ตอนที่แล้วเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 116 ฆ่าราชาวานร (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 118 ตำนานคางคกกลืนกินแม่น้ำ (อ่านฟรี)

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 117 คางคกกลืนกินแม่น้ำ (อ่านฟรี)


เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 117 คางคกกลืนกินแม่น้ำ 

 แปลโดย iPAT 

บรรยากาศในห้องประชุมเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด

กลุ่มผู้อาวุโสนั่งนเงียบพร้อมกับใบหน้าที่มืดมน

ผู้นำตระกูลนั่งอยู่หัวโต๊ะ เห็นได้ชัดว่าดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความกังวล "สามวันก่อนคางคกกลืนกินแม่น้ำปรากฏตัวขึ้นที่เชิงเขาใกล้กับหมู่บ้านของเรา มันไหลตามแม่น้ำจนมาถึงช่องแคบและนอนหลับอยู่ที่นั่น หากพวกเราไม่จัดการ หมู่บ้านของเราอาจตกอยู่ในอันตราย ดังนั้นข้าจึงต้องการสอบถามความคิดเห็นของผู้อาวุโสทั้งหมดว่าเราควรทำเช่นไร?"

กลุ่มผู้อาวุโสมองหน้ากันแต่ไม่มีผู้ใดเปิดปากกล่าว

คางคกกลืนกินแม่น้ำเป็นวิญญาณระดับห้า มันมีพละกำลังมหาศาลและสามารถคายแม่น้ำออกมา หากไม่มีมาตรการรับมือที่เหมาะสม หมู่บ้านอาจถูกทำลาย พื้นที่ครึ่งหนึ่งของภูเขาชิงเหมาอาจจมอยู่ในแม่น้ำ

หลังจากช่วงเวลาเงียบงัน ซื่อเหลียงเปิดปากกล่าวเป็นคนแรก "สถานการณ์ร้ายแรง เราจำเป็นต้องแก้ไขมันอย่างเร่งด่วน หากข่าวนี้หลุดออกไป อาจมีผู้ประสงค์ร้ายเจตนายั่วยุคางคกกลืนกินแม่น้ำเพื่อสร้างความเดือดร้อนให้แก่พวกเรา?"

"ผู้อาวุโสซื่อเหลียงกล่าวได้ถูกต้องแล้ว" โม่เฉินพยักหน้า แม้พวกเขาจะมีความขัดแย้งทางการเมือง แต่เมื่อถึงช่วงเวลาสำคัญของหมู่บ้าน พวกเขาก็จะละทิ้งอคติทั้งหมด

โม่เฉินกล่าวต่อ "มีอีกปัญหาหนึ่ง หากคางคกกลืนกินแม่น้ำทำให้เกิดน้ำท่วม ฝูงหมาป่าสายฟ้าจะต้องอพยพขึ้นมาบนภูเขา เมื่อเวลานั้นมาถึงพวกเราจะต้องต่อสู้กับฝูงหมาป่าจำนวนมากเพื่อแย่งชิงสถานที่ปลอดภัย"

ใบหน้าของกลุ่มผู้อาวุโสกลายเป็นซีดขาวเมื่อได้ยินเรื่องนี้

อวี๋โป้กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "ทุกคนอย่าลืมรากฐานของหมู่บ้าน สาเหตุที่ผู้นำตระกูลรุ่นแรกก่อตั้งหมู่บ้านที่นี่เป็นเพราะทุ่งกล้วยไม้จันทราในถ้ำใต้พิภพ หากเกิดน้ำท่วมทุ่งกล้วยไม้จันทราอาจถูกทำลาย"

"เราควรทำอย่างไร?"

"เห้อ...แม้พวกเราจะสามารถช่วงชิงพื้นที่บนยอดเขามาจากฝูงสัตว์อสูร แต่หากเกิดน้ำท่วม ทุ่งกล้วยไม้จันทราก็จะถูกทำลาย มันจะทำให้เราขาดแคลนทรัพยากร"

"หากพวกเรากำลังจะตาย เหตุใดไม่ขอความช่วยเหลือจากตระกูลไป่กับตระกูงซ่ง? พวกเราถือเป็นเรือสามลำที่ผูกติดกัน ข้าไม่เชื่อว่าพวกเขาจะไม่ช่วย!"

กลุ่มผู้อาวุโสพูดคุยด้วยความหวาดกลัว บางคนเริ่มคิดหากำลังเสริม

"มันเร็วไปที่จะขอความช่วยเหลือจากพวกเขา" อวี๋โป้ส่ายศีรษะปฏิเสธทันที "มันยังไม่ใช่ภัยคุกคามร้ายแรงที่สุด เมื่อครั้งผู้นำตระกูลรุ่นแรกเริ่มก่อตั้งหมู่บ้าน อสรพิษบ่อโลหิตเคยบุกเข้าโจมตีหมู่บ้าน แต่ท่านผู้ก่อตั้งยังสามารถสังหารมัน เปรียบเทียบกันแล้ว คางคกกลืนกินแม่น้ำอ่อนโยนกว่ามาก"

"มันไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ทั่วไป หากมันสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของผู้ใช้วิญญาณ มันจะข่มขู่และขับไล่พวกเขาออกไปจากอาณาเขตของมัน มีเพียงเวลาที่มันโกรธหรือได้รับบาดเจ็บ มันจึงจะคายแม่น้ำออกมา นี่คือสิ่งที่ข้าเคยได้ยินมาจากท่านผู้นำตระกูลรุ่นก่อน"

เสียงที่สงบนิ่งของผู้นำตระกูลดังไปทั่วห้องประชุมขณะที่กลุ่มผู้อาวุโสตั้งใจฟังและเริ่มผ่อนคลายลงเมื่อได้ยินถ้อยคำเหล่านั้น

'สมกับเป็นผู้นำตระกูล เขายังสามารถรักษาความสงบ' เหยาจี้รู้สึกถึงบรรยากาศที่เริ่มเปลี่ยนแปลงไป นั่นทำให้นางจ้องมองอวี๋โป้อย่างลึกซึ้งและรู้สึกยกย่องอยู่ภายใน

"หากเป็นเช่นนั้น การขับไล่มันไปอาจไม่ใช่เรื่องยาก" ผู้อาวุโสบางคนกล่าว

"เรายังไม่สามารถกล่าวเช่นนั้น" อวี๋โป้ส่ายศีรษะ "มันเป็นเพียงข่าวลือ ข้าไม่เคยเห็นมันมาก่อน เราไม่สามารถประมาท เราควรส่งกลุ่มผู้ใช้วิญญาณเข้าไปตรวจสอบเป็นอันดับแรก"

ผู้อาวุโสทั้งหมดเห็นด้วย

ซื่อเหลียงกล่าวต่อ "ข้าจะส่งสมาชิกครอบครัวสกุลซื่อออกไป หากพวกเขาไม่สามารถปฏิบัติภารกิจนี้ ย่อมไม่มีกลุ่มอื่นทำได้อีก"

ทุกคนรู้ว่าซื่อเหลียงหมายถึงผู้ใด ดังนั้นทุกคนจึงอนุมัติทันที

อวี๋โป้เผยรอยยิ้ม "เช่นนั้นเราจะมอบภารกิจนี้ให้กับกลุ่มของซื่อซาน"

เมื่อฤดูใบไม้ร่วงมาถึง อากาศเริ่มเย็นลง

บนโต๊ะริมหน้าต่างของโรงเตี้ยม ฟางหยวนนั่งดื่มสุราอยู่อย่างเงียบๆเพียงผู้เดียว

เฒ่าแก่ผู้ดูแลโรงเตี้ยมยืนอยู่ด้านข้างด้วยความเคารพ

"เฒ่าแก่ มีความคืบหน้าเกี่ยวกับสุราหอยขมที่ข้าสอบถามไว้เมื่อไม่กี่วันก่อนหรือไม่?" ฟางหยวนถาม

ฟางหยวนยังขาดสุรารสขมสำหรับการหลอมรวมวิญญาณสุราสี่ฤดู

อย่างไรก็ตามสุรารสขมหาได้ยาก นอกจากนั้นหลังจากข่าวลือเรื่องวิญญาณรากพฤกษาทองแดงแพร่สะพัดออกไป ผู้คนต่างให้ความสนใจเขา ทุกที่ที่เขาไป ผู้คนมักจะชี้นิ้วมาที่เขาเสมอ มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่เขาจะสอบถามเกี่ยวกับสุรารสขมไปทั่ว

สิ่งรบกวนความสงบสุขของเขาพึ่งจบสิ้นลงไม่นานมานี้ นอกจากนั้นยังมีข่าวที่น่ายินดีเมื่อฟางหยวนพบเงื่อนงำของสุรารสขม

เฒ่าแก่ตอบ "นายน้อย สุราหอยขมที่ท่านกำลังมองหา มีบางคนเคยดื่มมันที่หมู่บ้านตระกูลไป่ วัตถุดิบของสุราชนิดนี้คือหอยสังฆ์ที่อยู่ก้นบ่อลึก มันมีเปลือกหอยสีดำและมีเส้นสีขาวขดตัวอยู่รอบๆราวกับวงปีของต้นไม้ มันสามารถสร้างไข่มุกขึ้นมาโดยการดูดกลืนหินทรายเข้าไปและปลดปล่อยของเหลวที่มีรสขมออกมา บางคนเคยนำของเหลวที่อยู่ในเปลือกหอยมาผลิตสุราจนเกิดเป็นสุรารสขมที่มีรสชาติไม่ซ้ำและยังมีกลิ่นหอมอีกด้วย"

ฟางหยวนขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อได้ยินเรื่องนี้ "หมายความว่าหมู่บ้านตระกูลไป่มีสุราหอมขมถูกต้องหรือไม่?"

"ข้าไม่สามารถรับรองได้ ข้าเพียงเคยได้ยินผู้คนพูดถึงเป็นครั้งคราวเท่านั้น แท้จริงแล้วหมู่บ้านตระกูลไป่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับสุราขาว หมู่บ้านของเรามีสุราไผ่เขียว ขณะที่หมู่บ้านตระกูลซ่งมีสุราความขมขื่นของหมี นี่คือสุราที่มีชื่อเสียงสามชนิดบนภูเขาชิงเหมา สำหรับสุราหอยขม แม้หมู่บ้านตระกูลไป่จะมีไว้ในการครอบครอง แต่ข้าคิดว่ามันคงมีอยู่ไม่มาก"

'แม้จะมีน้อย แต่ข้าก็ต้องหามัน' ฟางหยวนคิด

แต่นี่ถือเป็นเรื่องยาก ไม่กี่ปีที่ผ่านมาหมู่บ้านตระกูลไป่แข็งแกร่งขึ้นจนสามารถสั่นคลอนหมู่บ้านแสงจันทร์บรรพกาล

หากฟางหยวนต้องการเข้าไปในหมู่บ้านตระกูลไป่โดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้ใช้วิญญาณของพวกเขาจะฆ่าฟางหยวนก่อนที่เขาจะทันได้เห็นประตูหมู่บ้าน

แต่ถึงกระนั้นฟางหยวนก็ต้องพยายาม ทั้งหมดก็คือสุราหอยขมเป็นเงื่อนงำเดียวที่มีความเป็นไปได้

เมื่อเห็นเฒ่าแก่ยังยืนอยู่ ฟางหยวนจึงโบกมือไล่ "เอาล่ะ เจ้าสามารถไปทำธุระของเจ้า"

แต่เฒ่าแก่กลับแสดงท่าทีลังเลก่อนจะรวบรวมความกล้ากล่าวบางคำออกมา "นายน้อย ท่านช่วยนำโรงเตี้ยมคืนมาได้หรือไม่? ไม่ว่าข้าหรือเสี่ยวเอ้อ พวกเราทั้งหมดต้องการทำงานให้กับท่าน ท่านรู้หรือไม่หลังจากเจ้าของคนเดิมกลับมา เขาหักค่าแรงของพวกเขาไปเป็นจำนวนมาก ด้วยหินวิญญาณจำนวนเพียงเล็กน้อย มันเป็นเรื่องยากที่จะสนับสนุนครอบครัวของพวกเรา"

ฟางหยวนส่ายหน้า "ข้าขายโรงเตี้ยมแห่งนี้ออกไปแล้ว ข้าไม่สามารถนำมันกลับมา นอกจากนั้นข้าก็ไม่ต้องการวุ่นวายกับธุรกิจนี้อีก เจ้าไปเถอะ"

"แต่นายน้อย..." ชายชรารู้สึกไม่เต็มใจ

ฟางหยวนขมวดคิ้ว "จำไว้ว่าข้าไม่ใช่เจ้านายของพวกเจ้าอีกต่อไป"

ก่อนหน้านี้ฟางหยวนเพิ่มค่าแรงให้กับคนเหล่านี้เพื่อกระตุ้นให้พวกเขามีความกระตือรือร้นในการทำงาน ทั้งหมดก็เพื่อตัวเขาเอง อย่างไรก็ตามคนเหล่านี้คิดว่ามันเป็นความเมตตา ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการเสี่ยงโชคอีกครั้ง

ฟางหยวนต้องการขายใบไม้แห่งชีวิตเท่านั้น นอกจากนี้เขายังกังวลเกี่ยวกับสุรารสขม เขาไม่มีเหตุผลที่จะนำโรงเตี้ยมกลับมาเพื่อคนเหล่านี้

"แต่นายน้อย พวกเราไม่สามารถอยู่เช่นนี้ต่อไปได้จริงๆ โปรดเมตตาพวกเราด้วย" ชายชราคุกเข่าอ้อนวอน

เสียงของเขาดึงดูดสายตาของผู้คนทันที

ฟางหยวนหัวเราะเสียงเย็นก่อนจะยกไหสุราขึ้นและทุบลงบนศีรษะของชายชราโดยไม่มีผู้ใดคาดคิด

"เพล้ง"

ไหสุราแตกละเอียดพร้อมกับเลือดที่ไหลทะลัก

"เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าฆ่าเจ้างั้นหรือ?" ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายเย็นเยียบ

ร่างกายของชายชราสั่นสะท้านขึ้นด้วยความหวาดกลัวก่อนจะรีบคืบคลานจากไป

ไม่ว่าจะเป็นโลกใบใด คนอ่อนแอมักร้องขอความเมตตาเสมอ ผู้ที่ให้ความช่วยเหลือจะได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้แข็งแกร่ง คนที่ปฏิเสธจะถูกมองว่าเลวร้าย

คนอ่อนแอจะแสดงออกเช่นคนอ่อนแอ พวกเขาจะทำตัวเป็นทาสผู้ซื่อสัตย์หรือรักษาภาพลักษณ์อันต่ำต้อยเอาไว้

ผู้แข็งแกร่งจะบริจาคทานให้พวกเขาหากอารมณ์ดี

คนอ่อนแอปฏิเสธที่จะทำงานหนักแต่กลับไม่อายที่จะเรียกร้องขอความเมตตา พวกเขากระทั่งทำตัวเหมือนปลิงที่เกาะติดและดูดเลือดอย่างไม่มีวันสิ้นสุด

ดังนั้นพวกเขาสมควรถูกปฏิเสธ

คนอ่อนแอที่ไม่พยายามผลักดันตนเองและคิดถึงเพียงการขอทานไม่ควรได้รับความเห็นใจ

"เฒ่าแก่..."

"เร็วเข้ารีบทำแผล"

เสี่ยวเอ้อเร่งเข้ามาช่วยเหลือเฒ่าแก่ที่ใบหน้าอาบย้อมไปด้วยเลือด

เฒ่าแก่ผู้นี้เป็นมนุษย์ธรรมดา มันไม่มีปัญหาแม้เขาจะถูกฆ่า

หลังจากนั้นผู้คนโดยรอบก็ไม่ให้ความสนใจกับเหตุการณ์นี้อีก พวกเขาเพียงหันหน้ากลับไปพูดคุยกันอีกครั้งราวกับไม่เคยมีสิ่งใดเกิดขึ้น

"เจ้ารู้หรือไม่ว่าเกิดเรื่องขึ้นเมื่อเร็วๆนี้"

"เจ้าหมายถึงคางคกกลืนกินแม่น้ำใช่หรือไม่? ตอนนี้จะมีผู้ใดไม่รู้เรื่องนี้?"

"มันคือวิญญาณระดับห้า หากมันไม่ถูกกำจัด หมู่บ้านอาจตกอยู่ในสถานการณ์เลวร้าย"

"บางคนบอกว่าอาหารของคางคกกลืนกินแม่น้ำคือน้ำ เมื่อมันหิวมันจะเปิดปากและดูดกลืนแม่น้ำเข้าไปโดยตรง"

"หากมันโกรธ มันจะปล่อยแม่น้ำออกมา พลังของมันน่ากลัวมาก พวกเราอาจตาย"

"แล้วเราควรทำอย่างไร?"

"เห้อ...พวกเราทำได้เพียงปล่อยให้คนชั้นสูงของตระกูลจัดการ อย่างไรก็ตามพวกเราไม่สามารถหลบหนี กระทั่งพวกเขาจะต้องการหลบหนี แล้วพวกเราจะหนีไปที่ใด?"

บรรยากาศอันหนักหน่วงปกคลุมอยู่รอบๆโรงเตี้ยม

‘คางคกกลืนกินแม่น้ำ...’ ฟางหยวนเผยรอยยิ้มเมื่อคิดถึงเรื่องนี้

แท้จริงแล้วคางคกกลืนกินแม่น้ำมีนิสัยอ่อนโยนและไม่น่ากลัว โดยธรรมชาติแล้วมันจะหลับตลอดเวลา ผู้คนมักจะเห็นมันลอยไปตามแม่น้ำ

เมื่อมันตื่นขึ้นมันจะกินแม่น้ำจนเต็มท้องก่อนจะนอนหลับอีกครั้ง มันไม่สนใจการต่อสู้และการเข่นฆ่า หากมันพบศัตรู ปฏิกิริยาตอบสนองแรกของมันคือหลบหนี มีเพียงเวลาที่มันเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่อับจนหนทางเท่านั้นมันจึงจะตอบโต้อย่างรุนแรง

มันสามารถปล่อยแม่น้ำที่มันกลืนกินเข้าไปออกมาและเปลี่ยนพื้นที่บริเวณนั้นให้กลายเป็นทะเลสาบ

‘คางคกกลืนกินแม่น้ำควรจะนอนหลับอยู่ขณะที่มันถูกพัดพาเข้ามาติดในช่องแคบของแม่น้ำที่เชิงเขาชิงเหมา’ ฟางหยวนคาดเดา