ตอนที่แล้วEternal Martial Sovereign ตอนที่ 29 – ปราบปรามนกกระจอกกลืนกินสวรรค์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEternal Martial Sovereign ตอนที่ 32 - เม็ดยาพระเจ้าเก้าหมุนเวียน?

Eternal Martial Sovereign ตอนที่ 31 – ราชาเปลวไฟสีม่วง


**เปลี่ยนชื่อครับจากทักษะกลืนกินสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์เป็นทักษะศักดิ์สิทธิ์กลืนกินสวรรค์

 

Chapter 31 – ราชาเปลวไฟสีม่วง

 

ในขณะที่เขาจมอยู่ในจิตใจในจิตวิญญาณการต่อสู้ เซี่ยวหยุนรู้สึกว่าจิตวิญญาณของเขาถูกแทะเล็มด้วยมดคันไฟนับสิบล้านตัว คลื่นความร้อนสูงได้ท่วมท้นจิตใจของเขา มันเกินกว่าสิ่งที่คนธรรมดาจะอดทนต่อมันได้ ความเจ็บปวดแบบนี้ได้ผสมเข้ากับความกลัวและความสิ้นหวัง มันก็เพียงพอแล้วที่จะทำลายจิตใจของเซียนโดยสมบูรณ์ แม้ว่าพวกเขาจะมีวิตอยู่ด้วยความเจ็บปวดก็ตาม มันก็จะจบลงด้วยพวกเขาการเป็นแค่เปลือกของสิ่งที่พวกเขาเคยเป็น  (ข้างในเปลี่ยนไป ข้างนอกดูเหมือนเดิม เป็นแค่เปลือกนอก)

 

จิตใจของเซี่ยวหยุนเริ่มจางหายไป ขณะที่เขารู้สึกว่าตัวเองตกลงไปในห้วงนรกที่เต็มไปด้วยเปลวไฟอันไม่มีที่สิ้นสุด ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเซี่ยวหยุนก็เป็นเพียงแค่เด็กหนุ่มอายุ 15 ปีเท่านั้น

 

จิตใจของเขาเข้าใกล้กับจุดที่จะถูกทำลายไป หัวใจของเซี่ยวหยุนส่ายและมีเพียงความคิดเดียวปรากฏขึ้นในจิตใจของเขา

 

“ไม่! ข้าไม่สามารถยอมรับแบบนี้ได้ ข้าต้องปกป้องจิตใจของข้าและหลอมรวมจิตวิญญาณการต่อสู้!”

 

ด้วยความคิดนั้น เขาเริ่มที่เมินเฉยต่อความเจ็บปวดและยึดเหนี่ยวจิตใจของเขาไว้อย่างแน่นหนา ขณะที่เขาเริ่มปกป้องจิตวิญญาณของเขา ความรู้สึกของห้วงนรกเริ่มจางหายไปอย่างช้าๆ จิตใจของเขาเป็นเหมือนโคมไฟขนาดเล็กในความมืดมิด

 

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเขายังคงพยายามที่หลอมรวมจิตวิญญาณการต่อสู้เปลวไฟสีม่วง ความร้อนจัดนั้นยากที่จะเมินเฉยต่อมันได้อย่างสมบูรณ์

 

“ข้าจำเป็นต้องพยายาม! โดยเฉพาะการหลอมรวมจิตวิญญาณการต่อสู้นี้ข้าจะแข็งแกร่งขึ้น ด้วยความแข็งแกร่งข้าสามารถปกป้องน้องสาวและช่วยท่านปู่ได้! ด้วยความแข็งแกร่งข้าสามารถออกจากอาณาจักรเมืองหลวงแห่งสวรรค์เพื่อตามหาบิดาของข้าได้ เพียงแค่ความแข็งแกร่งเท่านั้นที่จะไม่ถูกเย้ยหยันและหัวเราะเยาะ เพียงแค่ความแข็งแกร่งเท่านั้นที่มีเกียรติที่จะเดินไปบนโลกนี้ด้วยอย่างสง่าผ่าเผยของพวกเขา”

 

เซี่ยวหยุนยังคงพยายามกระตุ้นตัวเองให้อดทนต่อไป ด้วยการพึ่งพาเศษเสี้ยวความเชื่อมั่นนี้ ทำให้เขาปกป้องจิตใจของเขาจากการแตกสลายได้อย่างไม่คาดฝัน ทีละน้อย ความรู้สึกของจิตวิญญาณที่ถูกเผาโดยเปลวไฟของจิตวิญญาณการต่อสู้เริ่มหายไป เขาแม้แต่เริ่มรู้สึกว่าเขาได้หลอมรวมกับคลื่นความร้อน

 

“ข้ากำลังจะหลอมรวมกับจิตวิญญาณการต่อสู้?” เซี่ยวหยุนคิดด้วยความตระหนกและรู้สึกถึงความเร่าร้อนอย่างคลุมเครือ

 

 

เมื่อความรู้สึกสึกเริ่มชัดเจนมากยิ่งขึ้น หัวใจของเซี่ยวหยุนกลายเป็นตื่นเต้นมากยิ่งขึ้นไปอีก ความพยายามของเขาไม่ได้สูญเปล่า! เขารู้สึกว่าจิตวิญญาณของเขากลายเป็นส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณเปลวไฟสีม่วง ได้มีชิ้นส่วนสีม่วงแผ่รัศมีระเบิดออกมาเหมือนกับโลกสีม่วง แม้แต่ความร้อนและเดือดดาลก็รู้สึกดูเหมือนว่าจะสบายสำหรับเขา เซี่ยวหยุนเริ่มรู้สึกถึงเปลวไฟสีม่วงและรู้สึกว่าการควบคุมมันนั้นอ่อนแอ อย่างไรก็ตาม นี่ก็เป็นแค่การหลอมรวมเบื้องต้นเท่านั้นและเขาต้องการเวลามากกว่านี้เพื่อทำให้มันมั่นคงขึ้นด้วยทักษะศักดิ์สิทธิ์กลืนกินสวรรค์

 

“เขาประสบความสำเร็จในการหลอมรวม?” นกกระจอกกลืนกินสวรรค์พึมพำกับตัวเองด้วยความประหลาดใจ การหลอมรวมกับจิตวิญญาณการต่อสู้นั้นอันตรายอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ จิตวิญญาณการต่อสู้ที่ขี้โกงของเซียนจะเป็นเหมือนวิญญาณและยังบรรจุไปด้วยความทระนงของเซียน ถึงแม้ว่าจะไม่มีจิตสำนึก มันก็จะปฏิเสธพยายามใดๆก็ตามที่จะควบคุมมัน ในอดีตที่ผ่านมา มีผู้ฝึกตนจำนวนมากพยายามที่จะได้รับจิตวิญญาณการต่อสู้ที่ได้ถูกทิ้งไว้โดยผู้ฝึกตนโบราณ แต่มีเพียงไม่กี่คนที่ประสบความสำเร็จ ส่วนทีเหลือนั้นจิตใจของพวกเขาจะแตกเป็นเสี่ยงๆหรือถูกกลืนไปโดยจิตวิญญาณการต่อสู้ ทิ้งให้ผู้ฝึกตนเป็นแค่พวกเบาปัญญา มันเป็นเพราะว่าสิ่งนี้นกกระจอกกลืนกินสวรรค์จึงผลักดันให้เซี่ยวหยุนหลอมรวมกับวิญญาณการต่อสู้ อย่างไรก็ตาม เมื่อพายุหมุนภายในตันเถียนไม่ได้มีเจตนาที่จะหยุด นกกระจอกกลืนกินสวรรค์จึงรู้ว่าจิตใจของเซี่ยวหยุนนั้นไม่ได้แตกเป็นเสี่ยงๆและยังคงสามารถควบคุมได้เต็มที่

 

“อย่าบอกข้าว่าเขาประสบความสำเร็จจริงๆในการหลอมรวมกับจิตวิญญาณการต่อสู้เปลวไฟสีม่วง!” นกกระจอกกลืนกินสวรรค์กำลังพึมพำอีกครั้ง ราวกับว่ามันได้ตอบสนองเขา ตันเถียนของเซี่ยวหยุนสั่นและพายุหมุนก็กลายเป็นลูกบอลของเปลวไฟสีม่วง

 

“เขาประสบความสำเร็จ?” นกกระจอกกลืนสวรรค์ได้จ้องอย่างใกล้ชิดไปยังตันเถียนของเด็กหนุ่ม

 

เปลวไฟสีม่วงภายในตันเถียนของเซี่ยวหยุนนั้นริบหรี่และคลื่นความร้อนก็ไหลออกมาเหมือนก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้ คลื่นความร้อนไม่ได้โวยวายและบ้าคลั่ง

 

“จริงๆ? เขาประสบความสำเร็จ?” รู้สึกถึงคลื่น นกกระจอกกลืนสวรรค์ตกตะลึงอย่างช่วยไม่ได้

 

ฟู่ว!

 

เปลวไฟประกายและลอยออกมาจากตันเถียน จากนั้นก็พุ่งเข้าไปยังจุดฝั่งเข็มระหว่างคิ้วของเซี่ยวหยุน พวกเขาปรากฏขึ้นอีกครั้งภายในทะเลแห่งจิตสำนึกของเขาแสดงให้เห็นว่าเขาได้ประสบความสำเร็จในการหลอมรวม

 

“จริงหรือนี่? เด็กนี่เป็นมนุษย์จริงหรือ?” นกกระจอกกลืนกินสวรรค์ได้แต่แผดเสียงไปยังสวรรค์อย่างช่วยไม่ได้ เขาต้องการที่จะใช้จิตวิญญาณการต่อสู้เปลวไฟสีม่วงเพื่อหลอกลวงเซี่ยวหยุนและใช้มันเพื่อให้แยกออกจากพันธนาการของเขา อย่างไม่คาดฝัน เขาได้ช่วยเซี่ยวหยุนจริงๆและตอนนี้เด็กหนุ่มที่ยากต่อการจัดการก็ได้กลายเป็นเสือติดปีกแล้ว

 

หลังจากเปลวไฟสีม่วงเข้าไปในทะเลแห่งจิตสำนึกของเซี่ยวหยุนและอยู่ถัดจากจิตวิญญาณการต่อสู้ของเขา มันปล่อยคลื่นจิตวิญญาณออกมา

 

“พี่ใหญ่? นี่ท่านเหรอ?” ม่วงน้อยกระพริบตาและมองไปอย่างอยากรู้อยากเห็นที่เปลวไฟสีม่วง นางระมัดระวังอย่างมากขณะที่นางรู้ว่าเปลวไฟสีม่วงนี้ไม่ธรรมดาและนางก็ไม่อยากถูกย่างด้วย อย่างไรก็ตาม รูม่านตาที่เป็นเหมือนกับอัญมณีของนางจ้องอย่าลึกซึ้งไปยังเปลวไฟด้วยความอัศจรรย์ ทำไมพี่ใหญ่จึงมีเปลวไฟสีม่วงนี้กะทันหัน?

 

“ใช่ นั่นเป็นส่วนหนึ่งของข้า” เสียงของเซี่ยวหยุนดังออกมาจากภายในเปลวไฟสีม่วง ตอนนี้จิตวิญญาณการต่อสู้เป็นส่วนหนึ่งของเขาแล้ว จิตใจของเขาเชื่อมโยงกับมัน รู้สึกราวกับว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายตัวเองทำให้เซี่ยวหยุนค่อนข้างมีความสุข

 

“พี่ใหญ่อัศจรรย์มาก!” ม่วงน้อยอุทานขึ้นมา ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความเคารพ

 

ด้านข้าง กิ่งหยกของจิตวิญญาณการต่อสู้ได้กวนและร้องออกมาเมื่อสัมผัสเปลวไฟสีม่วงบริสุทธิ์

 

“เฮ้! จิตวิญญาณการต่อสู้เปลวไฟสีม่วงนี้เป็นส่วนหนึ่งของข้าแล้วตอนนี้! อย่าคิดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้!” เซี่ยวหยุนตะโกนไปยังจิตวิญญาณการต่อสู้แห่งชีวิตของเขา เขารู้ว่ามันต้องการที่จะดูดซับแก่นแท้เปลวไฟบริสุทธิ์จากจิตวิญญาณการต่อสู้สีม่วง โชคดี เมื่อมันได้ยินเสียงของเซี่ยวหยุน มันก็เงียบลง

 

“เด็กหนุ่ม ตอนนี้เจ้าได้เสร็จสิ้นการหลอมรวมแล้ว เจ้าสามารถปล่อยข้าได้แล้วใช่ไหม?” นกกระจอกกลืนกินสวรรค์ถาม

 

“ปล่อยเจ้า?” จิตใจของเซี่ยวหยุนเข้าสู่หอคอยขณะที่เขาตอบกลับ “เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้ถึงแผนของเจ้าจริงๆหรือ?”

 

เซี่ยวหยุนได้มองเห็นถึงแผนของนกกระจอกกลืนกินสวรรค์ล่วงหน้าแล้ว แต่เขายังคงดำเนินมันต่อเนื่องจากความปรารถนาของเขาในเรื่องจิตวิญญาณการต่อสู้

 

“เจ้ากำลังเข้าใจผิด เจ้าคิดว่าเป็นคนน่ารังเกียจเช่นนั้นหรือ?” นกกระจอกกลืนกินสวรรค์หัวเราะอย่างน่าอัปยศอดสู อย่างไรก็ตามเขาก็สับสนอยู่ภายใน เด็กอายุ 15 ปีเป็นผู้ใหญ่ขนาดนี้?

 

“เจ้าไม่ใช่แม้แต่คน เพียงแค่มองครั้งเดียวข้าก็รู้แล้วว่าเจ้าไม่ใช่นกที่ดี ดังนั้นในอนาคตงดการใช้ข้ออ้างนี้ซะ” เซี่ยวหยุนยิ้มเยาะด้วยการดูถูก

 

“แน่นอน แน่นอน ในอนาคต เราจะทำงานร่วมกันอย่างเหมาะสม” คิ้วของนกกระจอกกลืนกินสวรรค์ขดตัวด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย แต่เขาก็ยังไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยิ้มที่ด้านหน้าของเซี่ยวหยุน ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เด็กคนนี้สามารถกลั่นสกัดเขาให้ตายและเมื่อถึงจุดนั้น การจะเสียใจมันก็สายเกินไปแล้ว ทุกสิ่งจะเป็นไปได้ตราบเท่าที่เขายังมีชีวิตอยู่

 

เห็นนกกระจอกที่ถูกบังคับให้แสดงออกอย่างมีความสุข เซี่ยวหยุนเมินเฉยต่อเขา ทั้งหมดที่เขาจำเป็นต้องทำก็คือระมัดระวังนิดหน่อยรอบๆตัวของนกโง่ตัวนี้และเขาก็จะไม่จำเป็นต้องกังวล

 

เซี่ยวหยุนแล้วขยายพลังวิญญาณออกมารอบๆตัวเขาเพื่อสำรวจสภาพแว้ดล้อมรอบตัวเขา

 

“ที่นั่นมีห้องหินอยู่ภายใน” ดวงตาของเซี่ยวหยุนเต็มไปด้วยประกายแสงขณะที่เขาเดินไปยังห้อง

 

“นี่ควรจะเป็นห้องที่ถูกทิ้งไว้โดยเซียน” นกกระจอกกลืนกินสวรรค์โผล่เข้ามา

 

ห้องหินนั้นว่างเปล่าเว้นเสียแต่ว่ามันมีศพอยู่ เสื้อผ้าของมันได้กลายเป็นกองขี้เถ้าหลังจากปีเหล่านี้ทั้งหมด กระดูกของศพเป็นประกายและมีแสงริบหรี่ ราวกับว่าพวกมันถูกทำขึ้นมาจากหยก กระดูกมีรอยแตกร้าวและหน้าอกของมันยุบตัวไปโดยสมบูรณ์ เห็นได้ชัดเจน ว่าเป็นคนที่ได้รับบาดเจ็บหนักก่อนที่เขาจะตาย เห็นศพนี้ เซี่ยวหยุนถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ จากจิตวิญญาณการต่อสู้ที่ถูกทิ้งไว้โดยผู้อาวุโสท่านี้ เขารู้ว่าศพนี้เคยเป็นเซียนผู้ทรงพลัง แต่ก็ไม่สามารถหลบหนีจากความตายได้

 

“ได้โปรดอภัยให้ผู้เยาว์ด้วยที่รบกวนการพักผ่อนชั่วนิรันดร์ของท่าน” เซี่ยวหยุนถอนหายใจด้วยความเศร้าหมอง เขารู้ว่าจิตวิญญาณการต่อสู้มาจากเซียนผู้นี้และเขาควรให้ความเคารพต่อพระคุณที่เขาได้รับ

 

“มันก็เป็นเพียงแค่ศพที่ตายไปแล้ว แล้วจำเป็นอะไรที่จะต้องถามถึงการให้อภัย?” นกกระจอกกลืนกินสวรรค์พึมพำอยู่ภายใต้ลมหายใจของเขา

 

เซี่ยวหยุนเมินเฉยนกตัวนี้และคุกเข่าของเขาเพื่อคำนับ เขาโขกศีรษะสามครั้งด้วยความขอบคุณสำหรับการได้รับมรดกของเซียนผู้นี้ก่อนที่จะลุกขึ้น

 

บุส!

 

เมื่อเซี่ยวหยุนลุก พื้นก็สั่นและมีช่องสีเหลี่ยมสีดำเปิดขึ้น อย่างไม่คาดฝัน หัวของเซี่ยวหยุนได้แตะไปที่ช่องสี่เหลี่ยมสีดำเมื่อเขาโขกศีรษะและเปิดใช้งานบางสิ่ง

 

“ผู้อาวุโสทิ้งอะไรไว้อีก?” เซี่ยวหยุนจ้องอย่างว่างเปล่าไปที่หลุมเล็กๆ ภายในหลุมนั้นเล็ก ปราศจากเครื่องตกแต่งมีแต่กล่องกับบางสิ่งบางอย่างภายในนั้น

 

“อี๊? ยังมีอะไรอย่างอื่นอีก?” นกกระจอกกลืนกินสวรรค์ร้องออกมาด้วยความตระหนก

 

“อาจจะมีอะไรอยู่ภายใน?” เซี่ยวหยุนถามอย่างอยากรู้อยากเห็นขณะที่เขาเอากล่องเล็กๆออกมาอย่างรอบคอบ ด้านบนของกล่องรู้สึกอบอุ่นเหมือนกับว่ามีเปลวไฟขนาดเล็กภายใน เขาเปิดกล่องอย่างช้าๆและภายใน เขาก็ได้ค้นพบข้อความโบราณ

 

หลักการเม็ดยาเปลวไฟสีม่วง!

 

เซี่ยวหยุนจ้องมองอย่างว่างเปล่าและพูดว่า "ข้อความโบราณเกี่ยวกับการปรับแต่งเม็ดยา?"

 

ขณะที่เขาหยิบข้อความโบราณขึ้นมา เซี่ยวหยุนก็ค้นพบกระดาษแผ่นหนึ่งที่ถูกเขียนด้วยลายมือบนกระดาษ

 

ข้าคือราชาเปลวไฟสีม่วงและข้าก็มาจากเจ้าแห่งการกลั่นเม็ดยาของนิกายเม็ดยา อย่างไม่คาดฝัน ข้าประสบกับความริษยาจากสมาชิกของนิกาย ... ถ้าเจ้ากำลังอ่านสิ่งนี้มันจักต้องเป็นโชคชะตา ข้าหวังว่าเจ้าจะสามารถใช้ข้อมูลเชิงลึกการกลั่นเม็ดยาเหล่านี้และส่งต่อพวกมันไปได้

 

ขณะที่เซี่ยวหยุนกำลังอ่าน เขาเริ่มที่จะเข้าใจชีวิตอันสง่างามของราชาเปลวไฟสีม่วง ราชาเปลวไฟสีม่วงเป็นเซียนและยังเป็นเจ้าแห่งการกลั่นเม็ดยา เขาได้รับชิ้นส่วนข้อมูลเกี่ยวกับตำรับเม็ดยาในตำนาน เม็ดยาพระเจ้าเก้าหมุนเวียน ซึ่งเป็นที่ละโมบของสมาชิกนิกายของเขา น่าเศร้าที่เขาประสบกับความพยายามลอบสังหารและด้วยความยากลำบากมาก เขาได้หลบหนีไปกับเศษเสี้ยวชีวิตของเขา เขาได้วิ่งจากดินแดนต่างวิเทศมาสู่ภูมิประเทศที่แห้งแล้งแห่งนี้ แต่อาการบาดเจ็บของเขารุนแรงเกินไปและเสียชีวิตลงไป ในท้ายที่สุดสิ่งที่เขาปรารถนาก็คือการส่งผ่านข้อมูลเชิงลึกของเขา สำหรับการแก้แค้น ราชาเปลวไฟสีม่วงไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้และแสดงเพียงความเสียใจเท่านั้น (วิเทศ = ต่างประเทศ นะครับ)

 

นอกเหนือจากกล่อง ราชาเปลวไฟสีม่วงยังทิ้งหม้อปรุงยาโบราณสำหรับการกลั่นสกัดเม็ดยาและแผนที่ เซี่ยวหยุนสำรวจอีกเล็กน้อยภายในหลุมดำและค้นพบหม้อปรุงยาด้านบนแผนที่ เขาได้เอาทั้งสองสิ่งออกมาอย่างตื่นเต้น หม้อปรุงยามีสามเท้ากว้างมีด้ามจับสองอันและเส้นลวดลายที่ซับซ้อน แผ่นที่มีรายละเอียดมากแต่น่าเสียดายที่มันดูเหมือนว่าจะไม่สมบูรณ์ สองในสามของมันยังขาดหายไป

 

“ภูมิภาคนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นอาณาเขตของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ร่วงหล่น หนึ่งในพื้นที่หวงห้ามอาณาจักรเมืองหลวงแห่งสวรรค์!” นกกระจอกกลืนกินสวรรค์ทันใดนั้นก็ร้องตะโกนด้วยกิเลสในดวงตาของมัน “เป็นไปได้หรือไม่ว่าตำหรับเม็ดยาในตำนานของเม็ดยาพระเจ้าเก้าหมุนเวียนจะอยู่ที่นั่น?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด