ตอนที่แล้วตอนที่ 41   ท้าทาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 43 เปี่ยมไปด้วยความอยากและตะกละตะกลาม

ตอนที่ 42   ดวลบาร์บีคิว!


ตอนที่ 42   ดวลบาร์บีคิว!

 

ผู้แปล  :  ThreeSwords

ปรับสำนวน  :  ThreeSwords

 

 

ทันทีที่เอฟเฟนดี้ตอบตกลงตามเงื่อนไขของฉินฟาง  มันก็ยากที่หลี่เฟิงกับคนอ้วนหลี่จะดึงเอาแผนสกปรกออกมาใช้  โชคยังดีที่คนอ้วนหลี่รู้ดีว่าเอฟเฟนดี้นั้นมีฝีมือจริงๆ  เพราะเอฟเฟนดี้ได้ตำแหน่งแชมป์ทำบาร์บีคิวสามสมัยมาด้วยความสามารถ  ไม่ได้มาจากการเล่นใต้โต๊ะ

 

ซึ่งก็เหมือนกับคนอ้วนหลี่ที่สามารถมาเป็นผู้จัดการของลานบาร์บีคิวนี้ได้  ไม่ใช่เพราะว่ามาจากการเลียแข้งเลียขาหรือใช้เส้นสาย  ตัวเขาก็มีฝีมือ  และเมื่อลงมือทำงาน  มันก็จะลื่นไหลราวกับสายน้ำและปุยเมฆ

 

ไหนๆ ทั้งคู่ก็ตกลงที่จะท้าทายกันแล้ว  คนอ้วนหลี่จึงส่งคนไปจัดเตรียมเวทีแข่งขันในทันที  หลังจากสิบนาทีผ่านไป  พนักงานก็เตรียมสถานที่ให้ฉินฟางกับเอฟเฟนดี้แข่งขันเสร็จ  พวกนั้นกระทั่งเรียกดีเจจากบาร์มาทำหน้าที่เป็นพิธีกรด้วย

 

“ท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีครับ  วันนี้พวกเรากำลังจะจัดให้มีการแข่งขันขึ้น!  หัวข้อการแข่งขันแน่นอนว่าคือการทำบาร์บีคิว  และผู้ตัดสินคือทุกคนที่นี่ในตอนนี้!”

 

ตอนแรกพิธีกรพูดเกริ่นเรื่องราวคราวๆ  และเร่งเร้าความสนใจของผู้คนที่สังเกตเห็นความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในกลุ่มของฉินฟาง

 

“อันดับแรก  ผมขอแนะนำผู้เข้าแข่งขัน!  ทางซ้ายมือของผม  เชฟหลักของลานบาร์บีคิวเรา  และยังเป็นแชมป์การแข่งขันทำบาร์บีคิวงานเทศกาลอาหารเมืองหนิงไห่สามสมัย  เอฟเฟนดี้!”

 

เมื่อได้ยินที่พิธีกรกล่าวนำ  เอฟเฟนดี้ที่สวมเครื่องแบบพ่อครัวอยู่แล้วก็เดินขึ้นมาบนเวที  และยืนตรงหน้าเตาย่างบาร์บีคิวที่จัดเตรียมไว้  แน่นอนว่าเขาไม่ลืมที่จะสร้างความชื่นชอบให้กับกลุ่มคนซึ่งจะกลายมาเป็นผู้ตัดสิน  พร้อมทั้งพูดทักทายพวกนั้น

 

“เอาเลยเอฟเฟนดี้!”

 

“ฉันเอาใจช่วยคุณนะ  เอฟเฟนดี้!”

 

ลูกค้าส่วนใหญ่ซึ่งมาที่นี่บ่อยๆ ล้วนรู้จักเอฟเฟนดี้  และเคยได้ลองทานอาหารฝีมือของเขามาก่อน  รสชาตินั้นแน่นอนว่าดี  คนบางส่วนมีแม้กระทั่งที่อยากจะมาเรียนรู้จากเอฟเฟนดี้  ดังนั้นช่วงเวลาที่เอฟเฟนดี้ปรากฏตัวขึ้น  กลุ่มคนบางส่วนก็เริ่มส่งเสียงเชียร์

 

“ทางด้านขวามือคือหนึ่งในลูกค้าของลานบาร์บีคิวเรา  ฉินฟาง!  ถึงแม้ว่าอาจจะดูอายุน้อยไปบ้าง  แต่ฝีมือในการทำบาร์บีคิวของเขานั้นน่าตื่นตาตื่นใจมาก!  ดังนั้นการแข่งขันในครั้งนี้คือศึกยักษ์ชนยักษ์อย่างแน่นอน!”

 

ฉินฟางก็เดินขึ้นมาอยู่ที่หน้าเตาย่างบาร์บีคิวด้วยเช่นกัน  ส่วนถังเฟยเฟยก็เดินตามหลังฉินฟางอย่างเงียบๆ  ดูเหมือนว่าเธอกำลังจะมาเป็นผู้ช่วยของฉินฟาง

 

“โห่!”

 

“ว้าว  สาวสวยนี่!

 

“เหี้ยไรวะเนี่ย  ดอกฟ้ากับหมาวัดชัดๆ !”

 

“น้องชาย  ฉันเอาใจช่วยนะ!”

 

เปรียบกับเอฟเฟนดี้  ตอนที่ฉินฟางขึ้นไปบนเวที  มีคนเชียร์เขาแค่สองสามคน  แต่เสียงโห่ฮากลับดังขึ้นไม่หยุดหย่อน  ในเวลาเดียวกันก็มีคนสังเกตเห็นถังเฟยเฟยที่อยู่ข้างฉินฟาง  จึงอดไม่ได้ที่จะร้องตะโกนด้วยความอิจฉา

 

กล่าวอีกนัยหนึ่ง  มีคนไม่มากที่ชอบฉินฟาง

 

“ผมจะอธิบายกฎกติกาในการแข่งขันนี้ให้เข้าใจกันอย่างง่ายๆ นะครับ  ทุกคนที่นี่จะได้รับการ์ดใบหนึ่ง  และนั่นคือบัตรลงคะแนน  ตรงนี้มีกล่องลงคะแนนสองใบ  คุณฉินกับเชฟเอฟเฟนดี้จะทำบาร์บีคิวให้รับประทาน  และปล่อยให้พวกท่านประเมินผล  จากนั้นก็ขอให้พวกท่านลงคะแนนให้กับผู้เข้าแข่งขันที่ทำบาร์บีคิวได้ดีและตรงใจมากกว่า  สุดท้ายแล้วจำนวนคะแนนเสียงที่ผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนได้รับจะเป็นตัวกำหนดผู้ชนะ”

 

กฎนั้นเรียบง่ายและปฏิบัติได้จริง  หลังจากการทำบาร์บีคิวเสร็จสิ้นก็จะทำการลงคะแนนเสียงในทันที  ไม่เปิดโอกาสให้คนอื่นเล่นตุกติกได้เลย  นอกจากนี้พนักงานในรีสอร์ทแห่งนี้ไม่ได้รับอนุญาตให้ทำการลงคะแนน  เพราะหนึ่งในผู้เข้าแข่งนั้นคือเอฟเฟนดี้

 

“ตอนนี้พอใจหรือยังล่ะ?”

 

ก่อนที่การแข่งขันจะเริ่ม  เอฟเฟนดี้ก็เดินเข้าถามฉินฟางเป็นการเฉพาะ

 

“ก็โอเค”

 

เกี่ยวกับเรื่องกฎกติกานั้น  ฉินฟางไม่ได้มีข้อข้องใจใดๆ เกี่ยวกับมัน  ถึงแม้ว่าการแข่งขันนี่จะเกิดจากความขัดแย้งเล็กๆ จนเลยเถิดกลายเป็นเรื่องใหญ่

 

“ข้าหวังว่าแกคงจะไม่แพ้อนาถจนเกินไปนะ... ฮ่าฮ่า!”

 

เอฟเฟนดี้พูดเย้ยหยันและหัวเราะอย่างเย็นชา  จากนั้นก็เดินกลับไปเตาของตัวเอง  ซึ่งตอนนี้วัตถุดิบทั้งหมดได้ถูกเตรียมพร้อมไว้แล้ว

 

“โอเค!  ตอนนี้ผู้เข้าแข่งขันทั้งสองก็พร้อมแล้ว  ผมขอประกาศเริ่มการแข่งขัน ณ บัดนี้!”

 

วัตถุดิบทั้งหมดเจ้าของสถานที่ล้วนจัดเตรียมให้  ในส่วนของค่าใช้จ่ายก็ถูกรวมไว้ด้วยเช่นกัน  ดังนั้นฉินฟางจึงไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเงินในกระเป๋าสตางค์ของเขา  และเริ่มทำอาหารในทันที  ส่วนเอฟเฟนดี้ก็เริ่มการทำด้วยเหมือนกันอย่างไม่ยอมล้าหลัง

 

ผู้เข้าแข่งขันทั้งสองมีความแตกต่างกันในเรื่องของความนิยมค่อนข้างมาก  เพราะคนจำนวนมากไปอออยู่ทางด้านเอฟเฟนดี้ในทันที  แต่มีสิ่งหนึ่งที่ควรต้องรู้ว่า  เอฟเฟนดี้นั้นเป็นเชฟหลักของลานบาร์บีคิวแห่งนี้  ซึ่งโดยปกติแล้วลูกค้าทั่วไปไม่มีสิทธิ์ที่จะได้ทานอาหารของเขา  ดังนั้นเมื่อตอนนี้พวกนั้นมีโอกาส  แถมไม่ต้องจ่ายเงิน  จึงเป็นธรรมดาที่จะยกโขยงไปลิ้มลองอาหารของเอฟเฟนดี้

 

ในทางตรงกันข้ามพื้นที่ในส่วนของฉินฟางค่อนข้างไร้ผู้คน  มีเพียงแมวจรจัดสองสามตัวเดินไปมารอบบริเวณนั้น  แต่ฉินฟางก็ไม่ได้ใส่ใจ  เพราะเขาสังเกตเห็นบางคนที่ไม่สามารถแย่งพื้นที่หน้าเตาของเอฟเฟนดี้กำลังเดินเข้ามาที่นี่

 

วันนี้อากาศร้อนเกินไป  ดังนั้นถ้าผู้คนเบียดเสียดยื้อแย่งกันแล้ว  ก็คงจะมีคนที่ไม่สามารถทนรับมันได้ไหว  ฉินฟางไม่คิดว่าจะมีใครอดทนรออยู่ได้เป็นเวลานาน

 

“ฉินฟาง  ฉันอยากกินปีกไก่...”

 

ถังเฟยเฟยเรียกร้อง  เมื่อกี้นี้เธอยังกินไม่หายอยาก  ดังนั้นเลยต้องการทานเพิ่มอีก

 

“ขอแกะสะเต๊ะให้พี่สองสามไม้ด้วย!”

 

ซุนซูร้องบอก  ถึงปีกไก่ย่างจะอร่อย  แต่เขาชอบเกินเนื้อแกะพร้อมกับเบียร์เย็นๆ มากกว่า

 

“เฮ้  เจ้าหนุ่ม  ทำกระเทียมเสียบไม้ย่างให้ลุงมาลองทานหน่อย...”

 

คุณลุงซึ่งมีสำเนียงพูดเป็นเอกลักษณ์กล่าว

 

“เฮ้  รูปหล่อ  ฉันอยากกินไส้ย่าง...”

 

คำพูดนี้เอ่ยโดยหญิงสาวนัยน์ตาหงส์ท่าทางดุดัน  หลังจากที่พูดจบเธอก็เลียริมฝีปากจนฉินฟางรู้สึกกลัว  เขารีบก้มหน้าและทำตามออเดอร์อย่างจริงจัง

 

อย่างที่ใครบางคนเคยกล่าวไว้  เมื่อคุณชำนาญในส่วนหนึ่งแล้ว  ก็จะเข้าใจส่วนที่เหลือทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย  ทุกการเปลี่ยนแปลงสามารถย้อนรอยกลับไปยังต้นกำเนิดได้เสมอ

 

ตั้งแต่แรกเริ่มที่เขาได้เรียนรู้การทำบาร์บีคิวจนกระทั่งตอนนี้  เวลาผ่านไปยังไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงเลย  และเขาเพิ่งจะได้ย่างปีกไก่ไปสองไม้เท่านั้น  แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกปั่นป่วนอะไรเมื่อตอนนี้ต้องมาปิ้งย่างอย่างอื่น  ถึงแม้ว่าท่าทางจะยังดูงุ่มง่ามเล็กน้อย  ฉินฟางก็ไม่ได้กังวลอะไร  ทุกสิ่งทุกอย่างดำเนินไปอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย

 

ปีกไก่ย่าง แกะสะเต๊ะ หมูสะเต๊ะ ไส้ย่าง กระเทียมย่าง...  อาหารทุกอย่างถูกปรุงโดยฉินฟาง  นอกจากนี้แล้วเขายังทำการปิ้งย่างตามขั้นตอนให้สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เป็นไปได้  อีกทั้งควบคุมเวลาในการปิ้งย่างให้เหมาะสม  การดูไฟจึงกลายเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป

 

ในขณะที่ท่าทางในการทำอาหารของเขาดูลื่นไหลมากขึ้น  ความเร็วในการปิ้งย่างก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน  อย่างเดียวที่น่าเสียดายคือค่าประสบการณ์ของทักษะกลับเพิ่มขึ้นอย่างเชื่องช้า...

 

“คาดไว้ไม่ผิด  ค่าประสบการณ์เพิ่มขึ้นช้ามากหลังจากทักษะขยับมาอยู่ระดับกลาง”

 

ฉินฟางอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้าโศกอยู่ในใจ  แต่มือของเขาก็ไม่ได้หยุดการเคลื่อนไหวเลย

 

 

……………………………..

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด