ตอนที่ 56   ทักษะ [บล็อก]  จับพวกผู้ร้ายเป็นผลสำเร็จ

ตอนที่ 56   ทักษะ [บล็อก]  จับพวกผู้ร้ายเป็นผลสำเร็จ

 

ผู้แปล  :  ThreeSwords

ปรับสำนวน  :  ThreeSwords

 

 

ความจริงที่หลี่ซีจู่ๆ ก็ถูกโจมตีทำให้หนิงอวี่ม่อกับจางซานสะดุ้งตกใจ  ทั้งสองคนไม่คาดคิดว่าจะมีคนสอดเข้ามากลางวงต่อสู้ในเวลาเช่นนี้  และด้วยการฟาดใส่นั้น  ก็สามารถทำให้หัวหลี่ซีได้รับบาดเจ็บ

 

“หลี่ซี!”

 

แต่จางซานซึ่งผ่านเหตุการณ์แบบนี้มานับครั้งไม่ถ้วนก็ไม่แตกตื่นตกใจ  ถึงแม้จะรู้สึกกระวนกระวาย  การเคลื่อนไหวของมันก็ไม่ได้ช้าลงไปเลย  มันใช้แขนทั้งสองผลักหนิงอวี่ม่อให้ถอยห่างไปอย่างรุนแรง  และวิ่งเข้าใส่ฉินฟาง  ใบหน้าของมันดุร้าย  ราวกับต้องการที่จะฉีกฉินฟางเป็นชิ้นๆ

 

“ระวัง!”

 

ในตอนนี้หนิงอวี่ม่อไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้  จางซานเคลื่อนไหวเร็วเกินไป  และสองคนนั้นก็อยู่ใกล้กันมาก  เธอทำได้เพียงมองฉินฟางถูกจางซานทำร้าย

 

จางซานค่อนข้างคุ้นเคยกับการชกต่อยและมีความแข็งแรงอย่างมากอีกด้วย  อย่างน้อยก็มีทักษะในการต่อสู้  และแข็งแกร่งกว่าพวกอันธพาลที่รู้จักแต่การเหวี่ยงหมัดเข้าใส่  ซึ่งเรื่องนี้สามารถเห็นได้จากเลเวลของมัน

 

“เข้ามาเลย!”

 

พอมองไปยังใบหน้าที่ดุร้ายของจางซาน  มันคงเป็นการโกหกถ้าฉินฟางจะบอกว่าเขาไม่เกรงกลัว  แค่ความสูงกับกล้ามเนื้อของจางซานก็สร้างแรงกดดันอย่างมากให้กับฉินฟางแล้ว  ยิ่งไปกว่านั้นคนตรงหน้าก็ยังเป็นผู้ร้ายหลบหนีคดีอีกด้วย

 

อย่างไรก็ตามตอนนี้ฉินฟางก็ไม่อาจถอยได้  เขาได้สังเกตเห็นว่าหนิงอวี่ม่อกำลังไล่ตามหลังจางซานมา  ส่วนหลี่ซีที่อยู่ข้างเขาก็น่าจะยังคงมึนงงต่อไปอีกสองสามวินาที  ตราบเท่าที่เขาสามารถรั้งจางซานไว้ได้ชั่วขณะ  และให้หนิงอวี่ม่อได้โอกาสลงมือ  พวกเขาอาจโค่นมันลงได้

 

ทันทีที่หนึ่งในผู้ร้ายหลบหนีถูกโค่นแล้ว  อีกคนหนึ่งก็จะไม่มีผลคุกคามมากอีกต่อไป  นี่เป็นผลสรุปที่ฉินฟางได้หลังเขาทำการวิเคราะห์ก่อนหน้านี้  ซึ่งมันก็ค่อนข้างจะแม่นยำซะด้วย

 

ในทางตรงกันข้าม  ถ้าพวกเขาไม่สามารถล้มจางซานลงได้  ด้วยฉินฟางที่กลายมาเป็นภาระ  เขากับหนิงอวี่ม่อก็คงจะตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก

 

ความห้าวหาญที่อยู่ภายในตัวฉินฟางถูกจางซานกระตุ้นออกมา  ทำให้แม้เขาจะเผชิญหน้ากับผู้ร้ายหลบหนีที่ดุร้าย  ฉินฟางก็ไม่แสดงอาการที่จะถอยหนีเลย

 

ส่วนอิฐก้อนนั้นความคงทนของมันลดลงเหลือศูนย์  จึงกลับเข้าไปอยู่ใน [กล่องไอเทม] แล้ว

 

แต่ฉินฟางก็ยังมีท่อเหล็กอยู่ในมือ  ดังนั้นเขาเลยเหวี่ยงมันออกไปในทันที

 

ท่อเหล็กนั่นถูกเหวี่ยงเข้าไปใกล้จางซาน  แต่มันได้เตรียมรับมือไว้อยู่แล้ว  ดังนั้นเลยใช้มือป้องกันได้ตั้งแต่ในคราวแรก  จากนั้นก็คว้าท่อไว้และออกแรงดึงอย่างหนัก  จนฉินฟางรู้สึกได้ถึงความร้อนที่เกิดจากการเสียดสีของท่อกับมือของเขา

 

ไม่เพียงเท่านั้น  เห็นได้ชัดว่าจางซานมีฝีมือในการชกต่อยมากกว่าในตำรา  ในขณะที่มันใช้มือขวาหยุดการโจมตีของฉินฟาง  มือซ้ายของมันก็เริ่มขยับเพื่อทำการรุกฆาต  ด้วยการยกตัวขึ้นเล็กน้อยกับงอข้อศอก  การจู่โจมที่รุนแรงก็พุ่งเข้าใส่ฉินฟาง

 

“ฉินฟาง หลบไปเร็ว!”

 

หนิงอวีม่อที่เพิ่งไล่ตามมาทันก็ไม่สนใจอีกแล้วว่าเสียงตะโกนนี้จะเป็นการเปิดเผยตัวตนของเธอ  และเตรียมที่จะเตะใส่ด้านหลังของจางซานเต็มแรง

 

อย่างไรก็ตาม  น้ำไกลก็ไม่อาจดับไฟที่อยู่ใกล้ได้  เห็นได้ชัดว่าระยะห่างระหว่างฉินฟางกับจางซานนั้นน้อยมาก  และการโจมตีของจางซานก็รวดเร็วจริงๆ

 

ฉินฟางยังคงอยู่ในอาการตกใจที่อาวุธหนึ่งเดียวของเขาถูกแย่งไปไวมาก  และก่อนที่เขาจะตั้งตัวได้  ก็เห็นจางซานก้มลงมาหาจากด้านบนแล้ว

 

การตีศอกอันรุนแรงสายหนึ่งพุ่งเข้าใส่ตัวฉินฟางอย่างรวดเร็ว

 

< การบล็อกประสบความสำเร็จ  ความเสียหายจากการโจมตีไม่ส่งผล! >

 

< คุณเรียนรู้ทักษะ [บล็อก]  การใช้อาวุธหรือเครื่องต่างๆ ร่วมด้วยจะเพิ่มโอกาสที่ความเสียหายลดลงหรือไม่ส่งผลเลย,  ทักษะความชำนาญ : ขั้นเริ่มต้น,  ค่าประสบการณ์ : 1% >

 

ในช่วงเวลานั้นตอนที่ฉินฟางคิดว่าเขาคงไม่อาจหลบได้แล้ว  และเตรียมที่จะกัดฟันทนการโจมตีของจางซาน  ด้วยสัญชาตญาณ  ฉินฟางยกแขนของเขาขึ้นมาเล็กน้อย  เพื่อทำการปิดกั้นความเคลื่อนไหวเมื่อแขนของพวกเขาสองคนปะทะกัน  ฉินฟางรู้สึกได้ถึงความรุนแรงของศอกจางซาน  กับแขนที่กลายเป็นด้านชาของเขา  ทว่าในหัวก็ปรากฏข้อความแจ้งเตือนออกมาชุดหนึ่ง

 

“เฮ้ย?”

 

จางซานถูกยันกลับมา  ทั้งๆ ที่มั่นใจในการศอกของมันอย่างที่สุด  และนับได้ว่านี่เป็นท่าไม้ตายของมัน  มีคนจำนวนมากที่พ่ายแพ้ต่อการศอกนี้

 

และก็เห็นกันอยู่ว่าไอ้เด็กเรียนตรงหน้ามันคนนี้อ่อนแอกว่าชัดๆ  แต่กลับสามารถทนรับการศอกของมันได้  กระทั่งดูไม่มีอาการบาดเจ็บเลยด้วยซ้ำ

 

อย่างไรก็ตามมีแค่มันคนเดียวที่แสดงอาการตกใจ  ส่วนหนิงอวี่ม่อไม่ได้สังเกตเห็นถึงเรื่องที่เกิดขึ้น  เพราะลูกเตะของเธอได้ฟาดเข้าไปที่หลังของจางซานแล้ว  เป็นการเตะที่หนักหน่วงมาก  และส่งจางซานตัวลอยไปข้างหน้าพร้อมกับใบหน้าที่ซีดเผือด

 

ร่างกายอันใหญ่โตของจางซานชนเข้ากับฉินฟางที่ยังคงยืนขวางอยู่ด้านหน้ามันในทันที  จนฉินฟางล้มลงกับพื้น

 

“ฉินฟาง!”

 

หนิงอวี่ม่อที่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยนึกว่าจางซานทำบางอย่างกับฉินฟาง  จึงรีบวิ่งตรงไปยังจางซานที่กำลังบาดเจ็บ  จากนั้นก็สับมือลงไปที่คอของมันโดยตรง  จนทำให้จางซานสลบไป

 

พอดึงตัวจางซานออกจากฉินฟาง  หนิงอวี่ม่อก็เห็นฉินฟางกำลังเอามือลูบหัว  กับใบหน้าที่ดูทุกข์ระทม  หนิงอวี่ม่อจึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะคิกคักกับสภาพเช่นนี้ของฉินฟาง

 

“ฉันตกใจเกือบตาย!  นึกว่ามีเรื่องเกิดขึ้นกับนายซะอีก!”

 

รอยยิ้มของหนิงอวี่ม่อช่างสวยจริงๆ  เหมือนคำที่กล่าวไว้ว่า  “งามล่มเมือง”  พอได้เห็นรอยยิ้มของเธอ  ฉินฟางก็หน้าแดง  และหันหน้าหนีเพื่อไม่ให้หนิงอวี่ม่อเห็น

 

“เสี่ยวหนิงเจีย  ตรงนี้ยังเหลืออีกคนหนึ่ง!”

 

ตอนที่เขาหันหน้าไป  ก็สังเกตเห็นหลี่ซีกำลังฟื้นตัวจากสถานะ [มึนงง]  จึงพูดเตือนหนิงอวี่ม่อในทันที

 

“ทราบแล้ว!”

 

ปฏิกิริยาของหนิงอวี่ม่อนั้นรวดเร็วจริงๆ  ประกอบกับอยู่ไกลจากหลี่ซี  เธอก็เลยเตะใส่หลี่ซีที่ยังคงไม่ได้รับรู้สถานการณ์รอบข้างจนไม่สามารถตอบสนองได้ทัน  ขาทั้งสองของมันรู้สึกได้ถึงพลังอันหนักหน่วง  จากนั้นก็ล้มลงกับพื้น

 

หนิงอวี่ม่อฉวยโอกาสนี้กระโจนเข้าหาหลี่ซี  และเริ่มทำการอัดใส่มัน  กระทั่งมันสลบไปในท้ายที่สุดถึงได้หยุด

 

จากนั้นหนิงอวี่ม่อก็หันหน้ากลับมา  และพบว่าฉินฟางกำลังมองเธออย่างหวาดกลัว  มันทำให้เธอรู้สึกเก้อเขิน  เพราะก่อนหน้านี้พวกมันยั่วโมโหเธอเป็นอย่างมาก  ดังนั้นจึงเป็นสาเหตุที่เธอทำการลงมือโดยไร้ความปรานี  หลี่ซีที่ศีรษะมีเลือดไหลอยู่แล้ว  ตอนนี้เลยกลายเป็นเลือดตกยางออกมากขึ้น

 

พอมองไปยังสิ่งที่หญิงสาวซึ่งงามล่มเมืองคนนี้กระทำ  ฉินฟางไม่รู้ว่ามันเป็นตอนไหนและเมื่อไหร่  แต่ความรู้สึกดึงดูดใจที่เขามีต่อเธอเล็กน้อยก็อันตรธานหายไป  ตอนนี้น้องชายตัวน้อยของเขาก็สั่นเทาด้วยความกลัว  ราวกับว่าถ้ามันแสดงตัวเองออกมาแล้ว  ฉินฟางก็อาจจะถูกอัดไปด้วย...

 

ลมหนาวสายหนึ่งได้พัดผ่านมา  จนทำให้แผ่นหลังของฉินฟางสั่นสะท้าน...

 

 

……………………………..