ตอนที่แล้วTXV  –  70 หมอจำเป็น !
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTXV –  72 สุนัขรับใช้ที่ซื่อสัตย์

TXV –  71  200,000 ตกลงมั้ย ?


TXV –  71  200,000 ตกลงมั้ย ?

 

          หลังจากที่ผู้หญิงคนนี้ออกจากร้านทำผมไป เธอก็สังเกตเห็นว่าวันนี้คงเป็นลูกค้าคนสุดท้ายของฉิงเสวียงแล้วล่ะ…

 

          “เสวียง คุณจะกลับบ้านเลยหรือไปโรงพยาบาล ?” เอ๋หลานถาม

 

          “ฉันจะไปโรงพยาบาลเพื่อไปเยี่ยมแม่ของฉันก่อนที่ฉันจะกลับบ้าน” ฉิงเสวียงกล่าว

 

          “คุณมีเงินพอที่จะจ่ายค่าผ่าตัดของแม่คุณรึปล่าว ?” เอ๋หลานถาม

 

          ฉิงเสวียงขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า “ฉันยังมีเหลืออยู่นิดหน่อย ฉันคงต้องทำอะไรบางอย่างแล้วแหละ คุณไม่ต้องกังวลไปหรอก กลับบ้านไปเถอะพรุ่งนี้คุณต้องมาเปิดร้านตั้งแต่เช้า”

 

          “เอางั้นก็ได้ ลาก่อน” เอ๋หลานขึ้นรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าและขับจากไป

 

          ฉิงเสวียงขึ้นรถมอเตอไซค์ยามาฮ่าของเขาและขับไปตามถนน…

 

          มีรถโปโลสีแดงขับตามเธอมาซึ่งอยู่ห่างจากเขาระยะหนึ่ง

 

          ถึงแม้ว่าระยะห่างจากรถโปโลกับมอเตอไซค์ยามาฮ่า อยู่ห่างกันประมาณ 200 เมตร ฉิงเสวียงเคยเป็นโจรที่ว่องไวมาก่อน เขามีความระมัดระวังตัวสูงและชั่งสังเกตตลอดเวลามากกว่าคนทั่วไป การที่สะกดรอยตามเขาไม่ใช่เรื่องง่ายเลย…

 

          หลังจากนั้นประมาณ 10 นาทีเขาก็ขับรถมาถึงโรงพยาบาล

 

          มีป้ายบอกตลอดทางในถนนเส้นหลักซึ่งมันเขียนว่า ‘โรงพยาบาลห่ายจู’ เซี่ยเหล่ยรู้จักโรงพยาบาลแห่งนี้มาก่อน ที่นี่เป็นโรงพยาบาลเอกชนที่เก็บค่ารักษาแพงกว่าโรงพยาบาลของรัฐบาลแต่โรงพยาบาลเอกชนแห่งนี้จะได้รับริการที่รวดเร็วและดีกว่ามาก ทันทีที่ฉิงเสวียงจอดรถมอเตอไซค์ เขารีบเดินเข้าไปในล็อบบี้ของโรงพยาบาล

 

 

          เมื่อฉิงเสวียงเดินมาถึงล็อบบี้ของโรงพยาบาล มีหญิงสาวชุดพยาบาลคนหนึ่งได้กล่าวทักทายเขาจากระยะไกล “พี่ฉิง วันนี้คุณเอาอะไรมาฝากฉันมั้ย ?”

 

          “ไม่มีอะไรฝากเธอหรอก ครั้งหน้าฉันจะเอาของอร่อยๆมาให้คุณกินนะ” ฉิงเสวียงหัวเราะออกมา “เจ้าแมวตะกละเอ้ย !”

 

          สาวพยาบาลเอ่ยขึ้นมาว่า “คุณช่วยทำผมให้ฉันหน่อยได้มั้ย ?”

 

          พยาบาลพยายามยืนขวางทางฉิงเสวียงเอาไว้ เขาพยายามใจเย็นและเก็บอาการหงุดหงิดไว้ในใจพร้อมกับพูดว่า “พรุ่งนี้ มาที่ร้านของฉันสิ ฉันจะทำผมให้เธอฟรีๆเลย” ฉิงเสวียงกล่าว

 

          “ได้เลย ! ดีมากๆเลยล่ะ” พยาบาลสาวยยิ้มออกมา

 

          ฉิงเสวียงเดินผ่านล็อบบี้ไปอย่างรวดเร็วและรีบขึ้นลิฟไปทันที…

 

          เซี่ยเหล่ยเดินตามไปยังล็อบบี้และมองไปยังตัวเลขที่แสดงออกมาว่าลิฟหยุดอยู่ที่ชั้น 5

 

          เซี่ยเหล่ยเดินตรงไปที่พยาบาลและยิ้มออกมาในขณะที่ถามว่า “คุณพยาบาล ฉิงเสวียงมาที่นี่รึปล่าว ?”

 

          “คุณรู้จักฉิงเสวียงได้ยังไง ?” พยาบาลสาวมองไปที่เซี่ยเหล่ยด้วยความสงสัย

 

          เซี่ยเหล่ยพยักหน้า “ใช่ พวกเราเป็นเพื่อนกันหน่ะ ผมไม่สามารถติดต่อเขาได้เลย เขาปิดโทรศัพท์ผมไม่สามารถโทรหาเขาได้ ผมมีเรื่องสำคัญจะคุยกับเขา”

 

          “เขาไปเยี่ยมแม่ของเขาที่ชั้น 5 ห้อง 201 คุณจะเจอเขาอยู่ในห้องนั้น”พยาบาลกล่าว

 

          “ขอบคุณครับ อ่อ...แม่ของเขาป่วยเป็นโรคอะไรหรอ ? ผมถามเขาแต่เขาไม่เคยบอกผมเลย” เซี่ยเหล่ยกล่าว

 

          “แม่ของเขาเป็นมะเร็งปากมดลูกและเธอก็ต้องการรักษาโดยการใช้เคมีบำบัด” พยาบาลพูดต่อว่า “คุณควรที่จะพูดกับเขาดีๆนะ มะเร็งชนิดนี้สามารถรักษาให้หายขาดได้แต่ต้องใช้เงินจำนวนมากเช่นกัน”

 

          “มากแค่ไหน ?” เซี่ยเหล่ยถามอย่างรีบร้อน

 

          พยาบาลกล่าวว่า “500,000”

 

          “อ่อ ขอบคุณครับ ผมจะรีบไป” เซี่ยเหล่ยรีบออกจากล็อบบี้ของโรงพยาบาลทันที

 

          พยาบาลสาวมองดูเซี่ยเหล่ยเดินเข้าไปในลิฟแล้วบ่นพึมพัมกับตัวเองว่า “มีชายที่หล่อเหลาขนาดนนี้ที่ยอมเป็นเพื่อนรักกับฉิงเสวียงด้วยหรอ ? บนโลกนี้มีเหตุการณ์อย่างนี้จริงๆหรอ ?”

 

          มันเป็นเรื่องที่ดีที่เซี่ยเหล่ยไม่ได้ยินข้อความนี้ ถ้าเขาได้ยินข้อความนี้คงจะเสียวสันหลังวาบไปทั้งตัว มีทางเดินอยู่ 2 ข้างทางและมีแสงสาดส่องมาจากหน้าต่างทั้ง 2 ข้างไม่มีใครอยู่บริเวณแห่งนี้เลย ที่นี่มันดูรกร้างและดูน่ากลัวไปในเวลาเดียวกัน

 

          เซี่ยเหล่ยเจอห้องห้อง 201 อย่างรวดเร็วแต่มีประปิดกั้นอยู่ แต่มันไม่ใช่ปัญหาของเซี่ยเหล่ยเลย เขาใช้ตาซ้ายมองทะลุประตูเข้าไปและมองสิ่งที่อยู่ในห้องนั้นทั้งหมด

 

          มีเตียง 3 เตียงอยู่ในห้องนั้นมี 1 เตียงที่ไม่มีคนนอนอยู่และมีเตียงหนึ่งที่มีผู้ป่วยหญิงคนหนึ่งนอนอยู่บนเตียงข้างประตูทางเข้า ดูเหมือนว่าเธอจะมีอายุประมาณ 50 ปีเธอกำลังดื่มอะไรสักอย่างในแก้วถัดไปอีกเตียงมีผู้หญิงอีกคนวัย 40 ต้นๆนอนอยู่และก็มีฉิงเสวียงนั่งอยู่ข้างๆเตียงนั้น คิดว่าผู้หญิงวัย 40 คนนั้นน่าจะเป็นแม่ของเขา

 

          “ฉิงเสวียง แม่ของคุณเพิ่งหลับไปเมื่อกี้” ผู้ป่วยหญิงที่อยู่เตียงข้างๆกล่าว

 

          “ป้าช่าว วันนี้แม่ของฉันเป็นยังไงบ้าง ?” เสียงของฉิงเสวียงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนยิ่งกว่าผู้หญิงสะอีก

 

          ผู้ป่วยหญิงเตียงๆข้างคือป้าช่าวเธอตอบฉิงเสวียงไปว่า “อาการของเธอไม่ค่อยดีนัก เธอรู้สึกกังวลเรื่องโรคภัยไข้เจ็บของตัวเธอเอง คุณต้องโน้มน้าวให้แม่ของคุณรักษาโรคนี้ให้เร็วที่สุด ฉันกลัวว่าถ้าช้ากว่านี้อาการของเธอจะแย่ลงเรื่อยๆ”

 

          “ฉันจะคุยกับแม่เอง” ฉิงเสวียงกล่าว

 

          “อีกอย่าง คุณควรใช้เวลาอยู่กับแม่ของคุณให้มากขึ้น ปิดร้านสักระยะหนึ่งเถอะ แม่ของคุณไม่มีใครมาเยี่ยมเลย จะให้เธอมีความสุขได้ยังไงล่ะ ?”

 

          ทันใดนั้นความเศร้าโศกปรากฎขึ้นบนใบหน้าของฉิงเสวียง เขาพูดว่า “การักษานี้จะต้องใช้เงินจำนวนมากแล้วฉันจะหาเงินจากไหนมารักษาแม่ล่ะ”

 

          “เฮ้ออออ” ป้าช่าวถอนหายใจออกมาและมุดตัวเข้าไปนอนในผ้าห่ม

 

          เซี่ยเหล่ยหยุดใช้ตาซ้ายจ้องมองพวกเขาจากนั้นเขาใช้มือผลักประเข้าไปอย่างช้าๆ

 

          สีหน้าของฉิงเสวียงเปลี่ยนไปทันทีที่เขาเห็นเซี่ยเหล่ย จากนั้นเขาหันไปมองที่เซี่ยเหล่ยด้วยดวงตาที่โกรธจัด

 

          ฉิงเสวียงเดินออกจากห้องและปิดประตูจากนั้นเขาทำการโจมตีไปที่หน้าอกของเซี่ยเหล่ย

 

          เซี่ยเหล่ยใช้เคล็ดวิชาหัตถ์ผสานรับการโจมตีจากฉิงเสวียงได้อย่างสบายๆ จากนั้นเขาได้ทำการตอบโต้ฉิงเสวียงโดยการจับที่ข้อเท้าแล้วผลักออกไปในเวลาเดียวกัน

 

          ฉิงเสวียงมองไปที่เซี่ยเหล่ยด้วยความประหลาดใจ เขารู้สึกว่าเซี่ยเหล่ยแตกต่างไปจากเมื่อก่อน เซี่ยเหล่ยกลายเป็นอัจฉริยะการต่อสู้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ? แต่อย่างไรก็ตามเขายังโจมตีเซี่ยเหล่ยด้วยข้อศอกไปยังใบหน้าของเซี่ยเหล่ยทันที....

 

          เซี่ยเหล่ยยกมือขึ้นมาจับข้อศอกของเธอจากนั้นเขาใช้แรงเหวี่ยงข้อศอกเธอไปอีกด้านหนึ่ง เขาก้าวถอยหลังไปและพูดว่า “ผมจะสู้กับคุณ นี่มันโรงพยาบาลและแม่ของคุณก็ยังอยู่ในห้อง คุณอยากให้เธอตื่นขึ้นมาเห็นเราทั้งสองคนสู้กันอยู่หรอ ?”

 

 

          คำพูดของเซี่ยเหล่ยเหมือนจะส่งผลไปกระทบกับจิตใจของเขา เขาหยุดการโจมตีทันทีแต่ดวงตาของเขายังเต็มไปด้วยความโกรธ “ไอ้สารเลว ! มึงกล้ามาที่นี่ ? มึงต้องการอะไร ?”

 

          “หาที่อื่นคุยกันดีกว่า” เซี่ยเหล่ยกล่าว

 

          ฉิงเสวียงรู้สึกลังเลแต่เขาก็เดินตามเซี่ยเหล่ยไปที่บันได

 

          เซี่ยเหล่ยหยุดตรงนั้นแล้วพูดว่า “คุณรู้จักเฉินฉัวหู่มั้ย ?”

 

          “ฉันเคยได้ยินชื่อเขา แต่ฉันไม่ค่อยรู้จักเขาหรอก” ฉิงเสวียงกล่าว

 

          “แล้ว หล่าวฉี่ล่ะ วันนี้มันส่งพวกเศษสวะไปพังร้านของผม” เซี่ยเหล่ยกล่าว

 

          ฉิงเสวียงหัวเราะออกมา “ฉันไม่แปลกใจเลยที่มันจะเกิดเหตุการณ์เหล่านั้นกับคุณในเมื่อคุณกล้าต่อต้านกู๋เค่อเหวิน ? เขาส่งพวกกระจอกไปพังร้านคุณ ? เฉินฉัวหู่มันก็แค่นักเลงข้างถนน ฉันเคยได้ยินชื่อเขาเพียงเท่านี้”

 

          เซี่ยเหล่ยส่ายหัว “เฉินฉัวหู่ถูกจับไปแล้ว และลิ่วล้อของมันก็น่าจะนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล ร้านของผมเสียหายนิดหน่อย”

 

          “อะไรนะ ?” ฉิงเสวียงจ้องมองเซี่ยเหล่ยด้วยความประหลาดใจ

 

          “ผมมาหาคุณเพื่อขอข้อมูลของหล่าวฉี่ ผมอยากรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน….”

 

          ฉิงเสวียงรีบพูดตัดบทก่อนเซี่ยเหล่ยจะพูดจบ “คุณสามารถหนีไปได้ในตอนนี้ฉันจะไม่บอกข้อมูลเกี่ยวกับหล่าวฉี่กับคุณ ฉันเตือนคุณแล้วนะ ถ้าคุณยังตามฉันมาอีกหรือมาหรือจะมาทำร้ายแม่ของฉัน ฉันจะฆ่าคุณแน่ !”

 

          เซี่ยเหล่ยไม่กลัวคำขู่แม้แต่น้อยและเขาพูดอย่างใจเย็นว่า “หล่าวฉี่ส่งเฉินฉัวหู่มาครั้งนี้ ครั้งหน้ามันอาจจะส่งคุณมาก็ได้ คุณจะต้องมาสู้กับผม ผมจะยอมให้คุณครั้งสุดท้ายและครั้งหน้าจะไม่มีคำว่าปราณีกับคุณอีก !”

 

          มันเป็นเรื่องที่ยากลำบากเมื่อครั้งสุดท้ายที่เขาสู้กับฉิงเสวียง แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปเซี่ยเหล่ยแข็งแกร่งขึ้น ฉิงเสวียงไม่ใช่คู่ต่อสู้สำหรับเขาเลยในตอนนี้…

 

          “ผมรู้ว่าหล่าวฉี่ มีบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับคุณและคุณไม่มีทางที่จะปฏิเสธเขาได้ ถ้าคุณยังทำงานให้กับเขา คุณสามารถหนีเขาได้แค่ 1 ครั้งแต่คุณจะไม่มีครั้งที่ 2 ในการหลบหนี ถ้าคุณเป็นอะไรไปแล้วแม่ของคุณล่ะจะทำยังไง ?”

 

          ฉิงเสวียงกัดฟันและพูดว่า “อย่าเอาเรื่องแม่มาขู่ฉัน ! ฉันเตือนคุณแล้วนะ !”

 

          “ลองคิดดูดีๆนะ” เซี่ยเหล่ยพูดต่อว่า “คุณคิดเรื่องนี้ดีแล้วหรอ ? ถ้าหล่าวฉี่สามารถใช้จุดอ่อนของคุณมาบังคับตัวคุณได้ 1 ครั้งและคุณคิดว่าครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 เขาจะไม่ใช้จุดอ่อนจุดนี้ในการบังคับคุณอีกหรอ ? คุณจะยอมเป็นทาสเขาตลอดทั้งชีวิต ? หรือจะยอมเป็นทาสเขาจนกว่าจะโดนตำรวจจับ ?”

 

          ฉิงเสวียงไม่พูดอะไรออกมา…

 

          “หล่าวฉี่ ต้องการให้ผมตายและเขาเป็นศัตรูตัวร้ายที่อยู่ภายในเงามืด คุณเคยได้ยินไหมว่า ศัตรูของศัตรูคือมิตรแท้ ?” เซี่ยเหล่ยกล่าว

 

          “คุณต้องการอะไร ?”

 

          “คุณต้องช่วยผมคว่ำมันและผมจะสั่งสอนมันเอง คิดว่ายังไง ?” เซี่ยเหล่ยกล่าว

 

          ฉิงเสวียงหัวเราะออกมา “คุณจะคว่ำ หล่าวฉี่ ? คุณกำลังพูดบ้าอะไรเนี่ย ?”

 

          “ตอนนี้คุณยังหัวเราะเยาะผมได้เพราะว่าผมมีความทะเยอทะยานสูงแต่ผมอยากให้โอกาสคุณจริงๆถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้ช่วยเหลือผมมากก็ตาม แต่เป้าหมายของผมก็คือการที่ได้สั่งสอนมันและคุณก็จะได้เป็นราชสีห์ที่ยิ่งใหญ่หลังจากที่ผมสามารถคว่ำมันได้ คุณกำลังหลุดออกจากเงาปีศาจร้าย” เซี่ยเหล่ยกล่าวและค่อยๆเดินออกไป

 

          “เดี๋ยว” ทันใดนั้นฉิงเสวียงเรียกให้เซี่ยเหล่ยหยุด “ฉันขอ 200,000 ฉันจะช่วยคุณคว่ำเขา”

 

          “200,000” เซี่ยเหล่ยชะงักไปครู่หนึ่ง

 

          “ฉันต้องการเงินจำนวนนี้มารักษาแม่ของฉัน ฉันยอมทำทุกอย่างแล้วแต่ฉันก็ไม่สามารถหาเงินมาจ่ายค่ารักษาได้อยู่ดี ฉันขอ 200,000 แล้วฉันจะช่วยคุณคว่ำหล่าวฉี่”  ฉิงเสวียงกล่าว

 

          “200,000 ไม่ใช่เงินน้อยๆเลยนะ คุณทำอะไรให้ผมได้บ้างล่ะให้คุ้มค่ากับเงิน 200,000” จริงๆแล้วเซี่ยเหล่ยมีเงินมากกว่า 600,000 และ 200,000 นี้ก็ไม่น่าเป็นปัญหาอะไรกับเขาเลยแต่เขาอยากใช้เงินทุกบาททุกสตางค์ในการก่อตั้งบริษัทขึ้นมาใหม่และตอนนี้เขาไม่ใช่คนที่ร่ำรวยอะไรมากมาย...

 

          ฉิงเสวียงมองที่เซี่ยเหล่ย “คุณอยากให้ฉันทำอะไรล่ะ ?”

 

          ‘ประโยคนี้เป็นเหมือนคำใบ้ว่าเขาสามารถทำอะไรก็ได้ เขาเคยทำงานให้กับหล่าวฉี่ เขาต้องรู้จุดอ่อนของเจ้านายของเขาดีอยู่แล้วการที่จ่ายไปสองแสนหยวนนี้ ถือเป็นจำนวนที่น้อยมาก นอกจากนี้เขายังนำเงินไปรักษาแม่ของเขาไม่ได้ไปใช้ฟุ่มเฟือย’ เซี่ยเหล่ยกำลังคิดอยู่ในใจ

 

          “คิดดูดีๆแล้วกัน คุณรู้ใช่มั้ยว่าจะหาฉันเจอได้ที่ไหน” ฉิงเสวียงกล่าวและเดินออกไป…

 

          “เดี๋ยวก่อน” เซี่ยเหล่ยตะโกนเรียก “ตกลง ! ผมจะนำเงินมาให้คุณในวันพรุ่งนี้ แล้วเราจะเจอกันที่ไหน ?”

 

          “เดี๋ยวฉันโทรไปเอง” ฉิงเสวียงกล่าวด้วยรอยยิ้มที่อ่อนหวาน

 

          “คุณมีเบอร์โทรศัพท์ผมได้ยังไง ?”

 

          “ฉันรู้ทุกอย่างในตัวคุณแม้กระทั่งยี่ห้อของกางเกงในที่คุณใส่ แค่เบอร์โทรศัพท์มือถือของคุณทำไมฉันจะไม่รู้ล่ะ ?” ฉิงเสวียงกล่าว

 

          เซี่ยเหล่ยอึ้งจนไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้…..

 

          ติดตามตอนต่อไป...

         

 

         

         

         

         

         

         

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด