ตอนที่แล้วตอนที่ 19   ผู้กล้าช่วยเหลือสาวงาม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 21   ถ้าปลุกไม่ตื่นก็ซ้อมมันซะ

ตอนที่ 20   ด้วยเกี๊ยวที่อยู่ในมือข้า ใครหาญกล้ามาต่อกร!


ตอนที่ 20   ด้วยเกี๊ยวที่อยู่ในมือข้า ใครหาญกล้ามาต่อกร!

 

ผู้แปล  :  ThreeSwords

ปรับสำนวน  :  ThreeSwords

 

 

“นาย...”

 

ไม่เพียงอันธพาลทั้งสามจะกลายสภาพไปเป็นไอ้ตัวโง่เง่า  กระทั่งหญิงสาวที่เรียกว่าเสี่ยวซูก็ร้องอุทานด้วยความตกใจ  เพราะในชีวิตนี้ของพวกเขาไม่เคยเห็นใครหลังจากที่โดนแทงและเสียเลือดแล้ว  ยังจะมีอารมณ์มากินเกี๊ยวซ่า

 

ด้วยบาดแผลที่หนักหนาขนาดนี้  ถ้าเป็นคนอื่นแล้ว  กระทั่งขยับตัวก็เป็นเรื่องที่ยากลำบาก  มีน้อยคนมากที่จะเจริญอาหารอย่างฉินฟาง

 

“ผมสบายดี...”

 

ขณะที่ฉินฟางกำลังเคี้ยวเกี๊ยวซ่าตุ้ยๆ  เขาก็ไม่ลืมที่จะยิ้มให้กับเสี่ยวซูที่อยู่ด้านข้าง  อย่างไรก็ตามในใจเขาก็นึกก่นด่าเธออยู่บ้าง

 

‘ยัยบ้าเอ๊ย!  เพื่อช่วยเธอ  ผมเกือบจะเอาชีวิตไปทิ้ง  แต่เธอก็ยังคงยืนอยู่ที่นี่เหมือนคนปัญญาอ่อน!  เลือดที่ผมเสียไปทั้งหมดจะสูญเปล่าอย่างงั้นเหรอ!?’

 

แน่นอนว่าฉินฟางแค่นึกอยู่ในใจเท่านั้น  เพราะเขาคงไม่สามารถพูดอย่างนั้นต่อหน้าเธอได้

 

ถึงแม้ว่าเขาจะบ่นอยู่ภายในใจ  และเลือดก็ยังคงไหลออกมาจากบาดแผล  แต่หลังจากยัดเกี๊ยวซ่า 7-8 ชิ้นลงไปในกระเพาะ  ค่า HP ของเขาก็พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว  การเพิ่มขึ้นนั้นเห็นได้ชัดว่าเร็วกว่าอัตราของเลือดที่เสียไป  ทำให้ในตอนนี้ชีวิตของเขาถูกช่วยเหลือไว้ชั่วคราว

 

ไม่เพียงเท่านั้น  ขณะที่จำนวนของเกี๊ยวซ่าลดลง  ปริมาณของเลือดที่สูญเสียไปก็ลดลงด้วยเช่นกัน  และอาการของเขาก็เริ่มทรงตัว  ในเวลาเดียวกันนั้นผิวหน้าของฉินฟางก็กลายเป็นแดงมากขึ้น  ไม่ซีดจนน่ากลัวเหมือนเมื่อสักครู่นี้

 

เสี่ยวซูจริงๆ แล้วไม่เชื่อในคำพูดของฉินฟาง  แต่เมื่อท่าทางของฉินฟางค่อยๆ เริ่มดีขึ้น  และบาดแผลที่เอวก็ประสานกันอย่างช้าๆ  เธอทำได้เพียงมองเหตุการณ์ประหลาดนี้ด้วยสายตาที่ว่างเปล่า  และก็นิ่งอึ้งไปโดยไม่มีใครรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่

 

“ลูกพี่  พวกเรา...”

 

เจ้าลูกสมุนทั้งสองรู้สึกขนลุกหลังจากเห็นการเปลี่ยนแปลงของฉินฟาง  และแทบจะไม่สามารถอยู่ดูต่อไปได้  ถ้าไม่เป็นเพราะเหลาซูเฉียงยังยืนอยู่ที่นี่  พวกมันทั้งสองคงจะวิ่งหนีไปนานแล้ว

 

เรื่องก่อนหน้านี้ซึ่งทำให้ลูกสมุนชุดที่แล้วของเหลาซูเฉียงวิ่งหนีไป  มันก็ก่นด่าพวกนั้นในใจว่าเป็นพวกขยะใจเสาะ  แต่ใครจะไปคิดว่าไม่นานหลังจากนั้น  ลูกสมุนชุดใหม่ของมันจะกลายเป็นพวกขยะใจเสาะด้วยเช่นกัน

 

เมื่อมันมองไปยังฉินฟางซึ่งก่อนหน้านี้อยู่บนปากเหวแห่งความตาย  แทนที่จะโทรเรียกรถพยาบาลตอนที่เขากำลังจะตาย  ฉินฟางกลับเริ่มกินเกี๊ยวซ่าซึ่งนั่นทำให้เขาดูน่าหวาดกลัวพอสมควร  แต่เหนือสิ่งอื่นใดการที่เขากินเกี๊ยวซ่ากลับมีผลต่อการหยุดไหลของเลือดจนสีหน้าเขาดูดีขึ้น  ในเวลานี้ฉินฟางดูไม่เหมือนคนที่กำลังจะตาย  ไม่ว่าจะมองดูเขายังไง

 

“ไป...”

 

เหลาซูเฉียงรู้สึกแปลกใจและตกใจเป็นอย่างมาก  เหตุการณ์ที่อยู่ต่อหน้านั้นเกินกว่าขอบเขตความเข้าใจของมัน  อันที่จริงแล้วมันต้องการที่จะหลบหนีไปตั้งแต่แทงฉินฟางและเห็นเขาเสียเลือดเป็นจำนวนมาก

 

มันวางแผนที่จะออกไปจากเมืองแห่งนี้  ซึ่งแน่นอนว่าดีกว่าที่จะถูกจับในคดีฆาตกรรม  แต่ในชั่วพริบตาฉินฟางก็ฟื้นตัว  ดังนั้นมันจึงไม่จำเป็นจะต้องหลบหนีอีกต่อไป  ทว่าสถานการณ์ในเวลานี้ก็ดูน่าขนลุกเกินไป  ทำให้มันยังคงตัดสินใจที่จะจากไปดีกว่า

 

“เฮ้  เหลาเกอ  พวกเรายังไม่ทันได้เจรจาตกลงกันเลย  คุณต้องการที่จะไปแล้วงั้นเหรอ?”

 

แต่ขณะที่มันกำลังจากไปนั้น  ก็มีหินก้อนหนึ่งโยนมาที่หัวของมัน  ซึ่งนั่นทำให้เหลาซูเฉียงหันกลับมาเนื่องจากความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในทันทีทันใด  สิ่งที่มันเห็นตอนหันกลับมาคือตัวของฉินฟางซึ่งยืนอยู่และกำลังอบอุ่นร่างกาย  คล้ายว่าเตรียมที่จะต่อสู้กับพวกมันอีกครั้ง

 

“ไอ้หนุ่ม  แกคงจะได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้  เรื่องราวทั้งหมดเป็นเพราะคนอ้วนเฉินขอร้องให้ทำ  พวกข้าก็แค่รับเงินมาและทำงานให้คุ้มค่าเงินนั่น  ดังนั้นพวกเราทั้งสองฝ่ายไม่มีเรื่องบาดหมางซึ่งกันและกัน  ถูกมั้ย?”

 

อันที่จริงแล้วเหลาซูเฉียงรู้สึกหวาดกลัวเมื่อมองไปยังฉินฟาง  ก็ใครมันจะไปเคยเห็นคนที่ยืนอยู่ได้แถมยังอบอุ่นร่างกายหลังจากถูกแทงกันล่ะ?  มีเพียงคนซึ่งไร้ความกลัวเท่านั้นที่จะไม่ตกอกตกใจหลังจากได้เห็นฉากที่น่าแปลกประหลาดเช่นนี้  และแน่นอนว่าเหลาซูเฉียงไม่ใช่คนประเภทนั้น

 

“ไม่มีเรื่องบาดหมางงั้นเหรอ?  แกคิดว่าพวกเราไม่มีเรื่องบาดหมางกัน...”

 

แต่ฉินฟางไม่เพียงตอบกลับด้วยรอยยิ้มที่เยียบเย็น  และไล่ต้อนเหลาซูเฉียงกับพวกไปทีละก้าว  สายตาของฉินฟางก็ดุร้ายมากด้วยเช่นกัน  เหลาซูเฉียงคนนี้เป็นคนขี้ลืมจริงๆ  ก่อนหน้านี้มันเพิ่งจะถูกอัดเพราะข่มเหงผู้หญิง  แต่ตอนนี้มันทำราวกับว่าลืมเหตุการณ์นั้น  และเริ่มทำการย่ำยีผู้หญิงคนอื่นอีกครั้ง

 

“ลูกพี่...!”

 

ลูกสมุนทั้งสองก็รู้สึกขนลุกด้วยเช่นกัน  อย่างไรก็ตามในท้ายที่สุดแล้วฉินฟางก็ยังเป็นคนคนหนึ่ง  สาเหตุที่พวกมันประสบความสูญเสียเช่นนี้เป็นเพราะไม่ได้เตรียมตัวรับการซุ่มโจมตีของฉินฟาง  ตอนนี้พวกมันมีอยู่สามคนกับฝ่ายตรงข้ามซึ่งมีอยู่เพียงคนเดียว  เห็นได้ชัดว่าใครเป็นคนได้เปรียบ  ถ้าพวกมันทั้งสามไม่สามารถกระทั่งเอาชนะฉินฟางด้วยข้อได้เปรียบที่มีเหลือล้นในตอนนี้  พวกมันก็ควรเลิกเป็นอันธพาลไปได้แล้ว

 

“แผลของเจ้าเด็กนั่น...”

 

แต่เหลาซูเฉียงก็ยังรู้สึกลังเล  แผลถูกแทงที่เอวนั้นไม่ใช่เรื่องเล็กๆ  ถ้าฉินฟางเสียเลือดจำนวนมากอีกครั้งแล้ว  เขาก็อาจจะตายจริงๆ

 

*ผัวะ*

 

แต่ฉินฟางไม่ได้ให้ทางเลือกพวกมันหลบหนี  หินขนาดไข่นกกระทาก้อนหนึ่งจู่ๆ ก็ลอยออกจากมือของฉินฟาง  และตรงไปกระทบที่หน้าผากของเหลาซูเฉียง  จนเลือดเริ่มที่จะไหลในทันที

 

< ทักษะ [ลอบโจมตี] ทำงาน,  เป้าหมายตกอยู่ในสถานะ [มึนงง] >

 

การใช้งานทักษะ [ลอบโจมตี] ประสบผลสำเร็จอย่างน่าประหลาดใจ  และด้วยความจริงที่ว่าการใช้วัตถุอื่นซึ่งไม่ใช่ [ฮูลิแกนบริค] ส่งผลต่อความเป็นไปได้ในการติดสถานะ [มึนงง] ลดต่ำลงนั้น  ก็ยิ่งทำให้ฉินฟางรู้สึกประหลาดใจมากขึ้นและมีความยินดีในทันที  เขาฉวยข้อได้เปรียบที่เหลาซูเฉียงไม่สามารถสั่งการลูกสมุนของมันได้เนื่องจากการ [มึนงง]  เข้าทำการถีบไปที่หน้าอกของเหลาซูเฉียงอย่างแรง

 

*ตั๊บ!*

 

เสียงทึบและต่ำดังสนั่น  ร่างผอมบางของเหลาซูเฉียงปลิวไปเพราะแรงถีบของฉินฟาง  ตัวของมันงอเป็นรูปตัววีขณะที่ลอยไปด้านหลัง  จากนั้นก็ชนเข้ากับเสาไฟถนนอย่างแรงและแน่นิ่งไป

 

“ลูกพี่!... แมร่งเอ๊ย!  มึงตาย!”

 

ส่วนเจ้าลูกสมุนทั้งสองที่กำลังลังเลและไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าจะสู้หรือหนีนั้น  ในทันทีที่เหลาซูเฉียงพลาดท่าให้กับฉินฟาง  พวกมันก็ไม่กล้าลังเลอีกต่อไป  และรีบเหวี่ยงหมัดไปยังฉินฟาง

 

เป็นธรรมดาที่ฉินฟางจะไม่ต้องการแสดงความอ่อนแอใดๆ  และเหวี่ยงหมัดของเขาไปยังเจ้าลูกสมุนทั้งสองด้วยเช่นกัน  พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาไม่เกรงกลัวเรื่องจำนวนคนที่มากกว่าเลย

 

*ผัวะ!*  *ผัวะ!*  *ผัวะ!*

 

ฉินฟางกับเจ้าลูกสมุนทั้งสองต่างโยนหมัดใส่กันโดยไร้ซึ่งเทคนิคในการชก  ทั้งสองฝ่ายมีความคิดเพียงแค่ว่า ‘ถ้าโดนไปหนึ่งหมัด  ก็จะเอาคืนสองหมัด’  พวกนั้นยังคงต่อสู้กันต่อไป  ส่วนหญิงสาวที่เรียกว่าเสี่ยวซูนั้นก็กำลังนึกกังวลอยู่ด้านข้าง  เพราะเธอเองไม่รู้ว่าจะช่วยเขาได้ยังไง

 

การต่อสู้สำหรับพวกอันธพาลแล้ว  มันเป็นเรื่องปกติธรรมดาเหมือนกับการกิน  แต่สำหรับฉินฟางที่เพิ่งเรียนจบมอปลาย  การต่อสู้เป็นสิ่งที่แตกต่างไปจากตัวตนของเขาเกือบจะทั้งหมด

 

กำปั้นและลูกเตะถูกระดมเข้าใส่ฉินฟางอย่างต่อเนื่อง  ถ้ามีคนอื่นทั่วไปมาแทนฉินฟางในตอนนี้  พวกนั้นก็อาจจะทรุดลงไปนานแล้ว  แต่ฉินฟางกลับสมบูรณ์ดี  และอาศัยจังหวะที่พวกอันธพาลเข้าปะทะตรงๆ ทำการเปิดช่องสวนพวกมันกลับไปด้วย

 

ขนาดถูกฟาดอย่างหนักด้วยเก้าอี้พับ  ฉินฟางยังเสียค่า HP แค่ 4 หน่วย  เมื่อเปรียบเทียบกันแล้วหมัดของพวกอันธพาลก็ไม่ได้มีอะไรเลย

 

หลังจากถูกอัดมาเป็นเวลานาน  ฉินฟางเสียค่า HP ไป 1 หน่วยเท่านั้น  ในทางตรงกันข้ามการตอบโต้ของฉินฟางกลับรุนแรงมากขึ้น  และการโต้กลับเกือบทั้งหมดทำให้พวกมันเอนไปเอนมา

 

เวลาแห่งการต่อสู้ผ่านไปอย่างช้าๆ จนเจ้าลูกสมุนทั้งสองก็รู้สึกเหนื่อยล้าอยู่บ้าง  ส่วนฉินฟางศัตรูของพวกมัน  ก็แสดงให้เห็นการเคลื่อนไหวที่อ่อนแรงด้วยเช่นกัน  ซึ่งนั่นทำให้พวกมันรู้สึกมั่นใจว่าจะชนะ

 

แต่ในขณะที่พวกมันคิดว่ากำลังจะชนะ  ทันใดนั้นฉินฟางก็พุ่งเข้าหาหนึ่งในพวกมัน  และใช้แรงเฉื่อยจากร่างกายของเขาทำการฝ่าวงล้อม  จากนั้นก็รีบหยิบเกี๊ยวซ่าออกมาจากกระเป๋าและเริ่มรับประทาน

 

เจ้าลูกสมุนทั้งสองปากอ้าตาค้างในทันที  มีใครที่ไหนเขากินเกี๊ยวซ่าระหว่างการต่อสู้กันวะ?

 

แต่ในช่วงเวลาที่พวกมันตกตะลึง  ฉินฟางก็ได้กินเกี๊ยวซ่าลงไปสามชิ้นแล้ว  ท่าทางอ่อนล้าก่อนหน้านี้ของฉินฟางหายไปในทันที  และกลับมาเริงร่าอีกครั้ง  การชกของเขาก็กลายเป็นเฉียบคมมากขึ้นด้วยเช่นกัน

 

“ฮิฮิ... ด้วยเกี๊ยวที่อยู่ในมือข้า  ใครหาญกล้ามาต่อกร!”

.

 

……………………………..

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด