ตอนที่แล้วตอนที่ 5 เครื่องบรรณาการแห่งเทพเจ้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 7 พญามารชั้นต่ำ

ตอนที่ 6 เจ้าสาวสังเวย


ฉันไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเลย นี่นายพูดมาได้ยังเนี่ยว่าจะให้ฉันไปเป็นเครื่องบรรณาการให้กับเทพเจ้าแห่งขุนเขา!!! บ้าไปแน่ๆ

“อ้าว ไหนบอกว่าจะต้องเป็นเด็กสาวบริสุทธิ์ที่อายุน้อยกว่า 13 ขวบกันไง ฉันทั้งตัวสูงใหญ่ขนาดนี้ เทพเจ้าแห่งขุนเขาคงไม่หลงเชื่ออะไรง่ายๆหรอกมั้ง” ฉันไม่แน่ใจเลยว่าเขาใช้อะไรคิดที่จะให้ฉันไปเป็นเครื่องบรรณาการทั้งที่ตัวฉันสูงกว่าเด็กอายุ13 มาก หน้าก็แก่ขนาดนี้ ใครเขาจะเชื่อกัน???

“ใช่ มันก็จริงอย่างที่เธอพูด แต่เธอย่าลืมสิเทพเจ้าแห่งขุนเขามีอายุตั้งหลายพันปีแล้ว มันก็ต้องมีหลงๆลืมๆกันบ้างแหล่ะน่ะ และฉันก็เชื่อว่าถ้าเธอขัดผิวให้เนียนละเอียดกว่านี้ ตัดผมให้สั้นกว่านี้ แต่งตัวเหมือนเด็กสาววัยแรกแย้ม แค่นี้ก็เกินพอแล้วล่ะ เธอจะยอมเปลี่ยนตัวเองสักครั้งมั้ยล่ะ”

ตัดผมให้สั้นลงอย่างงั้นหรอ ?? หลงถิงพูดโน้มน้าวให้ฉันใจอ่อน แล้วเขาก็เอามือมาลูบที่หัวฉันเบาๆ ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกเขินอายเข้าไปใหญ่เลย ><

“แล้วมันมีทางอื่นให้ฉันเลือกมั้ยล่ะ ตาบ้าเอ้ย!” ฉันพูดในขณะที่สายตาก็ไม่กล้ามองไปที่หลงถิง ก็มันเขินนี่นา…..

หลงถิงรับรู้ได้ว่าฉันกังวลกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก แต่มันเป็นหนทางเดียวที่จะช่วยคนในหมู่บ้านนี้ได้…….

“มันมีทางนี้แค่ทางเดียวเธอก็รู้นี่ แต่ถ้าเธอไม่ร่วมมือด้วยหรือลำบากใจก็ไม่เป็นไรนะ เพราะจริงๆแล้วเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเราโดยตรง ฉะนั้นถ้าเธอไม่ตกลง เราก็แค่เก็บของกลับบ้านกันไป”

ไม่มีทาง ฉันมาถึงขนาดนี้ละ คุณทวดท่านก็ตั้งความหวังว่าฉันจะช่วยให้หมู่บ้านนี้สงบสุข และไม่มีปัญหาเรื่องแบบนี้อีก ถ้าฉันยอมแพ้ตอนนี้คุณทวดและผู้คนในหมู่บ้านคงจะผิดหวังและเสียใจกับฉันมากแน่ๆ อีกอย่างแล้วชีวิตของเด็กสาวบริสุทธิ์ทั้งหลายล่ะจะเป็นไปยังไง

ท้ายที่สุดฉันก็ต้องยอมทำตามที่หลงถิงเสนอมา ผู้คนในหมู่บ้านต่างดีใจและมีความหวังมากขึ้น ความหวังที่จะให้หมู่บ้านพ้นจากชะตากรรมนี้ พอตกตอนเย็นประชาชนในหมู่บ้านต่างก็ร่วมกันคนละไม้คนละมือ เพื่อเตรียมการสำหรับงานในวันพรุ่งนี้…..

งานพีธีนี้ไม่ได้เป็นงานที่จัดขึ้นบ่อยๆ จึงทำให้ผู้คนในหมู่บ้านต่างทุ่มเทแรงกายและแรงใจกันอย่างมาก หมู่บ้านแห่งนี้เป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆที่ล้อมรอบไปด้วยหุบเขาจำนวนมาก ภายในหุบเขาเหล่านั้นก็จะมีวัดวาอารามเก่าแก่ และพิธีวิวาห์แห่งเทพเจ้าขุนเขานั้น ถือเป็นพิธีที่ต้องนำเด็กสาวบริสุทธิ์ ถูกส่งตัวเข้าไปในวัดท่ามกลางเขาและถูกขังไว้ภายในวัดไม่ให้ออกมาโลกภายนอกได้ เมื่อถึงเวลาที่ต้องนำสาวบริสุทธิ์คนใหม่เข้าไปสังเวย ชาวบ้านผู้ชายก็จะเข้าไปในวัดแห่งนั้นเพื่อนำซากกระดูก และซากศพของเด็กสาวคนเก่าออกมา

“จื้อเหว่ย…..เธอก็รู้นะว่าฉันไม่ใช่เทพเจ้าแห่งขุนเขา และไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับมัน ฉะนั้นฉันจึงไม่สามารถที่จะเข้าไปในหุบเขานั้นกับเธอได้ เพราะหากฉันเข้าไปด้วย เทพเจ้าแห่งขุนเขาจะต้องสงสัยเราแน่ๆ แต่สิ่งหนึ่งที่เธอต้องจำไว้ให้ดี หากมันมีท่าทีที่จะทำร้ายเธอ เธอจะต้องหลอกล่อมันให้กินโอสถพิษเม็ดนี้ให้ได้ เพื่อดึงเวลา แล้วรอให้ฉันเข้าไปช่วยเธอ” หลงถิงพูดพร้อมยื่นยาเม็ดกลมๆสีน้ำตาลก้อนใหญ่มากมาใส่มือฉัน

โอ้โห! ยาเม็ดใหญ่เกือบเท่าลูกปิงปองขนาดนี้ ใครมันจะไม่สังเกตเห็นเนี่ย! ถ้าให้ฉันกินฉันก็คงไม่เอาหรอก คงติดคอตายก่อนยาพิษจะกำเริบซะอีกล่ะมั้ง

“ถ้าฉันหลอกล่อเขาไม่สำเร็จ ฉันก็ต้องตายใช่มั้ย…..” ฉันพูดด้วยหน้าตาซึมเศร้า เพราะไม่รู้ว่าชะตาชีวิตฉันจะเป็นยังไง จะต้องมีจุดจบแบบเดียวกับเด็กสาวคนก่อนๆหรือเปล่านะ

“ไม่มีทาง ฉันไม่มีวันปล่อยให้เธอตายอย่างแน่นอน แต่เธอต้องให้มันพาเข้าไปที่ห้องหอเสียก่อน และฉันคิดว่ามันคงจะพูดกับเธอประมาณว่า”จื้อเหว่ย คืนนี้เรามาทำสิ่งที่วิเศษที่สุดในชีวิตกันมั้ย ฉันจะทำให้เธออย่างทนุถนอมที่สุดเลยล่ะ””

หลงถิงทำท่าล้อเลียนประหนึ่งตัวเองเป็นเทพเจ้าขุนเขา และเอามือมาจับที่ปลายคางฉันเบาๆ แต่ฉันปัดมือเขาออกทันที เห้อ… ฉันไม่อยากคิดเลยว่าทำไมชีวิตฉันต้องมาเจอแต่อะไรแบบนี้ ปีนี้ทั้งปีจะมีอะไรดีมั่งเนี่ย ตอนแรกก็มีพญางูมาสมสู่จนฉันตั้งท้อง มีงูตัวน้อยอยู่ในท้อง พอต่อมาก็มีเรื่องต้องให้ไปเข้าห้องหอกับเทพเจ้าแห่งขุนเขาอีก ให้ตายเถอะ จื้อเหว่ย!!!

“จื้อเหว่ย คืนนี้เมื่อเธอขึ้นไปที่วัดแห่งนั้นแล้ว เธอจะต้องดูแลตัวเองให้ดีเข้าใจมั้ย! มันต้องรู้อยู่แล้วว่าคืนนี้เป็นคืนที่มันจะได้ลิ้มรสเด็กสาวบริสุทธิ์ ฉันล่ะกลัวความหื่นกระหายของมันจริงๆ แต่เธอไม่ต้องห่วงนะ ฉันจะต้องไม่ทำให้เธอเป็นอันตรายอย่างแน่นอน….” เขาจับมาที่ไหล่ของฉันทั้งสองข้าง เหมือนพยายามปลอบประโลมให้ฉันรู้สึกกังวลและกลัวน้อยลง

เขาก็พูดง่ายนี่มาบอกให้ฉันดูแลตัวเองให้ดี แค่ไอ่โอสถพิษเม็ดเท่าลูกปิงปองเนี่ยก็เป็นปัญหาสำคัญของฉันแล้ว แม้แต่คนปกติอย่างฉันยังไม่กล้ากินเลย แล้วเขาจะหลงเชื่อฉันและกินโอสถพิษนั้นได้อย่างไรกัน

เช้าวันรุ่งขึ้น ผู้เฒ่าสาวๆหลายคนมาช่วยฉันอาบน้ำที่โรยด้วยดอกโบตั๋น ขัดผิดด้วยทรายละเอียด เพื่อเตรียมตัวในการเป็นเจ้าสาวของเทพเจ้าแห่งขุนเขา นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่โตมาเลยนะที่มีคนมาอาบน้ำขัดขี้ไคล เอ้ย ขัดตัวให้เนี่ย พออาบน้ำเสร็จก็มีคนเอาชุดแต่งงานมาจัดเตรียมไว้ให้ แต่เดี๋ยวก่อนนะ ฉันเคยได้ยินคุณย่าพูดอยู่บ่อยๆว่าการแต่งงานของชาวจีน ชุดแต่งงานจะเป็นสีแดง เพราะถือว่าเป็นสีมงคล แต่ทำไมวันนี้ชุดแต่งงานของฉันมันเป็นสีขาวล่ะ  หรือมันอาจเป็นการไว้อาลัยให้ฉันล่วงหน้าก็ได้ เพราะธรรมดาเวลาไปงานศพ เขาก็มักจะใส่ชุดสีขาวกันอยู่แล้วนี่นา ฮืออ....

หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ก็มีเกี้ยวโบราณมารอรับอยู่หน้าประตู เมื่อฉันก้าวขึ้นไปบนเกี้ยว มันก็คือเครื่องหมายว่าฉันเนี่ยแหล่ะคือเจ้าสาวคนต่อไปของเทพเจ้าแห่งขุนเขา ระหว่างทางที่ไปวัดแห่งนั้นก็มีวงดนตรีบรรเลงตลอดทาง เมื่อถึงจุดหมายก็มีผู้คนจำนวนมากมายืนรอรับฉันเต็มไปหมด ไม่ใช่อะไรหรอกนะ คนเหล่าแค่เพียงอยากเห็นหน้าเจ้าสาวคนต่อไปที่จะต้องสังเวยให้กับสิ่งที่พวกเขานับถือต่างหากล่ะ

เมื่อฉันก้าวลงจากเกี้ยว คุณทวดก็มายืนรอฉันพร้อมบอกให้ฉันดูแลตัวเองให้ดีที่สุด ชะตาของฉันถูกกำหนดเพื่อมาทำสิ่งนี้ และฉันจะต้องเป็นคนลงทัณฑ์เทพเจ้าแห่งขุนเขาที่ชื่อว่าเป็นเทพเจ้า แต่กลับทำสิ่งชั่วช้าแบบนี้ ให้รู้สำนึก!

ชาวบ้านกลุ่มนึงเดินเข้ามาจูงฉันเข้าไปวัดแห่งนั้น อย่างช้าๆ และแล้วจากท้องฟ้าเวลาพลบค่ำอันปลอดโปร่งก็กลับกลายเป็นเมฆดำมืดมัวเข้ามาบดบังแสงอาทิตย์จนทำให้บรรยากาศราวกับอยู่ในช่วงพลบค่ำ มันคงเป็นสัญญาณจากสวรรค์ล่ะมั้ง

แม้ฉันรู้ว่าวันนี้ฉันอาจต้องตายด้วยน้ำมือของเทพเจ้าแห่งขุนเขา แต่ตั้งแต่เช้านี่ฉันยังไม่ได้กินอะไรเลยนะ ฮืออ เหมือนไม่ได้พักผ่อนมาตลอดทั้งคืนเลย เพราะอะไรน่ะหรอ เพราะมีคนเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้านมาบอกฉันว่าคนที่จะมาเป็นเจ้าสาวของเทพเจ้าแห่งขุนเขา จะต้องงดอาหารของมนุษย์ก่อนล่วงหน้าที่จะเข้าพิธี ฉะนั้นแล้วมันจึงเป็นเหตุผลที่ตั้งแต่เช้ามา ฉันยังไม่ได้กินอะไรเลยสักอย่าง พอมองไปที่วัดก็เห็นมีผบไม้น่ากินตั้งอยู่ เห็นแล้วอยากจะคว้ามากัดสักคำก็ยังดี

ขณะกำลังทำพิธีบวงสรวงข้าวของเซ่นไหว้มากมาย ทันใดนั้นเองลมปริศนาอันเย็นยะเยือกก็พัดโชยมาจากเขตภายในวัด จนทำให้เทียนสำหรับใช้ทำพิธีกรรมดับลงทุกเล่ม แสงสว่างจากเทียนก็หายพลันทันที

ภาพที่ปรากฏต่อหน้าฉันคือ ประตูวัดเปิกว้างพร้อมต้อนรับเด็กสาวคนใหม่เข้าไปเป็นเครื่องสังเวยให้แก่เทพเจ้าแห่งขุนเขา แสงจันทร์ฉายลงมาพร้อมกับการปรากฏของชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ในชุดจีนสมัยโบราณสีขาว.... ออกมาจากภายในวัดแห่งนั้น

อย่าบอกว่านั่นคือ.... เทพเจ้าแห่งขุนเขางั้นหรอ

ฉันพูดได้เลยว่าตั้งแต่ที่รับรู้เรื่องราวตำนานต่างๆนานาของเทพเจ้าแห่งขุนเขา ฉันวาดภาพของเขาไว้ว่าต้องเป็นชายแก่หง่อม ไม่ก็รูปร่างน่าเกลียดหนังเหี่ยวแล้ว แต่….ผู้ชานที่ปรากฏตัวอยู่หน้าฉัน เขาช่างแตกต่างกับสิ่งที่ฉันจินตนาการไว้เยอะมาก รูปร่างสูงใหญ่ หุ่นกำลังผี ผิวขาวเนียนราวกับแสงจันทร์ ผมสีน้ำตาลเข้ม ริมฝีปากบางเหมือนกับผู้หญิง ดวงตาสีน้ำตาลอ่อน หน้าเรียว พูดง่ายๆคือ รูปลักษณ์ของเขาช่างเหมือนกับผู้หญิงเหลือเกิน

ชายผู้นั้นมองมาที่ฉันพร้อมหัวเราะเล็กน้อย เหมือนขบขันที่ฉันกำลังแอบขโมยกินผลไม้ที่ไว้เซ่นไหว้เทพเจ้าแห่งขุนเขา

“แม่สาวน้อยของฉัน หิวอยู่หรอ?”

หัวใจฉันนี่เต้นรัวเป็นกลองเลยล่ะ ใครเป็นแม่สาวน้อยของเขากันหะ! รู้มั้ยเนี่ยว่าฉันอายุเกิน13ปีมานานนนนละ ฉันล่ะกลัวจนทำตัวไม่ถูกแล้วเนี่ย กลัวว่าเขาจะจับได้ว่าฉันไม่ใช่เด็กสาวอายุ 13 ปีนะ แต่ฉันตะโกนออกไปว่า

“ใช่! ฉันหิวนี่”

จากที่ดูๆแล้วเทพเจ้าแห่งขุนเขาอะไรนั่น เขาคงแยกไม่ออกระหว่างเด็กอายุ 13 กับ วัยรุ่นอายุ 20 จริงๆสินะ เมื่อเทพเจ้าแห่งขุนเขาปรากฏตัวขึ้นได้สักพัก ชาวบ้านก็ก้มหน้าก้มตา ค่อยๆเดินออกจากพื้นที่บริเวณนี้อย่างเงียบสงบ และไม่แม้แต่หันหลังมามองฉันเลย….

เมื่อเทพเจ้าแห่งขุนเขาได้ยินเช่นนั้น เขาก็หัวเราะดังลั่นขึ้นมาและหยิบส้มมาให้ฉันชิมลูกนึง ขณะที่เขาเดินเข้ามาใกล้ๆฉัน ทีละน้อยๆ ฉันสังเกตเห็นว่าลักษณะชุดที่เขาใส่อยู่ตอนนี้น่าจะอยู่ในสสมัยรางวงศ์ชิง ไม่ก็ราชวงศ์ฮั่น จากที่ฉันเคยเรียนมา ถ้าอย่างนั่นก็แปลว่าอายุของเขาก็ราวๆ 2-3 พันปีแล้วหรอเนี่ย!!!!! ถ้าเปรียบเทียบกับหลงถิงนี่คนละวัยกันเลยนะ แล้วอย่างงี้หลงถิงจะไปสู้กับเขาได้ยังไงกันล่ะ!!!

เทพเจ้าแห่งขุนเขา (ที่แม้ฉันจะไม่รู้ชื่อจริงๆของเขาก็เถอะ) ปลอกเปลือกส้มแล้วยื่นมาให้ฉันกิน แต่แล้วเขาก็ค่อยโอบเอวฉัน แล้วดึงเข้าไปแนบชิดติดกับตัวเขา

“ข้าให้ส้มเจ้ากิน ถ้าอย่างงั้นเจ้าก็ต้องให้ร่างกายของเจ้ากับข้าเป็นการตอบแทนนะ แม่สาวน้อย เพราะฉันต้องการที่จะลิ้มรสเจ้า…”

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด