ตอนที่แล้วTXV – 30 เป็นแฟน ?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTXV –  32 แสดงให้เห็น !

TXV –  31 คางคกขึ้นวอ !


TXV –  31 คางคกขึ้นวอ !

 

          บนโลกแห่งความเป็นจริงนี้มีทั้งหลุมพลางและสิ่งที่น่ากลัวมากมาย สำหรับบางคนที่มีพรวิเศษจากสวรรค์ที่มอบให้ นั้นก็คือพรสวรรค์ที่เกิดมาพร้อมกับตัวและต้องมีพรแสวงควบคู่ไปด้วยกันถึงจะประสบความสำเร็จได้

 

          ถ้าหนิงจิงไม่โกหกว่าเราเป็นแฟนกับเธอ หนิงเหยี่ยซานจะให้โอกาสเราทำงานที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้มั้ยนะ ? ถึงแม้ว่าเขาจะให้เราพิสูจน์ฝีมือและรู้ถึงความสามารถของเราแล้วเขาจะยอมให้เราทำงานนี้มั้ย ?

 

          เซี่ยเหล่ยไม่ได้สนใจคำพูดของหนิงจิง เขามั่นใจว่าที่หนิงจิงพูดกับหนิงเหยี่ยซานแบบนั้นเพื่ออยากให้เราได้ทำงานี้อาจเป็นเพราะเธออยากตอบเซี่ยเหล่ย

 

          “นี่เป็นโอกาสที่หาได้ยากมาก พี่หนิงยอมโกหกลุงของเธอเพื่อให้เรามาทำงานนี้เมื่อเราทำงานเสร็จ ชื่อเสียงของเราจะกระจายออกไปและร้านของเราจะมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลโดยที่เราไม่ต้องทำการโฆษณาใดๆเลย” เซี่ยเหล่ยกำลังคิดถึงสิ่งนี้และเขาก็เริ่มวางแผนชีวิตของเขา

 

          “น้องเหล่ย” หนิงเหยี่ยซานเรียกเขาว่า ‘น้องเหล่ย’ ด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น เฉพาะตอนที่อยู่กันแค่ 3 คน ถ้าอยู่กับคนอื่นๆ จะเรียกอย่างเป็นทางการว่า คุณเซี่ย เขาจึงถามเซี่ยเหล่ยว่า “คุณอายุเท่าไหร่แล้ว ?”

 

          เซี่ยเหล่ยรู้สึกอึดอัดและกังวลก่อนจะตอบว่า “ผม….”

 

          หนิงจิงวางมือบนไหล่ของเซี่ยเหล่ย ความรู้สึกของเธอส่งผ่านมาที่ตัวของเซี่ยเหล่ย

 

          มันเป็นการแสดงออกที่เรียบง่าย จากนั้นเธอนำมืออีกข้างหนึ่งไปจับมือเซี่ยเหล่ยก่อนที่เขาจะตอบว่า “คุณลุงหนิง ผมอายุ 25 ปีครับ”

 

          “โฮ่โฮ่ คุณอายุไล่เลี่ยกับหนิงจิงเลย” จากนั้นหนิงเหยี่ยซานถามต่อว่า “ครอบครัวคุณอยู่กันกี่คนล่ะ ?”

 

          เซี่ยเหล่ยตอบว่า “แม่ของผมจากไปนานแล้วตั้งแต่ผมยังเด็กส่วนพ่อของผม…..ตอนนี้ผมมีเพียงน้องสาวแค่คนเดียว เธอสอบเข้ามหาวิทยาลัยจินตู่ได้และกำลังจะไปเรียนในอีก 2 อาทิตย์”

 

          “อือ” หนิงเหยี่ยซานส่งรอยยิ้มอันอบอุ่นมาให้เซี่ยเหล่ย เขาได้รู้ชีวิตของเซี่ยเหล่ยมากขึ้น ชายคนนี้เป็นพี่ชายที่ดีมากๆเขาดูแลน้องสาวคนเดียวของเขาได้เป็นอย่างดีโดยที่พ่อแม่ของเขาไม่ได้อยู่กับพวกเขาแล้วแต่เขาก็ยังเป็นเสาหลักของครอบครัวมันคงจะดีถ้าคนนี้ได้เป็นสามีของหนิงจิงในอนาคต

 

          หนิงจิงรู้สึกอายมากเมื่อหนิงเหยี่ยซานกำลังถามเรื่องส่วนตัวของเซี่ยเหล่ย เธอจึงรีบพูดแทรกขึ้นมาทันที “คุณลุง ลุงพึ่งเจอกับเซี่ยเหล่ยเป็นครั้งแรกอย่าถามอะไรเขามากได้ไหม ? หลานรู้สึกอาย”

 

          “โฮ่โฮ่ ลุงเพิ่งจะคุยกับเหล่ยได้ไม่นาน ? เอาล่ะ เอาล่ะ ลุงไม่ถามเขาแล้วก็ได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ใหญ่มาก หลานก็ขอให้ลุงเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ และห้ามบอกเรื่องนี้กับพ่อของหลาน ?”

 

          “ชิ !” หนิงจิงแสดงท่าทีไม่พอใจ

 

          หนิงเหยี่ยซานขยับมามองหน้าเซี่ยเหล่ยใกล้ๆอีกครั้งและพูดว่า “คุณทำอะไรได้บ้างล่ะ ?” อย่างไรก็ตามเขาก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่เซี่ยเหล่ยเป็นแฟนกับหนิงจิง

เพราะว่าเซี่ยเหล่ยมีความคิดเป็นผู้ใหญ่ มีความเป็นผู้นำแถมรูปร่างหน้าตาก็หล่อเหลาและที่สำคัญเขาเลี้ยงดูน้องสาวเพียงคนเดียวโดยลำพัง สิ่งนี้ทำให้เขาเป็นผู้ชายที่เก่งคนหนึ่ง

 

          ในที่สุดพวกเขาก็เลยมาถึงเวิกค์ช็อปของบริษัทแห่งนี้ สือจิงชิวออกมารอต้อนรับพวกเขาในทันที “ประธานหนิง พวกเราเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ”

 

          “อืม”หนิงเหยี่ยซานพยักหน้าจากนั้นเขาหันหน้าไปทางเซี่ยเหล่ยและพูดว่า “เชิญดูตามสบายนะ คุณเซี่ย”

 

 

          “ค...ครับ ประธานหนิง” เซี่ยเหล่ยรู้สึกมีความสุขที่ประธานหนิงเรียกเขาว่า ‘น้องเหล่ย’ เมื่ออยู่กัน 3 คนแต่เมื่อกลับมาทำงานร่วมกับคนอื่นเขาเปลี่ยนกลับมาเรียกเซี่ยเหล่ยว่า ‘คุณเหล่ย’

 

          เมื่อเซี่ยเหล่ยหันไปมองตาสือจิงชิว เธอกระซิปบอกเขาว่า “เรามีเรื่องต้องคุยกัน !”

 

          เซี่ยเหล่ยชะงักไปครู่หนึ่งและไม่รู้ว่าจะตอบเธอว่าอย่างไรดี….

 

          ทันใดนั้นหนิงจิงเดินเข้ามาใกล้ๆเซี่ยเหล่ยจากนั้นเธอจับมือของเขาอย่างสนิทสนมและพูดขึ้นมาว่า “เหล่ย ! พวกคุณทั้ง 2 คนรู้จักกันหรอ ?”

 

          เขาได้ยินคำว่า ‘เหล่ย’ อีกครั้งเซี่ยเหล่ยไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เขาเริ่มทำตัวไม่ถูกกับเหตุการณ์หลายๆอย่างที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว....

 

          “พวกเรา….รู้จักกันแต่ไม่ค่อยสนิท” สือจิงชิวกล่าวอย่างเก้ๆกังๆ

 

          “อ๋อ เหล่ย ไปกันเถอะ ฉันอยากเห็นคุณแสดงฝีมือจะแย่อยู่แล้ว” หนิงจิงกล่าว

 

          “ได้เลย เข้าไปข้างในกันเถอะ” เซี่ยเหล่ยไม่ได้ตอบคำถามสือจิงชิว เขาเดินเข้าไปในเวิกค์ช็อปกับหนิงจิง เขาไม่ทราบว่าที่หนิงจิงเข้ามาทำแบบนั้นกับเขามันหมายความว่ายังไง ? แขนของเธอนุ่มนวลเหมือนสำลีที่สดใหม่ ความนุ่มนวลนี้ทำให้เขารู้สึกดีกับเธอจนตอนนี้เขารู้สึกสับสนกับตัวเอง.....

 

          สือจิงชิวเฝ้ามองเซี่ยเหล่ยและหนิงจิงอย่างใกล้ชิดจากนั้นเธอก็ได้เดินตามพวกเขาสองคนเข้าไปในเวิกค์ช็อป....

 

          เวิร์คช็อปแห่งนี้มีสินค้าของบริษัทมากมาย หนิงจิงปล่อยแขนของเซี่ยเหล่ยและเธอพูดว่า “โชคดีนะ”

 

          เซี่ยเหล่ยพยักหน้าจากนั้นเขาเดินไปหาหนิงเหยี่ยซานและคนที่ยืนข้างหนิงเหยี่ยซานคือวิศวกรคนหนึ่งเขาสวมเสื้อสีดำยืนอยู่ข้างเครื่องประมวลผลขนาดใหญ่ มันเป็นเครื่องจักรที่มีราคาแพงและมีความแม่นยำสูงมาก ดูเหมือนว่าเซี่ยเหล่ยจะต้องแสดงฝีมือของเขาแล้ว…

 

          เซี่ยเหล่ยก้าวขาขึ้นไปบนเครื่องและมองเห็นตัวอักษรเยอรมันบนเครื่อง มันถูกนำเข้ามาจากเยอรมันและมีมูลค่าหลายสิบล้านหยวน

 

          การนำเข้าสินค้าจากยุโรปและอเมริกาดูเหมือนว่าจะเป็นสิ่งที่ค่อนข้างซับซ้อนการนำชิ้นส่วนเข้ามาแต่ละชิ้นจะต้องเป็นชิ้นส่วนที่มีคุณภาพดีและต้องผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียด ชิ้นส่วนทุกชิ้นมีราคาแพงมากซึ่งเป็นผลกระทบมาจากความเข้มงวดจากฝั่งอเมริกาและยุโรป ทันทีที่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นทางอเมริกาและยุโรปจะยกเลิกการสั่งสินค้าทันที

 

          “ชายคนนี้ เขาเคยใช้เครื่องจักรเครื่องนี้มาก่อนหรอ ?” วิศวกรคนนั้นถามอย่างสงสัย

 

          “เขาคงไม่เคยใช้มัน” วิศวกรคนอีกคนแสดงสายตาที่ผิดหวังออกมาเขาคิดว่าผู้เชี่ยวชาญจะมาที่เวิกค์ช็อปแห่งนี้ ในสายตาของวิศวกรคนนั้นเซี่ยเหล่ยดูเหมือนคนไม่มีความสามารถและไม่น่าจะทำอะไรได้ วิศวกรคนนั้นคิดว่าที่เซี่ยเหล่ยเข้ามายังเวิกค์ช็อปแห่งนี้ได้เป็นเพราะหนิงจิงและหนิงเหยี่ยซาน

 

          เซี่ยเหล่ยพูดว่า “นี่คือเครื่องกลึงโลหะที่มีความแม่นยำสูงที่นำเข้ามาจากประเทศเยอรมนีซึ่งมีแม่นยำถึง 0.0001 มิลลิเมตร” เขาพูดต่อว่า “ถึงแม้ว่าผมจะไม่เคยใช้เครื่องกลึงที่มีความแม่นยำสูงขนาดนี้มาก่อนแต่ผมคิดว่าคงจะไม่ใช่เรื่องยากผมจะตรวจสอบชิ้นส่วนที่มีความแม่นยำระดับ 0.00099 มิลลิเมตรด้วยเครื่องกลึงรุ่นโกเด้น เพอซีส”

 

          ทันใดนั้นวิศวกรคนนั้นก็พูดแทรกออกมาทันที “มันคงเป็นเรื่องที่ไม่ดีแน่ถ้าคุณนำชิ้นส่วนของเราไปกลึงด้วยความแม่นยำระดับ 0.00099 มิลลิเมตรกับเครื่องกลึงรุ่นโกเด้น เพอซีส ? ผมคิดว่าคุณไม่สามารถทำได้ และผมก็คิดว่าไม่มีใครในโลกนี้ที่สามารถทำได้”

 

          เซี่ยเหล่ยตอบอย่างสุภาพว่า “คุณอย่ากังวลไปเลยผมสามารถทำได้จริงๆ และไม่ได้โกหกด้วย”

 

 

          “ผมเชื่อคุณ” หนิงเหยี่ยซานกล่าว “ให้เขาลองทำดู ถ้าคุณไม่ลองเปลี่ยนวิธีการทำหรือไม่เปลี่ยนความคิดอะไรเลย คุณจะประสบความสำเร็จได้อย่างไร โลกนี้หมุนไปอย่างรวดเร็วดังนั้นพวกเราจึงต้องหมุนตามโลกนี้ให้ทัน….”

 

          หนิงเหยี่ยซานพูดออกมาเพราะเขามั่นใจว่า เซี่ยเหล่ยสามารถทำได้

 

          วิศวกรคนนั้นได้พูดคุยกับเซี่ยเหล่ย เขาได้เปลี่ยนน้ำเสียงให้อ่อนโยนมากขึ้นและเขาชี้ไปที่เครื่องกลึงเครื่องหนึ่งจากนั้นเขาพูดว่า “ตั้งแต่นำเครื่องกลึงเครื่องนี้เข้ามา พวกเราไม่สามารถใช้งานมันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเลย คุณลองใช้เครื่องกลึงเครื่องนั้นและใช้มันให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด”

 

          เซี่ยเหล่ยเดินเข้าไปตรวจสอบทันทีและเขาคิดว่างานนี้ไม่ง่ายอย่างแน่นอน เขาเดินหยุดที่หน้าเครื่องกลึง จากนั้นเขาใช้ตาซ้ายมองทะลุเข้าไปเพื่อดูส่วนประกอบของเครื่องกลึงเครื่องนั้น

 

          มีกลุ่มวิศวกรพวกเขากำลังพูดคุยกับการกระทำของเซี่ยเหล่ย.....

 

          “หนุ่มคนนั้นคือใคร ? ไม่มีใครกล้าเข้ามาทำงานที่นี่หากไม่มีประสบการณ์มากพอ ?”

 

          “แค่ผมดูก็รู้แล้ว ชายหนุ่มคนนั้นคงไม่มีความสามารถที่จะทำงานนี้ได้หรอก !”

 

          “ผมได้ยินคำพูดที่น่าเวศนาแบบนี้จากหลานสาวของประธานหนิง ลูกชายของประธานหนิงเขาเสียชีวิตในสนามรบดังนั้น ประธานหนิงเหลือหลานสาวเพียงคนเดียวที่จะสืบทอดสายเลือดของเขาต่อไป เขาจึงรักเธอมากและตามใจเธอทุกอย่าง....”

 

          “ดังนั้นไม่ต้องสงสัยเลย ว่าชายหนุ่มคนนั้นเข้ามาได้อย่างไร”

 

          คนบางกลุ่มกำลังสงสัยในตัวเซี่ยเหล่ย ส่วนบางคนได้พูดต่อว่าเซี่ยเหล่ยตลอดเวลาไม่มีใครสักคนที่จะเข้าไปช่วยเขาเลย…

 

          สือจิงชิวยืนอยู่ข้างกลุ่มวิศวกรและได้ยินคำพูดจากคนกลุ่มนั้น ในไม่ช้ามีรอยยิ้มที่แสดงความเยาะเย้ยและความสะใจที่ปรากฏบนใบหน้าของเธอ จากนั้นเธอมองเซี่ยเหล่ยด้วยสายตาที่เหยียดหยามดูถูก เธอคิดว่า ‘เซี่ยเหล่ยต้องโกหกแน่ๆ เพราะเขาไม่เคยเรียนสาขาวิศวะในมหาวิทยาลัย เขาจะมีความรู้กับงานแบบนี้ได้อย่างไร ? เขาต้องใช้วาจาอันอ่อนหวานไปออดอ้อนหลานสาวของประธานหนิงเพื่อให้ได้ทำงานที่นี่อย่างแน่นอน วิศวกรที่อยู่ที่นี่คนล้วนเป็นคนที่มีฝีมือและเก่งที่สุดในประเทศนี้ พวกเขาจึงดูคนแบบเซี่ยเหล่ยออก ฉันคิดถูกแล้วที่ปฎิเสธเขาไปตั้งแต่มัธยมปลาย ฉันไม่อยากจะมาร่วมใช้ชีวิตกับคนแบบนี้ หึ ! เซี่ยเหล่ยก็เป็นแค่คนไร้น้ำยา ในตอนนี้เขาเหมือนคางคกขึ้นวอ !’

 

          เซี่ยเหล่ยไม่ได้สนใจกับเรื่องที่พวกเขาพูดกันเลย วิศวกรทุกคนต่างมีความความเห็นกันว่าเซี่ยเหล่ยไม่มีทางที่จะทำงานที่ต้องใช้ความแม่นยำและปรานีตแบบนี้ได้

 

          หลังจากที่เขาได้อ่านข้อมูลเกี่ยวกับการกลึงทั้งหมด จากนั้นเซี่ยเหล่ยเริ่มลงมือกลึงชิ้นงาน เขาไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย เขามั่นใจว่าตาซ้ายของเขาเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในโลก !

 

          เครื่องกลึงเครื่องนี้มีความแม่นยำที่สูงมาก มันถูกสร้างมาจากเยอรมันประเทศนี้ขึ้นชื่อว่าของทุกชิ้นต้องมีคุณภาพและมีความแม่นยำการสูง การใช้เครื่องมือนี้จึงเป็นเรื่องที่ยากมากเช่นกัน เขาเริ่มใช้เครื่องกลึงกับชิ้นงานทุกชิ้นอย่างปราณีและละเอียดอ่อน เปรียบเสมือนเขาคนฝึกสัตว์และเครื่องกลึงเป็นสิงโต เขาสามารถฝึกสิงโตตัวนั้นให้อยู่แทบเท้าเขาได้ งานที่เขาทำออกมาทุกชิ้นละเอียดอ่อนและเนียนจนผิวเรียบแทบหาตำหนิจากชิ้นงานไม่เจอเลย

 

          “คุณใช้งานเครื่องกลึงนี้ครั้งแรกจริงๆหรอ ?” วิศกรคนนั้นถามเซี่ยเหล่ย

 

          “การกระทำของคุณเหมือนกับว่าคุณเคยใช้เครื่องมือเครื่องนี้มาก่อนเลย ? ก่อนที่เราจะใช้เครื่องมือนี้เราได้ว่าจ้างนักแปลมืออาชีพมาทำการอธิบายวิธีการใช้งานของเครื่องมือชิ้นนี้ คุณอ่านคู่มือเพียงไม่นานคุณสามารถใช้งานได้เลย ?” วิศวกรคนหนึ่งกล่าว

 

          “เหอะ ! เขาอาจจะบอกว่า เขาใช้งานครั้งแรกเพื่อโอ้อวดพวกเรา หรือทำเป็นว่าตัวเองเก่งเพื่อแสดงความาสามารถให้ประธานหนิงเห็น ?” มีใครบางคนในกลุ่มกล่าว

 

          “บางที เขาอาจจะอ่านภาษาเยอรมันออกก็ได้นะ” มีใครบางคนกล่าวต่อ

 

          “ถึงแม้ว่าเขาจะอ่านภาษาเยอรมันออกแต่คำศัพท์ของเครื่องกลึงพวกนี้ เป็นคำศัพท์เฉพาะ คำศัพท์พิเศษแบบนี้จะต้องแปลโดยนักแปลมืออาชีพเท่านั้นหรือแม้แต่นักแปลมืออาชีพบางคนยังไม่สามารถเข้าใจวิธีการใช้เครื่องกลึงนี้เลย...”

 

          “หึ ! เป็นบุคคลที่น่าทึ่งจริงๆ”

 

          ท่ามกลางเสียงพูดคุยของผู้คน สือจิงชิวยืนมองเซี่ยเหล่ยด้วยความตะลึง……

 

          ขอบคุณครับ แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้า ติดตามข่าวสารและเรื่องราว https://www.facebook.com/Tranxending-Vision-1843606792370694/ ขอเพียงแค่กดไลค์กดติดตาม ก็เป็นกำลังใจให้ผมแปลต่อได้แล้วคร้าบบบ ฝากด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

 

###################################################################

         

         

         

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด