ตอนที่แล้วตอนที่ 22   ชั่วมาก็ชั่วกลับ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 24   ฉันจะไปบ้านนาย!

ตอนที่ 23   [ซอสสูตรลับ]


ตอนที่ 23   [ซอสสูตรลับ]

 

ผู้แปล  :  ThreeSwords

ปรับสำนวน  :  ThreeSwords

 

 

“แต่... ข้าไม่มีเงินแล้วนะ!”

 

เหลาซูเฉียงล้วงเข้าไปในกระเป๋าซ้าย  จากนั้นก็กระเป๋าขวา  แต่พบเพียงเศษเงินเล็กน้อยประมาณ 30 หยวน

 

อันธพาลอย่างมันปกติแล้วก็ไม่ได้ทำงานทำการอะไร  จึงเป็นธรรมดาที่จะไม่มีรายได้ประจำ  ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของมันมาจากการเก็บค่า ‘คุ้มครอง’  และมันไม่จำเป็นต้องมีเงินติดตัวตอนที่ออกไปหาอะไรกิน

 

นอกจากนี้มันยังเป็นหัวหน้าแก๊งที่ต้องคอยรักษาหน้าของมันไว้ด้วย  ดังนั้นเมื่อมันมีเงินก็จะไปผลาญที่คลับกับพวกลูกสมุน  ทำให้เงินของมันหมดไปอย่างรวดเร็ว  จนในบางครั้งมันก็ถูกไล่ออกคลับเพราะใช้เงินเกินกว่าที่มี

 

เดิมทีมันมีเงินอยู่ 5,000 หยวนซึ่งได้รับมาจากคนอ้วนเฉิน  เป็นเงินค่าตอบแทนของมันในการจัดการกับฉินฟาง  แต่ก่อนที่มันจะลงมือก็ได้ใช้จ่ายเงินนั่นไปเป็นจำนวนมากแล้ว  จากนั้นมันก็โดนฉินฟางอัดกลับมาจนต้องใช้เงินนั่นไปอีกครั้งกับค่ารักษาพยาบาล  นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมมันจึงมีเงินเหลือเพียง 30 กว่าหยวนในตอนนี้

 

ฉินฟางมองไปยังเงินจำนวนขี้ปะติ๋วที่อยู่ในมือของเหลาซูเฉียง  แบงค์ 10 และ 20 หยวนอย่างละหนึ่งใบกับเงินเหรียญจำนวนหนึ่ง    ฉินฟางยิ้มในทันทีและพูดว่า

 

“แสดงว่าการแทงผมหนึ่งครั้งมีมูลค่า 30 หยวน... เฮ้  เอายังงี้ไหมล่ะ?  เดี๋ยวผมให้เงินแก 300 หยวน  จะได้แทงแกได้ 10 ครั้ง  โอเคไหม?”

 

ขณะที่เขาพูดขู่เหลาซูเฉียง  มีดในมือของฉินฟางก็เลื่อนไปตามผิวหนังของมัน  ราวกับกำลังพยายามหาจุดที่เหมาะสมมากที่สุดเพื่อแทงมัน

 

“มะ... ไม่!”

 

เหลาซูเฉียงกำลังจะร้องไห้อยู่แล้ว

 

“ข้าจะให้เพิ่ม  ข้าจะให้มากกว่านี้!”

 

“ให้?  แกจะให้อะไรล่ะ?  หัวที่อยู่บนสุดของตัวแกหรือไง?”

 

แต่ฉินฟางยังคงไม่อ่อนข้อและทำการพูดขู่ต่อไป  บนตัวของเหลาซูเฉียงไม่มีของมีค่าอะไร  ซึ่งฉินฟางเองก็รู้ดี  แต่ในเวลานี้เขาจงใจที่จะสร้างความลำบากให้กับมัน

 

“ใบรับสภาพหนี้  ให้ข้าเขียนใบรับสภาพหนี้กับแกเป็นไง?”

 

“ใบรับสภาพหนี้?”

 

ฉินฟางรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย  ไม่คิดว่ามีวิธีการเช่นนี้ด้วย  แต่เมื่อเขาเหลือบมองไปยังเหลาซูเฉียง  ก็สังเกตเห็นว่ามันกรอกตาไปมา  เขาจึงยิ้มอย่างเย็นชาในทันที

 

“ไม่ต้องมาปั่นหัวผม!  ใบรับสภาพหนี้งั้นเหรอ?  ด้วยสันดานอย่างแกคงไม่เคยจ่ายเงินที่ติดค้างเอาไว้หรอกใช่มั้ย?... ลืมเรื่องเงินพวกนั้นซะ  ผมจะแทงแกแทน!”

 

ขณะที่พูดออกไปอย่างนั้น  มือของเขาก็เริ่มเคลื่อนไหวและมีดได้เลื่อนไปอยู่ตรงผิวต้นขาของเหลาซูเฉียงแล้ว    เพราะบริเวณนี้มีเนื้อหนังอยู่มากกว่า  จึงเป็นเหตุผลที่ฉินฟางตัดสินใจจะแทงลงไปเบาๆ ที่นี่  ในช่วงหน้าร้อนที่ร้อนเช่นนี้  เหลาซูเฉียงก็เลยสวมกางเกงชายหาดขาสั้น  ดังนั้นต้นขาของมันจึงเปิดโล่ง  ทำให้ฉินฟางแทงได้สะดวกมากขึ้น

 

“ม่ายยย!  ยะ... อย่าแทง!”

 

ตอนที่ฉินฟางกดมีดลง  แม้ว่าจะยังไม่มีเลือดไหลแต่มีดก็ได้เจาะผ่านผิวหนังเข้ามาแล้ว  อีกทั้งความเจ็บปวดของผิวหนังที่ถูกเจาะผ่านเข้ามานั้นก็รู้สึกได้อย่างแจ่มชัด  และนั่นทำให้เหลาซูเฉียงตื่นตระหนก  เพราะไม่คาดคิดว่าฉินฟางจะกล้าแทงมันจริงๆ!

 

“พี่ใหญ่  ท่านพี่ใหญ่ที่เคารพ!  อย่าแทง  ได้โปรดอย่าแทงข้าเลย!  ข้าจะให้ของอื่นเป็นการแลกเปลี่ยนได้ไหม?”

 

เหลาซูเฉียงใช้มือสองข้างของมันจับมือทั้งคู่ของฉินฟางไว้แน่น  แต่มันในเวลานี้ไม่มีเรี่ยวแรงเหลือแล้ว  สามารถทำได้เต็มที่เพียงป้องกันไม่ให้ฉินฟางแทงลงไปลึกกว่านี้

 

“โอ้?  ลองพูดมาให้ผมฟังหน่อยซิ!”

 

ฉินฟางไม่ได้ให้ความสนใจอะไรมาก  คิดว่าเหลาซูเฉียงพยายามที่จะซื้อเวลา  เลยใช้แรงในการกดมีดเพิ่มมากขึ้นเล็กน้อย  จนเลือดเริ่มที่จะไหลออกมาจากจุดที่แทงลงไปในทันที

 

“พี่ใหญ่  พี่ใหญ่!  คุณขายราเม็งใช่ไหม?  ตอนที่พ่อข้ายังมีชีวิตอยู่  เขาก็ขายราเม็งเช่นกัน  ยอดขายของร้านในตอนนั้นดีมากๆ  และนั่นเป็นเพราะซอสของพ่อข้ารสเด็ดกว่าของเจ้าอื่น!  ตราบเท่าที่นายท่านปล่อยข้าไป  ข้าก็จะบอกซอสสูตรลับนั่นให้!”

 

ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าเหลาซูเฉียงเทหมดหน้าตัก  แต่เมื่อฉินฟางได้ยินเรื่องที่มันพูด  เขาก็กังขา  ถ้าซอสนั่นมันดีมากจริงๆ  เหลาซูเฉียงคงไม่กลายมาเป็นอันธพาลและใช้ชีวิตฉาบฉวยตั้งแต่แรกแล้ว

 

“พี่ใหญ่  ข้าพูดเรื่องจริง!  เพราะข้าเป็นคนขี้เกียจ  ก็เลยแอบหนีไปเล่นบ่อยๆ ตอนที่พ่อข้าบังคับให้ไปเรียน...”

 

พอเห็นฉินฟางมองมันด้วยท่าทีสงสัย  เหลาซูเฉียงจึงพูดออกมาอย่างอายๆ

 

“แต่ข้ารู้สูตรลับนั่น!  ตราบเท่าที่พี่ใหญ่ทำตามที่ข้าบอกแล้ว  ก็จะสามารถทำซอสนั่นได้แน่นอน”

 

“แกพูดราวกับว่ามันเป็นเรื่องจริง  แต่ใครล่ะจะเชื่อ?”

 

เป็นธรรมดาที่ฉินฟางจะไม่เชื่อคำพูดของเหลาซูเฉียง  เพราะมันแสดงตัวว่าเป็นคนเลวตั้งแต่แรก  และพร้อมทำทุกอย่างเพื่อหลบเลี่ยงสถานการณ์นี้

 

เหลาซูเฉียงยิ้มอย่างขมขื่น  ดวงตาเบิกกว้าง  จากนั้นก็ชี้ไปยังลูกสมุนที่เพิ่งซ้อมมันเมื่อสักครู่นี้

 

“เรื่องที่ข้าพูดเป็นความจริง!  จริงแท้แน่นอน!  ถ้าไม่เชื่อก็ถามเจ้าสาม!  มันเป็นเพื่อนบ้านข้าตั้งแต่เด็ก  รู้เรื่องการค้าของพ่อข้า...”

 

“มันเป็นความจริง  สิ่งที่ลูกพี่ข้าพูดล้วนเป็นความจริง!”

 

เมื่อฉินฟางหันหน้าไปหามัน  ใบหน้าที่หยาบกระด้างของเจ้าสามก็รีบยิ้มรับในทันที  และผงกหัวรัวๆ  มันเพิ่งจะประจักษ์ถึงความโหดเหี้ยมของฉินฟางด้วยตาตัวเอง  มันไม่ต้องการที่จะลงเอยแบบเดียวกับเหลาซูเฉียง  ดังนั้นจึงรีบตอบกลับโดยไม่รีรอ

 

“จริงเหรอ?  งั้นก็เล่ามาให้ฟังหน่อย”

 

อันที่จริงข้อเสนอของเหลาซูเฉียงนั้นเย้ายวนใจของฉินฟาง  ร้านราเม็งของเขาขายดีมากก็จริง  แต่หลักๆ แล้วเป็นเพราะเส้นบะหมี่ที่เขาทำมีคุณภาพดีมาก  ส่วนซอสนั้นค่อนข้างธรรมดา  ลูกค้าส่วนใหญ่พูดเช่นนั้น  ทว่าฉินฟางในเวลานี้ยังไม่มีวิธีที่จะปรับปรุงซอสของเขาให้ดีขึ้นได้

 

“ได้สิแต่พี่ใหญ่ต้องให้สัญญา  หลังจากที่ข้าบอกสูตรนั่นไปแล้ว  ห้ามมายุ่งวุ่นวายกับข้าอีกต่อไป!”

 

ตอนนี้เหลาซูเฉียงไม่มีทางเลือก  แต่ก็ไม่ต้องการปล่อยนกอินทรีไปก่อนที่จะได้เห็นกระต่าย*  ดังนั้นมันจึงทำการต่อรองกับฉินฟาง

 

*ปล่อยนกอินทรีไปก่อนที่จะได้เห็นกระต่าย  เป็นการอุปมาอุปไมยว่าไม่ควรรีบหยิบยื่นจนกว่าจะได้รับการยืนยันหรือผลประโยชน์

 

“แกวางใจได้เลย  แม้ว่าอายุผมจะยังไม่มากนัก  แต่ก็ไม่คิดทำตัวต่ำช้าเหมือนกับแก  ตราบเท่าที่แกไม่ได้โกหก  ผมก็จะไม่ทำให้ชีวิตของแกยากลำบาก  แต่ถ้าแกโกหกแล้วล่ะก็... หึหึ!”

 

หลังจากคิดใคร่ครวญสักพัก  ฉินฟางก็ตัดสินใจเชื่อว่าเรื่องที่เหลาซูเฉียงพูดนั้นเป็นความจริง  ถึงสุดท้ายต่อให้เหลาซูเฉียงโกหก  ฉินฟางก็ไม่ได้สูญเสียอะไร  ดังนั้นเขาจึงรับปากในทันที  แต่เป็นธรรมดาที่เขาจะไม่ลืมใช้ไม้แข็งหลังจากใช้ไม้นวม  มีดในมือของฉินฟางก็เลยตรงไปจ่อไว้ที่ ‘น้องชาย’ ของเหลาซูเฉียง

 

“เฮ้ย!”

 

กางเกงชายหาดแบบขาสั้นของเหลาซูเฉียงถูกเจาะเป็นรู  ส่วนมีดที่เย็นปานน้ำแข็งก็แทบจะสัมผัสกับ ‘น้องชาย’ ของเหลาซูเฉียง  ซึ่งมันอยู่ใกล้กันมากเกินไปจนถ้าฉินฟางเบี่ยงมีดไปสักเล็กน้อยแล้ว  ‘น้องชาย’ ของเหลาซูเฉียงก็อาจจะใช้การไม่ได้

 

ด้วยการแทงในครั้งนี้  ความคิดเจ้าเล่ห์เพทุบายใดๆ ที่เหลาซูเฉียงนึกไว้ล้วนหายไปหมดสิ้น  ใบหน้าของมันเต็มไปด้วยน้ำตา  ถึงแม้มันจะกลัวโดนแทงแต่สุดท้ายก็แค่ไปพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสักพัก  แต่ถ้า ‘น้องชาย’ ของมันโดนแทง...

 

มันไม่กล้าที่จะนึกถึงอีกต่อไป  และตอบกลับอย่างร้อนรน

 

“พูดแล้ว  ข้าพูดแล้ว!”

 

ฉินฟางผงกหัวและทำการดึงมีดกลับไปหลังจากทำให้เหลาซูเฉียงตกใจ  จากนั้นเขาก็เอาหูไปใกล้ปากเหลาซูเฉียง  เพื่อทำการฟังสิ่งที่มันกำลังบรรยายให้กับเขาเรื่องสูตรซอสนั่น

 

“พูดมา”

 

ฉินฟางรอเหลาซูเฉียงที่พยายามขุดรายละเอียดเกี่ยวกับสูตรซอสนั่นจากส่วนลึกของสมองทีละน้อย  เพราะมันต้องรื้อฟื้นความจำจึงเล่าได้ไม่ต่อเนื่อง  แต่สุดท้ายก็พูดออกมาจนจบ

 

< คุณได้รับ [ซอสสูตรลับ] >

 

เกือบจะในเวลาเดียวกันกับที่เหลาซูเฉียงเล่าจบ  เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นในหัวของฉินฟาง  เห็นได้ชัดว่าซอสสูตรลับที่เหลาซูเฉียงพูดออกมาเป็นของจริง  และเป็นฉบับที่สมบูรณ์ทีเดียว  ส่วนคุณสมบัติที่ได้จากซอสนั่นคงจะต้องรอฉินฟางทำมันขึ้นมา

 

 

……………………………..

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด