ตอนที่แล้วChapter 49: รอพี่ก่อน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 51: ฉันเป็นปิกาจู?

Chapter 50: เธอเป็นหัวหน้าอย่างงั้นเหรอ?


เจียงลู่ฉีได้ยินเสียงของชายหนุ่มดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เขานั้นดินมาที่ด้านหน้าของรถมินิบัสอย่างชัดเจน และมองอย่างมึนงง

 

“ฉันไม่สามารถที่จะเห็นอะไรได้เลยจากตรงนี้และบางทีอาจจะมีใครบางคนนั่งอยู่บนนั่น พระเจ้านั้นรู้ว่าใครนั้นมา”ชายหนุ่มพูด

 

ผู้หญิงก็บ่นต่ออย่างมุทะลุ “นายไม่จำเป็นต้องสนใจว่าพวกเขานั้นมาจาที่ไหน บางทีพวกเขาอาจจะถูกกินโดยซอมบี้ที่พวกเขาอาจจะถูกกินโดยซอมบี้ที่พวกเราเจอมาก่อนหน้านี้ด้วยซ้ำ”

 

“ฉันเพียงแค่สงสัยหน่า ใครกันที่ขับรถมินิบัสคันใหญ่แบบนี้?”ชายหนุ่มพูด

 

“อะไรก็ตาม รถที่มันทั้งเก่าทั้งโทรมแบบนี้มันไม่มีอะไรพิเศษหรอก”หญิงสาวพร้อมกับเสียงหวานที่ดูป่วยๆนั้นดูถูกรถมินิบัส ถึงแม้ว่าคำพูดส่วนใหญ่ของเธอนั้นปฏิเสธชายหนุ่มก็ตาม มุมมองของเธอนั้นก็ยังคงถูกต้องมากสำหรับรถมินิบัส

 

รถมินิบัสของเจียงลู่ฉีนั้น แน่นอน มันก็เป็นรถเก่าๆคันหนึ่ง…..

 

รูปร่างของมันนั้นสามารถที่จะบ่งบอกได้เลย และมันก็ลากรถตู้เก่าๆที่เต็มไปด้วยถุงอาหารที่มีคุณค่าไว้บนดาดฟ้าอีก ถ้ามันเป็นก่อนที่วันสิ้นโลกจะมาถึง รถยานพาหนะแบบนี้ก็ยังโอเคอยู่ อย่างไรก็ตาม ในสภาพแวดล้อมแบบนี้ ยานพาหนะคันนี้นั้นดูโทรมมากกว่าเดิมอีก มันเหมือนกับว่าถ้าซอมบี้นั้นโจมตีมัน มันจะกลายเป็นส่วนๆไปเลย

 

“ป้ายทะเบียนมันมาจากเมืองไหนนะ?”ชายหนุ่มนั้นไม่ได้สนใจคำพูดของเธอและเขาก็พยายามที่จะหารายละเอียดเพิ่มเติม

 

[มันเหมือนกับว่ามาจากเจียงเบย?]ชายหนุ่มคิดกับตัวเองและพูดอย่างไม่ได้คาดหวังอะไร “รถตู้เก่าๆนั่นมีอะไรอยู่ข้างในและกระเป๋าถุงพลาสติกนั้นละ? มาเปิดมันกันเถอะ!”

 

“มันก็เป็นเพียงแค่ขยะเท่านั้นแหละ”ผู้หญิงนั้นพูดเริ่มที่จะแรงขึ้น

 

“เพียงแค่ดูมันน่า บางมีพวกเราอาจจะหาอะไรที่มีประโยชน์ได้ก็ได้”ผู้ชายพูด

 

ในขณะที่เจียงลู่ฉีฟังว่าพวกเขานั้นกำลังจะแตะไปที่รถตู้ของเขา เขานั้นไม่สามารถที่จะให้พวกเขานั้นทำได้ เมื่อเขากำลังจะเปิดประตูขึ้น เขานั้นจำเสียงที่คุ้นเคยได้

 

“ป้ายทะเบียนนั่นมาจากเจียงเบย!”เสียงที่มีความรู้สึกประหลาดใจดังขึ้น ในขณะเดียวกัน เจียงลู่ฉีก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน

 

เขานั้นรีบที่จะพุ่งไปที่ยังห้องคนขับและมองผ่านกระจกหน้ารถ มันมีคนห้าถึงหกคนยืนอยู่ด้านนอกรถมินิบัส ในกลุ่มพวกเขา เจียงลู่ฉีสามารถที่จะหาเจียงจู้อิงเจอได้ในทันที

 

เจียงจู้อิงนั้นแต่งตัวด้วยกางเกงยีนส์ที่เรียบง่ายและเสื้อแจ็คเก็ตตัวใหญ่ที่มีเสื้อเชิ้ตสีขาวใส่อยู่ข้างใน ผมของเธอนั้นรวบจนเป็นหางม้า ทำให้เธอนั้นดูฉลาดและดูวัยเยาว์มาก เธอนั้นจ้องไปที่รถมินิบัสพร้อมกับถือแท่งเหล็กในมือ

 

เมื่อสบตาเข้ากับเจียงลู่ฉี เจียงจู้อิงนั้นเปิดตากว้างขึ้นด้วยความตกตะลึง ตาของเธอนั้นยังคงกว้างอยู่และปากของเธอนั้นกลายเป็นรูปตัว O

 

หลังจากนั้นเธอก็ตะโกน “พี่ชาย!”

....

 

ความประหลาดใจเกิดขึ้นบนใบหน้าของพวกเขา และพวกเขาก็ยังคงจ้องไปที่เจียงลู่ฉีต่อไป

 

[พี่ชายเจียงจู้อิงงั้นหรอ?!]

 

ผู้คนพวกนี้นั้นเต็มไปด้วยความประหลาดใจ แต่เจียงลู่ฉีนั้นตกตะลึงพร้อมกันกับพวกเขาด้วย เขานั้นไม่ได้คาดหวังไว้ว่าเจียงจู้อิงคือหนึ่งในกลุ่มคนพวกนี้

 

แต่มันมีสิ่งไม่ได้คาดคิดไว้หลังจากที่น้องสาวของเขาจะเรียกขึ้น เสียงของผู้ดังขึ้นอีกครั้ง “โอ้พระเจ้า หัวหน้า เขาคือพี่ชายของเธอนี่!”

 

ผู้ชายคนนี้ดูเหมือนอายุยี่สิบปี เขาแต่งตัวแบบธรรมดา กำลังถือมีดยาวอยู่ในมือ การแสดงออกของเขานั้นเป็นแบบเดียวกัน ในขณะที่กำลังจ้องไปที่เจียงลู่ฉี เขาไม่สามารถที่จะปกปิดความประหลาดใจของเขาได้

 

และมันมีเรื่องที่ไม่น่าเชื่อสำหรับลู่ฉี “หัวหน้า” ที่เขาได้ยินมาก่อนหน้านี้ นั้นกลับกลายเป็นน้องสาวของเขา....

 

เจียงลู่ฉีจ้องไปที่น้องสาวของเขาอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งกำลังยืนจ้องเขากลับมาด้วยความรู้สึกประหลาดใจเช่นเดียวกัน

 

….

 

“พี่ชายของหัวหน้านั้นมาจากเจียงเบยคนเดียว ซึ่งขับรถเมล์งี้อะนะ” ขายหนุ่มที่ถือมีดนั้นอยู่ด้านนอกกับคนอื่น เพื่อที่จะให้พื้นที่กับพี่น้อง พวกเขานั้นพึ่งจะได้พบหน้ากันและกัน ดังนั้นพวกเขานั้นจึงปล่อยให้พี่น้องนั่นอยู่ด้วย

 

ในกลุ่มคนพวกนี้ เด็กผู้หญิงที่มีผมลอนนั้นจ้องมาที่เขาและพูดด้วยเสียงต่ำ “นายต้องการที่จะตายงั้นหรอ? ทำไมนายพูดเสียงดังขนาดนี้ จู้อิงอาจจะได้ยินสิ่งที่นายพูดก็ได้”

 

“มันไม่จำเป็นหรอก” ผู้ชายคนนั้นไม่ได้กังวลอะไรและยังคงสังเกตรถเมล์ต่อ

 

คนทั้งหมดนั้นคิดว่าพี่ชายเจียงจู้อิงไม่มีโอกาสที่จะออกเมืองเจียงเบยได้ ไม่ต้องพูดเลยว่าจะไปถึง จินหลิง ไม่มีใครสามารถที่จะคาดคิดว่าเจียงลู่จะสามารถที่จะถึงจินหลงด้วยรถมินิบัสที่โทรมๆแบบนี้

 

“รถคันนั้นมันเหมือนกับการได้ถูกปรับปรุงมาแล้ว เขาฉลาดโคตร!” ชายหนุ่มพึมพำ

 

เด็กผู้หญิงผมลอนนั้นกรอกตาไปมาให้ชายหนุ่ม คนที่ทำให้เธอนั้นไม่สบอารมณ์มาเป็นระยะเวลายาวนาน แต่เธอก็สังเกตสิ่งที่ชายหนุ่มพูดด้วยเหมือนกัน ในตอนแรก เธอนั้นไม่ได้สนใจเกี่ยวกับรถเก่าๆนั่น แต่ในตอนนี้เธอนั้นถูกกระตุ้นความสนใจในตัวรถนั่น หลังจากที่รู้ว่ามันคือรถของพี่ชายเจียงจู้อิง อย่างไรก็ตาม เธอก็ไม่ได้พบอะไรกับที่เป็นรูปธรรมเลย ด้วยเหตุนี้แล้ว เธอนั้นสนใจเจียงลู่ฉีมากยิ่งขึ้น

 

“บางทีพี่ชายจู้อิงนั้นก็ยอดเยี่ยมมากเช่นกันด้วย”ผู้หญิงผมลอนพูด ชายหนุ่มและคนอื่นนั้นตกลง

 

“มันต้องยอดเยี่ยมมากๆแน่ๆละ” ชายหนุ่มนั้นเริ่มที่จะชื่นชมอีกครั้ง ในกลุ่มของเขา เจียงลู่ฉีเห็นชายหนุ่มที่มีรูปร่างสูงกำลังถือขวานด้วยท่าทางที่ดูดุร้าย

 

“คนประเภทนี้นั้นเชื่อฟังเธอด้วยหรอ” เจียงลู่ฉีหันหัวกลับมาจากหน้าต่างและจ้องมาที่เจียงจู้อิง

 

พวกเขานั้นได้คุยกันมามากว่าสิบนาที และในสิบนาทีนี้พวกเขานั้นถามคำถามกันและกัน แต่ส่วนมากนั้นเจียงจู้อิงจะถามเขามามากกว่า

 

เจียงลู่ฉีนั้นประหลาดใจเกี่ยวกับสถานการณ์ของน้องสาวของเขา เมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวได้บอกกับเขาว่าเจียงจู้อิงจะไม่มีทางกลายพันธุ์เป็นซอมบี้ แต่นอกนั้นเขาก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับอนาคตของจู้อิงเลย

 

สถานการณ์ของเจียงจู้อิงนั้นไม่ใช่สิ่งที่เขาคาดไว้ น้องสาวของเขากลายเป็นสิ่งที่มีพลังนอกเหนือธรรมชาติ

 

หลังจากที่เธอนั้นค้นพบความสามารถพิเศษของตัวเอง เจียงจู้อิงก็เริ่มต้นที่จะฝึกฝนมัน แต่หลังจากชั่วขณะหนึ่ง เจียงจู้อิงนั้นค้นพบว่าเธอจะต้องออกจากที่หลบซ่อนของเธอ

 

เธอนั้นเริ่มรวบรวมผู้รอดชีวิตและกลายเป็นผู้นำของพวกเขา และคำเรียกว่า “หัวหน้า” นั้นคือความสนใจส่วนตัวของเธอเอง

 

“มันหมายความว่าอะไรที่เธอจะต้องจากไป? มันมีเหตุผลอะไรเกี่ยวกับมันงั้นหรอ?”เจียงลู่ฉีถาม

 

เจียงจู้อิงบุ้ยปากและคิดชั่วครู่หนึ่งและหลังจากนั้นก็พูด “มันยากมากที่จะอธิบายมัน พี่จะรู้ในไม่ช้านี่แหละ”

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด