ตอนที่แล้วตอนที่ 14   [เกี๊ยวซ่าสูตรลับ (ฉบับไม่สมบูรณ์)]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 16   ไม่มีใครหนีพ้นผลกรรมชั่วของตนได้

ตอนที่ 15   ศัตรูมักจะเดินบนหนทางที่คับแคบ


ตอนที่ 15   ศัตรูมักจะเดินบนหนทางที่คับแคบ

 

ผู้แปล  :  ThreeSwords

ปรับสำนวน  :  ThreeSwords

 

 

ฉินฟางยังคงพูดคุยกับลุงฟางเกี่ยวกับเรื่องสัพเพเหระ  แต่ความสนใจของเขาก็ไม่เบี่ยงไปจากคนอ้วนเฉินเลย

 

อาจเป็นเพราะเขารู้สึกสำนึกผิดหรือที่ฉินฟางกำลังนั่งอยู่นั้นสร้างแรงกดดันจำนวนมาก  จนคนอ้วนเฉินไม่สามารถทำธุรกิจได้อย่างสบายใจ  ดังนั้นเมื่อการค้าขายเริ่มซบเซาคนอ้วนเฉินจึงเก็บร้านในทันทีและรีบร้อนเดินทางกลับบ้าน

 

“ลุงฟาง  ขอเกี๊ยวซ่าสองชุดครับ  ผมจะกลับเอาไปทานที่บ้าน”

 

พอเห็นว่าคนอ้วนเฉินปิดร้านและเตรียมที่จะกลับบ้าน  ฉินฟางที่นั่งมาอยู่สักพักแล้วก็สั่งเกี๊ยวซ่าสองชุดจากลุงฟางพร้อมกับยิ้มให้  หลังจากที่เขาจ่ายเงินก็หยิบถุงใส่เกี๊ยวซ่ามาไว้ในมือและหันหลังจากไป  และทิศทางที่เขาเดินไปนั้นก็เหมือนกับว่ากำลังจะกลับไปที่บ้านจริงๆ

 

อย่างไรก็ตามหลังจากเคลื่อนตัวผ่านกลุ่มคนไปแล้ว  ฉินฟางก็เปลี่ยนทิศทางที่เขาเดินอีกครั้งหนึ่งเพื่อตรงไปยังบ้านของคนอ้วนเฉิน  ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็ไล่คนอ้วนเฉินทัน

 

ถึงแม้ว่าเมืองหนิงไห่จะเป็นเมืองใหญ่และเจริญรุ่งเรือง  แต่พื้นที่รอบมหาวิทยาลัยก็ยังมีสถานที่ซึ่งยังเปลี่ยวพอสมควร  นอกจากนี้ก็อยู่ในระหว่างวันหยุดภาคเรียนฤดูร้อนทำให้มีนักเรียนอาศัยอยู่ที่หอพักไม่มากนัก  มิหนำซ้ำตอนนี้ก็ดึกมากแล้วจนคนที่กำลังเดินอยู่บนถนนมีเพียงสองสามคน  ที่ซึ่งออกมากลางดึกก็เพราะต้องการเดินเล่นในบริเวณใกล้บ้าน  ดังนั้นจึงไม่มีใครคิดว่าการกระทำของฉินฟางน่าสงสัยและคิดว่าเขาก็ออกมาเดินเล่นด้วยเช่นกัน

 

ตรงกันข้ามคนอ้วนเฉินกลับมีพฤติกรรมที่น่าสงสัยเป็นอย่างมาก  ตอนที่กำลังเดินเขาก็จะหันกลับมามองข้างหลังเป็นบางครั้ง  และมีลักษณะของการระแวดระวังฉาบอยู่บนใบหน้าของเขา

 

ตามปกติแล้วฉินฟางกับคนอ้วนเฉินไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์อะไรมากนักดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้สนิทกัน  ในความเป็นจริงแล้วพวกเขาขายของอย่างเดียวกันก็นับได้ว่าเป็นคู่แข่งกัน  โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคนอ้วนเฉินแสดงความเกลียดชังโดยการให้พวกอันธพาลไปสร้างความวุ่นวายที่ร้านของฉินฟาง  อย่างไรก็ตามผู้คนก็รู้ว่าคนอ้วนเฉินค่อนข้างที่จะหยิ่งและดูถูกคนอื่นเพราะถือว่าอาวุโสมากกว่า  ดังนั้นเมื่อเปรียบเทียบกับท่าทีระแวดระวังของคนอ้วนเฉินที่แสดงในตอนนี้แล้วก็เป็นอะไรที่ต่างไปจากตัวตนโดยทั่วไปของเขา

 

และถ้าพฤติกรรมที่เขาแสดงออกซึ่งเปลี่ยนแปลงไปมากเช่นนี้เป็นผลอันเนื่องมาจากการปรากฏตัวของฉินฟางเมื่อสักครู่ที่ผ่านมาแล้วล่ะก็  โดยที่ไม่ต้องพูดอะไรผู้คนก็จะสามารถรับรู้ได้ว่าเขากระทำความผิดมา

 

ในช่วงตอนกลางคืนของฤดูร้อนมีบางครั้งที่ลมเย็นพัดผ่านมาจนทำให้เนื้อตัวรู้สึกสบาย  และบนท้องฟ้านั้นก็มีดวงดาวส่องแสงระยิบระยับกับดวงจันทร์ที่ลอยเฉิดฉายยามราตรี  มันเป็นคืนที่สภาพอากาศดี

 

ท่าทางการเดินของฉินฟางดูผ่อนคลายและในมือของเขาก็มีเกี๊ยวซ่าที่สั่งใส่ถุงเพื่อนำกลับไป  ซึ่งตอนนี้มันก็ได้เย็นลงอย่างช้าๆ แล้วดังนั้นการที่จะรับประทานมันเข้าไปย่อมไม่ลวกลิ้นอย่างแน่นอน

 

ในทางตรงกันข้ามท่าทางการเดินของคนอ้วนเฉินดูไม่ผ่อนคลายเลย  ด้วยใบหน้าที่ดูเหมือนคนทำอะไรผิดมาสักอย่างจนกลายเป็นระวังว่าจะถูกใครพบเห็น  นอกจากนี้ยังเลือกถนนที่สามารถหลบเลี่ยงผู้คนหรือมีไฟสว่างสลัวๆ  ถ้าฉินฟางไม่ได้ทำการติดตามอย่างระมัดระวังแล้วคนอ้วนเฉินก็คงหายลับไปจากสายตาของเขา

 

โดยที่ยังไม่ทันได้ตระหนักฉินฟางก็เดินตามเงาของคนอ้วนเฉินมากว่ายี่สิบนาทีแล้วแต่เขาก็ยังไม่กลับถึงบ้าน  และเมื่อฉินฟางมองไปรอบๆ ก็พบว่าพวกเขาอยู่ในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยจนเกือบจะถึงตึกเรียนอยู่แล้ว  มันเป็นสถานศึกษาที่ฉินฟางกำลังไปในเร็วๆ นี้  มหาวิทยาลัยหนิงไห่

 

ขณะที่ฉินฟางกำลังงุนงงกับการกระทำของคนอ้วนเฉิน  ทันใดนั้นคนอ้วนเฉินก็เดินเข้าไปในตรอกที่อยู่ข้างมหาวิทยาลัยหนิงไห่

 

ตรอกนี้แคบมากและแทบจะเดินเข้าไปได้ทีละคน  ถ้าเป็นรถมอเตอร์ไซด์หรือสกู๊ตเตอร์แล้วก็อาจจะเบียดผ่านเข้าไปได้  แต่ถ้าเป็นรถยนต์แน่นอนว่าไม่สามารถเข้าไปได้เลย

 

ตรอกนี้ค่อนข้างที่จะเปลี่ยวด้วยเช่นกัน  และไม่มีหลอดไฟติดตั้งอยู่บนถนนสายหลัก  มีเพียงแสงไฟเล็กน้อยตรงบริเวณทางเข้ากับโคมไฟสลัวๆ บนกำแพงที่กำลังส่องลงมาบนสถานที่แห่งนี้เท่านั้น

 

พูดง่ายๆ ว่าบนถนนส่วนใหญ่ของตรอกนี้เป็นแค่ทางเดินที่ไม่มีแสงไฟใดๆ เลย

 

พอเห็นคนอ้วนเฉินเดินเข้าไปตรอกนี้แล้ว  ฉินฟางก็เตรียมจะตามเข้าไปด้วยเช่นกัน  ขณะที่เขามองไปยังซอยนี้ก็พบว่ามันมืดเล็กน้อยและไม่มีผู้คน  ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการดักทำร้าย

 

“คนอ้วนเฉินวางแผนที่จะมาที่นี่หรือเป็นแค่เรื่องบังเอิญกันนะ?  มาในสถานที่แบบนี้เหมือนกับจะบอกผมว่าช่วยกรุณาทำร้ายฉันด้วยนะ  ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงล่ะมั้ง?”

 

ฉินฟางอดไม่ได้ที่จะคิดอย่างนั้นในใจ  หลังจากที่เพ่งความสนใจอยู่สักพักเขาก็แบมือออก  อิฐธรรมดาหนึ่งก้อนที่มาจากไหนไม่รู้ก็ปรากฏขึ้นในมือของเขา  ซึ่งสิ่งที่ฉินฟางต้องการจากมันก็คือ ‘พลังโจมตี +1 กับมีโอกาสมากขึ้นที่จะติดสถานะ [มึนงง]’

 

หลังจากที่ฉินฟางวางแผนการลงมือของเขาเสร็จสิ้นก็เดินหน้าเข้าไปในตรอก  แต่ในความเป็นจริงแล้วช่วงเวลาวิกฤตบ่อยครั้งก็มักจะหักมุมและพลิกผัน

 

ขณะที่ฉินฟางกำลังฉวยโอกาสนี้ทำการสั่งสอนคนอ้วนเฉินเพื่อให้เขาคิดให้ดีเกี่ยวกับการเล็งเป้ามาที่ฉินฟางอีกครั้ง  จากในความมืดก็มีผู้คนสองสามคนออกมาปิดกั้นทางเดินของคนอ้วนเฉินไว้

 

คนอ้วนเฉินในเวลานี้ก็ระมัดระวังมากอยู่แล้วราวกับกลัวว่าจะเผชิญหน้ากับใครบางคน  ช่วงเวลาที่เห็นคนมาปิดกั้นทางเดิน  โดยที่ไม่ทันได้ทราบแน่ชัดว่าพวกนั้นเป็นใครเขาก็หันหลังและวิ่งกลับไปยังทางที่เดินมาตามสัญชาตญาณ

 

“ห่าเอ๊ย!  ไล่จับมันไว้!”

 

คนเหล่านั้นที่มาปิดกั้นทางเดินไม่ได้คาดคิดว่าคนอ้วนเฉินจะหนีได้เร็วมากขนาดนี้ด้วยเช่นกัน  ไม่ทันได้ให้โอกาสพวกนั้นเอ่ยปากพูดสักคำคนอ้วนเฉินก็วิ่งจากไปแล้ว  ผู้ที่เป็นหัวหน้าของพวกที่มาปิดกั้นถนนก็ก่นด่าเสียงดังในทันทีและสั่งให้คนของมันไล่ตามไป

 

พอเห็นภาพดังกล่าวฉินฟางก็สะดุ้งตกใจเช่นกัน  แต่เขาจงใจที่จะไม่เข้าไปข้องแวะกับสถานการณ์ที่วุ่นวาย  ดังนั้นจึงยกเลิกการเข้าไปในตรอกโดยทันที  จากนั้นก็เดินไปยังถนนฝั่งตรงข้าม  นั่งลงพร้อมกับเฝ้ารอดูโชว์

 

แม้ว่าคนอ้วนเฉินจะออกวิ่งเป็นคนแรกแต่เพราะอายุไม่ได้อยู่ในวัยหนุ่มแล้ว  ประกอบกับความจริงที่ว่าเขาอ้วนเกินไป  ถึงจะได้เปรียบในตอนเริ่มต้นแต่เขาก็ไม่สามารถวิ่งนำได้นานและกระทั่งสุดท้ายก็หอบอย่างหนัก  จนเจ้าลูกสมุนทั้งสองคนนั่นก็สามารถไล่จับเขาได้อย่างง่ายดายหลังจากที่ใช้ความพยายามมากขึ้น

 

“ไอ้หยา~”

 

เจ้าลูกสมุนสองคนนั่นไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะไม่มีมารยาทกับเขาแน่  และช่วงเวลาที่ไล่จับเขาได้นั้นพวกมันก็เตะคนอ้วนเฉินอย่างแรงคนละที  ลูกเตะทั้งสองเรียกเสียงครวญครางจากคนอ้วนเฉินและร่างที่อ้วนเกินไปของเขาก็ล้มลงกับพื้น  บนใบหน้านั้นแสดงสีหน้าที่ตื่นกลัวอย่างที่สุดจนเห็นได้ชัด

 

ในเวลานี้หัวหน้าของกลุ่มคนที่ขวางคนอ้วนเฉินก็ไล่ตามมาทันด้วยเช่นกัน  และถึงแม้ว่ามันกำลังหอบแต่ก็มีสภาพดีกว่าคนอ้วนเฉินมาก  พอเห็นคนอ้วนเฉินนั่งอยู่กับพื้นพร้อมกับหายใจถี่รัว  ชายที่เป็นหัวหน้าก็เดือดดาลและเตะท้องที่อวบอ้วนของคนอ้วนเฉินอย่างรุนแรง

 

การเตะในรอบนี้ไร้ความปรานีมากกว่าสองครั้งแรก  จนคนอ้วนเฉินไม่สามารถแม้แต่จะคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวดตอนที่ถูกเตะ  ทั้งหมดที่เขาทำได้ก็คือตัวสั่นด้วยความกลัวพร้อมกับเอามือกุมไปที่ท้องและตัวของเขาก็เริ่มที่จะชักกระตุก

 

“เจ้าของร้านเฉิน  อย่าพยายามเล่นลูกไม้กับกู...”

 

หลังจากที่ทำการเตะคนอ้วนเฉินความโกรธของมันก็ดูเหมือนจะค่อยๆ ลดลง  จากนั้นมันก็นั่งชันเข่าและทำการดึงคอเสื้อของคนอ้วนเฉินเพื่อที่จะพยายามยกตัวของเขาขึ้น  แต่ถ้าไม่เพราะคนอ้วนเฉินอ้วนเกินไปก็เป็นเพราะชายที่เป็นหัวหน้านั้นผอมแห้งแรงน้อย  การยกตัวคนอ้วนเฉินขึ้นจึงเป็นการกระทำที่ต้องใช้ความพยายามอย่างมากโดยไม่คาดฝัน

 

แต่เพื่อเป้าหมายในการแสดงความเท่ห์ของมันต่อหน้าลูกสมุน  มันจึงยังข่มขู่คนอ้วนเฉินด้วยวิธีการที่รุนแรง  ใบหน้าของมันก็ดูรุนแรงมากขึ้นด้วยเช่นกัน  และนั่นสร้างความตื่นตระหนกกับคนอ้วนเฉินซึ่งรู้ว่าไม่มีทางที่เขาจะรักษาการแสดงนี้ได้อีกต่อไป  เขาจึงรีบหันหน้าไปหาชายที่เป็นหัวหน้าพร้อมกับส่ายหัว

 

“เหลา... เหลาเกอ!”

 

คนอ้วนเฉินพูดด้วยท่าทางหวาดกลัว

 

เนื่องจากทัศนวิสัยไม่ดีและระยะทางอยู่ไกล  เพียงแต่เมื่อคนอ้วนเฉินเรียกชื่อชายที่เป็นหัวหน้าและไฟบนถนนส่องผ่านมาที่มันก็ทำให้ฉินฟางตระหนักได้ว่าชายคนนั้นเหมือนกับเหลาซูเฉียงที่ฉินฟางเพิ่งจะทำการอัดไปไม่นานมานี้มากๆ

 

“โลกนี้มันช่างแคบจริงๆ...”

 

พอมองไปยังลูกสมุนทั้งสองที่ยืนอยู่ข้างเหลาซูเฉียง  พวกมันดูต่างไปจากตอนที่สร้างความวุ่นวายก่อนหน้านี้  อย่างไรก็ตามเหลาซูเฉียงก็ยังคงดูเป็นตัวเองตามปกติของมัน  ซึ่งฉินฟางอดไม่ได้ที่จะหัวเราะในใจ

 

ฉินฟางจริงๆ แล้วไม่คิดว่าพวกนั้นจะมีเป้าหมายเดียวกัน  ทั้งๆ ที่เพิ่งจะต่อสู้กันมาสองถึงสามชั่วโมงที่แล้ว  และเป้าหมายที่เหมือนกันนั้นก็คือการ ‘ดูแลเอาใจใส่’ คนอ้วนเฉิน

 

แต่พอมองไปยังสถานการณ์ในตอนนี้ก็อาจจะไม่จำเป็นที่ฉินฟางต้องลงมือด้วยตัวเอง  วิธีการของเหลาซูเฉียงเห็นได้ชัดว่าโหดเหี้ยมมากกว่าวิธีการของเขา  และนี่ช่วยให้เขาขับไล่ความคับข้องภายในใจได้ดีกว่า  นอกจากนี้เขาก็ไม่จำเป็นต้องทำให้มือของตัวเองสกปรกอีกแล้ว  ซึ่งมันคือการปาหินก้อนเดียวได้นกสองตัว  ท้ายที่สุดทั้งหมดที่เขาต้องทำก็เพียงแค่นั่งลงและเพลิดเพลินกับการแสดง

 

 

…………………………

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด