ตอนที่แล้วตอนที่ 48   ตัวละครเพิ่มระดับ, รางวัลจากระบบ, ทักษะ [ประเมิน]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 50   หนิงอวี่ม่อ ตำรวจสาวผู้ก๋ากั่น

ตอนที่ 49   อุบัติเหตุรถยนต์


ตอนที่ 49   อุบัติเหตุรถยนต์

 

ผู้แปล  :  ThreeSwords

ปรับสำนวน  :  ThreeSwords

 

 

ในอาคารใกล้กับทางเข้ารีสอร์ท  ดวงตาคู่หนึ่งกำลังจะพ่นไฟออกมาเนื่องความโกรธที่บังเอิญเห็นท่าทางสนิทสนมของถังเฟยเฟยกับฉินฟาง

 

“นายน้อยเฟิง  ท่านต้องการให้กระผมส่งไป๋เหล่าซานไปจัดการกับเจ้าสารเลวแซ่ฉินมั้ยขอรับ?”

 

คนอ้วนหลี่ยังคงยืนอยู่ข้างหลี่เฟิง  วันนี้มีแต่เรื่องวุ่นวายและมันต้องการที่จะแก้ตัว  จึงไม่มีทางเลือกที่ต้องติดตามหลี่เฟิงมา  เพราะกลัวว่าถ้าเกิดโชคร้ายขึ้นอีกครั้ง  หลี่เฟิงอาจจะฟ้องมันกับพ่อของเขา  และนั่นคือจุดจบของอาชีพการงานมัน

 

ไป๋เหล่าซานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของรีสอร์ท  นอกจากนี้มันยังมีชื่อเสียงที่ไม่ดี  ไร้ความปรานี  และมีข่าวลือว่ามันเคยฆ่ามาสองสามคนแล้ว  แต่ประวัติของมันตอนนี้ก็ขาวสะอาด  และได้รับตำแหน่งในรีสอร์ทผ่านเส้นสายบางอย่าง  จึงอาจนับได้ว่าการมาอารักขารีสอร์ทเป็นการหลบซ่อนตัว

 

ถ้าให้คนที่มาหลบซ่อนตัวอย่างมันจะจัดการกับฉินฟางแล้ว  ก็จะไม่มีฉินฟางอีกต่อไป  นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเอฟเฟนดี้ถึงได้กลัวหลี่เฟิงมาก  เพราะเขาทำงานในรีสอร์ทแห่งนี้มาสองสามปี  และเคยได้เห็นงานสกปรกที่ไป๋เหล่าซานกับพวกทำ  เอฟเฟนดี้จึงไม่สงสัยเลยว่าเขาจะกลายเป็นศพถ้าทำให้หลี่เฟิงขุ่นเคือง

 

“แกมันไร้สมองไปแล้วเรอะ?”

 

หลี่เฟิงฉุนเฉียวในทันที

 

“ข้าเพิ่งจะมีเรื่องกับฉินฟาง  ถ้าส่งคนไปจัดการฉินฟางทันที  ถังเฟยเฟยจะไม่รู้หรือไงว่าคนสั่งการคือข้า?  พวกสมองหมู!”

 

“ขอรับ ขอรับ ขอรับ... กระผมมันสมองหมู  กระผมมันสมองหมู...”

 

คนอ้วนหลี่พร่ำดุด่าตัวเอง  แต่มันก็จับได้ถึงความแตกต่างเล็กน้อยในคำพูดของหลี่เฟิง  ดังนั้นมันจึงก้มหน้าต่ำและรอคอยคำสั่งที่หลี่เฟิงจะให้กับมันต่อไป

 

“ส่งไป๋เหล่าซานไปทดสอบฉินฟางหน่อยสิ... เมื่อเร็วๆ นี้ดูเหมือนว่ามันจะอหังการซะเหลือเกิน  ให้ชาวบ้านอย่างมันรู้บ้างว่าบางคนก็ไม่อาจทำให้โกรธได้!”

 

ตามที่คาดไว้  หลี่เฟิงเงียบอยู่สักพักก่อนจะให้คำสั่งใหม่กับคนอ้วนหลี่

 

“รับทราบขอรับ!  นายน้อยเฟิง  กระผมจะไม่ทำให้ท่านต้องผิดหวังแน่!”

 

ในขณะที่อีกด้านหนึ่งของฉินฟางกับถังเฟยเฟย

 

สุดท้ายแล้วคนหนึ่งขี่จักรยานกลับบ้าน  และอีกคนหนึ่งเรียกรถให้ไปส่ง  ใครบอกให้ฉินฟางประหยัดเกินไปล่ะ  จนไม่ยอมทิ้งจักรยานไว้ที่นี่

 

การกล่อมให้ถังเฟยเฟยทำตามที่เขาขอนั้นง่ายมาก  เธอเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางมาที่นี่อยู่แล้ว  และสิ้นเรี่ยวแรงกับเรื่องที่เกิดขึ้นในงานวันนี้ด้วย  เธอรู้สึกไม่สบายใจและไม่เต็มใจที่จะให้ฉินฟางปั่นจักรยานกลับ  แต่เธอก็พ่ายแพ้ต่อความเหนื่อยล้าและความดื้อดึงของฉินฟาง  ก็เลยต้องเรียกรถแท็กซี่ให้ไปส่งบ้าน  ส่วนฉินฟางตอนนี้ก็กำลังเดินทางกลับด้วยรถจักรยาน  ซึ่งสาเหตุแท้จริงที่เขาต้องการขี่กลับทั้งๆ ที่ถังเฟยเฟยชวนให้นั่งรถไปด้วยกันนั้น  เพราะเขายังต้องการเพิ่มค่าประสบการณ์ของทักษะ [คร่อมขี่]

 

หลังจากการแข่งขันทำบาร์บีคิว  สุดท้ายฉินฟางก็สามารถเข้าใจพลังของทักษะที่ความชำนาญแตกต่างกัน  ที่ความชำนาญระดับเริ่มต้น  ทักษะจะแสดงพลังที่เหนือกว่ามืออาชีพทั่วไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น  แต่ถ้าทักษะขึ้นสู่ความชำนาญระดับกลางแล้ว  พลังที่แสดงออกมาก็จะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

 

มือใหม่ในการทำบาร์บีคิวอย่างฉินฟางสามารถเอาชนะแชมป์บาร์บีคิวสามสมัยได้  ถ้าข่าวนี้แพร่ออกไปกระทั่งผีสางอาจยังไม่เชื่อเลย

 

แต่เรื่องเหลวไหลเช่นนี้ก็เกิดขึ้น  และสาเหตุก็คือทักษะระดับกลางของฉินฟาง [ศิลปะการปรุงอาหาร]

 

“24.4%... ดูเหมือนว่าผมต้องไปขี่จักรยานทุกวันก่อนเปิดร้านซะแล้ว...”

 

คุณสมบัติพิเศษแบบไหนกันที่ทักษะ [คร่อมขี่] ระดับกลางมีนะ?  ตอนนี้ฉินฟางยังไม่รู้แน่ชัด  แต่ในขณะที่ค่าประสบการณ์ของทักษะสูงขึ้น  เขาก็ตระหนักได้ว่าความเร็วในการปั่นนั้นมากขึ้น  และแม้กระทั่งขาของเขาก็แข็งแรงขึ้น

 

“ได้ผลขนาดนี้เชียว?”

 

ไม่เพียงเท่านั้น  ทั้งๆ ที่ค่าประสบการณ์แตกต่างกันแค่เล็กน้อย  แต่ฉินฟางก็พบว่าความรู้สึกตอนที่กำลังขี่กลับนั้นแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับตอนแรกที่เขาปั่นไปลานบาร์บีคิว

 

ขาของเขาแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก  ด้วยการออกแรงปั่นเบาๆ  เขาก็สามารถแสดงพลังได้มากกว่าการออกแรงปั่นเต็มที่ในช่วงที่เดินทางมายังลานบาร์บีคิว  และรถจักรยานก็พุ่งไปข้างหน้าเร็วราวกับลูกธนู

 

“หรือเป็นเพราะว่าการที่ตัวละครเพิ่มระดับ?”

 

รถจักรยานพุ่งไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง  และความเร็วค่อนข้างสูง  แต่ฉินฟางยังไม่ได้ใช้เรี่ยวแรงอะไรมากเลย  ในขณะที่เขากำลังคิดหาเหตุผล  ก็สรุปได้ว่ามีเพียงเหตุผลเดียวที่น่าเชื่อถือคือตัวเขาที่เลเวลเพิ่มขึ้น

 

“ความแข็งแรง +5  ความคล่องแคล่ว +5…  มันต้องเป็นเพราะค่าสถานะสองอย่างนี้”

 

ฉินฟางใคร่ครวญเกี่ยวกับค่าสถานะของเขาที่เลเวล 1  และมีเพียงความแข็งแรงกับความคล่องแคล่วที่จะทำให้เคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วเหมือนในตอนนี้  หลังจากลังเลอยู่สักพัก  ฉินฟางก็หยุดปั่นจักรยานและทำการลองยกจักรยานที่น้ำหนักนั้นไม่เบาเลยขึ้นด้วยสองมือ

 

*อึ๊บ~*

 

ฉินฟางไม่ได้รู้สึกว่ามันมีน้ำหนักมากเลย  จักรยานที่หนักอย่างน้อยสิบกิโลกรัมถูกเขายกขึ้นได้อย่างง่ายดาย  ฉินฟางกระทั่งลองเอานิ้วเกี่ยวจักรยานขึ้น  และพบว่าไม่ได้รู้สึกถึงการออกแรงใดๆ เลย

 

“เบามาก?”

 

ฉินฟางขมวดคิ้วเล็กน้อย  เขานึกย้อนกลับไปตอนที่จับจักรยานนั่นครั้งแรก  ดูเหมือนว่าเขาต้องใช้แรงมากกว่าในตอนนั้น

 

“ดูเหมือนว่ายังคงมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ผมไม่เข้าใจจนถึงเดี๋ยวนี้...”

 

ชัดเจนว่าค่าความแข็งแรง +5 ทำให้ฉินฟางแข็งแกร่งมากขึ้น  แต่จะไปถึงระดับไหนนั้นยังคงไม่สามารถวัดได้ในตอนนี้  ซึ่งจากที่เห็น  ฉินฟางนั้นแข็งแรงกว่าแต่ก่อนแน่ๆ  ส่วนข้อดีแบบไหนที่จะได้จากความแข็งแรงนี้  ฉินฟางก็ยังคงไม่ทราบเช่นกัน

 

*ครืด~!*

 

ในขณะที่ฉินฟางกำลังขึ้นคร่อมจักรยานและทำการปั่นกลับต่อไป  ทันใดนั้นรถสปอร์ตที่วิ่งมาอย่างเร็วคันหนึ่งก็ปรากฏขึ้นด้านหลังเขา  ความเร็วของรถที่วิ่งมาสูงมาก  และเมื่อมันทำการดริฟท์ก็จะให้เสียงครูดที่แหลมบาดหูออกมา

 

“เหี้ยไรวะเนี่ย  เจ้าหมอนั่นรู้จักวิธีการขับรถจริงๆ ไหมฟะ?!  ไม่ช้าไม่นานก็คงจะเกิดอุบัติเหตุ!”

 

ฉินฟางรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก  รถที่เร่งมาเร็วคันนี้วิ่งเฉียดเขาไป  และถ้ามันขยับเข้ามาใกล้ฉินฟางอีกเล็กน้อย  เขาคงต้องโบกลาชีวิตนี้ไปแล้ว  ซึ่งสังคมในยุคปัจจุบันมันเป็นเช่นนั้น  คนรวยแต่ไร้ความรับผิดชอบมีจำนวนมากเกินไป

 

*ครืด~!*

 

อย่างไรก็ตามก่อนที่ฉินฟางจะยืนได้อย่างมั่นคง  ในครั้งนี้รถอีกคันหนึ่งก็เร่งตรงมาที่เขาจากด้านหลัง  ฉินฟางที่ค่อนข้างตื่นตัวอยู่แล้ว  ทันทีที่เขาได้ยินเสียงรถก็รีบยกจักรยานและกระโดดหลบไปข้างถนนทันที  ซึ่งนั่นเป็นเพียงวิธีเดียวที่เขาสามารถทำได้เพื่อไม่ให้โดนชนโดยรถที่วิ่งมาเร็วและใกล้ตัวเขามากกว่ารถคันแรก

 

“เฮ้อ พวกลูกคนรวย...  ผมหวังว่าพวกนั้นจะไม่ไปชนคนอื่นนะ...

 

เมื่อมองไปยังรถที่วิ่งมาเร็วทั้งสองคัน  ฉินฟางก็รู้สึกเศร้าใจ  เหตุการณ์เช่นนี้มีมากมายในปัจจุบัน  คุณแทบไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าถูกรถชนล้มขณะที่กำลังเดินอยู่บนถนน

 

*โครม!*

 

แต่ในขณะที่ฉินฟางกำลังยืนยันว่าจะไม่มีคนขับรถโดยประมาทโผล่ขึ้นมาอีก  และเตรียมที่จะออกเดินทางต่อไป  เสียงชนก็ดังขึ้นจากด้านหน้าของเขา

 

เขายกหัวขึ้นและมองไปข้างหน้า  ก็พบว่ารถที่ซิ่งมาคันที่สองนั้นวิ่งไล่ทันรถคันแรกและกระแทกกันอย่างหนักหน่วง  ดังนั้นรถทั้งสองคันจึงแกว่งไปมาอย่างแรงในทันที

 

“อุ๊ก!  สมพรปากแล้วตรู...”

 

หน้าของฉินฟางแสดงอาการอึ้งไปในทันที  ในขณะที่เขากำลังพูดว่าพวกนั้นน่าจะเกิดอุบัติเหตุ  ก็เกิดเรื่องขึ้นจริงๆ ทั้งที่ยังผ่านไปไม่ถึงสองนาที  หลังจากลังเลอยู่สักพัก  เขาก็ตัดสินใจเข้าไปที่เกิดเหตุ  การมองดูคนอื่นตายไม่ใช่นิสัยของเขา  และต้องมีใครสักคนที่ควรโทรแจ้งตำรวจ

 

 

……………………………..

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด