ตอนที่แล้วTWO Chapter 34 หมู่บ้านระดับ 3
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTWO Chapter 36 การปฏิรูป ตอนที่ 2

TWO Chapter 35 การปฏิรูป ตอนที่ 1


TWO Chapter 35 การปฏิรูป ตอนที่ 1

หลังจากดูสถานะของหมู่บ้าน โอหยางโชวบอกกู่ซิวเหวินให้เรียกเจ้าหน้าที่หลักไปที่ห้องประชุม เพื่อหารือเกี่ยวกับอย่างสิ่งบางอย่าง เจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมในการประชุมในครั้งนี้ นอกเหนือจาก หัวหน้าฝ่ายต่างๆ และผู้ดูแลแล้ว เขาได้เรียกนายทหารทั้ง 5 คน และผู้มีความสามารถพิเศษขั้นสูงทั้งหมดดของดินแดน มาร่วมประชุมด้วย

หลังจากออกไป โอหยางโชวไปที่กรมการบริหาร ไอเดียต่างๆของเขาควรผ่านการประมวลผลของกรมการบริหาร ดังนั้น ก่อนเริ่มประชุม เขาและฟ่านจงหยานจึงพูดคุยกันเกี่ยวกับางสิ่งบางอย่าง

ทั้ง 2 พูดถึงการปฏิรูปภาครัฐ พวกเขาพูดคุยกันอย่างจริงจัง โอหยางโชวชื่นชมประสบการณ์ของฟ่านจงหยาน ในเรื่องการบริหาร รายละเอียดของไอเดียของเขา หลายไอเดียที่มีปัญหาได้รับการชี้แจงและแก้ไข

ครึ่งชั่วโมงต่อมา ในห้องโถงประชุม  โอหยางโชวนั่งลงบนเก้าอี้ และเริ่มการประชุมครั้งแรก ตั้งแต่อัพเกรดเป็นหมู่บ้านระดับ 3

“หลังจากอัพเกรดดินแดนแล้ว ความท้าทายต่างๆก็เพิ่มขึ้น เพื่อให้การพัฒนาดินแดนเป็นไปอย่างปลอดภัยและเป็นระเบียบ งานหลักของเรา คือ การขยายกองทัพ ในการต่อสู้เมื่อวานนี้ กองทหารม้ามีบทบาทสำคัญที่สุด ดังนั้น ข้าจึงตัดสินใจขยายกองทัพให้เต็ม 100 คน ขุนพลซีจะรับหน้าที่เป็นผู้บัญชาการทหารม้า และเป็นผู้บัญชาการs,;fทหารม้าที่ 1 นอกจากนี้ นายกองหลินยี่ซึ่งทำหน้าที่ในการสู้รบเมื่อวานนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม จะได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการหมวดทหารม้าที่ 2”

หลินยี่คำนับเขา “ข้าจะไม่ทำให้นายท่านผิดหวัง!”

โอหยางโชวพยักหน้า หมวดทหารม้าที่ 1 คือ ทหารม้าในปัจจุบัน หมวดทหารม้าที่ 2 คือ ทหารที่จะคัดเลือกใหม่ โดยการคัดเลือกทหารใหม่จะเป็นหน้าที่ของขุนพลซี และหลินยี่ เขาเสนอให้เลือกทหารอาสาสำรองที่ทำหน้าที่ในการป้องกันได้ดีเมื่อวานนี้

“ระบบทหารจะได้รับการปรับปรุงใหม่ อตีดผู้ควบคุมหมู่ที่  4 หัวหมู่เจ้าซีฮู จะถูกย้ายไปหมวดทหารที่ 2 หมู่ที่ 1  อดีตผู้ควบคุมหมู่ที่ 2 หัวหมู่สานโก่วฉี ได้เลื่อนขั้น และข้ามีแผนอื่นสำหรับเขา อดีตผู้ควบคุมหมู่ที่ 5 หัวหมู่หลี่หมิงเหลียง จะถูกย้ายไปหมวดทหารม้าที่ 1 หมู่ที่ 2”

โอหยางโชวกล่าวกับขุนพลซี “นายทหารม้าจะต้องมีอีก 7 นาย หลังจากท่าน และนายกองหลินยี่คัดเลือกผู้ที่เหมาะสม แล้วให้บอกข้า และหลินยี่ก็มีสิทธิ์ส่งเสริมคนในหมวดที่ 2 ของเขาเองด้วย”

ขุนพลซีหยักหน้า เขาเข้าใจความหมายของโอหยางโชว

“การขยายตัวต่อไปของดินแดนเรา สภาพแวดล้อมรอบด้านจะซับซ้อนมากขึ้น เพื่อป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดคิด ข้าคิดว่าเราจำเป็นต้องจัดตั้งฝ่ายข่าวกรองทางทหาร และอดีตผู้บังคับหมู่ที่ 2 สานโก่วฉีจะรับหน้าที่หัวหน้าฝ่ายนี้”

ในตอนแรกสานโก่วฉีเป็นกังวล แต่เมื่อได้ยินว่าเขาจะได้เป็นหัวหน้าฝ่าย เขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขามีความสุขกับหน้าที่ใหม่ของเขา “ข้าจะไม่ทำให้นายท่านผิดหวังในตัวข้า!” เขารีบกล่าวออกมา

“ฝ่ายใหม่นี้จะมีคน 20 คน เจ้าสามารถคัดเลือกคนได้ด้วยตัวเอง รวมถึงคนจากทหารม้าหมู่ที่ 2 ฝ่ายใหม่นี้จะดำเนินการอย่างอิสระ และจะนำโดยหน่วยทหารม้าของตัวเอง สิ่งเหล่านี้คือการปรับปรุงกองทัพ มีคำถามหรือไม่?”

ขุนพลซียืนขึ้น และกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า “นายท่าน ข้ามีอะไรจะกล่าว การขยายกองทัพนั้นเป็นสิ่งที่ข้าพอใจ แต่ปัญหาคือ นายท่านสั่งให้เพิ่มทหารเป็น 120 นาย ตอนนี้ค่ายทหารไม่สามารถดูแลทหารทั้งหมดได้ อย่างมากก็ 53 คน ที่สามารถเลื่อนเป็นทหารได้ เราไม่สามารถเลื่อนขั้นทหารได้ทั้งหมด”

“เพื่อจัดการปัญหานี้ ข้าจะอัพเกรดค่ายทหารเป็นขั้นกลาง” โอหยางโชวตอบอย่างรวดเร็ว

“ยอดเยี่ยม! เช่นนั้นข้าก็ไม่มีความกังวลใดๆแล้ว” ขุนพลซีกล่าวด้วยความยินดีอย่างยิ่ง

สำหรับเรื่องทหาร นอกจากขุนพลซีแล้ว ไม่มีใครพูดอะไรอีก

“สิ่งต่อไปที่ข้าจะกล่าว คือ หัวข้อหลักในการประชุมครั้งนี้ ใช้ประโยชน์หลังจากการอัพเกรดดินแดน ข้าจะเริ่มปฏิรูปดินแดน ในเรื่องนี้ ข้าขอเชิญท่านฟ่านเป็นคนกล่าวแนะนำทั้งหมด”

เกี่ยวกับการปฏิรูป โอหยางโชวได้พูดคุยกับฟ่านจงหยานแล้ว เขาจึงให้ฟ่านจงหยานเป็นคนนำเสนองาน เพื่อผลักดันเขาให้เป็นแกนหลักของดินแดน และให้ทุกคนยอมรับการเป็นผู้นำของเขา

ฟ่านจงหยานเข้าใจความตั้งใจของโอหยางโชวอย่างชัดเจน เขาลุกขึ้นคำนับโอหยางโชวแล้วกล่าวช้าๆ “เพื่อนร่วมงานทั้งหลาย ข้าจะนำเสนอเนื้อหาหลักในการปฏิรูปดินแดน หลังจากการป้องการเมื่อวานนี้ เรามีทรัพยากร และเงินทุนที่มากพอที่จะตอบสนองความต้องการของการปฏิรูปในเบื้องต้น”

“ดังนั้น เพื่อที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต และปรับปรุงระบบเศรษฐกิจให้สอดคล้องกับความคาดหวังของชาวบ้าน นายท่านของเราจึงเริ่มดำเนินการปฏิรูปดินแดนของเราอย่างเป็นทางการ โดยเราจะหยุดการแจกจ่ายที่เหมือนๆกันเช่นเดิม หลักการใหม่ของเรา คือ เจ้าสามารถเก็บเกี่ยวได้เพียงสิ่งที่เจ้าปลูกเท่านั้น”

“รัฐจะไม่รับผิดชอบในการจัดหาอาหารให้กับชาวบ้านอีกต่อไป และชาวบ้านที่ทำงานให้เรา เราจะจ่ายค่าจ้างอย่างเหมาะสม ในขณะเดียวกัน ร้านค้า ฟาร์มสัตว์ ที่พักอาศัย เรือประมง สามารถซื้อขายได้ อย่างไรก็ตามแหล่งผลิตทรัพยากรยุทธศาสตร์อย่าง ลานไม้ เหมืองหิน เหมืองแร่ และนาเกลือ จะยังคงถูกควบคุมโดยรัฐโดยตรง”

เพื่อป้องกันการดำเนินชีวิตของชาวบ้านในขั้นต้น และช่วยปฏิรูปจากระบบศักดินาไปสู้การพึ่งพาตนเอง เราจะให้รางวัลแก่ชาวบ้าน สำหรับการทำงานหนักของพวกเขา นายท่านจะจัดสวัสดิการขั้นพื้นฐานให้กับประชาชน ดังนี้ ตั๋วสำหรับแลกธัญพืช 100 หน่วย ตั๋วสำหรับแลกเนื้อสัตว์ 20 หน่วย ตั๋วสำหรับแลกชุดผ้าลินินธรรมดา 1 ชุด และตั๋วสำหรับแลกเงิน 20 เหรียญเงิน

การดำเนินการปฏิรูป จะทำได้หลังจากได้มีการจัดตั้งธนาคารอย่างเป็นทางการ ซึ่งธนาคารยังเปิดให้กู้ดอกเบี้ยต่ำ และเปิดให้ชาวบ้านทุกคนสามารถตอบสนองความต้องการของตนได้ กฎระเบียบเฉพาะต่างๆ จะถูกตั้งขึ้นมาโดยผู้จัดการธนาคาร

เมื่อฟังคำพูดของฟ่านจงหยาน มันได้สร้างความตื่นเต้นให้กับพวกเขา มีเสียงกระซิบมากมายกล่าวถึง ความเมตตาและความอบอุ่นของลอร์ดของพวกเขา

นายกองทหารม้าหลินยี่ที่เพิ่งได้เลื่อนขั้น เขายิ้มให้กับพี่ชายของเขาหลินเยว่ และกล่าวว่า “พี่ใหญ่ คราวนี้ท่านสามารถซื้อศูนย์ฝึกอบรมศิลปะการต่อสู้เป็นของตัวเองได้เสียที”

หลินเยว่ขมวดคิดแล้วกล่าวว่า “อย่าพูดมากนัก ข้าคงไม่มีเงินมากขนาดนั้น”

“พี่ใหญ่กังวลเกินไป นายท่านย่อมคิดถึงเรื่องนี้ ท่านไม่ได้ยินสิ่งที่ท่านฟ่านกล่าวหรือ นายท่านกำลังจะก่อตั้งธนาคารที่ให้กู้ดอกเบี้ยต่ำ”

“แต่เราไม่ทราบถึงเงื่อนไขในการเข้าถึงเงินกู้ ข้าเกรงว่า ข้าจะไม่สามารถผ่านเงื่อนไขนั้นได้”

“พี่ใหญ่ ท่านคิดเช่นนั้นจริงๆหรือ ท่านเป็นผู้ฝึกสอนศิลปะการต่อสู้ขั้นสูง ถ้าท่านไม่ผ่านเงื่อนไขในการกู้เงิน ในดินแดนนี้ก็คงไม่มีใครผ่านเงื่อนไขในการกู้เงินแล้ว และทุกคนคงไม่พอใจ การปฏิรูปจะไร้ประโยชน์ในทันที” หลินยี่มองไปที่โอหยางโชวหลายครั้ง เห็นได้ชัดว่าเขาเข้าใจความตั้งใจของโอหยางโชวมากกว่าพี่ชายของเขา

หลินเยว่พยักหน้าช้าๆ ยอมรับในสิ่งที่น้องชายเขากล่าวมา

หลังจากทุกคนเริ่มสงบ โอหยางโชวกล่าวขึ้นว่า “ตอนนี้ท่านฟ่านได้นำเสนอเนื่อหาการปฏิรูปแล้ว” โอหยางโชวหยุดกล่าวครู่หนึ่ง ก่อนจะดำเนินการต่อ “เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการปฏิรูปเศรษฐกิจ เรามีสิ่งที่ต้องทำ 6 เรื่อง”

“เรื่องแรก เราต้องจัดตั้งธนาคาร”

“เรื่องที่ 2 เราจำเป็นต้องกำหนดค่าเช่า ที่พักขนาดเล็ก ร้านค้าต่างๆ และทรัพสินอื่นๆ”

“เรื่องที่ 3 เราต้องสร้างสิ่งก่อสร้าง พวกร้ายเบเกอรี่ ร้านขายเนื้อ ร้านขายเสื้อผ้า และร้านค้าอื่นๆ เพื่อให้มั่นใจว่าชาวบ้านจะสามารถหาซื้อสิ่งของที่จำเป็นในการดำรงชีวิตได้”

“เรื่องที่ 4 เราต้องพิจารณาระดับค่าเช่า ราคาสินค้า เพื่อกำหนดค่าจ้างที่จะจ่ายให้พวกเขา”

“เรื่องที่ 5 ต้องมีผู้รับผิดชอบในการแจกจ่ายสวัสดิการขั้นพื้นฐาน”

“เรื่องสุดท้าย เราต้องสร้างระบบภาษี”

“สำหรับสิ่งที่จำเป็นต้องทำทั้ง 6 เรื่องนี้ เราจะพูดคุยกันทีละเรื่อง ก่อนอื่นเรามาพูดคุยกันเรื่องชื่อธนาคารก่อน มีใครจะเสนอไอเดียหรือไม่?”

“ข้าเสนอให้เรียกมันว่า ธนาคารซานไห่!” เจ้าเต๋อเสี้ยนกล่าวอย่างลังเล

“ธรรมดาเกินไป!”

“เฮ้! ข้าคิดว่าชื่อ ธนาคารหวานตงเป็นชื่อที่ดีนะ!” นี่คือความเห็นของเจิ้งซานเปา

“ใช้ชื่อเหมือนคนอื่น? ไม่เอา!”

“เราอยู่ในแอ่งเหลียนโจว ใช้ชื่อว่า ธนาคารเหลียนโจวเป็นอย่างไร?” กู่ซิวเหวินถามอย่างมั่นใจ

“มันแคบเกินไป”

โอหยางโชวส่ายหน้า

ในเวลานี้เอง ขุยหยิงหยูเปิดปากเล็กๆของเธอ และกล่าวว่า “ข้าคิดว่ามันควรจะชื่อว่า ธนาคาร 4 สมุทร ซึ่งตั้งชื่อคล้ายกับหมู่บ้านซานไห่ และยังหมายถึงการรวมมหาสมุทรทั้ง 4 อีกด้วย”

ดวงตาของโอหยางโชวเปล่งประกาย สี่สมุทร สี่สมบัติ มันดูง่ายๆ ธรรมดาๆ แต่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน เขาพอใจมาก เขายิ้มแล้วกล่าวว่า “ยอดเยี่ยม! คนอื่นหละคิดอย่างไร?”

“ยอดเยี่ยม! ยอดเยี่ยม!” ดูเหมือนความเห็นของทุกคนจะสอดคล้องกัน

เห็นเช่นนั้น โอหยางโชวจึงกล่าวว่า “เอาหละ! ชื่อของมัน คือ ธนาคาร 4 สมุทร ในช่วงแรกของการลงทุน ข้าจะมอบทุนให้กับธนาคาร 200 เหรียญทอง สำหรับผู้จัดการธนาคาร ขุ่ยหยิงหยูจะรับหน้าที่นั้น”

นัยน์ตาของทุกคนสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน พวกเขามองเห็นความสำคัญของธนาคาร 4 สมุทร มันไม่ใช่เพียงตัวหลักของการปฏิรูปเท่านั้น ในอนาคาตมันจะมีบทบาทเป็นกระทรวงการคลัง ดังนั้น ตำแหน่งที่สำคัญนี้ จะถูกมอบให้กับคนที่โอหยางโชวไว้ใจอย่างมากเท่านั้น ทุกคนเงียบขณะที่มองไปที่ขุยหยิงหยู พวกเขาหวังว่าจะได้รับความไว้วางใจจากลอร์ดของพวกเขาได้เท่ากับเธอ

หยิงหยูเข้าใจ และขอบคุณที่โอหยางโชวไว้วางใจเธอ เธอมีความสุขกับตำแหน่งผู้จัดการธนาคาร 4 สมุทร อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เธอทำหน้าที่หัวหน้าฝ่ายคลังวัสดุ เธอตระหนักถึงความอิจฉาของคนอื่นๆ ถ้าเธอเข้ารับตำแหน่งผู้จัดการธนาคาร 4 สมุทร ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะยิ่งมีคนที่อิจฉาเธอมากขึ้น

“พี่ใหญ่! ข้าเกรงว่างานนี้หนักเกินไปสำหรับข้า ข้ามีงานมากพอให้ทำอยู่แล้ว” เธอตอบปฏิเสธอย่างสง่างาม

โอหยางโชวเตรียมพร้อมสำหรับการตอบปฏิเสธของเธออยู่แล้ว “เจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องนั้น ข้าจะปลดเจ้าออกจากตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายคลังวัสดุ โดยให้เจ้าโหยวฟางรับตำแหน่งนั้นชั่วคราว และให้ตู่เสี่ยวหลานเป็นผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายคลังวัสดุ เพื่อช่วยเจ้าโหยวฟางจัดการปัญหาต่างๆ”

เจ้าโหยวฟางยังขาดคุณสมบัติ และความสามารถในการรับตำแหน่งนี้ ดังนั้น โอหยางโชวจึงไม่ได้แต่งตั้งเขาให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายคลังวัสดุอย่างเป็นทางการ สำหรับตู่เสี่ยวหลาน เธอเป็น 1 ในเด็กฝึกงานของขุยหยิงหยู โอหยางโชวจะส่งเสริมเธอเพื่อพัฒนาการทำงานด้วยประสบการณ์ของเธอ

การจัดบุคลากรครั้งนี้เป็นสิ่งที่ทุกคนไม่เข้าใจ ไม่ว่าคุณจะมองอย่างไรฝ่ายคลังวัสดุก็มีความสำคัญมากกว่า ธนาคาร 4 สมุทร

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด