ตอนที่แล้วTWO Chapter 42 รอยร้าว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTWO Chapter 44 พังทลาย

TWO Chapter 43 พันธมิตร


TWO Chapter 43 พันธมิตร

เมื่อโอหยางโชวได้รับข้อความจากฉีลั้วหลาน เขาก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

การขอเป็นพันธมิตรจากตี่เฉินและชุนเซิ่นจุนนั้น เขาสามารถเพิกเฉยได้ แต่จากสตูดิโอสอดคล้องนั้น เขาให้ความสนใจเป็นพิเศษ 4 บุบผาแห่งสตูดิโอสอดคล้อง ไม่ได้มีเบื้องหลังเป็นพิเศษ ความน่าเชื่อถือของพวกเขาในวงการเกมส์เป็นที่ยอมรับ และมีคนมากมายที่เป็นพันธมิตรกับพวกเธอ

โอหยางโชวส่งข้อความตอบกลับไปในทันที ว่าเขายินดียอมรับข้อตกลงในการเป็นพันธมิตร

เวลา 11.00 น. ฟ่านจงหยานและเจ้าเต๋อเสี้ยนเข้ามาในสำนักงานของเขา หลังจากที่พวกเขานั่งลง เจ้าเต๋อเสี้ยนเป็นคนแรกที่พูด

“นายท่าน เรามาที่นี่เพื่อพูดคุยเรื่องสถานะการณ์ในพื้นที่เพาะปลูก”

“ท่านมีแผนจะจัดการพื้นที่เพาะปลูกอย่างไร?”

“ตามแผนในปัจจุบัน เราจัดสรรพื้นที่เพาะปลูกให้ชาวไร่ 180 คน จากพื้นที่เพาะปลูกทั้งหมด 2000 หมู่  ฝ่ายฟื้นฟูดินเห็นว่า เราควรจัดสรรพื้นที่เพาะปลูกแก่ชาวไร่ 10 หมู่/คน อีก 200 หมู่ จัดเป็นทรัพย์สินสาธารณะ เพื่อขายหรือมอบให้เป็นรางวัลแก่ผู้คนในภายหลัง” เจ้าเต๋อเสี้ยนกล่าว

โอหยางโชวขมวดคิ้ว มองไปยังฟ่านจงหยาน แล้วกล่าวว่า “กรมการบริหารคิดอย่างไรกับเรื่องนี้?”

เมื่อมองในทัศนคติของลอร์ด เขาไม่ค่อยพอใจกับแผนการจัดการนี้ แต่ฟ่านจงหยานได้พูดคุยกับเจ้าเต๋อเสี้ยนก่อนหน้านี้แล้ว และเขาก็เห็นชอบด้วย

เขากล่าวออกมาว่า “กรมการบริหารไม่คัดค้านการจัดการนี้หรือ?”

โอหยางโชวถอนหายใจ “ดูเหมือนความเข้าใจในยุทธศาสตร์การพัฒนาดินแดนของท่านยังไม่เพียงพอ ท่านยังคงคิดว่าการเพาะปลูกเป็นส่วนสำคัญของทรัพย์สินของเรา ท่านพยายามจะปกป้องมัน แทนที่จะปล่อยให้มันเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูป วัตถุประสงค์ของการปฏิรูปคืออะไร? ไม่ใช่เพื่องานเกษตรกรรม แต่เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับงานฝีมือและพาณิชย์ของดินแดน”

“ดินแดนของเราไม่จำเป็นต้องมีที่ดินสาธารณะ แล้วพวกท่านก็ไม่ได้รับอนุญาติให้ใช้ที่ดินเป็นรางวัลด้วย ดังนั้น ท่านควรจะหยุดแผนของท่าน หยุดความคิดอนุรักษ์นี้ซะ พื้นที่เพาะปลูกทั้งหมดควรจะมอบให้กับชาวไร่ การแปลนแปลงความจะเริ่มตั้งแต่ความคิดของท่าน และเมื่อความคิดของท่านเปลี่ยนไป ท่านก็สามารถเปลี่ยนความคิดของชาวบ้านได้”

ฟ่านจงหยานและเจ้าเต๋อเสี้ยนก้มหน้าด้วยความละอาย

“สำหรับแผนการจัดสรรพื้นที่เพาะปลูก ข้าเห็นด้วยกับแผนนี้ แต่ชาวไร่ที่จะได้รับมอบพื้นที่จัดสรร ควรมี 200 คน โดยชาวไร่ละคนจะได้รับพื้นที่เพาะปลูกคนละ 10 หมู่ ด้วยวิธีนี้ ครอบครัวทั่วไปที่มี 3 คน จะมีพื้นที่เพาะปลูกถึง 20 หมู่ จึงเหมาะสม ใช้แผนนี้เป็นมาตรฐานในการจัดสรรพื้นที่เพาะปลูก ใช้พื้นที่เพาะปลูกเพื่อกำหนดจำนวนชาวไร่ เหมือนกับนาเกลือ”

เจ้าเต๋อเสี้ยนพยักหน้าเข้าใจ จากนั้นเขาก็กล่าวต่อว่า “นายท่าน ข้ามีรายงานเรื่องอื่น ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมานี้ ข้าได้พูดคุยกับชาวไร่ พวกเขากังวลว่า ก่อนที่มันฝรั่งพร้อมจะเก็บเกี่ยว พวกเขาจะไม่มีแหล่งรายได้  และตอนนี้เป็นช่วงว่างงาน อาศัยสวัสดิการขั้นพื้นฐานเพียงอย่างเดียว พวกเขาเกรงว่าจะไม่สามารถอยู่รอดได้”

“ท่านต้องคิดให้เป็นธรรมชาติให้มากกว่านี้ พวกเขาเป็นแค่ชาวไร่? ดินแดนของเรามีการก่อสร้างมากมาย และต้องการแรงงานก่อสร้างจำนวนมาก ในช่วงว่างงาน พวกเขาสามารถไปที่ฝ่ายก่อสร้างเพื่อขอทำงานได้ มันจะช่วยให้พวกเขาได้รับเงินสำหรับใช้จ่ายในครอบครัวของพวกเขา”

เข้าเต๋อเสี้ยนเข้าใจในทันที เขาก้มหน้าลง แล้วกล่าวอย่างอับอายว่า “สิ่งที่นายท่านกล่าวนั้นถูกต้อง ดูเหมือนว่าข้าจำเป็นต้องเปลี่ยนความคิด ไม่อย่างนั้นข้าคงไม่สามารถติดตามการพัฒนาของดินแดนได้”

โอหยางโชวยินดีที่พวกเขาเข้าใจในที่สุด “การปฏิรูปจะไม่หยุดเพียงแค่นี้เท่านั้น  เพื่อที่จะทำลายการพึ่งพาภาครัฐในทุกๆสิ่ง พวกเขาต้องรับรู้ถึงความมหัศจรรย์ของตลาด และทำให้ทุกคนมีจิตวิญญาณของผู้บุกเบิก เพื่อให้บรรลุเป้าหลายนี้ พวกท่านต้องมีความเข้าใจที่ถูกต้องเสียก่อน”

ฟ่านจงหยานยังคงแสดงความอับอายของเขา แล้วกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “ในฐานะเจ้ากรมการบริหาร ข้ารู้สึกอับอายที่จะบอกว่า ถ้าเทียบกับนายท่านข้านั้นมีความเข้าใจเพียงเล็กน้อย ตอนแรกข้าอยากจะรายงานโครงสร้างการปฏิรูปของตัวเอง แต่หลังจากฟังคำแนะนำของนายท่าน ข้าพบว่า ข้ามีความคิดในเชิงอนุรักษ์มากเกินไป และข้าจำเป็นต้องปรับปรุงสิ่งต่างๆ โปรดยกโทษให้ข้าด้วย”

โอหยางโชวยิ้มแล้วกล่าวว่า “อย่าได้ตำหนิตนเองเลย ในการเผชิญกับสิ่งใหม่ๆ พวกมันจะแตกต่างจากปกติ และข้าไว้ใจในความสามารถของท่านมากนะ”

ฟ่านจงหยานพยักหน้า และออกจากห้องไปพร้อมกับเจ้าเต๋อเสี้ยน

เมื่อเวลา 14.00 น. โอหยางโชวก็ออกจากคฤหาสน์ มุ่งหน้าไปยังค่ายทหาร เขาได้เขียนคู่มือระเบียบวินัยทางทหารเรียบร้อยแล้ว และต้องการส่งมอบมันให้กับขุนพลซี และเขาต้องการดูสถานการณ์การฝึกอบรมทหารใหม่ด้วย

ออกจากค่ายทหาร โอหยางโชวคิดถึงข่าวที่เขาได้รับจากขุนพลซี หลังจากใช้เวลาในการค้นหาอยู่ 2 วัน ในที่สุดพวกเขาก็พบค่ายโจร มันตั้งอยู่มุมตะวันตกเฉียงเหนือของดินแดน ค่ายโจรขั้นกลางตั้งอยู่ริมแม่น้ำมิตรภาพ

ค่ายโจรขั้นกลางมีคนทั้งหมดประมาณ 300 คน มีพวกโจรจำนวนมากเมื่อเทียบกับค่ายโจรขั้นต้น และเลเวลของพวกโจรสูงกว่าอย่างเห็นได้ชัด โจรทั่วไปเลเวล 20 โจรชั้นสูงเลเวล 25 พวกผู้นำและหัวหน้าโจรเลเวลอย่างน้อย 30

ตามแผนของขุนพลซี เขาจะรอจนกว่ากองทหารม้าจะพร้อม จากนั้นพวกเขาจะบุกไปทำลายค่ายโจร มันต่างจากครั้งก่อนหน้านี้ ที่พวกเขามีเพียงทหารอาสาที่ใช้งานได้ ตอนนี้พวกเขามีกองทหารม้าที่เข็มแข็ง

ทหารม้าไม่เพียงแต่จะมีความเร็ว พวกเขายังสามารถใช้ธนูได้ มีประสบการณ์ผ่านสงครามมาแล้ว ตอนนี้ประสิทธิภาพของแต่ละคนสูงกว่าโจรชั้นสูงเสียอีก ทหารผ่านศึกบางคนที่มีประสบการณ์ในเควสการรุกรานของสัตว์ร้าย พวกเขาอยู่ในทหารขั้นที่ 4 ซึ่งพวกโจรไม่อาจเทียบได้ ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีหรือสงครามประจันหน้าในสนามรบ พวกเขาก็มีข้อได้เปรียบ นี่คือ ช่องว่างระหว่างทหารและพวกโจรที่อยู่แต่ในป่า

โอหยางโชวเห็นด้วยกับขุนพลซี เขาไม่ต้องการสูญเสียความได้เปรียบทางยุทธศาสตร์ของเขา นอกจากนี้ เขาไม่ต้องการผลักให้พวกโจรจนมุม เขาจงใจบอกขุนพลซีว่า ถ้าพวกเขาผ่านเงื่อนไข เขาอนุญาติให้ขุนพลซีรับสมัครพวกโจรได้ ด้วยการคัดกรอง บางคนอาจถูกส่งเข้ากองทัพได้ ตราบเท่าที่พวกเขาถูกบังคับโดยกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดของทหาร พวกเขาก็อาจจะปลายเป็นทหารที่มีคุณสมบัติที่ดีได้

กลับมาที่คฤหาสน์ เขาเพิ่งได้รับการขอเป็นพันธมิตรจากไป๋ฮัว เขานำคู่มือของลอร์ดออกจากกระเป๋า แล้วเปิดคอลัมน์ดินแดน เขาได้พบว่าหมู่บ้านสอดคล้องของไป๋ฮัวได้ส่งคำเชิญขอเป็นพันธมิตร ใบคำร้องขอเป็นพันธมิตรปรากฎขึ้นโดยอัตโนมัติ เขากดเพื่อยืนยัน และมีพันธสัญญาปรากฎขึ้น

โอหยางโชวอ่านอย่างรอบคอบตั้งแต่แรกจนจบ มีพันธสัญญาทั้งสิ้น 4 ข้อ

ข้อแรก ถ้าฝ่ายใดต้องการยกเลิกการเป็นพันธมิตร พวกเขาต้องแจ้งล่วงหน้า 3 วัน และการยกเลิกไม่จำเป็นต้องได้รับการอนุญาติจากอีกฝ่าย สามารถดำเนินการได้ด้วยตนเอง

ข้าสอง พวกเราสามารถเจรจาผ่านตลาดขั้นสูงสำหรับการค้าข้ามภูมิภาคได้ และเพื่อสงเสริมการค้าระหว่างพันธมิตร ภาษีทางการค้าจะลดลง 10%

ข้อสาม เมื่อดินแดนได้รับการอัพเกรดเป็นเมืองขนาดกลาง สามารถถ่ายโอนบุคลากรระหว่างพันธมิตรได้ผ่านรูปแบบเคลื่อนย้ายได้แล้ว เมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเกิดปัญหา อีกฝ่ายสามารถส่งคนไปสนับสนุนได้ ค่าใช้จ่ายเท่ากับ 1 เหรียญทอง/คน

ข้อสี่ หลังจากเปิดตัวแผนที่สมรภูมิ พันธมิตรสามารถเลือกฝ่ายเดียวกันได้ ในกระบวนการนี้ เราสามารถร่วมกันทำเควสได้

หลังจากอ่านพันธสัญญา โอหยางโชวเอาตราประทับของลอร์ดออกจากถุงเก็บของของเขา และประทับมันลงไป ในตอนนี้ หมู่บ้านสอดคล้องและหมู่บ้านซานไห่ได้ก่อตั้งพันธมิตรอย่างเป็นทางการแล้ว

ในเวลาเดียวกัน ณ สตูดิโอสอดคล้อง 4 บุบผา ก็จ้องไปที่หน้าจอ พวกเธอเห็นพันธสัญญาที่ได้รับการลงนาม พวกเธอกระโดดไปรอบๆอย่างตื่นเต้น

“พี่ใหญ่ ฉีเยว่หวู่ยี่คนนี้ไม่ยากที่จะทำงานด้วยเลย เขาตอบตกลงอย่างรวดเร็วเพื่อเป็นพันธมิตรกับเรา” ฉีลั้วหลานพูดขึ้น

“ใช่ ดูเหมือนเสน่ห์ของพี่ใหญ่จะเหนือชั้นจริงๆ เอาชนะอันดับ 1 ของโลกได้อย่างง่ายดาย เฮะ! เฮะ!” ทซิงยี่กล่าวอย่างรวดเร็ว

“ดูเหมือนพี่ใหญ่จะมีแฟนตัวยงอีกคนอยู่ใต้กระโปรงเธอแล้ว” น้องสามหงหยิงก็ร่วมล้อเล่นด้วย

ในขณะที่น้องสามกำลังล้อเลียน ไป๋ฮัวไม่ได้มีปฏิกิริยาใดๆ ก่อนจะกล่าวว่า “ฉีเยว่หวูยี่ประสบความสำเร็จขนาดนี้ได้ยังไง ดูจากข้อความของเขา เขาได้ปฏิเสธชุนเซิ่นจุนและตี่เฉิน ดูเหมือนเขาจะทำเช่นนั้นด้วยเหตุผลบางอย่าง”

ทซิงยี่พยักหน้า “ฉันคิดว่าเขามี 2 เหตุผลที่ทำเช่นนั้น อาจจะเป็นไปได้ที่เขาไม่ชอบข่าวลือในโลกออนไลน์ที่ว่าเขาเป็นตัวแทนของตระกูลลับบางแห่ง แต่ดูเหมือนเขาจะเป็นคนธรรมาดาเหมือนเรา ดังนั้น เขาจึงเมินกองกำลังขนาดใหญ่อย่างชุนเซิ่นจุนและตี่เฉิน แล้วเลือกสตูดิโอสอดคล้องของเราแทน นอกจากนี้ ความทะเยอทะยานของเขาคงไม่แพ้ชุนเซิ่นจุนและตี่เฉิน แต่เขาก็ไม่ใช่คนโง่เขลาเช่นกัน”

หงหยิงกล่าว “หมายความว่า ฉีเยว่หวู่ยี่ต้องการจะกลืนหมู่บ้านสอดคล้องของพวกเราเพราะเขาแข็งแกร่งกว่าพวกเราเหรอ?”

“ฉันไม่รู้ว่ามันจะจบยังไง แต่อย่างน้อย ถ้าเราเปรียบเทียบความแข็งแกร่งในตอนนี้ มันก็คงเป็นเช่นนั้น”

ฉีลั้วหลานยิ้มอย่างสดใส เธอเตะหงหยิงอย่างดุเดือด แล้วกล่าวว่า “อย่าเพิ่งคอดว่ามันจะเลวร้ายขนาดนั้น เขาปฏิเสธชุนเซิ่นจุนและตี่เฉินอย่างสุภาพ แทนที่จะปฏิเสธตรงๆ นี่บอกได้ว่าเขาไม่ใช่คนที่ต้องการจะโดดเด่นจนเกินไป และตอนนี้เขาก็เป็นพันธมิตรของเรา อย่างน้อยในมุมมองของความร่วมมือ เราก็ยังมีประโยชน์ร่วมกัน”

ถึงแม้ทซิงยี่จะเก่ง แต่ฉีลั้วหลานเก่งเรื่องการมองคนมากกว่า ดังนั้น ทซิงยี่จึงยอมรับการตัดสินใจของเธอ และพยักหน้ายอมรับ

ไป๋ฮัวยิ้มอย่างพอใจ “ฉันคิดว่าการวิเคราะห์ของเธอสมเหตุสมผลมาก ไม่ว่าฉีเยว่หวู่ยี่จะเป็นลูกหลานตระกูลลับหรือไม่ ทะเยอทะยานมากแค่ไหน แต่ตอนนี้เรารู้จักเขาเพียงชื่อในเกมส์เท่านั้น และเขาก็เป็นพันธมิตรของเรา ทั้งหมู่บ้านสอดคล้องและหมู่บ้านซานไห่ก็เป็นพันธมิตรกัน เราจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับระหว่างเรา 4 คน นี่เป็นสิ่งที่ดึงดูดความสนใจและความวุ่นวายมากเกินไป”

ทั้ง 3 คน พยักหน้า

โอหยางโชวไม่ทราบว่า แรงจูงใจของเขาถูกคาดการในด้านอื่นๆ ในตอนนี้เขากลับไปที่ห้องของเขาเพื่ออ่านหนังสือ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด