ตอนที่แล้วChapter 51: ฉันเป็นปิกาจู?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 53: ฐานที่มั่นของเจียงจู้อิง

Chapter 52: มันถึงเวลาที่จะต้องไปแล้ว


มันเริ่มที่จะมืดลงแล้ว ดังนั้นทุกคนเริ่มที่จะหยิบกระเป๋าบางใบที่อยู่บนพื้นในขณะที่กำลังถืออาวุธของพวกเขาอย่างแน่นๆ

 

เมื่อเจียงจู้อิงพูดเกี่ยวกับลงจากรถมินิบัส เธอนั้นหยุดและหันกลับไปมองด้วยท่าทางที่มึนงง และพูด “พี่ชาย เราต้องไปได้แล้ว”

 

พวกเขานั้นเตรียมพร้อมที่จะจากไปแล้ว เจียงลู่ฉีไม่ได้ต้องการลงจากรถหรือหยิบอะไรที่สำคัญไปกับเขาเลย เขายังคงนั่งอยู่บนที่นั่งคนขับ

 

“ขึ้นมาและมานั่งบนนี่” ตาของเจียงลู่ฉีชี้ไปที่นั่งโดยสารอีกฝั่งหนึ่ง และหลังจากนั้นเขาก็เปิดหน้าต่างและพูดกับคนที่อยู่ด้านนอก “ขึ้นมาบนรถได้แล้ว”

 

เมื่อพวกเขาเห็นเจียงลู่ฉีกำลังนั่งอยู่บนที่นั่งคนขับ พวกเขาคิดว่าเขาต้องการที่จะนำของบางอย่างออกไป แต่เมื่อพวกเขาได้ยินเขาพูด พวกเขารู้สึกว่าสิ่งเขาได้ยินมันผิดและมองกันและกันเพื่อยืนยันให้แน่ชัด

 

[ขับรถมินิบัสเก่าๆคันนี้ไปที่จุดหมายของเรางั้นหรอ?]

 

ถ้ามันคือรถซีดาน ละก็มันยังโอเค แต่สำหรับรถมินิบัสเก่าๆอย่างงี้ ซึ่งมันจะกลายเป็นเป้าหมายขนาดใหญ่สำหรับพวกมัน มันสามารถที่จะดึงดูดปัญหาให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งการเพิ่มจำนวนซอมบี้นั้นหมายถึงพวกเขาจะต้องถูกติดตามโดยพวกมัน และอาจจะพ่ายแพ้ได้

 

พวกเขานั้นไม่เห็นประโยชน์อะไรเลยที่จะต้องใช้สิ่งนี้เพื่อไปถึงจุดหมาย เมื่อเปรียบเทียบกับความสามารถของพวกเขาที่ทรงพลังเป็นอย่างมาก ไม่ต้องพูดถึงความสามารถอันยอดเยี่ยมของเจียงจู้อิงเลยด้วยซ้ำ

 

ถ้านี่คือรถมินิบัสรุ่นใหม่ พวกเขาคงไม่ลังเลมาก แต่นี่ไม่เพียงแค่มันดูเก่า มันยังลากรถตู้อีกคันไว้ด้วยซ้ำ!

 

ตามจริงแล้ว เจียงลู่ฉีไม่ได้คิดว่าว่ามันมีปัญหากับการขับรถมินิบัส ในทางตรงกันข้าม รถมินิบัสนี่มันทำให้เขามีชีวิตรอด และภายใต้สถานการณ์ปกติ เขาจะไม่ให้คนจำนวนมากนั้นขึ้นมาบนรถของเขา แต่คนพวกนี้นั้นคือผู้ติดตามของเจียงจู้อิง ดังนั้นเขาจึงมีความคิดที่จะชวนพวกเขาขึ้นมา

 

เจียงจู้อิงมองไปที่ผู้ติดตามของพวกเธอ และหลังจากนั้นก็พี่ชายของเธอ และเธอก็ขึ้นไปนั่งบนที่นั่งโดยสาร

 

เมื่อเห็นผู้ใต้บังคับบัญชายังคงยืนอยู่ด้านนอกโดยไม่ได้ขยับ เจียงจู้อิงก็ขยับเข้าไปกับหน้าต่างและตะโกน “พวกนายยังยืนโง่อยู่ตรงนั้นกันเพื่อไร? ขึ้นมาบนรถซะ”

 

ตามจริงแล้ว พวกเขานั้นคิดว่ามันคงเสียมารยาทที่จะปฏิเสธข้อเสนอของเจียงลู่ฉี แต่มันไม่มีปัญหาสำหรับเจียงจู้อิง แต่โดยไม่คาดหวัง ความใจเย็นและความมีเหตุผลของผู้นำนั้นทำให้ตกลงโดยปราศจากความลังเลใดๆ หลังจากฟื้นฟูความตกตะลึงของพวกเขา พวกเขาก็มองกันและกันและหลังจากนั้นก็ขึ้นไปบนรถเมล์

 

เมื่อพวกเขานั้นขึ้นมารถนี้ พวกเขาก็มึนงง ในทางตรงกันข้ามกับสภาพโทรมๆด้านนอก ข้างในนั้นหรูหราอย่างมาก ผู้หญิงผมลอนนั้นมองไปรอบๆด้วยความสงสัย และพบว่าบนรถคันนี้นั้นมีทุกอย่างเกือบจะหมดแล้ว

 

“รถคันนี้มันน่าใจจริงๆ!” ชายหนุ่มนั้นแสดงความคิดเห็นขึ้น

 

เด็กผู้หญิงผมลอนนั้นเหลือบตามองไปที่ชายหนุ่มโดยไม่ได้พูดอะไรเลย เธอนั้นคิดว่ารถคันนี้มันหรูเป็นอย่างมาก ในช่วงเวลาวันโลกาวินาศแบบนี้ มันจะไม่ได้ถูกใช้ ซึ่งทำให้มันไม่ค่อยปกติสักเท่าไหร่

 

“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อหยางฉิงฉิง ยินดีที่ได้รู้จักกับคุณค่ะ มันเป็นเรื่องที่สุดยอดอย่างมากที่คุณสามารถขับมาจากเจียงเบยจนมาถึงที่นี่ได้ คุณจะต้องได้พบกับอะไรต่างๆมามากมายตลอดทาง” ผู้หญิงผมลอนเดินมาที่ห้องคนขับ ยิ้มหวานและแสดงท่าทางเป็นห่วง

 

ตามความเข้าใจของเธอ ทางระหว่างเมืองเจียงเบยถึงจินหลิง นั้นมันเป็นการเดินทางที่ยากลำบาก มันจะต้องเต็มไปด้วยอันตรายและความยากลำบากตลอดทาง

 

หยางฉิงฉิงนั้นได้คิดที่จะทำความรู้จักเจียงลู่ฉีอยู่แล้วในขณะที่เธอนั้นอยู่ด้านนอกรถ เมื่อเธอพูด เธอก็ยื่นมือของเธอออกไป

 

“สวัสดี เธอสามารถเรียกฉันว่า เจียงลู่ฉี” เจียงลู่ฉีก็ยื่นมืออย่างสุภาพไปให้เธอเช่นกัน

 

เมื่อมองของทั้งคู่นั้นกำลังจะแตะกัน ยิ้มของเธอก็แข่งขึ้น แต่เธอก็ซ่อนความรู้สึกไว้และจับมือกับเจียงลู่ฉี “นายคือพี่ชายของจู้อิง และฉันก็เป็นเพื่อนที่ดีของเธอ ดังนั้นมันไม่น่าจะต้องเป็นทางการแบบนั้น ฉันสามารถที่จะเรียกคุณว่าพี่เจียงได้ไหม?”

 

“แน่นอน” เจียงลู่ฉีพยักหน้า มหาวิทยาลัยของเจียงจู้อิงนั้นอยู่ใกล้ที่นี่ ดังนั้นมันเป็นเรื่องปกติที่เด็กผู้หญิงข้างหน้าคือเพื่อนร่วมห้องของเธอ

 

ชายหนุ่มนั้นรีบที่จะเดินมาจับมือเช่นกัน “พี่ชาย สวัสดี ฉันชื่อจางไฮ่ พี่สามารถเรียกฉันว่า ไฮซิได้ ฉันชื่นชมหัวหน้าของเราเป็นอย่างมาก”

 

คนอื่นนั้นก็มาพูดว่าสวัสดี จากการสนทนาของพวกเขานั้น เจียงลู่ฉีได้รับรู้ว่าหยางฉิงฉิงและจางไฮ่นั้นเป็นพวกมีพลังนอกเหนือธรรมชาติ รวมไปทั่งชายหนุ่มที่ตัวเตี้ยอีกคน ผู้ชายที่มีกล้ามบึกบึนนั้นไม่ได้เป็นพวกมีพลังเหนือธรรมชาติ เขานั้นเคยเป็นยามเฝ้ามาก่อน ซึ่งเป็นคนที่เกษียนตัวจากการเป็นทหารมา และความสามารถในการต่อสู้ของเขานั้นด้อยกว่าแค่เพียงพวกมีพลังเหนือธรรมชาติ

 

และมันก็ยังมีผู้หญิง ซึ่งเป็นคนไม่ค่อยพูด ซึ่งไม่มีความสามารถพิเศษ แต่โดยรวมแล้วเธอก็ยอดเยี่ยม

 

หลังจากที่ทักทายกัน จางไฮ่เดินเข้ามาในรถและนั่งต่อไปจากหยางฉิงฉิง หลังจากนั้นหยางฉิงฉิงก็กระซิบ “พี่ชายเจียงดูไม่เหมือนจะมีพลังพิเศษอะไรเลย ฉันไม่สามารถที่จะรู้สึกพลังงานอะไรก็ตามเลยจากตัวเขา”

 

พวกที่มีพลังนอกเหนือธรรมชาตินั้นจะมีความสามารถที่จะตรวจจับและตัดสินได้ว่าคนอื่นนั้นมีพลังงานนอกเหนือธรรมชาติ ซึ่งมันคล้ายคลึงกับฟังก์ชั่นของเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาว

 

แต่หยางฉิงฉิงนั้นไม่สามารถที่จะรู้สึกความผันผวนอะไรเลยก็ตามจากเจียงลู่ฉี จางไฮ่นั้นก็สังเกตเช่นกันแต่เขาไม่ได้คิดว่ามันมีบางสิ่งที่ผิดปกติ “ถ้าเป็นยังงั้น มันยิ่งยอดเยี่ยมไปกันใหญ่ คนธรรมดาที่สามารถมาถึงจินหลงโดยปราศจากการช่วยเหลือของความสามารถแบบนี้ มันสุดยอด”

 

“เบาเสียงนายลงหน่อย!” หยางฉิงฉิงนั้นด่าในทันที ถ้าพี่น้องคู่นั้นรู้ว่าพวกเธอกำลังคุยกันเรื่องนี้อยู่ สถานการณ์จะกลายเป็นวุ่นวาย เธอนั้นไม่ต้องการที่จะพูดกับจางไฮ่อีกแล้ว ดังนั้นเธอจึงหันไปมองเจียงลู่ฉี

 

[ไม่ใช่พวกที่มีพลังเหนือธรรมชาติ.... หนึ่งในพี่น้องนั้นเป็นคนที่โคตรฉลาดในกลุ่มของพวกมีพลังเหนือธรรมชาติ แต่อีกคนหนึ่งนั้นไม่มีความสามารถอะไรเลย น่าสนใจเป็นอย่างมากละ] หยางฉิงฉิงคิด

 

แม้ว่าที่นั่งบนโซฟาจะทำให้หยางฉิงฉิงรู้สึกสะดวกสบายเป็นอย่างมาก แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น เธอคิดว่าเจียงลู่ฉีไม่ใช่พวกมีพลังนอกเหนือธรรมชาติ และสภาพรถโดยรวมของรถนั้นดูน่ารังเกียจในสายตาของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่ได้มองโลกในแง่ดีว่ารถคันนี้จะไปได้ถึงไหน

 

ก่อนที่เจียงลู่ฉีจะสตาร์ทรถ เขาก็หันกลับไปถาม   “อิง เธออาศัยอยู่ที่ไหนหน่ะ? ฉันจะใช้แผนที่เพื่อดูว่ามีทางไหนที่ดีที่สุดที่จะไปได้ ซอมบี้มันน่ารำคาญมาก”

 

“....”

 

สำหรับคนที่ไม่มีความสามารถ ซอมบี้นั้นไม่ใช่เพียงแค่น่ารำคาญ แม้แต่สำหรับพวกเขา มันก็อันตรายเป็นอย่างมากที่จะพุ่งผ่านซอมบี้

 

อย่างไรก็ตาม เจียงจู้อิงก็ยังคงร่วมมือเป็นอย่างดี “แผนที่?! ฮ่าๆ ให้หนูดู มันไม่มีความสำคัญอะไรหรอก ถ้าพวกเราเจอซอมบี้ พี่สามารถเปิดหน้าต่างและให้หนูฆ่าพวกซะ ให้มันเหมือนกับรถยนต์ที่ติดปืนกลแบบนั้นเลย”

 

เมื่อมองการตอบกลับของเจียงจู้อิงแบบนั้นทำให้ทุกคนนั้นเช็ดตาของตัวเองว่า พวกเขานั้นฟังถูกแล้วใช่ไหม

 

ตามจริงแล้ว ถ้าใครบางคนพูดเรื่องที่ไม่มีเหตุผลแบบนี้ สีหน้าของผู้นำของเขาจะเยาะเย้ยและล้อเลียนพวกเขา

 

แต่ ไม่ว่าอะไรก็ตามที่เจียงลู่ฉีพูด เจียงจู้อิงก็จะช่วยเหลือเขาโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆเลย

 

พวกเขาพึ่งจะมาพบกันและกัน ดังนั้นลักษณะที่แปลกประหลาดพวกนี้ สามารถที่จะเข้าใจได้.....

 

บางทีอะนะ.....

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด