว์ปีกความจะดำเนินการโดยภาครัฐ หรือกระจายไปยังครอบครัวเรือนต่างๆดี?”

“ในท้ายที่สุด ดินแดนจะมีการค้าภายใน เป็นการยากที่จะทำกำไร ถึงทำได้ก็ไม่สูงนัก ดังนั้น ข้าคิดว่า เราควรอนุญาติให้ชาวบ้านสามารถเลี้ยงพวกมันได้โดยอิสระ เพื่อเป็นการช่วยลดสถานการณ์การขาดแคลนอาหารของดินแดนอีกทาง” เทียนเหวินจิงกล่าวอย่างสงบ

เทียนเหวินจิงแสดงให้เห็นถึงประสบการณ์ของเขา เขาเพิ่งเข้ามาในกรมคลังวัสดุ และเมื่อตรวจสอบพบข้อบกพร่องแล้ว เขาก็ได้ให้คำแนะนำกับโอหยางโชวทันที ด้วยความสามารถในระดับนี้ โอหยางโชวสบายใจมากขึ้น ที่ได้แต่งตั้งเขาเป็นเจ้ากรมคลังวัสดุ

“ข้าจะไปที่ตลาดเร็วๆนี้ เพื่อซื้อไข่ไก่ ไข่เป็ด และไข่ห่าน จำนวนมาก และจะมอบมันให้กับกรมคลังวัสดุ เพื่อวางขายในร้านค้า” โอหยางโชวกล่าว

เทียนเหวินจิงพยักหน้า และออกไปเตรียมเรื่องนี้

โอหยางโชวไปที่ตลาดอีกครั้ง ไข่ไก่ราคา 3 เหรียญทองแดง/ฟอง, ไข่เป็ดราคา 4 เหรียญทองแดง/ฟอง และไข่ห่านราคา 5 เหรียญทองแดง/ฟอง เขาซื้อไข่ไก่ 20000 ฟอง, ไข่เป็ด 20000 ฟอง และไข่ห่าน 10000 ฟอง รวมเป็นเงิน 19 เหรียญทอง เขาบอกเจ้ากรมคลังวัสดุ ถึงราคาของไขชนิดต่างๆ พวกมันจะถูกขายครึ่งหนึ่งของราคาเต็มให้กับชาวบ้าน และไม่มีการปรับราคาในตอนนี้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด