Reincarnation Of The Strongest Sword God ตอนที่ 25 – ไนท์แรนเจอร์
Chapter 25 – ไนท์แรนเจอร์
คำพูดของซือเฟิงทำให้สมาชิกคนอื่นๆ สับสน
มันไม่ใช่แค่เสียงคำรามเหรอ? มีอะไรให้สนใจ?
เมื่อซือเฟิงมองไปที่การแสดงออกที่ดูถูกของทุกคน เขากล่าวเคร่งขรึมอย่างช่วยไม่ได้ว่า "พวกนายทั้งหมดฟังให้ดี เสียงคำรามของนรกไม่ใช่เรื่องง่ายๆเหมือนกับที่นายคิดว่ามันเป็น ในอีกครู่หนึ่ง ให้ทำตามความต้องกันของฉันขณะที่รุดหน้าไป ถ้าใครทำผิดพลาด อย่าตำหนิฉันสำหรับการเตะนายออกจากปาร์ตี้ทันที"
การบรรยายโดยซือเฟิงในลักษณะนี้ สมาชิกคนอื่นทั้งหมดกลายเป็นจริงจรัง ไม่มีใครที่อยากจะออกจากปาร์ตี้
“ในอีกครู่หนึ่ง โคล่าและฉันจะเดินไปข้างหน้า หิมะผู้โดดเดี่ยวนาย นายเดินอยู่ตรงกลางและปกป้องนักพยากรณ์ แบล็คกี้ นายกับซัมมอนเนอร์จะเดินไปอยู่ด้านหลัง จำเอาไว้ นายต้องไม่ทำลายขบวนโดยไม่คำนึงถึงการกระทำอะไรก็ตาม หากไม่มีคำสั่งจากฉัน จะไม่มีใครได้รับอนุญาตให้โจมตีเป็นคนแรก พวกนายทั้งหมดเข้าใจไหม?” ซือเฟิงอธิบายพื้นฐานของขบวนหนึ่งครั้งให้ปาร์ตี้
เหตุผลที่ซือเฟิงได้อนุญาตให้อัศวินผู้พิทักษ์โคล่าเดินด้านหน้าคือการปล่อยให้โคล่าเพิ่มแต้มคุณสมบัติฟรีทั้งหมดของเขาไปยังความอดทน HP ของเขาตอนนี้มีถึง 310 แต้ม ด้วย HP ที่มากเช่นนี้ โคล่าจะสามารถต่อต้านได้อีกหน่อย และแบ่งแบาภาระบางส่วนของซือเฟิง
(เอาเป็นคุณสมบัติฟรีนะครับ ถ้าเกิดว่าไม่ใช้แต้มแต่เป็นการแชร์ให้คนอื่นดูจะเรียกคุณลักษณะนะครับ)
ดันเจี้ยนใน God's Domain ไม่เหมือนดันเจี้ยนในเกมโลกเสมือนจริงอื่นๆ ระดับของอิสรภาพในดันเจี้ยนนั้นสูงมาก และตัวของดันเจี้ยนเองก็มีขนาดใหญ่มาก แม้แต่ปาร์ตี้ผู้เล่นหลายปาร์ตี้ที่ได้เตร็ดเตร่ไปรอบๆดันเจี้ยนเป็นเวลาหลายชั่วโมงก็ไม่ได้แม้แต่จะพบกับบอสแม้แต่ตัวเดียว ถึงแม้ว่าป่าแห่งความตานจะไม่ได้ใหญ่เท่าไหร่ มันก็ยังคงเป็นไปได้ที่จะสูญหายภายในความมืดและมีป่าที่มืดมน
ถ้าบางคนได้สูญหาย...
ซือเฟิงก็เพียงนึกอยากพูดว่า ‘ฮิฮิ’ เท่านั้น
ส่วนที่น่ากลัวของป่าแห่งความตายคือผู้เล่นอาจจะสูญหายได้เมื่อพวกเขาเข้าไปในป่า ในที่สุด ผู้เล่นก็จะตายอย่างลึกลับทีละคน ในชีวิตก่อนหน้าของซือเฟิง มีผู้เล่นจำนวนนับไม่ถ้วนที่เข้ามาในป่าและตายลงซ้ำแล้วซ้ำอีกในลักษณะนี้โดยไม่ได้แม้แต่จะพบเงาของมอนสเตอร์เลย ถ้าพวกเขาโชคดีก็จะได้พบกับมอนสเตอร์ ซึ่งเป็นผลให้ปาร์ตี้ถูกกำจัดไป หลังจากผู้เชี่ยวชาญจำนานของกิลด์ได้ทำมันแล้ว สุดท้ายทุกคนก็เข้าใจว่าความน่ากลัวของป่าแห่งความตายแล้ว พวกเขายอมรับว่ามันเป็นดันเจี้ยนที่ทำให้หวาดกลัว ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ที่เคลียร์มันโดยไม่ได้ไปถึงเลเวล 5
เมื่อกิลด์ Shadow ถึงเลเวล 5 พวกเขาได้รวบรวมผู้เล่นหลายร้อยคนเพื่อตรวจสอบจนทั่วทุกเส้นทางในป่าแห่งความตาย พวกเขาต้องจ่ายชีวิตหลายร้อยชีวิตเพื่อเข้าใจแผนที่ของป่าแห่งความตายอย่างชัดเจน
ทั่วทั้งป่าแห่งความตายทีสามสิบสี่เส้นทาง อย่างไรก็ตาม มีเพียงแค่สามจากพวกมันเท่านั้นที่นำไปสู่บอสตัวแรกวิลลี่ ทั้งสามเส้นทางนั้นถูกปูไปด้วยชีวิตของผู้เล่นหลายร้อยชีวิต สองในสามเส้นทางนั้นอันตรายอย่างยิ่ง หากไม่มีความแข็งแกร่งที่เพียงพอ มีเพียงความตายเท่านั้นที่เป็นผลลัพธ์ มีเพียงทางเดียวเท่านั้นที่มีมอนสเตอร์น้อยมาก
ภายใต้การนำของซือเฟิง ทุกคนได้เดินเข้าไปในป่า
ขณะที่พวกเข้าเดินเข้าไปในป่า ทุกคนพบว่ามีเส้นทางตลอดทั้งป่ามากเกินไป พวกเขาไม่รู้เลยว่าเส้นทางไหนคือเส้นทางที่ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม ซือเฟิงได้เลือกหนึ่งเส้นทางโดยไม่ลังเล คนอื่นๆก็ติดตามเขาอย่างใกล้ชิดขณะระวังรอบๆตัวของพวกเขา
หลังเดินมาเกือบห้านาที พวกเขาได้พบกับมอนสเตอร์ตัวแรก ทันใดนั้นทุกคนก็เริ่มจะตึงเครียด
“อย่าทำอะไรที่กระตุ้นความสนใจ รอฟังคำสั่งฉัน” ซือเฟิงตะโกนเสียงดัง
ด้านหน้าของพวกเขาเป็นเพียงแค่มอนสเตอร์ชนชั้นสูงเลเวล 2 เท่านั้น มันคือกระต่ายยามค่ำ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการให้พลังของดันเจี้ยน พลังโจมตี , พลังป้องกัน และ HP ของมันทั้งหมดได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก HP ของมันได้เยอะมากถึง 700 แต้ม
“โคล่า นายล่อมอนสเตอร์ไว้ตลอด นักพยากรณ์ให้สนใจไปที่ฮีล คนอื่นๆ อย่าเริ่มโจมตีถ้าไม่มีคำสั่งจากฉัน” ซือเฟิงมอบคำสั่งออกมาอย่างรวดเร็ว
อัศวินผู้พิทักษ์ โคล่ากลืนน้ำลายลงไปคำหนึ่ง เขาเดินอย่างรอบคอบไปยังช่วงการโจมตี(ประมาณระยะน่ะครับ)ของกระต่ายยามค่ำ คนอื่นๆกังวลใจอย่างสุดขีด ถึงแม้ว่านี่จะเป็นเพียงแค่ชนชั้นสูงเลเวล 2 แต่พวกเขากำลังอยู่ในโหมดนรกของดันเจี้ยน
อย่างไรก็ตาม ความกังวลใจของทุกคนเป็นแค่เรื่องที่เปล่าประโยชน์ ในช่วงเวลาที่กระต่ายยามค่ำได้เห็นกับคนที่มีความสูงเหมือนภูเขา โคล่า มันก็รีบพุ่งไปทันที
โคล่าประสบความสำเร็วอย่างมากในการล่อกระต่ายยามค่ำ ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่ได้ตื่นตกใจเมื่อเขาล่อมัน เขาถอยกลับขณะที่ใช้โล่ของเขาบล็อกการโจมตีของกระต่ายยามค่ำ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าทุกการโจมตีจะลงบนโล่ แต่ความเสียหายก็ยังน่าสะพรึงกลัวอยู่ดี แค่การโจมตีเดียวได้สร้างความเสียไปถึง 41 เมื่อถึงเวลาที่โคล่ากลับมาที่ด้านหน้าของปาร์ตี้ HP ของเขาก็ได้ลดลงมาเหลือหนึ่งในสามแล้ว
นักพยากรณ์มีชื่อว่าสล็อตผู้เซื่องซึม ได้มีความตระหนักที่ดี เขาได้ส่งการฮีลออกไปขณะที่โคล่าเข้ามาในระยะร่ายของเขา อย่างไรก็ตาม ทุกๆการฮีลจะเพิ่ม HP ให้โคล่าได้เพียงแค่ 24 เท่านั้น มันไม่เพียงพออย่างสมบูรณ์ที่จะหยุด HP ที่ตกลงของโคล่า
“พี่เฟิง ทำไมเรายังไม่โจมตี?” แบล็คกี้รู้สึกกังวลเล็กน้อย ในขณะนี้ HP ของโคล่าเหลือไม่ถึงแม้แต่หนึ่งในสามจากทั้งหมด
การนำนักพยากรณ์เข้ามาในดันเจี้ยนเป็นความผิดพลาดที่สมบูรณ์ ท่ามกลางอาชีพผู้รักษา นักพยากรณ์ได้มีความสามารถในการรักษาที่อ่อนแอที่สุด อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ที่ซือเฟิงได้เลือก แบล็คกี้ก็ทำได้เพียงยอมรับมันเท่านั้น ตอนนี้ MT ของพวกเขาใกล้จะตายแล้ว มันจะยอมรับไม่ได้ถ้าพวกเขายังไม่โจมตี
"รอก่อน" ซือเฟิงกล่าวอย่างเฉียบขาด
เวลาผ่านไปทีละนิด โคล่ายังคงใช้โล่ของเขาบล็อกกรงเล็บของกระต่ายยามค่ำอย่างต่อเนื่อง แต่ทว่า HP ของเขาก็ได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง โคล่ามี HP เหลือเพียง 20% เท่านั้น แต่ซือเฟิงก็ยังไม่ได้ออกคำสั่งให้โจมตี
เมื่อทุกคนคิดว่าซือเฟิงต้องการจะทิ้งโคล่า ก็ได้มีลูกธนูทะลุผ่านป่ามามุ่งไปที่ผู้รักษาในปาร์ตี้โดยตรง สล็อตผู้เซื่องซึม หิมะผู้โดเดี่ยวไม่ได้ตอบสนองอะไรเลย ขณะที่สล็อตผู้เซื่องซึมหน้าอกของเขาถูกโจมตีโดยตรง ได้สร้างความเสียหายที่มากถึง -123 แต้มปรากฏขึ้น
ในขณะนี้ ซือเฟิงตะโกนว่า "สล็อต ใช้ค่าตอบแทนแห่งชีวิต ใช้ค่าความเสียหายของนายเพื่อรักษาโคล่า แบล็คกี้รั้งกระต่ายยามค่ำไว้เพื่อปล่อยให้โคล่าฟื้นฟู โดดเดี่ยวมากับฉัน คนอื่นๆโจมตีกระต่ายยามค่ำ"
ผู้วิเศษเป็นผู้ที่อ่อนแอที่สุดในเรื่องการรักษาโดยแท้จริง อย่างไรก็ตาม นักพยากรณ์นั้นมี HP ที่สูง พวกเขาจะไม่ตายอย่างง่ายดายในหนึ่งการโจมตี นอกจากนี้นักพยากรณ์มีสองสกิลเมื่อตอนเริ่มต้น อย่างแรกคือการการอธิษฐานแห่งชีวิต ขณะที่อีกอันหนึ่งคือค่าตอบแทนแห่งชีวิต โดยค่าตอบแทนแห่งชีวิตสามารถเปลี่ยนจากความเสียหายที่ได้รับโดยผู้ใช้ให้ใช้ลงในรักษาผู้อื่นได้ ในช่วงแรกของเกม ผู้รักษาไม่ได้ครอบครองสกิลหรืออุปกรณ์มากนัก ในเรื่องที่เกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าว นักพยากรณ์มีความได้เปรียบที่มากกว่าผู้รักษาคนอื่นเมื่อเข้ามาในป่าแห่งความตาย มันเป็นเหตุผลว่าทำไมซือเฟิงถึงไม่เลือกนักบวชมากกว่านักพยากรณ์ (เปลี่ยนพระเป็นนักบวช)
หลังจากจบส่วนนี้ ซือเฟิงก็รีบเข้าไปป่า
“แกคิดว่าฉันจะปล่อยให้แกวิ่งหนีไป?” ซือเฟิงกล่าวอย่างเย็นชาขณะที่เขามองไปยังเงาสีดำมืดที่วิ่งผ่านป่า
ดาบสายลม!
ซือเฟิงได้กลายเป็นภาพลวงตาแล้วไล่ไปข้างหน้าโดยตรง
เหตุผลที่ว่าทำไมซือเฟิงไม่ให้ทำการโจมตีใดๆกับกระต่ายยามค่ำก็เพื่อการใช้โคล่าเป็นเหยื่อ ซือเฟิงต้องการที่จะล่อให้มือแห่งความมืดที่ซ่อนอยู่หลังฉากออกมา
ถึงแม้ว่ากระต่ายยามค่ำจะดูน่าสะพรึงกลัว แต่ปาร์ตี้ชั้นสูงอาจเผชิญหน้ากับมันสองหรือสามคนโดยไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตาม ในชีวิตก่อนหน้าของซือเฟิง เหตุผลที่ว่าทำไมปาร์ตี้ชั้นสูงเลเวล 5 ถึงถูกกำจัดทั้งปาร์ตี้ก็คือเงามืดด้านหน้าของซือเฟิง เงามืดนี้ใช้กระต่ายยามค่ำเป็นเหยื่อ ล่อให้ผู้เล่นโจมตีมัน เงามืดนั้นในทางกลับกันจะซุ่มโจมตีผู้รักษาจากข้างหลัง ขณะที่กระต่ายยามค่ำกำลังยืดครองคนอื่นอยู่ ก็ไม่มีทางไหนที่จะช่วยผู้รักษาได้ ในท้ายที่สุดทุกคนก็จะตาย
ภายในป่าแห่งความตาย ถ้าผู้เล่นไม่ได้จัดการกับสหายคนนี้ ผลลัพธ์ที่ได้คือก็กำจัดปาร์ตี้
ด้วยความเร็วการเคลื่อนที่ที่ได้เพิ่มขึ้นจากดาบสายลม ซือเฟิงสามารถจับเงามืดนั้นได้อย่างรวดเร็ว ซือเฟิงได้แกว่งดาบออกมาฟันสามครั้ง ผนึกเส้นทางการรุดหน้าของเงามืดนั้น
เงาสีดำรู้ว่ามันไม่สามารถหนีได้ มันได้หันไปรอบๆทันที ชักมีดคู่ออกมาบล็อกการโจมตีของซือเฟิง
แต้ง! แต้ง! แต้ง!
ด้วยดาบอเวจี ความแข็งแรงของซือเฟิงจึงสูงอย่างน่าใจหาย การโจมตีของเขาทำให้เงามืดถอยหลังไปสามก้าว และแต่ละก้าวของมันที่ถอยกลับจะตามมาด้วยความเสียหายเกินกว่า -10 ในท้ายที่สุด เงามืดก็เผยร่างมันให้เห็นภายใต้แสงจันทร์
[ไนท์เรนเจอร์](ชนชั้นสูงพิเศษ)
เลเวล 2
HP 1458/1500
เห็นไนท์เรนเจอร์ถูกขับไล่ ทันใดนั้นซือเฟิงได้ใช้นรกผูกมัดโดยไม่ได้ให้โอกาสเขาเลย โซ่ดำมืดเก้าเส้นปรากฎขึ้นเพื่อผูกมัดไนท์เรนเจอร์ ป้องกันไม่ให้เขาเคลื่อนไหวเป็นเวลา 3 วินาที และพลังป้องกันของเขาได้ลดลง 100%
แสงอสนีบาตคำราม!
สับ!
ความเสียหาย -81 , -98 , -119 , -124 ปรากฏขึ้น เมื่อสกิลทั้งสองได้ใช้ไป จำนวนความเสียหายที่น่ากลัวได้ปรากฏขึ้น นำเอา HP หนึ่งในสี่ส่วนของไนท์เรนเจอร์ไป
ไม่ว่าไนท์เรนเจอร์จะมีความสามารถขาดไหน มันก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากความผูกพันของโซ่ทั้งเก้าได้ เขาสามาถทำได้เพียงยอมแพ้เป็นเวลาทั้งหมด 3 วินาที
ซือเฟิงดุเดือดเลือดพล่านขณะที่เขาส่งการฟันของดาบออกไปหลายครั้ง แทงทะลุเข้าไปในจุดสำคัญบนหน้าของไนท์เรนเจอร์ ตามเวลาไนท์เรนเจอร์ได้เป็นอิสระจากการผูกมัด HP ของเขาที่เหลือมันมากกว่า 700 แต้ม
“มนุษย์ชั่วช้าสามานย์” ไนท์เรนเจอร์เดือดดาล เขาควงมีดสั้นทั้งคู่ของเขาเหมือนกับลมพายุ คลอบคลุมไปที่ซือเฟิง
ในขณะนี้ หิมะผู้โดดเดี่ยวจับได้ในที่สุด การโจมตีจากเขาทำให้ไนท์เรนเจอร์ตกอยู่ในสถานะหน้ามืด ในขณะเดียวกันก็ทำลายมีดคู่ที่เหมือนกับพายุของไนท์เรนเจอร์ไปด้วย
ซือเฟิงใช้โอกาสในการฟันไปที่คอของไนท์เรนเจอร์
หิมะผู้โดดเดี่ยวได้กวัดแกว่งขวานยักษ์ไปยังไนท์เรนเจอร์
ตอนที่ไนท์เรนเจอร์ตื่นขึ้นมา เขาเหลือ HP เพียงแค่เศษเสี้ยวเท่านั้น ไนท์เรนเจอร์ สับมืดคู่ของเขาไปที่หิมะผู้โดดเดี่ยวอย่างกะทันหัน ส่งเขาให้ลอยไปข้างหลังและสร้าง 64 ความเสียหาย ไนท์เรนเจอร์หันหัวของเขาไปถลึงตาไปที่ซือเฟิง ควงมีดคู่ในมือของเขาและฟันตามแนวนอนไปยังคอของซือเฟิงอีกครั้ง
แต้ง! ซือเฟิงใช้สกิลปัดป้องด้วยดาบของเขา โดยไม่ให้ไนท์เรนเจอร์มีโอกาสใดๆ ในการตอบโต้ ซือเฟิงยกเรนเจอร์ขึ้นและโยนเขาไปไว้ข้างหลัง จากนั้นซือเฟิงก็ตามมาด้วยการโจมตีควบคู่ของดาบ ปิดฉากไนท์เรนเจอร์
ซือเฟิงหยิบไอเทมที่ดรอบขึ้นมาโดยสะดวก จากนั้นวิ่งไปยังตำแหน่งของโคล่าเพื่อให้การช่วยเหลือทันที
ที่อยู่ด้านข้าง หิมะผู้โดดเดี่ยวตะลึงงันหลังจากที่ได้เห็นทักษะอันปราดเปรียวของซือเฟิง หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความตะลึง หิมะผู้โดดเดี่ยวได้ลืมแม้กระทั่งการตามซือเฟิงไปเพื่อสนับสนุน
มีแม้กระทั่งวิธีฆ่ามอนสเตอร์เช่นนี้?
