ตอนที่แล้วตอนที่ 17 ต่อสู้กับสัตว์ปีศาจ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 19 ความเดือดร้อนจากซู่มู่

ตอนที่ 18 ผลตอบแทนแห่งความดี


หยางไค่ออกหมัด หมัดที่รุนแรงทะยานผ่านห้วงอากาศกระแทกไปยังดวงตาด้านซ้ายของแมงมุมปีศาจยักษ์ เพียงการโจมตีเพียงครั้งเดียวทำให้ดวงตาทั้ง 2 ข้างแมงมุมปีศาจยักษ์แตกกระจาย

 

แมงมุมปีศาจยักษ์ตื่นตกใจ สติปัญญาที่ดำรงอยู่ทำให้มันรู้ว่ามนุษย์ที่อยู่ตรงไหนที่มีเลือดไหลออกมาจากแขนนั้นน่าหวาดกลัวเพียงใด มันรีบดึงขาทั้ง 2 ข้างที่ติดอยู่ในอ้อมแขนของหยางไค่ออกมา แต่ว่าแขนของหยางไค่รัดมันไว้แน่น ทำให้มันไม่อาจดิ้นรนและต่อต้านไปชั่วขณะหนึ่ง

 

หมัดที่ 2 ของหยางไค่พุ่งโจมตีไปยังดวงตาทั้ง 2 ของแมงมุมปีศาจยักษ์อีกครั้ง

แมงมุมปีศาจยักษ์ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ร่างกายของมันดิ้นทุรุนทุรายอย่างไม่หยุดหย่อน ขาที่สามารถเคลื่อนไหวของมันได้กวัดแกว่งตะกุยตะกายอย่างรุนแรง ทำให้ร่างกายของหยางไค่เต็มไปด้วยบาดแผลจากแมงมุมปีศาจยักษ์ แม้ว่าแผลไม่ลึกมาก แต่ก็สามารถมองเห็นเลือดที่ไหลซึมออกมาได้อย่างชัดเจน

ความแจ็บปวดทำให้หยางคู้สึกตื่นเต้นอย่างถึงที่สุด ทั่วทุกบริเวณของร่างกายมีลมปราณหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง มุมปากของเขาเผยให้เห็นรอยยิ้มที่โหดร้าย หยางไค่ใช้หมัดที่รุนแรงของเขาพุ่งโจมตีออกไปอย่างรุนแรง หมัดที่พุ่งโจมตีออกไปครั้งแล้วครั้งเล่า เริ่มมีความหนักหน่วงและความแข็งแกร่งตามจำนวนครั้งของมัน เมื่อเขาโจมตีออกไปอย่างไม่สิ้นสุดทำให้การออกหมัดของเขามีความรวดเร็วที่มากขึ้น มากขึ้น ซึ่งหมัดที่รุนแรง หนักหน่วงแข็งแกร่ง ว่องไว รวดเร็ว ทำให้กะโหลกศีรษะของแมงมุมปีศาจยักษ์เริ่มปริแตก ชิ้นส่วนของร่างกายกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ

เสียงครวญครางด้วยความเจ็บปวดดังออกมาอย่างต่อเนื่อง แมงมุมพิษกลายพันธุ์ไม่ต้องการรอความตายที่กำลังเข้ามาเยือน มันพ่นใยแมงมุมออกมาจากปากของมันอย่างต่อเนื่อง หยางไค่ที่อยู่ใกล้เคียงไม่สามารถหลบหนีจากใยแมงมุม ทำให้เขาถูกห่อหุ้มด้วยใยแมงมุมอย่างรวดเร็ว

แต่ในตอนนี้ แมงมุมพิษกลายพันธุ์ถูกโจมตีจนไม่เหลือเค้าโครงเดิม กะโหลกศีรษะของมันเกือบจะแตกกระจาย ถ้ามันไม่ใช่สัตว์ปีศาจที่มีพลังการดำรงชีวิตที่แข็งแกร่ง มันคงตายหลายต่อหลายครั้งแล้ว

ในขณะที่แมงมุมพิษพ่นใยแมงมุมที่เป็นพลังชีวิตครั้งสุดท้ายของมัน มันได้หยุดการต่อต้านและดิ้นรน ในที่สุดมันก็ตายอยู่ในหมัดที่แข็งแกร่งของหยางไค่

หยางไค่ไม่เคยคาดคิดว่าตัวเองจะสามารถต่อเอาชนะสัตว์ปีศาจตัวหนึ่งได้ และเขายังได้ฆ่ามันจนตาย

แม้ว่ามันจะเป็นเพียงสัตว์ปีศาจที่อยู่ในระดับต่ำสุด แต่มันไม่ใช่สัตว์ปีศาจที่กายาเริงอารมณ์ขั้นที่ 5 จะสามารถเผชิญต่อสู้กับมันได้ แม้ว่าตนเองจะได้รับบาดแผลจำนวนไม่น้อย แต่เขาไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดและรู้สึกราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับตัวเขา

หลังจากยืนยันว่าแมงมุมปีศาจยักษ์ได้ตายลง หยางไค่จึงดึงขาหน้าที่ปักอยู่บนแขนของเขาออกมา ในขณะที่เขาดึงออกมา เลือดสีแดงสดไดพรั่งพรู่ออกมาอย่างไม่ขาดสาย

หยางไค่ไม่มีเวลาตรวจสอบอาการบาดเจ็บของตนเอง เขารีบฉีกใยแมงมุมที่พันธนาการร่างกายส่วนล่างของเขาจากนั้นจึงวิ่งไปอุ้มยุวชนตัวน้อยที่สลบอยู่บนพื้นดินออกไปจากถ้ำ

พ่อของยุวชนตัวน้อยสามารถจัดการกับใยแมงมุมที่พันธนาการร่างกายของเขาไว้ เขารีบวิ่งไปหยางไค่อย่างรวดเร็ว เขามองเห็นหยางไค่ที่ชโลมด้วยเลือดสีแดงกำลังอุ้มลูกชายของตนเองออกมาจากถ้ำ เขาจึงกล่าวถาม : “เกิดอะไรขึ้นลูกของเข้า ?”

หยางไค่กล่าวตอบอย่างรวดเร็ว “เขาสูญเสียเลือดเป็นจำนวนมาก และยังได้รับพิษจากแมงมุมปีศาจยักษ์” “

หลังจากที่ออกไปถึงปากถ้ำ หยางไค่วางยุวชนตัวน้อยลงบนพื้นหญ้า เขาวิ่งออกไปอีกครั้งเพื่อไปเอาถุงใส่สมุนไพรของตนเอง จากนั้นจึงค้นหาสมุนไพรที่อยู่ในถุงแล้วรีบนำมันใส่ปากและเริ่มเคี้ยวอย่างรวดเร็ว หยางไค่ค้นหาสมุนไพรในถุงผ้าและมอบให้แก่นายพรานพร้อมกล่าว : “เคี้ยวให้ละเอียด จากนั้นจึงป้อนให้เขาเพื่อให้เขากินมันลงไป”

นายพร้อมสูญสิ้นสติตกอยู่ในความหวาดกลัว เมื่อได้ยินคำสั่งของหยางไค่ เขากระทำโดยไม่ลังเล รีบน้ำสมุนไพรใส่เข้าไปในปากก่อนจะเคี้ยวสมุนไพรอย่างรวดเร็ว

ในเวลานี้ จิตใต้สำนึกของหยางไค่ชัดเจนยิ่งกว่าสิ่งใด หยางไค่เข้าใจสรรพคุณของสมุนไพรเหล่านี้อย่างชัดเจน คุณสมบัติสรรพคุณของสมุนไพรเหล่านี้ได้ผุดออกมาจากความคิดของเขา สมุนไพรชนิดไหนที่สามารถล้างพิษ สมุนไพรตัวไหนที่สามารถรักษาแผล สมุนไพรตัวไหนที่สามารถห้ามเลือด เขาเข้าใจดีทุกอย่างเสมือนแพทย์ที่มีประสบการณ์

เวลาผ่านไปไม่นาน หยางไค่นำสมุนไพรที่เคี้ยวจนละอียดแต้มไปยังบาดแผลเล็กๆ ที่อยู่บนร่างกายของยุวชนตัวน้อยส่วนนายพรานได้นำสุมนไพรที่เคี้ยวจนละเอียดออกมาจากปากและป้อนให้แก่ลูกชายของตนเองทันที

ภายใต้การจับตามองการตั้งหน้าตั้งตารอด้วยความหวาดกลัวของพวกเขาทั้งสอง ใบหน้าที่ขาวซีดของยุวชนตัวน้อยเริ่มประกายด้วยสีชมพูจากเลือดฝาด การหายใขของเขายังทรงตัวมากขึ้นกว่าเดิม

ในที่สุดนายพรานสามารถปล่อยความกังวลที่อยู่ภายในใจลงได้ เขาทรุดลงกับพื้น ร้องไห้คราญครางออกมาอย่างเสียงดัง : “โชคดีที่เขาปลอดภัย โชคดีจริงๆ……………..”

หยางไค่สาดความเยือกเย็นลงไปอีกครั้ง : “ยังไม่ได้ ยังไม่สำเร็จ สมุนไพรของข้าเป็นเพียงสมุนไพรระดับต่ำ มันสามารถบรรเทาอาการเบื้องต้นเท่านั้นเจ้าต้องออกจากเทือกเขาเพื่อเขาไปพบแพทย์เพื่อรักษาพิษที่อยู่ในร่างกาย มิฉะนั้นพิษที่อยู่ในร่างกายอาจไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้”

หยางไค่ฟังคำแนะนำของหยางไค่และกล่าวตอบรับ : “ถ้าเป็นเช่นนั้น ข้าจะพาเขาไปพบแพทย์เดี่ยวนี้”

“ไม่ต้องรีบ” หยางไค่กล่าวห้ามปราม : “รอให้อาการของเขาดีขึ้นกว่านี้ !!”

“โอ้ว ผู้มีบุญคุณกล่าวได้ถูกต้อง” นายพรานพบเจอกับเหตุการณ์ที่สะเทือนใจ ทำให้เขาไม่สามารถบังคับจิตใจของตนเอง หยางไค่กล่าวสิ่งใดเขาก็จะเชื่อฟังหยางไค่ทันที

หลังจากที่กล่าวจบ นายพรานเพิ่งนึกได้ว่าผู้มีบุญคุณที่อยู่ตรงหน้าได้รับบาดเจ็บไม่น้อย เขาจึงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ห่วงใย : “ผู้มีบุญคุณ ท่านจะรักษาบาดแผลก่อนหรือไม่ ?”

 

หยางไค่โบกมือพร้อมปฏิเสธ : “ไม่จำเป็น”

นายพรานตกตะลึงและกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ตื่นตกใจ “แต่ว่าเลือดของท่านพรั่งพรู่ออกมาเป็นจำนวนมาก ท่านจะทนรับความเจ็บปวดเช่นนี้ได้อย่างไร ?”

“ข้าไม่ทราบ” หยางไค่ลุกขึ้นมากระโดดโลดเต้นให้เขาดูพร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงที่สดใส : “ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ข้ารู้สึกดีมาก !!”

ไม่เพียงรู้สึกดี แต่ยังรู้สึกตื่นเต้น หยางไค่สงสัยว่ามันต้องเกี่ยวข้องกับกระดูกทองคำที่อยู่ในร่างกายของเขา แต่จะกล่าวอธิบายให้นายพรานเข้าใจได้อย่างไร? เมื่อหวนคิดถึงการต่อสู้ที่ผ่านมา ทำให้เลือดของเขาเริ่มร้อนระอุขึ้นมาอีกครั้ง

นั่นเป็นครั้งแรกที่เขาอยู่ในสถาการณ์ความเป็นความตาย แต่เขากลับไม่รู้สึกหวาดกลัว กลับรู้สึกอยากสัมผัสและเพลิดเพลินกับความรู้สึกเช่นนั้นอีกครั้ง เสมือนว่าเหตุการณ์ในครั้งนั้นเป็นเพียงเหตุการณ์สามัญที่เขาต้องพบเจอทุกวัน

“ใช่แล้ว ได้โปรดก่อน ข้าจะไปสถานที่แห่งหนึ่งแล้วจะรีบกลับมา” หยางไค่หยิบถุงผ้าของตนเอง และวิ่งเข้าไปในถ้ำอย่างรวดเร็ว

นายพรานคิดว่าเขาจะไปจัดการศพของสัตว์ปีศาจ แต่มันไม่ใช่เช่นนั้น

แม้ว่าแมงมุมปีศาจยักษ์จะเป็นสัตวืปีศาจ แต่ซากศพของมันไม่มีค่าใด เพราะมันอยู่ในระดับที่ต่ำเกินไป

หยางไค่เข้าไปในถ้ำ เพื่อจะเก็บสมุนไพร !!

ในขณะที่เขาต่อสู้กับแมงมุมปีศาจยักษ์ หยางไค่พบกว่าภายในถ้ำมีบุพผาสีม่วงเจริญเติบโตเป็นจำนวนมาก ช่วงเวลาที่ผ่านมา เขาไม่ได้สังเกตอย่างถี่ถ้วน แต่เมื่อหวนกลับมาอีกครั้งทำให้ปลื้มปริ่มอย่างมาก

ถ้าหากว่ามองไม่ผิด ดอกไม้สีม่วงก็คือดอกสามใบเถาที่เขาต้องการในตอนนี้ ดอกสามใบเถา เจริญเติบโตในที่มืดอับชื้น และมีซากขอศพจำนวนมาก ภายในถ้ำแห่งนี้เป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการดำรงอยู่และเจริญเติบโตของมัน

จิตใจของเต็มไปด้วยความคาดหวังเมื่อเขาเดินเข้าไปในถ้ำ หยางไค่เกือบจะอั้นเสียงหัวเราะแห่งความสุขไว้ไม่ได้

การเป็นมุษย์ที่มีจิตใจดีช่วยเหลือผู้อื่นยอมจะได้รับผลตอบแทนที่ดีเช่นเดียวกัน ดูเหมือนว่าคำกล่าวนี้จะเป็นความจริง !! ถ้าหากไม่เป็นเพราะว่าเขาวิ่งมาช่วยเหลือสองพ่อลูกนี้ เขาคงไม่พบเจอกับสมุนไพรที่เขาต้องการมากมายเช่นนี้

ดอกไม้สีม่วงที่อยู่ตรงหน้าเป็นดอกสามใบเถาที่เขาต้องการ และมันยังมีเจริญเติบโตเป็นจำนวนมาก น่าจะมีประมาณ 3-4 ต้น ดอกไม้สีม่วงเปล่งบานอย่างสวยงาม ทำให้ผู้ที่พบเจอรู้สึกยินดียิ่งนัก

เขากำลังเก็บสมุนไพรด้วยจิตใจที่รู้สึกยินดียิ่งนัก ในขณะที่เขากำลังเตรียมตัวจะเดินออกจากถ้ำ สายตาของเขาเหลือบไปเห็นต้นสีแดงทืบที่เสมือนเห็ดขนาดใหญ่อยู่ในมุมหนึ่งของถ้ำ

จิตใจของหยางไค่สั่นไหว เขาเดินไปด้านหน้าเพื่อสำรวจมันอย่างละเอียด สิ่งของนี้มีขนาดเท่าชามข้าว มีสีแดงเข้ม มันมีลักษณะที่คล้ายคลึงกับเห็ด และยังมีลักษณะที่คล้ายคลึ่งกับเห็ดหลินจือหยางไค่ไม่ทราบว่ามันคืออะไร เพราะตำราเล็มเล็กที่เหรัญญิกมอบให้เขาไม่ได้บันทึกเอาไว้

มันอาจจะเป็นสมบัติล้ำค่า ? หยางไค่จับมันอย่างแผ่วเบา ไม่สนว่ามันคืออะไร เก็บมันไปก่อนแล้วค่อยว่ากัน เพราะยังไรมันก็ไม่ได้เปลืองพื้นที่เก็บสมุนไพรในถุงผ้าของเขาอยู่แล้ว

เมื่อหยางไค่ออกจากถ้ำ กระเป๋าของเขาเต็มไปด้วยสมุนไพรที่มากมาย

หยางไค่กล่าวกับนายพรานที่รออยู่ปากถ้ำ “ไปกันเถอะ ออกจากที่นี้พร้อมกับข้า”

“ขอบคุณผู้มีบุญคุณ” นายพรานป่ารู้สึกตื้นตันจนน้ำตาไหลออกมา เขารู้ว่าหยางไค่เป็นห่วงพวกเขากลัวว่าพวกเขาจะได้รับอันตราย จึงทำให้เต็มใจที่จะออกไปจากเทือกเขาพร้อมกับพวกเขา

“มันเป็นเส้นทางเดียวที่ข้าจะกลับไป ไม่จำเป็นต้องกล่าวขอบคุณ” หยางไค่กล่าวอย่างนอบน้อมและออกจากเทือกเขาทันที

เมื่อถึงเวลาพลบค่ำ พวกเขาทั้งสามเพิ่มมาถึงเมืองวู่เหม่ย พวกเขารีบหาเหย้าเรือนของแพทย์เพื่อรักษายุวชนตัวน้อยทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด