ตอนที่แล้วTXV – 58 สุนัขรับใช้ !
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTXV –  60 สร้างแต่ปัญหา !

TXV –  59 ผู้ชนะ !


TXV –  59 ผู้ชนะ !

 

        “จะเอายังไง ?” กู๋เค่อเหวินหมดความอดทนในที่สุด เธอโบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้บอดี้การ์ดที่อยู่ข้างเธอเปิดกระเป๋าและหยิบเอกสารจำนวน 2 ชุดตั้งไว้บนโต๊ะ

 

        เธอกำลังเตรียมเอกสารอะไรบางอย่าง..

 

        หลิวหยิงในตอนนี้เหมือนปลาที่กำลังติดเบ็ดของกู๋เค่อเหวิน เธอไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากดิ้นทุรุนทะราย….

 

        หลิวหยิงพูดว่า “ฉัน...ฉันจะให้เซี่ยเหล่ยเป็นตัวแทนของฉันในการเจรจากับคุณ”

 

        “เขา ? เป็นตัวแทนคุณ ?” กู๋เค่อเหวินขมวดคิ้วเล็กน้อย

 

        เซี่ยเหล่ยเดินออกมาและพูดว่า “ผมจะขอเจรจาการซื้อหุ้น แต่การเซ็นสัญญา ยังคงเป็นสิทธิ์ของผู้บริหารหลิวเหมือนเดิม เธอจะเห็นด้วยกับการกระทำนี้หรือไม่ ?”

 

        กู๋เค่อเหวินยักไหล่ “ไงก็ได้ คุณอยากขายเท่าไหร่ล่ะ ?”

 

        “50,000,000” เซี่ยเหล่ยกล่าว

 

        “คุณบ้าไปแล้วหรอ ? หุ้นของบริษัทไนท์มูฟสปอตอีควิชเมนต์จะมีราคาสักเท่าไหร่เชียว หุ้นของบริษัทนี้ไม่รู้จะถึงครึ่งนึงของราคาที่คุณเสนอมารึปล่าว ?” กู๋เค่อเหวินหัวเราะเยาะเย้ย

 

        “หุ้นของบริษัทไนท์มูฟสปอตอีควิชเมนต์มันมีคุณค่าเป็นอย่างมากและคุณก็พยายามอย่างมากที่จะได้มันมาเช่นกัน แสดงว่าคงมีมูลค่ามากกว่า 50 ล้านอย่างแน่นอน คุณต้องการซื้อหุ้นจากผู้บริหารหลิวหลิวคุณในราคาถูก ? ดังนั้นคุณจึงบีบให้เธอจนมุมและบังคับให้เธอขายเพียงแค่ 25 ล้านเท่านั้น ?”

 

        กู๋เค่อเหวินยังคงหัวเราะเยาะเย้ยต่อ “ฉันไม่อยากใช้เงินสิ้นเปลืองถึงแม้ว่าฉันจะมีเงินเหลืออยู่” เธอชี้ไปที่ผู้ถือคน 4 คนและพูดต่อว่า “25ล้าน ถ้าพวกคุณไม่ยอมขาย ฉันจะซื้อจากพวกเขาและคุณจะไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือกลับไปเลย….”

 

        เซี่ยเหล่ยหัวเราะ “ผมได้ยินมาว่าคนที่ร่ำรวยมักจะชอบข่มเหงคนอื่น ถ้าคุณจงใจปล่อยให้บริษัทแห่งนี้ตกอยู่ในหายนะล่ะ ? เช่นส่งโจรกระจอกๆไปขโมยเอกสาร ? และส่งสุนัขรับใช้ของคุณไปวางยาในแก้วไวน์ของผู้บริหารหลิว ?”

 

        “มึง ! ไอชาติชั่วเซี่ย ! ระวังคำพูด อย่าลืมพวกเราสามารถฟ้องหมิ่นประมาทจากมึงได้ !”

 

        เซี่ยเหล่ยพูดเบาๆว่า “จริงๆแล้วผมก็ไม่มีหลักฐานอะไรมามัดตัวพวกคุณ เราจึงไม่สามารถจับโจรรวมไปถึงผู้บงการได้ อย่างที่ 2 คุณกู๋คงไม่สนใจพวกพวกเราหรอก เราอยากขายหุ้นสุดท้ายในราคาที่ดีแค่นั้นเอง”

 

        “25ล้านเท่านั้น ให้ได้แค่นี้” กู๋เค่อเหวินกล่าว

 

        “งั้นเราไม่ต้องมีอะไรพูดกันแล้วล่ะก็ปล่อยให้บริษัทนี้พังพินาศไปก็แล้วกัน” เซี่ยเหล่ยกล่าว

 

        กู๋เค่อเหวินจ้องมองไปที่เซี่ยเหล่ยอย่างโกรธเกรี้ยว “30ล้าน นี่เป็นราคาสุดท้ายที่ฉันจะให้ได้”

 

        เซี่ยเหล่ยส่ายหัว “40 ล้าน นี่เป็นราคาสุดท้ายที่ผมจะขอ ถ้าคุณให้ 40 ล้านพวกเราจะขายหุ้นให้คุณทันที”

 

        “อย่ามาต่อรองให้มากนัก !” กู๋เค่อเหวินกำลังโกรธจัดเหมือนเสือป่าที่ดุร้ายกำลังตะครุบเหยื่อ….

 

        บอดี้การ์ดทั้ง 2 คนมองไปที่เซี่ยเหล่ยอย่างไม่พอใจ พวกเขาพร้อมลงมือทันทีหากกู๋เค่อเหวินออกคำสั่ง

 

        หลิวหยิงยืนอยู่ข้างๆเซี่ยเหล่ย อารมณ์ของเธอแปรปรวนเป็นอย่างมากเมื่อกู๋เค่อเหวินเสนอราคาหุ้นให้เธอ 25 ล้านแต่เซี่ยเหล่ยเพิ่มราคามาได้จนถึง 30 ล้าน เธอก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากแล้วแต่ไม่คิดว่าเขาจะเรียกราคาเพิ่มไปถึง 40 ล้าน…

 

        เซี่ยเหล่ยไม่กลัวคำขู่ของกู๋เค่อเหวินแม้แต่น้อย เขาใจเย็นและพูดอย่างมั่นใจว่า “40 ล้าน จะรับข้อเสนอหรือปล่อยให้มันพังพินาศไป...”

 

        “เซี่ยเหล่ยใช่มั้ย ? กรุณารอสักครู่” ความเกลียดชังถูกเก็บสะสมไว้ในจิตใจของกู๋เค่อเหวินไม่มีใครที่จะกล้าท้าทายอำนาจของลูกสาวคนที่ 2 ของตระกูลกู๋มาก่อน เซี่ยเหล่ยเป็นคนแรกที่กล้าทำแบบนี้ !

 

        เซี่ยเหล่ยหัวเราะออกมา “คุณกู๋ ผมรู้ว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่ คุณกำลังจะข่มขู่แม่ลูกคู่นี้ใช่ไหม ? ผมรู้ว่าตระกูลกู๋ของคุณทำอะไรได้บ้าง ตัวผมคงไม่สามารถที่ไปทำร้ายครอบครัวของคุณได้หรอก ถ้าคุณสั่งฆ่าผม ! ผมสาบานได้เลยว่าผมจะลากคุณไปลงนรกกับผมด้วย”

 

        กู๋เค่อเหวินโกรธจัดมากกว่าเดิม “คุณกล้าขู่ฉัน ?”

 

        เซี่ยเหล่ยยักไหล่ “ผมบอกแค่ว่าจะทำแบบนั้น ผมไม่มีอะไรที่จะต้องเสียอยู่แล้ว ผมเป็นแค่เด็กข้างถนนคนนึงเท่านั้นเอง”

 

        บอดี้การ์ดทั้ง 2 เคลื่อนตัวออกไป

 

        กู๋เค่อเหวินยกมือและสั่งให้พวกเขาหยุดและกลับไปยืนที่เดิมของเขา....

 

        “40 ล้าน ตกลง ! เซ็นสัญญาได้เลยผู้บริหารหลิว” กู๋เค่อเหวินกล่าว

 

        หลิวหยิงยื่นนิ่งและไม่ได้พูดอะไรออกมา เธอกำลังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

        เซี่ยเหล่ยผลักตัวเธอเบาๆจากนั้นเธอได้สติกลับมา เธอจึงอ่านสัญญาอย่างช้าๆ

 

        กู๋เค่อเหวินหัวเราะออกมาอีกครั้ง “ผู้บริหารหลิว ฉันไม่ทราบนะว่าคุณมีสุนัขรับใช้ที่ดีหรือมีของเล่นชิ้นเก่ง ?”

 

        “คุณ….” ใบหน้าของหลิวหยิงเปลี่ยนเป็นสีแดงเธอโกรธมากที่กู๋เค่อเหวินพูดแบบนี้กับเซี่ยเหล่ยก่อนที่เธอจะอธิบายว่า “ความสัมพันธ์ของพวกเรามันไม่ใช่แบบที่คุณคิด !”

 

        หลินบู่เหวินปล่อยเสียงออกมาทางจมูกและพูดอย่างน่ารังเกียจว่า “อย่ามาทำเป็นพูดดีหน่อยเลย ผมไม่ได้ตาบอดนะ มีเหตุผลอะไรที่เขาจะต้องช่วยคุณ ? คุณทั้งสองคนได้ทำเรื่องอย่างว่ากันแล้วใช่ไหม ฮ่าฮ่าฮ่า !”

 

          หลิวหยิงสั่นสะท้านด้วยความโกรธ “ไอ้คนไม่มียางอาย !”

 

          การที่หลินบู่เหวินพูดออกมาแบบนี้เซี่ยเหล่ยไม่ได้โกรธอะไรเขามาก เขาแค่พูดเบาๆว่า “หลินบู่เหวินผมขอเตือนคุณนะ สุนัขรับใช้ที่ดีควรทราบว่าใครเป็นเจ้านายที่แท้จริงไม่เช่นนั้นคุณอาจจะต้องกลายเป็นหมาข้างถนนตลอดไป”

 

          “มึงลองพูดอีกครั้ง !” หลินบู่เหวินดึงแขนเสื้อขึ้นมามองอย่างโกรธเกรี้ยวไปที่เซี่ยเหล่ย

 

        กู๋เค่อเหวินจ้องเขม็งไปที่หลินบู่เหวินอีกครั้ง จากนั้นเขารีบปิดปากของเขาโดยทันที

 

        หลิวหยิงได้อ่านสัญญาฉบับนั้นอย่างรวดเร็วจากนั้นเธอหยิบสมุดธนาคารขึ้นมาและวางไว้ด้านหน้าของกู๋เค่อเหวิน “โอนเงิน 40 ล้านเข้าบัญชีก่อนแล้วฉันจะเซ็นสัญญาหลังจากที่ฉันได้รับเงิน”

 

        กู๋เค่อเหวินเหลือบมองไปที่สมุดบัญชีของเธอแต่เธอก็ไม่ได้เอื้อมมือไปจับสมุดบัญชีเล่มนั้น “หย่าหยู่ โอนเงิน 40 ล้านไว้ในบัญชีของเธอ” เธอออกคำสั่ง

 

        หลินหย่าหยู่ได้ทำตามคำสั่งของกู๋เค่อเหวิน เธอหยิบ Macbook ในกระเป๋าขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะและเริ่มโอนเงินเข้าบัญชีของหลิวหยิง

 

        40 ล้านสำหรับคนธรรมดาทั่วไปแล้วคงเป็นเงินก้อนโตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของพวกเขาเลย แต่เมื่อเทียบกับลูกสาวคนที่ 2 ของตระกูลกู๋ การจ่ายเงิน 40 ล้านนี้เหมือนซื้อรถคันหนึ่งไว้เป็นของสะสมในบ้านเท่านั้นเอง…

 

 

        หลินหย่าหยู่ทำงานโอนเงินทันทีและหลิวหยิงได้รับ SMS การแจ้งเตือนว่าเงินเข้าบัญชีเธอแล้ว จากนั้นเธอลงปากกาไปที่สัญญาฉบับนั้น

 

        กู๋เค่อเหวินได้เซ็นสัญญาไปเช่นกันจากนั้นเธอโยนปากกาลงบนโต๊ะในขณะที่เธอหันไปมองหลิวหยิงจากนั้นเธอหัวเราะอย่างสะใจออกมา “คุณไม่รู้หรอ ? บริษัทของคุณมีค่าเท่าไหร่ ?”

 

        “50 ล้าน” หลิวหยิงกล่าว

 

        กู๋เค่อเหวินส่ายหัวและหัวเราะออกมามากกว่าเดิม “ไม่ ไม่ ไม่…. มูลค่าอย่างน้อย 100 ล้านเหรียญสหรัฐ”

 

        “อะไรนะ ?” หลิวหยิงตกใจเป็นอย่างมาก

 

        ผู้ถือหุ้นทั้ง 4 คนในห้อง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตกใจและความเศร้าเสียใจไปในเวลาเดียวกัน

 

        “อย่าเสียใจไปเลย.. คุณได้ขายหุ้นในบริษัทนี้ไปหมดแล้ว คุณไม่มีสิทธิอะไรในบริษัทแห่งนี้อีก” กู๋เค่อเหวินกล่าว

 

        หลิวหยิงมองไปที่ผู้ถือหุ้นทั้ง 4 คนที่กำลังรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น “คุณหลอกให้พวกเราขายหุ้นทั้งหมดก่อนหน้านี้ ? คุณโกหกฉัน !”

 

        “เคยมีความยุติธรรมในสงครามอย่างนั้นหรอ ? คุณเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนหรือเปล่าล่ะ ? ไนท์มูฟสปอตอีควิชเมนต์มันเป็นของฉันและฉันก็เคยบอกคุณไปแล้ว กระดานโต้คลื่นอัตโนมัติเป็นสิ่งสามีของคุณพัฒนาขึ้นมา เป็นโครงการที่น่าสนใจอย่างมาก ยังไม่เคยมีสินค้าเช่นนี้วางขายในตลาดโลกเลย ถ้ามีการวางขายในตลาดโลกรับรองได้ว่าสินค้านี้จะต้องขายดีอย่างแน่นอน ที่บอกไปว่ามูลค่าไม่ต่ำกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐมันอาจจะมีค่ามากกว่านั้นซะอีก ฮ่าฮ่า”

 

        หลิวหยิงกำลังจะพูดอะไรบางอย่างแต่เซี่ยเหล่ยดึงตัวเธอกลับไป…

 

        กู๋เค่อเหวินมองไปที่เซี่ยเหล่ยด้วยดวงตาที่สะใจเป็นอย่างมาก “คุณบอกว่าฉันเลี้ยงสุนัขรับใช้ไว้ตัวหนึ่งมันเป็นคำพูดที่แย่มากแต่ข้อตกลงนี้ต้องยกความดีความชอบให้เขาเลยนะ ฉันไม่รู้หรอกว่าไนท์มูฟสปอตอีควิชเมนต์คิดค้นโครงการอะไรอยู่ แต่เมื่อฉันรู้จากหลินบู่เหวินแล้ว.....มันเป็นโครงการที่น่าสนใจเลยทีเดียว ฉันก็อยากมีบริษัทเป็นของตัวเอง ฉันจะแสดงให้พ่อและพี่ชายของฉันเห็นว่าฉันก็ประสบความสำเร็จได้ไม่แพ้พวกเขาเลย”

 

        “เป็นหนทางแห่งความสำเร็จที่เกิดจากการขโมยของคนอื่น ? คุณเอาความคิดผิดๆแบบนี้มาจากไหนเนี๊ย ?” เซี่ยเหล่ยกล่าว

 

        “นี่คือโลกแห่งธุรกิจผู้ชนะย่อมมีสิทธิ์เหนือกว่า ชัยชนะก็คือชัยชนะผู้แพ้ก็คือผู้แพ้ ฉันไม่สนหรอกว่าจะได้มันมาด้วยวิธีใด”

 

        “ตรรกะป่วยๆของพวกโจรล่ะสิ” เซี่ยเหล่ยกล่าว

 

        กู๋เค่อเหวินไม่ได้พูดอะไรกับเซี่ยเหล่ยต่อ เธอสั่งให้หลินหย่าหยู่ “โทรไปยังสำนักงานซะแล้วสั่งให้เขาจดสิทธิบัตรกระดานโต้คลื่นอัตโนมัติให้เรียบร้อย”

 

        “ค่ะ” หลินหย่าหยู่ดึงโทรศัพท์มือถือของจากกระเป๋า…

 

        “ยืนอยู่ที่นี่ทำไมล่ะ ? ออกไปสิ !” กู๋เค่อเหวินชี้ไปที่ประตูทางออก “บริษัทแห่งนี้เป็นของฉันแล้ว”

 

        “ไปเถอะ พี่หลิว” เซี่ยเหล่ยคว้าตัวของหลิวหยิงและเดินออกไป

 

        หลิวหยิงเดินตามเซี่ยเหล่ยออกไปและเดินออกจากห้องประชุม ฝีท้าของเซี่ยเหล่ยก้าวไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับฝีเท้าของเธอก้าวไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน...

 

        “หยุดอยู่ตรงนั้น !” หลินหย่าหยู่ตะโกนออกมา

 

        กู๋เค่อเหวินมองไปที่หลินหย่าหยู่ด้วยความประหลาดใจ เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ดูจากสีหน้าของหลินหย่าหยู่ที่แสดงออกมา คงจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

 

        หลินหย่าหยู่พูดเบาๆว่า “มีบางอย่างเกิดขึ้นในสำนักงานการจดสิทธิบัตร ! โครงการกระดานโต้คลื่นอัตโนมัติ….. ได้รับการอนุมัติแล้ว !”

 

        “มันเป็นไปได้ยังไง ?” กู๋เค่อเหวินจ้องมองไปที่หลิวหยิงและเซี่ยเหล่ย

 

        ทันใดนั้นบอดี้การ์ดทั้ง 2 ได้ยืนขวางทางออกของหลิวหยิงและเซี่ยเหล่ยทันที

 

        “สำนักงานการจดสิทธิบัตรกล่าวว่าสิทธิบัตรฉบับนี้ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานแห่งหนึ่งในเมืองจินตู่ คนที่สมัครก็คือหลิวหยิงเธอใช้ชื่อตัวเองในการจดสิทธิบัตรและไม่ได้ใช้ชื่อไนท์มูฟสปอตอีควิชเมนต์ ! สิทธิบัตรฉบับนี้ได้รับการอนุมัติเรียบร้อยแล้ว !” หลินหย่าหยู่กล่าว

 

        “แม่งเอ้ย !” กู๋เค่อเหวินลุกจากเก้าอี้ของเธอโดยทันทีเธอจ้องมองไปที่เซี่ยเหล่ยและหลิวหยิงด้วยดวงตาที่โกรธแค้น

 

        กู๋เค่อเหวิน ได้ทำการซื้อบริษัทไนท์มูฟสปอตอีควิชเมนต์แต่สำหรับโครงการกระดานโต้คลื่นอัตโนมัตินั้นแยกกับบริษัทนี้อย่างสิ้นเชิงเพราะว่าเธอได้จดสิทธิบัตรกระดานโต้คลื่นอัตโนมัติโดยไม่ได้ใช้ชื่อบริษัทไนท์มูฟสปอตอีควิชเมนต์ ดังนั้นบริษัทนี้ก็เป็นแค่บริษัทปล่าวๆไม่มีอะไรเลย…

 

         หลินบู่เหวินชี้ไปที่หน้าของเซี่ยเหล่ยโดยทันทีว่า “ไอ้สารเลว มึงทำอะไรลงไป !”

 

        เซี่ยเหล่ยยักไหล่และยิ้มในขณะที่พูดว่า “นี่คือโลกแห่งธุรกิจผู้ชนะย่อมมีสิทธิ์เหนือกว่า ชัยชนะก็คือชัยชนะผู้แพ้ก็คือผู้แพ้” มันเป็นประโยคที่กู๋เค่อเหวินเคยพูดก่อนหน้านี้

 

        กู๋เค่อเหวินจ้องมองเซี่ยเหล่ยอย่างโกรธแค้นมากกว่าเดิม “ไม่มีใครกล้าหลอกฉันมาก่อน ! คุณเป็นคนแรก !”

 

        “ผมก็แค่ใช้เทคนิคนิดหน่อย ประเทศจีนเป็นประเทศที่ใหญ่และมีสำนักงานการจดสิทธิบัตรมากมาย คุณสามารถขัดขวางการจดสิทธิบัตรในเมืองห่ายจูได้ ผมจึงขอให้เพื่อนช่วยจดสิทธิบัตรนี้ในสำนักงานอื่น คุณไม่สามารถใช้อำนาจบาตรใหญ่ของคุณได้ทุกเมืองหรอกนะ ? ทุกสิ่งทุกอย่างมันไม่เป็นตามสิ่งที่คุณคิดเสมอไป !” เซี่ยเหล่ยกล่าว

 

        “เพื่อนของคุณคือใคร ?”

 

        “ไม่รู้สิ !” เซี่ยเหล่ยกล่าว มีเพียงคนเดียวในเมืองชิงตู่ที่สามารถทำแบบนี้ได้ คนนั้นก็คือหลงบิง ข้อความที่เขาส่งไปหาหลงบิงคือเขาขอความช่วยเหลือจากเธอ เขาได้รวบรวมข้อมูลบัตรประชาชนของหลิวหยิงและหมายเลขคำขอจดสิทธิบัตรของเธอในเมืองห่ายจูส่งไปให้หลงบิง จากนั้นให้หลงบิงช่วยนำเดินเรื่องต่อไปจนเสร็จสิ้น หลงบิงสามารถทำให้เจียงหยู่ยี่เป็นหัวหน้าตำรวจได้ แล้วทำไมเรื่องแค่นี้เธอจะทำไม่ได้ล่ะ ?

 

        “คืนเงินมา !” หลินบู่เหวินกล่าวอย่างดุเดือด

 

        “หุบปาก !” กู๋เค่อเหวินตบหน้าของหลินบู่เหวินทันที

 

        เสียงฝ่ามือกระทบใบหน้าของหลินบู่เหวินดังไปทั่วห้อง ความเจ็บปวดของเขาแสดงออกมาชัดเจน แต่เขาไม่กล้าพูดอะไรออกมา....

 

        “ปล่อยให้พวกมันออกไป” กู๋เค่อเหวินกล่าว

 

        เซี่ยเหล่ยรู้สึกกังวล เขาคิดว่าบอดี้การ์ดทั้งสองคนจะมารุมทำร้ายเขา เขาพร้อมสู้ตลอดเวลา แต่ก็ผิดคาดกู๋เค่อเหวินปล่อยเขาและหลิวหยิงออกไปแบบง่ายดาย…

       

        ดวงตาของกู๋เค่อเหวินจ้องไปที่เซี่ยเหล่ย “จำไว้นะ ! ฉันจะไม่มีทางปล่อยให้เรื่องนี้จบลงแค่นี้อย่างแน่นอน ฉันจะหาว่าเพื่อนของคุณเป็นใคร มันต้องชดใช้ในสิ่งที่มันทำ”

 

        “ผมจะบอกอะไรให้นะ คุณไม่ควรไปยั่วให้เธอโกรธ” เซี่ยเหล่ยกล่าว

 

        “ออกไป !” กู๋เค่อเหวินตะโกนออกมาทันที

 

        หลิวหยิงผลักตัวเซี่ยเหล่ยออกไปและลากมือเขาออกไปจากห้องประชุมทันที

 

        ติดตามตอนต่อไป…..

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด