ตอนที่แล้วTXV –  41 อย่ามาโชว์ถ้าคุณพูดได้แค่ภาษาอังกฤษ !
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTXV –  43 จงใจจับผิด !

TXV –  42 กำลังเติบโต....


TXV –  42 กำลังเติบโต....

 

          กลางคืนได้คืบคลานเข้ามา…. เงาแห่งรัตติกาลปกคลุมเมืองห่ายจู หลอดไฟจากตะเกียงได้เปล่งแสงออกมาอย่างสลัวๆ การจราจรและผู้คนที่กำลังเดินไปเดินมาอย่างวุ่นวาย เวลาในตอนนั้นกำลังไหลผ่านไปอย่างรวดเร็ว....

 

          ลมหนาวพัดผ่านตัวเซี่ยเหล่ย ทำให้เขารู้สึกสบายตัวและทำให้รู้สึกหดหู่ไปพร้อมๆกัน เขาไม่ได้โกรธเคืองเหยี่ยนเหวินเฉียนที่เย้ยหยันและดูถูกเขาแม้แต่น้อย แต่ลึกๆแล้วเขามีความสุขที่ได้ฉีกหน้าเขาด้วยทักษาภาษาที่เก่งกว่าเขาหลายขั้น

 

          ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด … ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด ….. เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นมา

 

          มันเป็นสายของเจียงหยู่ยี่ “ไอ้ตูดหมึก คุณจะซ่อนเรื่องนี้ไปถึงเมื่อไหร่ ?”

 

          เซี่ยชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เรื่องอะไร ?”

 

          “หนึ่งล้าน ! คุณมีเงินหนึ่งล้านหยวน ! ทำไมฉันถึงเป็นคนสุดท้ายที่รู้เรื่องนี้” เจียงหยู่ยี่กล่าว

 

          “อ๋อ คุณกำลังพูดถึงเรื่องนั้น” เซี่ยเหล่ยหัวเราะออกมา “ขอโทษนะ ผมลืมบอกคุณ”

 

          เจียงหยู่ยี่พูดอย่างไม่พอใจ “แม้แต่คนงานที่เพิ่งเข้ามาในร้านยังได้เงินโบนัสตั้ง 20,000 หยวน แต่ฉันนี่สิไม่ได้อะไรเลย !”

 

          “ก็คุณไม่ได้เป็นพนักงานที่ร้านหนิ ทำไมผมต้องให้เงินคุณล่ะ ?”

 

          “ฉันไม่สน ฉันอยากได้เสื้อผ้า เครื่องสำอางและกระเป๋าใบใหม่ แล้วคุณจะต้องซื้อให้ฉันด้วย”

 

          เซี่ยเหล่ยไม่พูดอะไรออกมา

 

          “นี่เป็นคำสัญญา ฉันจะรอคุณอยู่ที่บ้าน” เจียงหยู่ยี่วางสายทันทีโดยไม่รอการตอบกลับของเซี่ยเหล่ยเลย…..

 

          เซี่ยเหล่ยมองไปที่โทรศัพท์ในมือของเขาหลังจากนั้นเขาก็ไม่พูดอะไรออกมาที่เจียงหยู่ยี่ทำแบบนี้ เหมือนกับว่าเขาเป็นแฟนกับเจียงหยู่ยี่ เขาคิดในใจว่า ‘ผมเป็นอะไรกับคุณกันแน่เนี่ย ? ทำไมผมต้องซื้อเสื้อผ้าให้คุณ ? ทำไมผมต้องซื้อเครื่องสำอางให้คุณหรือแม้กระทั่งกระเป๋า ? ทำไมผมต้องซื้อให้คุณ นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย ?’

 

          เซี่ยเหล่ยเดินไปตามถนน จากนั้นเขาหยุดที่หน้าร้านขายเสื้อผ้าเขาจึงตัดสินใจเข้าไปในร้านและซื้อเสื้อผ้าเหล่านั้นราคานับพันหยวนเพื่อมอบให้กับเจียงหยู่ยี่

 

          หลังจากนั้นเซี่ยเหล่ยเดินกลับไปในระแวกบ้าน เขาเดินตรงไปที่บ้านของเจียงหยู่ยี่ จากนั้นเขาเอื้อมมือออกไปเคาะประตูหน้าบ้านของเธอ…

 

           จากนั้นสักครู่หนึ่ง…..ไม่มีเสียงตอบรับจากภายในบ้าน

 

          เซี่ยเหล่ยขมวดคิ้วและเคาะประตูแรงขึ้น จากนั้นเขาตะโกนไปว่า “หยู่ยี่อยู่มั้ย ? ผมเองเซี่ยเหล่ย เปิดประตูหน่อย”

 

          เสียงของเจียงหยู่ยี่ดังมาจากข้างใน “ดึกดื่นป่านนี้แล้ว ใครมาเคาะประตูบ้านฉัน ?”

 

          “ผมเอง เซี่ยเหล่ย” เขาตอบกลับไป

 

          “เซี่ยเหล่ย ? ใครกันไม่คุ้นชื่อนี้เลย” เจียงหยู่ยี่ตะโกนออกมา

 

          “ฉันตัดขาดความสัมพันธ์กับคุณหมดแล้ว” เธอตะโกนออกมาอีกครั้ง

 

          “งั้นดี ผมจะนำชุดเหล่านี้ให้เซี่ยเสวียแทน” เซี่ยเหล่ยกล่าว

 

          จากนั้นไม่นานประตูก็เปิดออก…..

 

          ทันทีที่ประตูถูกเปิดออกมีลมแห่งฤดูแห่งใบไม้ผลิพัดผ่านเซี่ยเหล่ย กลิ่นหอมหวานของดอกไม้กำลังผ่านไปช้าๆรอบๆตัวเขา

 

          เจียงหยู่ยี่ยืนอยู่หน้าประตู เธอใส่ชุดคลุมหลังจากอาบน้ำเสร็จ ผมของเธอเปียกปอนหลังจากอาบน้ำดูเหมือนว่าเธอรีบออกมาจากห้องน้ำโดยไม่ทันเช็ดผมให้แห้ง เสื้อคลุมที่ห่อหุ้มตัวเธอไว้กับผิวที่ขาวเนียนของเธอทำให้เธอในตอนนี้ช่างเซ็กซี่เหลือเกิน….

 

          เซี่ยเหล่ยยืนนิ่งจนเขาไม่รู้ว่าจะตอบเธอว่าอย่างไรดี…..

 

          ร่างกายของเจียงหยู่ยี่ในตอนนี้ราวกับว่าเธอสวมเพียงเสื้อบางๆ กับกางเกงผ้าฝ้ายอ่อนๆ เธอกล่าวทักทายเซี่ยเล่ยด้วยรอยยิ้มอันสดใส “คุณเซี่ย เข้ามาสิคุณอยากได้อะไรหรอ ?”

 

          ริมฝีปากของเซี่ยเหล่ยเริ่มแห้ง “อะ..อะไรก็ได้ เบียร์ เอาเบียร์มาให้ผม”

 

          “เบียร์ ? ฉันรู้ว่าคุณไม่ดื่มเบียร์เปลี่ยนเป็นน้ำเปล่าแทนไหม ?” เจียงหยู่ยี่จ้องมองไปที่กล่องในมืออีกข้างของเซี่ยเหล่ย เธอสงสัยเป็นอย่างมากว่ากล่องใบนั้นมีอะไรอยู่ข้างใน

 

          เจียงหยู่ยี่เดินไปปิดประตูจากนั้นเธอเดินผ่านเซี่ยเหล่ยอย่างช้าๆ

 

          เจียงหยู่ยี่เดินมาตรงหน้าเซี่ยเหล่ย จากนั้นเธอยกขาของเธอก้าวข้ามเซี่ยเหล่ยต่อมาเธอกดตัวเขานอนลงบนโซฟาพร้อมทั้งกดมือทั้งสองข้างของเขาแนบติดกับโซฟา เสื้อคลุมหลังอาบน้ำค่อยๆคลายออก ทำให้เห็นผิวที่นุ่มนวลขาวที่บริเวณคอของเธอมันช่างเย้ายวนใจยิ่งนัก แต่เซี่ยเหล่ย….เขาไม่รู้จะทำตัวยังไงและเขารู้สึกอึดอัดที่เธอทำแบบนี้กับเขาเป็นอย่างมาก........

 

          “คุณไปซื้อชุดพวกนี้มาจากไหน ?” เจียงหยู่ยี่ถาม “แล้วทำไมคุณต้องซ่อนมันไว้ด้วย ?”

 

          นี่เธอทำแบบนี้กับเขาราวกับว่าทั้งสองคนเป็นสามีภรรยากันดังนั้นคนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในบ้านก็คือภรรยา….

 

          เซี่ยเหล่ยยิ้มและพูดว่า “เรียกผมว่าพี่เหล่ยสิ ผมจะให้มันทั้งหมดหากคุณเรียกผมว่า พี่เหล่ย”

 

          “พี่เหล่ย…. คุณ…..” เจียงหยู่ยี่รีบเปลี่ยนคำพูดของเธออย่างรวดเร็วจากนั้นเธอพูดหวานๆว่า “พี่เหล่ย”

 

          “ดีมาก...สาวน้อย” เซี่ยเหล่ยจับคางของเธอ “ทำตามสิ่งที่พี่เหล่ยบอกสิ”

 

          เจียงหยู่ยี่นิ่งไปครู่หนึ่งและจากนั้นเธอนำหมอนมาตีเซี่ยเหล่ยอย่ารุนแรงก่อนที่จะพูดว่า “คุณ ! คิดว่าคุณเป็นผู้มีบุญคุณ ?”

 

          เซี่ยเหล่ยอึ้งไปสักครู่หนึ่ง ผู้มีบุญคุณ ? ทำไมถึงใช้คำว่า “ผู้มีบุญคุณ ?”

 

          เจียงหยู่ยี่เผลอพูดคำนั้นออกไปจากนั้นไม่นานใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีชมพู “เอาของมาแล้วรีบออกไปจากบ้านฉันเลยหรือคุณจะนอนที่บ้านฉันในคืนนี้ ?”

 

          คำที่เธอพูดออกมามีความหมายค่อนข้างคลุมเครือเซี่ยเหล่ยรู้สึกอึดอัดใจจนทนไม่ได้จึงโยนกล่องที่เขาถืออยู่ออกไปให้เจียงหยู่ยี่

 

          เจียงหยู่ยี่เปิดกล่องใบนั้นอย่างตื่นเต้น ในกล่องมีชุดแดรสสีดำที่สวยงาม เธอหลงรักมันตั้งแต่แรกเห็นมีรอยยิ้มหวานๆปรากฎอยู่บนหน้าของเธอ…..

 

          “ลองใส่ดูสิ มันมีราคาตั้ง 1600 หยวนเลยนะ ราคาแพงมากๆ” เซี่ยเหล่ยกล่าว

 

          เจียงหยู่ยี่มองไปที่เซี่ยเหล่ยอย่างเขินอาย “คุณจะให้ฉันเปลี่ยนเป็นชุดนี้เลยไหม ?”

 

          เซี่ยเหล่ยขมวดคิ้ว “คุณพูดว่าอะไรนะ ? ผมไม่อยากเห็นภาพน่าเกลียดในตอนนี้”

 

          เจียงหยู่ยี่กล่าวว่า “คุณจะบ้าหรอ ? เหล่ย รอฉันอยู่ห้องนี่ก่อน เดี๋ยวฉันจะไปเปลี่ยนชุดในห้องของฉันแล้วคุณจะรู้ว่าฉันสวยแค่ไหน”

 

          “ชิ้ว ชิ้ว” เซี่ยเหล่ยรีบพูดด้วยความอยากรู้อยากเห็น

 

          เจียงหยู่ยี่เดินเข้าไปในห้องของเธออย่างมีความสุขจากนั้นไม่นานเธอก็ปรากฎตัวพร้อมกับชุดแดรสสีดำที่เซี่ยเหล่ยซื้อมา ชุดนั้นมันทำให้เธอดูน่ารักและมีเสน่ห์มากขึ้นชุดนี้มันเหมาะกับเธอจริงๆ

 

          “เหล่ย ฉันสวยไหม ?” เจียงยู่ยี่ถาม

 

          ในเวลานี้ภายในห้องนั้นเงียบกริบ ไม่มีเสียงใดๆตอบกลับมา…..

 

          เจียงหยู่ยี่ตะลึงอยู่จากนั้นเธอรีบวิ่งไปที่ระเบียงเพื่อดูเซี่ยเหล่ย เขากำลังเดินหนีออกไปจากบ้านเธอจากนั้นเธอตะโกนว่า “เซี่ยเหล่ย ไอสารเลววว คุณยังติดหนี้ฉัน ยังมีกระเป๋า กับเครื่องสำอางที่คุณยังไม่ได้ซื้อให้ ! ซื้อให้ฉันพรุ่งนี้ไม่งั้นฉันจะฆ่าคุณ !”

 

          เซี่ยเหล่ยไม่ได้หันมองกลับไป เขาหายตัวไปจากบริเวณนั้นอย่างรวดเร็ว

 

          จากนั้นมีหน้าต่างบานหนึ่งถูกเปิดออกโดยหญิงวัยกลางคนและเขาบ่นพึมพำว่า “ไอ้ 2 คนนี้เมื่อไหร่จะได้อยู่ด้วยกันเนี่ย ? ไปๆมาๆหากันตลอด พวกเขากำลังทำอะไรกันแน่ ?”

 

          ทั้งเจียงหยู่ยี่และเซี่ยเหล่ยต้องไม่ได้ยินเสียงของผู้หญิงคนนั้น

 

          หลังจากเซี่ยเหล่ยถึงบ้าน เซี่ยเสวียหลับไปแล้วจากนั้นเซี่ยเหล่ยรีบขึ้นไปห้องนอนของเขาทันทีจากนั้นไม่นานเขาก็หลับสนิทจากความเหน็ดเหนื่อยที่ผ่านมาตลอดทั้งวัน

 

          เช้าวันรุ่งขึ้น เซี่ยเหล่ยไปที่ร้านอาชาสายฟ้าเวิกค์ช็อปจากนั้นเขาไปที่หน้าคอมพิวเตอร์และเปิดเว็ปไซต์อะลีบาบา เขาทำการสั่งซื้ออุปกรณ์ใหม่เข้าร้านของเขา เขาต้องการนำเงินหนึ่งล้านหยวนมาซื้ออุปกรณ์ภายในร้านแต่เขาก็อยากได้รถมากเช่นกันเขาจึงตัดสินใจว่าถ้าเงินเหลือจากการซื้ออุปกรณ์อาจจะนำไปซื้อรถมือ 2 ได้

 

          จูเสี่ยวหงชงชามาให้เซี่ยเหล่ยเธอวางถ้วยชาไว้บนโต๊ะเซี่ยเหล่ย เธอมองข้ามไหล่ของเซี่ยเหล่ยไปในจอคอมพิวเตอร์จากนั้นเธอเห็นว่าเซี่ยเหล่ยกำลังสั่งซื้อของ “พี่เหล่ย คุณกำลังสั่งซื้ออุปกรณ์เข้าร้านเพิ่ม ?”

 

 

          “ใช่แล้ว ธุรกิจของร้านเราจะดีขึ้นเรื่อยๆอุปกรณ์ที่เรามีในตอนนี้อาจจะไม่เพียงพอกับปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น ผมไม่เพียงแต่ต้องการซื้ออุปกรณ์เท่านั้นผมยังต้องการจ้างคนเพิ่มขึ้นอีก...” ในขณะที่เซี่ยเหล่ยหันหน้ากลับมานั้น…...

 

          เซี่ยเหล่ยไม่ได้คิดว่าใบหน้าของเธอจะอยู่ข้างๆไหล่ของเขา ริมฝีปากของเขาไปโดนแก้มของเธอก่อนที่เขาจะพูดจบประโยคถ้าใกล้กว่านี้อาจจะกลายเป็นจูบเลยก็ได้…..

 

          ใบหน้าที่กลมโตของเธอเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง เธอก้าวถอยหลังอย่างตกใจ ความรู้สึกแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นทำให้เธอรู้สึกอายแต่ร่างกายของเธอที่ตอบสนองออกมานั้นทำให้เธอยิ่งรู้สึกอายมากกว่าเดิม......

 

          เซี่ยเหล่ยก็รู้สึกอายมากเช่นกันก่อนที่เขาจะกล่าวว่า “ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจ….”

 

          จูเสี่ยวหงรีบตอบโดยทันที “ไม่เป็นไรค่ะ !”

 

          เซี่ยกระแอมก่อนที่จะพูดว่า “เสี่ยวหง ผมจะให้คุณจัดการเรื่องบุคลากรภายในร้าน คุณต้องทำบัญชีรายรับรายจ่ายในร้านและต้องจัดการจ่ายค่าจ้างให้กับพนักงานทุกๆคน คุณคิดว่ายังไง ?”

 

          “ฉัน ? บัญชี ?” จูเสี่ยวหงรีบส่ายหัวในทันทีจากนั้นเธอรีบพูดว่า “ฉันทำไม่ได้หรอกพี่เหล่ย ฉันจบแค่มัธยมต้นเองฉันใช้คอมพิวเตอร์ไม่เป็น แล้วฉันจะทำบัญชีได้ยังไง ? ไม่ ไม่ ไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ที่จะให้ฉันทำบัญชี”

 

          เซี่ยเหล่ยยิ้ม “คุณสามารถเรียนรู้ได้ นอกจากนี้ร้านเราก็ไม่ใช่ร้านขนาดใหญ่ บัญชีคงจะเป็นเรื่องง่ายๆถ้าคุณศึกษามันเป็นอย่างดี”

 

          “ตะ..แต่ ฉันทำไม่ได้หรอก” จูเสี่ยวหงยังคงคิดว่าตัวเองทำไม่ได้

 

          เซี่ยเหล่ยยืนขึ้นและจับตัวเธอหันเข้าหาโต๊ะแล้วให้เธอนั่งลงที่เก้าอี้ “ใช้เมาส์คลิกเพื่อเปิด OfficeSL…..”

 

          จูเสี่ยวหงทำตามคำแนะนำของเซี่ยเหล่ยอย่างเคร่งครัด....

 

          หม่าเสี่ยวอันเดินเข้ามาเห็นเซี่ยเหล่ยกำลังสอนจูเสี่ยวหงวิธีการใช้คอมพิวเตอร์ เขาหัวเราะออกมา “เสี่ยวหงอย่าเผลอไปเข้าเว็บไซต์ AV ของญี่ปุ่นล่ะ !”

 

          “เว็บไซต์ AV ของญี่ปุ่นคืออะไร ?” จูเสี่ยวหงถามอย่างไร้เดียงสา

 

          “ทำต่อไป อย่าไปสนใจเขาเลย...” เซี่ยเหล่ยกล่าว

 

          “ค่ะ” จูเสี่ยวหงกล่าวอย่างตั้งใจ จากนั้นเธอจ้องมองหม่าเสี่ยวอันด้วยดวงตาที่ดุเดือด

 

          เซี่ยเหล่ยปล่อยให้จูเสี่ยวหงปฏิบัติด้วยตัวเองจากนั้นเรียกหม่าเสี่ยวอันมาอีกด้านหนึ่งเพื่อคุยเรื่องแผนการของเขา “ถ้าผมคิดว่าเป็นแบบนี้ คุณคิดว่ายังไง ?”

 

          “สิ่งที่นายคิดคือสิ่งที่ดีที่สุด อาชาสายฟ้าเวิกค์ช็อปมันเป็นของคนายตั้งแต่แรกผมเห็นด้วยกับนายทุกอย่างไม่ว่านายจะทำอะไรตาม…..”

 

          เซี่ยเหล่ยยิ้มและพูดว่า “เราติดต่อกับผู้คนจำนวนมากในขณะที่เราทำงานก่อสร้างแบบนี้ เราต้องหาคนที่เป็นคนเก่งและขยัน จะต้องถามเขาว่ายินดีนำมาทำงานร่วมกับพวกเราไหม ? เราจะจ่ายค่าจ้างในอัตราที่สูง คุณคิดว่ายังไง ?”

 

          “แน่นอน กี่คนดีล่ะ ?”

 

          เซี่ยเหล่ยกำลังคิดอย่างถี่ถ้วน “5   5 คนเราจะหาเพิ่มถ้าเราต้องการมากขึ้น”

 

          “ผมจะติดต่อให้เดี๋ยวนี้” หม่าเสี่ยวอันกล่าว

 

          เซี่ยเหล่ยพยักหน้า

 

          จูเสี่ยวหงกำลังเรียนรู้ที่จะใช้คอมพิวเตอร์ส่วนหม่าเสี่ยวอันกำลังติดต่อผู้อื่น เซี่ยเหล่ยเดินไปมาเขากำลังไตร่ตรองเรื่องอุปกรณ์ใหม่ที่กำลังจะสั่งเข้ามารวมไปถึงการรับคนเข้ามาทำงานในร้าน.....

 

          ในขณะนั้นมีรถยนต์จอดอยู่ริมข้างทางเมื่อประตูรถเปิดออก หนิงจิงเดินลงมาจากรถอย่างสง่างาม เธอสวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนส์ขาสั้นรวมถึงใส่รองเท้าส้นสูงสีส้ม เธอมีความอ่อนเยาว์ในตัวและมีเสน่ห์มากๆในวันนี้

 

          ในสายตาของเซี่ยเหล่ยกำลังคิดว่า ‘เธอมาที่นี่เพื่อขอให้เรากลับไปแกล้งทำเป็นแฟนหนุ่มของเธออีกครั้งใช่หรือเปล่า ?’

 

ติดตามตอนต่อไป…….

 

         

 

         

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด