ตอนที่แล้วEternal Martial Sovereign ตอนที่ 28 – หอคอยกลืนกินสวรรค์แสดงอำนาจ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEternal Martial Sovereign ตอนที่ 29 – ปราบปรามนกกระจอกกลืนกินสวรรค์

Eternal Martial Sovereign ตอนที่ 30 – หลอมรวมจิตวิญญาณการต่อสู้


Chapter 30 – หลอมรวมจิตวิญญาณการต่อสู้

 

 

“เด็กหนุ่มเจ้าเหี้ยมโหดทีเดียว เจ้านายคนนี้ยอมรับความพ่ายแพ้” นกกระจอกกลืนกินสวรรค์กล่าวอย่างอาฆาตแค้นขณะที่มันกัดฟันแน่น ในท้ายที่สุด มันก็สามารถระงับเปลวไฟแห่งความโกรธภายในดวงตาของมันได้ - หลังจากที่มันไม่ได้มีสิทธิ์ที่จะต่อรองกับเยาวชนคนนี้ มันสามารถรักษาชีวิตของมันในตอนนี้และและทำตามขั้นตอนต่างๆตามที่มันมาถึงเท่านั้น

 

นกกระจอกกลืนกินสวรรค์ยกศีรษะของมันขึ้นขณะที่มันคำรามด้วยความโกรธและความเศร้า “เวรเอ้ย!” ย้อนกลับไปยังตอนนั้น มันเคยเป็นชนชั้นสูงและสง่าผ่าเผย แต่ตอนนี้มันกลับตกลงมาอยู่ในสภาพเช่นนี้

 

“ทำไมเจ้าร้องออกมาเหมือนกับผู้หญิงกัน? เจ้าได้ทำให้ภาพลักษณ์การเป็นวีรบุรุษของเจ้าภายในหัวใจของข้าพังพินาศแล้วนะ” เซี่ยวหยุนกล่าวอย่างเหยียดหยัน ย้อนกลับไปตอนนั้น เขาได้เห็นนกกระจอกกลืนกินสวรรค์เป็นเซียนที่ไร้ผู้เทียบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่มันได้กลืนกินภัยพิบัติอสนีบาตแล้ว ความกล้าหาญนั้นน่ายกย่องสรรเสริญอย่างเหลือเชื่อ

 

นกกระจอกกลืนสวรรค์ได้กลอกตาของมัน เมินเฉยต่อเซี่ยวหยุนขณะที่มันคร่ำครวญอยู่ภายใน “ถ้าเจ้าถูกจับโดยใครสักคน ข้าแน่ใจว่าเจ้าก็จะไม่มีความสุขเช่นกัน

 

เซี่ยวหยุนกล่าวขณะที่เขายิ้ม “อย่าเป็นอย่างนี้ ถ้าเจ้าทำงานร่วมกับข้า มันก็จะเป็นประโยชน์ต่อเจ้าเช่นกัน”

 

นัยน์ตาของนกกระจอกกลืนกินสวรรค์สว่างขึ้น “เจ้าหมายความว่าอะไร?”

 

เซี่ยวหยุนกล่าว “ข้ามีความคิดที่ใช้ได้ดีทีเดียว ถ้าเจ้าพาข้าไปหามรดกของราชัน ข้าจะช่วยเจ้าแก้แค้นในอนาคต เจ้าคิดว่าดีไหม? ตอนนี้เจ้าสูญเสียร่างเนื้อของเจ้าไปแล้ว มันจะไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเจ้าเลยที่จะแก้แค้น”

 

นกกระจอกกลืนกินสวรรค์ทรงพลังมากและกับเซี่ยวหยุน มันจะเป็นการดีที่แก้ไขความเป็นปฏิปักษ์ระหว่างกัน หลังจากนั้น มันไม่ใช่เรื่องดีสำหรับนกกระจอกกลืนกินสวรรค์ที่ยังคงติดอยู่ในหอคอยกลืนกินสวรรค์ตลอดเวลานี้ ยิ่งไปกว่านั้น เซี่ยวหยุนยังคนอ่อนแอเกินไปและต้องการผู้ช่วย

 

“ทำงานร่วมกัน?” นกกระจอกกลืนกินสวรรค์ตกลงสู่ความเงียบขณะที่มันกำลังคิด จากนั้นทำเสียงต่ำอย่างเย็นช้า “เจ้าคิดว่าเจ้าคิดถูกแล้วที่มาถามเจ้านายคนนี้ให้ทำงานร่วมกันกับเจ้า?”

 

เบื้องหลังของนกกระจอกกลืนกินสวรรค์นั้นไม่ธรรมดา และมันก็ทั้งหยิ่งและใจแข็ง คนที่มันเห็นอยู่ในสายตานั้นมีไม่มากนัก และเมื่อมันได้ยินว่าเซี่ยวหยุนต้องการจะทำงานร่วมกับ มันรู้สึกดูหมิ่นอย่างช่วยไม่ได้ ย้อนกลับไปในช่วงเวลาที่ดีเลิศ อัจฉริยะจากตระกูลทั้งหมดทำได้แค่ตัวสั่นต่อหน้ามัน มันเพิ่งแค่จะตกลงอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากในตอนนี้เอง

 

“ความสามารถในการปราบปรามของเจ้า – นั่นคือสิ่งที่ข้าทำให้โดยตรง” เซี่ยวหยุนตอบกลับ

 

“เอาล่ะ ข้าจะทำงานร่วมกันกับเจ้า เจ้าสามารถปล่อยข้าไปได้แล้วใช่ไหม?” นกกระจอกกลืนกินสวรรค์ถามขณะที่ดวงตาของมันกระพริบ

 

เซี่ยวหยุนส่ายหัวและกล่าว “ยัง เจ้าต้องแสดงความจริงใจที่เพียงพอก่อน”

 

“ความจริงใจ?” ดวงตาของนกกระจอกกลืนกินสวรรค์มืดลงอย่างช่วยไม่ได้ เซี่ยวหยุนยิ้มบางเบาและไม่ได้พูดอะไรอีก จิตใจของเขาได้ออกจากหอคอยกลืนกินสวรรค์และเริ่มมองไปรอบๆ

 

นกกระจอกกลืนกินสวรรค์พูดทันที แม้ว่าร่องรอยของความหนาวเหน็บจะแวบผ่านภายในดวงตาของมัน “เจ้าต้องการความจริงใจ? ตอนนั้นข้ากำลังต่อสู้กับจิตวิญญาณการต่อสู้เปลวไฟสีม่วงที่เซียนซึ่งอยู่ในระดับสูงสุดทิ้งไว้ จิตวิญญาณของมันได้อ่อนแอลงอย่างมาก และเจ้าสามารถพยายามที่จับกุมและหลอรวมกับมันได้ ด้วยวิธีนี้ เจ้าจะมีจิตวิญญาณการต่อสู้เพิ่มเติม”

 

“ฮึ่ม ตราบเท่าจิตวิญญาณของเจ้าพังทลายขณะพยายามที่จะหลอมรวมกับจิตวิญญาณการต่อสู้ ข้าก็จะสามารถหลบหนีได้” ด้วยวิธีนี้ มันแม้แต่มีโอกาสในการได้รับหอคอยกลืนกินสวรรค์ด้วย นกกระจอกกลืนกินสวรรค์รู้สึกสำราญใจมาก ภัยพิบัติครั้งนี้ได้นำพรมาให้มันจริงๆ

 

ดวงตาของเซี่ยวหยุนสว่างขึ้น “จิตวิญญาณการต่อสู้? เปลวไฟนั้นคือจิตวิญญาณการต่อสู้?”

 

นกกระจอกกลืนกินสวรรค์ตอบกลับ “ถูกแล้ว มันเป็นจิตวิญญาณการต่อสู้ที่ถูกทิ้งไว้โดยเซียนซึ่งอยู่ในระดับสูงสุด จิตสำนึกของมันกระจายไปเกือบหมดแล้ว และหลังจากที่ต่อสู้กับเจ้านายคนนี้ในไม่กี่วันที่ผ่านมา มันก็ได้กลายเป็นอ่อนแออย่างไม่น่าเชื่อ นี่เป็นโอกาสสำหรับเข้าในการหลอมรวมกับมัน ถ้าเจ้าประสบความสำเร็จ เจ้าจะสามารถควบคุมไฟได้”

 

“มันไม่หนีไป?” เซี่ยวหยุนถาม

 

(เส้นโลหิตแห่งเปลวไฟกับเส้นใยแห่งไฟในตอนก่อนๆ อันเดียวกันนะครับ จากนี้ไปผมจะใช้เส้นโลหิตนะครับ)

“มันยังคงหลบซ่อนอยู่ในเส้นโลหิตแห่งไฟข้างหน้าเรา มันน่าจะง่ายมากสำหรับเจ้าที่จะบังคับให้มันออกมา” นกกระจอกกลืนกินสวรรค์ตอบกลับอย่างสงบ

 

“เอาล่ะ ข้าจะไปตอนนี้เลย” เซี่ยวกล่าวขณะที่ดวงตาของเขากลายเป็นจริงจัง การได้รับจิตวิญญาณการต่อสู้อีกหนึ่งอันนั้นหมายถึงการได้รับความสามารถที่โดดเด่นอีกอย่างหนึ่ง มันจะทำให้เขาได้เปรียบขณะที่เขาเติบโตขึ้นในอนาคต

 

ยกตัวอย่าง เพราะว่าฝางเฮ่าปลุกจิตวิญญาณการต่อสู้น้ำแข็งของตระกูลเขาขึ้นมาได้ เขาสามารถที่จะยืนในฐานะที่อยู่ยงคงกระพันได้กับผู้ฝึกตนที่เป็นเช่นเดียวกันกับเขา ในความเป็นจริง มันเป็นไปได้ว่าฝางเฮ่าจะสามารถต่อสู้กับเหล่าผู้คนที่มีการบ่มเพาะสูงกว่าเขาได้ เช่นนี้ เซี่ยวหยุนเป็นธรรมดาที่จะไม่ต้องการให้โอกาสนี้ผ่านไป

 

หลังจากเดินผ่านไป เซี่ยวหยุนก็มาถึงขอบหลุมแห่งไฟขนาดใหญ่ เปลวไฟข้างล่างมันวุ่นวายและโหมกระหน่ำ บางครั้งมันจะพุ่งสูงขึ้นสู่ท้องฟ้า มันเป็นสิ่งที่แปลกประหลาดที่เปลวไฟทั้งหมดที่นี่เป็นสีม่วงโดยสิ้นเชิง แล้วปล่อยแสงสุกสกาวออกมา คลื่นความร้อนจู่โจมเขาอย่างน่าเหลือเชื่อด้วยความป่าเถื่อนและบ้าคลั่ง

 

คลื่นความร้อนเหล่านี้น่ากลัวอย่างน่าเหลือเชื่อสำหรับผู้ฝึกตนธรรมดา แต่เซี่ยวหยุดแค่ขมวดคิ้วเท่านั้น ไม่นานนักเข้าก็เชื่อมต่อกับจิตวิญญาณการต่อสู้ของเขา ซึ่งปลดปล่องแสงหยกสีเขียวออกมาปกคลุมเขา

 

“อักษรรูนแห่งแสงเหล่านี้คืออะไรกัน? ทำไมพวกมันถึงมีกลิ่นอายของชีวิต?” ถึงแม้ว่านกกระจอกกลืนกินสวรรค์จะติดอยู่ในหอคอยกลืนกินสวรรค์ มันก็ยังสามารถปล่อยส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณออกมาภายนอกเพื่อตรวจสอบว่าเกิดอะไรขึ้น หลังจากค้นพบแสงหยกสีเขียวรอบๆเซี่ยวหยุน มันพึมพำกับตัวมันเองอย่างช่วยไม่ได้ ขณะที่มันคิดถึงฉากของเด็กหนุ่มที่ทำลายการกลืนกินจิตวิญญาณการต่อสู้เปลวไฟสีม่วงของมัน

 

ขณะที่แสงหยกสีเขียวปุกคลุมเซี่ยวหยุน จิตวิญญาณการต่อสู้ของเขาก็ได้ยืดกิ่งหยกสีเขียวของมันออกมา และแทงเข้าไปในทะเลแห่งเปลวไฟ

 

ขณะที่มันถูกแทงเข้าไปในทะเลแห่งเปลวไฟ กิ่งหยกสีเขียวได้ปล่อยเสียงหึ่งๆออกมา และตื่นเต้นอย่างไม่น่าเชื่อ

 

ตอนนี้ เซี่ยวหยุนได้รับความเข้าใจบางส่วนกับจิตวิญญาณการต่อสู้ของเขา ตราบเท่าที่มันยังเป็นแก่นแท้ปราณแห่งสวรรค์และโลก ไม่ว่ามันจะเป็นแก่นแท้ปราณแห่งไฟหรืออย่างอื่น จิตวิญญาณการต่อสู้ก็จะกลืนกินมันทั้งเป็นอาหาร ยิ่งไปกว่านั้น มันยังสามารถปราบปรามแก่นแท้ปราณแห่งสวรรค์และโลกได้โดยธรรมชาติ

 

หลังจากที่กิ่งหยกสีเขียวเข้าไปในเปลวไฟ มันขยายออกอย่างต่อเนื่อง เซี่ยวหยุนตามมันเข้าไป กระโดดเข้าไปในเปลวไฟ ถึงแม้ว่าจะมีเปลวไฟอยู่ทุกที่ แต่ได้มีเส้นทางเปิดขึ้นอย่างปาฏิหาริย์สำหรับเซี่ยวหยุน – มันดูเหมือนว่าแก่นแท้ปราณแห่งไฟจะหวาดกลัวต่อจิตวิญญาณการต่อสู้ของเขา

 

“ต้นกำเนิดประเภทใดกันที่เด็กหนุ่มคนนี้มี?” เมื่อนกกระจออกกลืนกินสวรรค์เห็นฉากนี้ มันได้ตกตะลึงอย่างมาก เขาเป็นผู้ฝึกตนมนุษย์จริงๆหรือ? หรือว่าเขาจะเป็นลูกหลานของพระเจ้าบางองค์? นกกระจอกกลืนกินสวรรค์ไม่สามารถเชื่อได้อย่างง่ายดายว่าผู้ฝึกตนขอบเขตต้นกำเนิดจะทำสิ่งนั้นได้

 

“ดูเหมือนว่าข้าจะไม่สามารถคาดคั้นเด็กหนุ่มคนนี้ได้” นกกระจอกกกลืนกินสวรรค์พึมพำภายใน มองไปยังการล้างผลาญ

 

ภายในทะเลแห่งเปลวไฟที่เซี่ยวหยุนได้กระโดดเข้ามา มีเส้นโลหิตแห่งไฟที่ลึกอย่ายิ่งที่ดูเหมือนจะเชื่อมต่อกับเส้นทางลึกหลากหลาย มันราวกับว่ากิ่งหยกสีเขียวจะค้นพบสมบัติ และได้โจมตีไปข้างหน้าอย่างบ้าคลั่ง ขณะที่มันทำเช่นนั้น ก็ยังคงดูดซับแก่นปราณแห่งไฟรอบๆมันอย่างต่อเนื่อง ภายในทะเลแห่งจิตสำนึกของเซี่ยวหยุน กิ่งได้เปล่งประกาย และกิ่งรองที่มีใบสีแดงได้เปลี่ยนเป็นสีม่วง

 

หลังจากตรวจสอบมันแล้ว เซี่ยวหยุนพบว่ามีแก่นแท้ชีวิตแห่งไฟที่หนาแน่นอย่างน่าเหลือเชื่อบนใบนั้น และหมอกรอบๆมันก็หมุนวนไปรอบๆ มองดูเหมือนทั้งจริงและลวงตา

 

หลังจากที่ได้หล่นลงมาข้างล่างเกือบจะ 1,000 เมตร ทันใดนั้นกิ่งก็แทงเข้าไปยังลูกบอลแสงสีม่วง

 

“มันลูกบอลม่วงแห่งแสงนั้น!” ดวงตาของเซี่ยวหยุนสว่างขึ้น เขาไม่เคยคิดเลยว่าจิตวิญญาณการต่อสู้ของเขาสามารถค้นพบมันได้อย่างรวดเร็ว

 

"เด็กหนุ่มคนนี้ไม่ธรรมดาเลย" นกกระจอกกลืนกินสวรรค์คิดกับมันเองภายในหอคอยกลืนกินสวรรค์ขณะที่มันมองไปยังเด็กหนุ่ม มันมีความคิดว่าเด็กหนุ่มต้องการความช่วยเหลือในการค้นหาจิตวิญญาณการต่อสู้ แต่ในท้ายที่สุด มันก็ทั่งไม่มีโอกาสได้พูด

 

กิ่งหยกสีเขียวได้แทงอย่างบ้างคลั่งไปยังลูกบอลเปลวไฟสีม่วง ราวกับว่ามันหิวอย่างถึงที่สุดสำหรับแก่นแท้ชีวิตแห่งไฟที่มีอยู่ เปลวไฟสีม่วงได้สั่นสะเทือน ปลดปล่อยคลื่นพลังงานอันน่าหวาดกลัวออกมาและกระทุ้งกิ่งออกไป

 

ต่อจากตรงนี้ เปลวไฟสีม่วงได้รีบรุดขึ้นไป และพยายามที่จะวิ่งหนี หลังจากการต่อสู้อันน่าเบื่อหน่ายกับนกกระจอกกลืนกินสวรรค์ เปลวไฟสีม่วงใช้แก่นแท้แห่งชีวิตไปเป็นจำนวนมาก โดยไม่ทิ้งความแข็งแรงใดๆของมัน ดังนั้นมันจึงไม่กล้าที่จะอยู่

 

“เจ้าต้องการที่จะหนี? มันไม่ง่ายเช่นนั้น?” ดวงตาของเซี่ยวหยุนประกายด้วยความจดจ่อขณะที่เขาเปิดใช้งานทักษะกลืนกินสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ และเชื่อมต่อกับหอคอยกลืนกินสวรรค์

 

ขณะที่ทักษะกลืนกินสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์เปิดใช้งาน กระแสน้ำวนได้ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าร่างกายของเด็กหนุ่ม และภาพลวงตาของหอคอยกลืนกินสวรรค์ก็ปรากฏขึ้น อุโมงค์มืดได้เปิดออก ดูเหมือนเป็นตาข่ายที่ไม่สามรถหลบหนีไปได้และดูดเปลวไฟสีม่วงไปไว้ภายในมัน

 

วูซซซ!

 

ภาพลวงตาของหอคอยได้หายไปและข้อความก็กระจายไป และบอลเปลวไฟสีม่วงก็ได้ปรากฏภายในหอคอยกลืนกินสวรรค์ เช่นเดียวกันกับที่เซี่ยวหยุนได้ปล้นทะเลเปลวไฟไป

 

“มันได้รับการดูแลอย่างง่ายดาย?” นกกระจอกกลืนสวรรค์รู้สึกประหลาดใจโดยสิ้นเชิงเมื่อมันเห็นเปลวไฟสีม่วงที่ปรากฏขึ้นกะทันหันภายในหอคอยกลืนกินสวรรค์

 

หลังจากถูกกลืนกินโดยหอคอยกลืนกินสวรรค์ จิตวิญญาณการต่อสู้เปลวไฟสีม่วงก็บ้าคลั่ง ปลดปล่อยเปลวไฟที่ทำให้ไหม้เกรียมออกมาขณะที่มันพยายามที่จะเผาเพื่อออกไป

 

“จิตวิญญาณการต่อสู้เปลวไฟสีม่วงนี้แข็งแกร่งเกินไป ถึงแม้ว่าจิตสำนึกของมันจะกระจายไปเป็นจำนวนมาก แต่มันก็ยังคงหยิ่งยโสและไม่สามารถถูกทำให้อ่อนลงได้อย่างง่ายดาย” เซี่ยวหยุนขมวดคิ้วเล็กน้อย ด้วยความคิดนิดหน่อย คลื่นอักษรรูนได้ตกลงมา เริ่มที่จะกลืนกินเปลวไฟเหล่านั้น

 

ทักษะกลืนกินสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์สามารถกลืนกินทุกสิ่งภายในสวรรค์และโลกได้ และแม้ว่าเซี่ยวหยุนยังไม่ได้ฝึกซ้อมมันได้ในระดับดังกล่าว มันก็ยังสามารถทำให้จิตวิญญาณการต่อสู้เปลวไฟสีม่วงอ่อนแอลงได้ ด้วยวิธีนี้ มันจะเป็นการง่ายดายที่จะปราบปรามและหลอมรวมกับมัน ด้วยการสนับสนุนจากหอคอยกลืนกินสวรรค์และทักษะกลืนกินสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์  อักษรรูนปกคลุมจิตวิญญาณการต่อสู้และดูดกลืนแก่นแท้ชีวิตแห่งไฟของมัน ย้ายไปให้ตันเถียนของเซี่ยวหยุน ในเวลาเดียวกัน จิตวิญญาณการต่อสู้เปลวไฟสีม่วงก็ต่อต้านอย่างต่อเนื่องถึงแม้ว่ามันจะไร้ประโยชน์

 

ย้อนกลับไป มันได้ใช้ความแข็งแกร่งส่วนมากของมันหมดไปกับการต่อสู้กับนกกระจอกลืนกินสวรรค์แล้ว และมันก็ไม่ได้เป็นเจ้าของความสามารถในการต่อต้านการกลืนกินของทักษะกลืนกินสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์เหมือนกับนกกระจอกกลืนกินสวรรค์

 

ในไม่ช้า กลิ่นอายของจิตวิญญาณการต่อสู้ก็เบาบางลงขณะที่พลังวิญญาณของเซี่ยวหยุนก็เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว นี่เป็นเพราะว่าเปลวไฟสีม่วงเป็นจิตวิญญาณการต่อสู้ที่ถูกทิ้งไว้โดยเซียนซึ่งอยู่ในระดับสูงสุด และก็ยังดำรงอยู่เหมือนกับวิญญาณ อย่างไรก็ตามหลังจากเซียนตายแล้ว มันก็เป็นไปไม่ได้สำหรับจิตสำนึกของมันที่จะดำรงอยู่ต่อไป เช่นนั้น มันจะสูญเสียจิตสำนึกของมันส่วนมากไป แต่ก็ยังมีพลังวิญญาณที่ไร้จุดสิ้นสุด กับเซี่ยวหยุนนี่จะเป็นทรัพยากรที่ดีที่สุดสำหรับการเลื่อนขั้นบทการทำลายจิตวิญญาณของเขา

 

ขณะที่จิตวิญญาณของเซี่ยวหยุนกำลังแข็งแกร่งขึ้นแล้ว จิตวิญญาณการต่อสู้ของเขาก็ยังคงดูดซับแก่นแท้ชีวิตแห่งไฟสำหรับการเพิ่มความแข็งแกร่งของมัน

 

ทันใดนั้น เซี่ยวหยุนรู้สึกว่าทะเลแห่งจิตสำนึกของเขาสั่นสะเทือนขณะที่สัมผัสจิตวิญญาณของเขากลายเป็นทรงพลังขึ้นหลายเท่า ก่อนหน้านี้ เซี่ยวหยุนมีจุดแสงภายในทะเลแห่งจิตสำนึกของเขา ตอนนี้มันได้ก่อร่างเป็นลูกบอลแห่งแสงแล้ว ขณะที่เขารู้สึกว่าพลังวิญญาณของเขากลายเป็นเหมือนกับทะเล เซี่ยวหยุนรู้สึกราวกับว่าเขาได้จัดหาพลังวิญญาณอันไม่จำกัด และมั่นใจว่าถ้าเขาได้ต่อสู้กับฝางหรุยอีกครั้ง เขาจะสามารถมีความได้เปรียบได้

 

 

ภายในหอคอยกลืนกินสวรรค์ กลิ่นอายของจิตวิญญาณการต่อสู้ได้อ่อนแลงเรื่อยๆ

 

“ข้าควรลองที่หลอมรวมจิตวิญญาณนี่ตอนนี้เลย” เซี่ยวหยุนคิดขณะที่จิตใจของเขาเข้าไปในหอคอยกลืนกินสวรรค์ จิตวิญญาณการต่อสู้ยังคงเรืองแสงสีม่วง แต่เห็นได้ชัดว่ามันได้อ่อนแอลงมาก

 

ด้วยความคิดเล็กน้อย เซี่ยวหยุนได้เปิดใช้งานทักษะกลืนกินสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ สร้างกระแสน้ำวนภายในหอคอยกลืนสวรรค์และเริ่มดูดซับเปลวไฟสีม่วง ทักษะกลืนกินสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์สามารถดูดซับและกลั่นสกัดแก่นแท้แห่งปราณภายในสวรรค์และโลกได้ทั้งหมด และสามารถหลอมรวมจิตวิญญาณการต่อสู้ได้ด้วย – มันมีคำอธิบายประกอบพิเศษบนหน้าแรกของตำรา

 

แน่นอนว่าการหลอมรวมจิตวิญญาณการต่อสู้ต้องการช่องว่างระหว่างพวกเขาที่ไม่ได้ใหญ่เกินไป มิฉะนั้น เขาจะประสบกับการสะท้อนกลับอย่างรุนแรง นี่ทำให้เป็นโอกาสที่สมบูรณ์สำหรับเซี่ยวหยุนที่จะทำมัน

 

หลังจากเปิดใช้งานทักษะ กระแสน้ำวนเริ่มกลั่นสกัดจิตวิญญาณการต่อสู้ พยายามที่จะล้างจิตสำนึกของมันออกไปอย่างสมบูรณ์เพื่อที่มันจะไม่สามารถกระแทกอย่างรุนแรงเพื่อต่อต้านเซี่ยวหยุนได้ จิตวิญญาณการต่อสู้เปลวไฟสีม่วงก็ได้สูญเสียจิตสำนึกของมันไปหมดแล้ว ดังนั้นนี่จึงเป็นไปอย่างราบรื่นอย่างมาก

 

ถัดไปคือการหลอมรวมจิตวิญญาณ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการหลอมรวมจิตวิญญาณของตัวเขาเองด้วยจิตวิญญาณการต่อสู้ ตราบเท่าที่จิตวิญญาณของเขาและจิตวิญญาณการต่อสู้หลอมรวมเข้าด้วยกันแล้ว เขาก็จะประสบความสำเร็จ เซี่ยวหยุนได้ปลดปล่อยจิตวิญญาณของเขาไปยังกระแสนำวน ใช้ทักษะเพื่อเริ่มการหลอมรวมกับจิตวิญญาณการต่อสู้

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด