ตอนที่แล้วตอนที่ 48 แข็งแกร่ง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 50 ทิ้งศพ

ตอนที่ 49 ชัยชนะ


เฉิงเซาเฟิงตายแล้ว !! เขาตายอยู่ในน้ำมือของหยางไค่โดยไม่มีสัญญานแจ้งเตือนใดๆล่วงหน้า

ก่อนหน้านั้น หยางไค่ต่อสู้กับเหล่าศิษย์ของหอวายุพิรุณ หู่เหมยเอ่ออยู่ในเหตุการณ์นั้นตั้งแต่ต้นจนจบ แม้เธอจะรู้ว่าหยางไค่มีความแข็งแกร่งที่น่าหวาดกลัว แต่ไม่คิดว่าเขาจะแข็งแกร่งถึงขั้นนี้

เฉิงเซาเฟิงที่อยู่ในเขตแดนก่อกำเนิดลมปราณ เขาเผชิญหน้ากับหยางไค่เพียงชั่วครู่ กลับถูกหยางไค่ฆ่าโดยการชี้นิ้ว !!

มันคือทักษะการต่อสู้ประเภทใด ? ทำไมถึงมีพลังที่แข็งแกร่งเช่นนี้ ?รูหลุมที่อยู่บนหน้าผากของเฉิงเซาเฟิง เห็นได้อย่างชัดเจนว่าถูกอาวุธที่ร้อนระอุพุ่งแผดเผาผ่านศีรษะอย่างรุนแรง

ณ ตอนนี้ จิตใจของหู่เหมยเอ่อตกอยู่ในความหวาดกลัว หลังจากมองเห็นวิธีการฆ่าของหยางไค่ที่รุนแรง เธอจึงเข้าใจในสิ่งที่หยางไค่กล่าวว่าเขาไม่ได้ล้อเล่นต่อเธอ

เขามีความกล้าที่จะฆ่าคน และเขายังมีความสามารถในการกระทำเช่นนั้น !!

นู่วเต๋าตกอยู่ในความหวาดกลัวเช่นเดียวกัน เมื่อสักครู่เขาเพิ่งแลกเปลี่ยนหมัดกับหยางไค่ ยังมิทันที่จะโจมตีเข้าไปอีกครั้ง ศิษย์น้องของตนกลับตายอยู่ตรงหน้า การเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดฝันทำให้เขาตื่นตะลึงจนเบิกตาโพลงอ้าปากค้าง

“เจ้าฆ่าศิษย์น้องซู่ !!” นู่วเต๋ากรีดร้อง : “เจ้าใช้วิธีการอะไร !!”

การชี้ด้วยนิ้วของเขาช่างมีพลังที่แข็งแกร่ง ไม่ได้เป็นทักษะการต่อสู้อย่งแน่นอน จิตใจของนู่วเต๋ารู้สึกหวาดกลัว เขากลัวว่าตนเองจะไม่สามารถต้านทานต่อมันได้

“เจ้าก็ต้องตาย !!” หยางไค่รู้ถึงความหมายของคำว่าถอนรากถอนโคน เหตุผลที่ทั้งสองตามเขามาในวันนี้ เพราะต้องการฆ่าเขา เมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรูประเภทนี้ หยางไค่มิอาจผ่อนปรนต่อพวกเขา

สถานการณ์ในวันนี้แตกต่างกันครั้งก่อน ครั้งที่แล้วเป็นเพียงการต่อสู้จากการทะเลาะวิวาท หยางไค่สามารถผ่อนปรนพวกเขาโดยไม่เอาชีวิตพวกเขา แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่ต้องการชีวิตของเขา ถ้าหากเขายังผ่อนปรนต่อพวกเขามันคงเป็นเรื่องที่โง่เขลา

เมื่อมองเห็นหยางไค่ที่พุ่งเข้ามาอย่างวู่วาม นู่วเต๋าหัวเราะอย่างชั่วร้ายและกล่าวตะโกนเสียงดัง : “อวดดี !! ไปตายซะ!!”

ขณะที่เขาตะโกน เขาระเบิดหมัดออกไปข้างหน้าเพื่อโจมตีหยางไค่ที่พุ่งเข้ามา ฝ่ายตรงข้ามอยู่ในเขตแดนกายาเริงอารมณ์ ภายในร่างกายของเขาจะมีพลังลมปราณมากแค่ไหน ? การโจมตีด้วยพลังที่ยิ่งใหญ่เมื่อสักครู่ พลังลมปราณของเขาต้องลดลงอย่างมาก อาจจะกล่าวได้ว่า เขาไม่สามารถที่จะใช้วิธีการโจมตีเช่นนั้นได้อีก

ดังนั้นนู่วเต๋าจึงไม่มีเหตุผลที่ต้องหวาดกลัวหยางไค่อีกต่อไป !!

แต่หลังจากที่พวกเขาปะทะกัน นู่วเต่ารู้ว่าเขาคิดผิดไป เจ้าหยางไค่ยังคงสามารถใช้พลังลมปราณของเขา ทุกครั้งที่ต่อสู้กับเขา จากกระบวนท่าของเขาสามารถรับรู้ได้ถึงพลังความร้อนที่แผดเผาอย่างรุนแรง พลังที่รุนแรงเช่นนี้ทำให้นู่วเต๋าตื่นตะลึง แม้ว่าเขาจะมีเขตแดนที่สูงกว่าเขา แต่ไม่สามารถกำราบเขาได้

นู่วเต๋าใช้กระบวนท่าในการป้องกัน เขากระโดดไปมา ไม่กล้าเผชิญหน้ากับหยางไค่โดยตรง เขาแค่อยากยื้อเวลาในการต่อสู้เพื่อบั่นทอนพลังลมปราณของหยางไค่ เมื่อพลังลมปราณของหยาไค่หมดลง ถึงตอนนี้ เขาจะกลายเป็นผู้โจมตีและผู้ที่ได้รับชัยชนะ

ความคิดและกลยุทธุ์ของนู่วเต๋านั้นถูกต้อง การจัดการกับศิษย์ที่อยู่ในเขตแดนกายาเริงอารมณ์ วิธีการนี้คือวิธีการที่มีประสิทธิภาพทีสุด แต่มันไม่ใช่วิธีการที่สามารถใช้ได้กับหยางไค่ เพราะพลังงานหยางที่อยู่ภายในก้อนหินถูกหยางไค่ดูดซับจนหมดสิ้น เส้นชีพจรลมปราณของเขาเต็มไปด้วยพลังลมปราณหยาง ถ้าหากยังต่อสู้ต่อไปเรื่อยๆ ไม่ใช่พลังลมปราณของหยางไค่จะหมดลง แต่เป็นพลังลมปราณของนู่วเต๋ามากกว่า

หลังจากนั้นไม่นาน นู่วเต๋าพบว่าตนเองกำลังเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

เมื่อเริ่มแรก การแสดงออกของหยางไค่เสมือนผู้ฝึกยุทธุ์ที่อยู่ในเขตแดนการยาเริงอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นความเร็วของหมัดหรือพละกำลังความแข็งแกร่งของเขา แม้จะแข็งแกร่งว่าคนธรรมดาสามัญทั่วไป แต่มิได้มีความแข็งแกร่งเกินกว่าเขตแดนกายาเริงอารมณ์ แต่เมื่อเวลาผ่านไป หลังจากที่ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยบาดแผลต่างๆที่เพิ่มมากขึ้น แต่ความแข็งแกร่งของหยางไค่ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หมัดที่ปล่อยออกมาเริ่มมีความรวดเร็วมากขึ้น ความแข็งแกร่งและความรุนแรงต่างเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่สิ่งที่ทำให้นู่วเต๋าคาดไม่ถึงคือการโจมตีของเขาถูกห่อหุ้มด้วยพลังความร้อนที่รุนแรง เมื่อเวลาผ่านไปพลังงานความร้อนเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง

จากเวลาที่ผ่านไปเสมือนว่าความแข็งแกร่งของหยางไค่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

มันเกิดอะไรขึ้น ? เมื่อผู้ฝึกยุทธุ์คนหนึ่งเข้าสู่การต่อสู้ จากเวลาที่ไหลเวียนผ่านไปไปพลังลมปราณของพวกเขาจะลดหายไปจนสูญสิ้น ดังนั้นการต่อสู้ของพวกเขาจะเริ่มอ่อนแอลงเรื่อยๆ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ถึงตรงกันข้ามกันเช่นนี้ ?

ระยะเวลาเพียงชั่วครู่ นู่วเต๋าไม่สามารถหลบหนีจากการโจมตีของหยางไค่ เมื่อไม่สามารถหลบหนี เขาจึงถูกหยางไค่ปล่อยหมัดโจมตีไปยังหน้าอกของเขา

พละกำลังกำลังที่หนักแน่นและรุนแรงทำให้นู่วเต๋าไม่สามารถหายใจ และพลังความร้อนที่เสมือนเปลวที่โหมกระหน่ำอย่างรุนแรงกำลังไหลเวียนเข้าสู่ร่างกายของนู่วเต๋าอย่างบ้าคลั่ง

!

เมื่อมองเห็นดวงตาสีแดงก่ำของหยางงไค่ นู่วเต๋าเริ่มคิดาวิธีถอยหนีออกจากที่นี้ !!

เขาแสดงท่าทีที่สับหลอก ก่อนจะถอนตัวออกจากการต่อสู้ และรีบวิ่งหนีออกไปอย่างรวดเร็ว เขาสูดลมหายใจและกล่าวตะโกน : “หยางไค่ เจ้าฆ่าศิษย์น้องเฉิง เจ้าต้องตายอย่างแน่นอน !!”

เขตแดนก่อกำเนิดลมปราณขั้นที่ 5 ไม่สามารถเอาชนะศัตรู แต่ถ้าหากต้องการหลบหนี ฝ่ายตรงข้ามก็ไร้ซึ่งหนทางในการโจมตีเขา เรื่องนี้นู่วเต๋ามั่นใจอย่างมาก เพราะขณะที่ต่อสู้กับหยางไค่ เขาพบว่าหยางไค่ยังไม่ได้ฝึกฝนทักษะการต่อสู้ทางด้านร่างกายแม้แต่น้อย

นู่วเต๋าคิดหลบหนี หยางไค่ก็ไม่สามารถปิดกั้นเขาได้ เขาทำได้เพียงเฝ้ามองนู่วเต๋าที่วิ่งหนีออกไปโดยไม่สามารถทำอะไรต่อไปได้ แต่ทันใดนั้นจิตใจของเขาสั่นสะท้าน หยดน้ำพลังลมปราณหยางที่หายไปหนึ่งหยดเคลื่อนไหวไปยังปลายนิ้วของเขา

ทันใดนั้น หยางไค่ยื่นมืออีกข้างออกมาก่อนจะวางนิ้วลงบนพื้นดินแล้วค่อยๆลากมัน เสียงที่แหลมคมโลดโผนดังขึ้นทันที

หยดน้ำพลังลมปราณหยางหยดนี้ ได้แปรเปลี่ยนเป็นใบมีดบางสีแดงเพลิงที่เสมือนปีกผีเสื้ออย่างกะทันหัน เมื่อมันแปรเปลี่ยนเป็นรูปร่างของใบมีด มันได้บินพุ่งออกไปจากการกระตุ้นของหยางไค่

“ซู่ว” เงาสีแดงที่สง่างามพุ่งเจาะผ่านอากาศที่ว่างเปล่า และฝังตัวลงไปที่หลังของนู่วเต๋า

ทันใดนั้นร่างกายของนู่วเต๋าที่กำลังวิ่งหนีหยุดลงชั่วขณะ ก่อนที่เขาจะล้มลงบนพื้นทันที

ความเงียบของป่าลึกถูกทำลาย โดยเสียงร้องของนกแมลงที่ดังขึ้น หยางไค่อ้าปากค้าง ตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น

ขาที่เรียวงามของหู่เหมยเอ่ออ่อนสั่นสะท้าน ร่างกายถูกชโลมด้วยเหงื่อเย็น จิตใจเต็มไปด้วยความหนาวสั่นจากความหวาดกลัว เธอไม่ได้ออกไปจากที่นี้ เพราะเธอต้องการให้หยางไค่ร้องขอความช่วยเหลือจากเธอเมื่อเขาไม่สามารถทนต่อการทุบตี เมื่อถึงตอนนั้นเธอจะสามารถบรรลุเป้าหมายอของเธออย่างสาสม

แต่เธอไม่คิดว่าว่า ศิษย์แห่งหอวายุพิรุณทั้งสองที่ตั้งใจมาฆ่าหยางไค่ แต่สุดท้ายพวกเขากลับถูกฆ่าโดยหยางไค่

พวกเขาทั้งสองอยู่ในเขตแดนก่อกำเนิดลมปราณ คนหนึ่งอยู่ในขั้นที่ 1 อีกคนอยู่ในขั้นที่ 5 ทั้งสองร่วมมือต่อสู้กับหยางไค่ที่อยู่ในเขตแดนกายาเริงอารมณ์ สุดท้ายพวกเขาไม่เพียงแต่พ่ายแพ้ แต่ยังต้องสูญสิ้นชีวิตอีกด้วย

ทุกอย่างน่าเหลือเชื่อและเต็มไปด้วยความลึกลับ

ทันใดนั้น หู่เหมยเอ่อสะดุ้งจากอาการตื่นกลัว เธอเห็นหยางไค่หันหน้ามา ใช้สายตาที่โหดเหี้ยมจ้องเขม่งเธออย่างไม่ละสายตา ภายใจดวงตาของเขายังประกายด้วยความต้องการฆ่าเพื่อปกปิดเรื่องเหล่าที่เกิดขึ้น

หู่เหมยเอ่อก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว

“ถ้าเจ้ายังกล้าขยับ เจ้าจะต้องตาย !!” หยางไค่กล่าวด้วยน้ำสียงที่เยือกเย็น

“ข้าไม่ขยับ……….” หู่เหมยเอ่อกล่าวด้วยน้ำเสียงที่สะอื้น

เธอหวาดกลัวจนขวัญหาย และไม่ไม่รู้ว่าหยางไต่ต้องการฆ่าเธอหรือเปล่า เมื่อตกอยู่ในความเป็นความตาย หญิงสาวตัวเล็กๆเช่นเธอจะทำอย่างไรต่อไป ? แม้ว่าฐานันดรของเธอจะไม่ธรรมดา แต่ความแข็งแกร่งของเธอกลับอ่อนแอ

หยางไค่ไม่ได้สนใจเธอ แต่กลับพุ่งไปยังด้านข้างของเฉิงเซาเฟิงและนู่วเต๋า หยางไค่ค้นหาสิ่งของจากร่างกายของพวกเขาอย่างหยาบคาย หลังจากนั้นไม่นาน หยางไค่พบยาและเงินตราจำนวนหนึ่ง

ยาสองขวดเหลืองเพียงไม่มาก คงมีค่าไม่เท่าไหร่

ไม่สูญเสีย !! แต่เขาเสียดายหยดน้ำพลังลมปราณหยางของเขา ตอนนี้จุดตันเถียนของเขาไม่เหลืออะไร หลังจากการต่อสู้ที่หนักหน่วง พลังลมปราณที่อยู่ในเส้นชีพจรลมปราณลดลงไปกว่าครึ่ง

“เจ้าต้องการเงินใช่ไหม?” หู่เหมยเอ่อมองเห็นหยางไค่ปล้นทรัพย์สินจากศพทั้งสองถึงจึงกล่าวถามด้วยความกล้าหาญ : “ข้าให้เจ้าได้ เพียงแค่เจ้าไม่ฆ่าข้า !!”

หู่เหมยเอ่อในตอนนี้ ไม่กล้าที่จะอวดีและยั่วยวนต่อหยางไค่ แม้แต่คำพูดเธอยังกล่าวอย่างระมัดระวัง

หยางไค่เหลือบมองหู่เหมยเอ่อด้วยสายตาที่เฉยชา : “ข้าไม่ใช่โจรป่า ข้าจะเอาเงินของเจ้าไปทำไม ?หากข้าต้องการเงินข้าจะหามันเอง !!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด