ตอนที่แล้วTXV –  28 เสียงหัวเราะปริศนา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTXV – 30 เป็นแฟน ?

TXV –  29 แค่เพื่อนร่วมชั้น...


TXV –  29 แค่เพื่อนร่วมชั้น...

 

          “อรุณสวัสดิ์ พี่เหล่ย” จูเสี่ยวหงสวมชุดทำงานสีฟ้ายืนอยู่หน้าประตูเพื่อรอต้อนรับเซี่ยเหล่ยที่กำลังเดินเข้าร้าน ใบหน้าที่เรียวสวย รูปร่างที่เพรียวบางเมื่อรวมกับชุดใหม่ที่เธอใส่แล้วมันเข้ากันเป็นอย่างมาก

 

          เซี่ยเหล่ยยิ้ม “อรุณสวัสดิ์ เสี่ยวหง คุณชอบชุดนี้มั้ย ?”

 

          “ชอบค่ะ” จูเสี่ยวหงยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า “ฉันรู้สึกเสียดายจนไม่กล้าใส่เลย...”

 

          “เสื้อผ้าทำงานก็ต้องใส่ตอนทำงานสิ ทำไมคุณถึงเสียดายมันล่ะ ?” เซี่ยเหล่ยกล่าว

 

          เซี่ยเหล่ยเดินเข้าไปในร้านและเห็นเครื่องไม้เครื่องมือรวมถึงพื้นร้านถูกทำความสะอาดไว้หมดแล้ว เซี่ยเหล่ยรู้สึกแปลกใจเขาคิดในใจว่า “เธอคงตื่นเช้าและรีบมาทำความสะอาดร้าน ?”

 

          “เสี่ยวหง ! วันนี้ผมจะสอนคุณใช้เครื่องกลึง” เซี่ยเหล่ยกล่าวเขารู้ว่าที่เธอตื่นเช้ามาทำความสะอาดเครื่องไม้เครื่องและพื้นร้าน เพื่อที่จะมีเวลามากขึ้นไว้สำหรับเรียนรู้งานช่างที่เซี่ยเหล่ยจะสอนเธอ

 

          “ได้เลย” จูเสี่ยวหงรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากเมื่อได้ยินคำนี้ออกจากปากของเซี่ยเหล่ยและมันไปตามที่เธอคิดไว้ถ้ามีเวลาว่างมากขึ้น ‘พี่เหล่ยคงจะสอนงานช่างให้เราแน่ๆ’

 

          เซี่ยเหล่ยนำเครื่องกลึงมาวางไว้หน้าเธอและหยิบชิ้นส่วนโลหะออกมาจากนั้น เขาปล่อยให้จูเสี่ยวหงลองทำ “ในงานชิ้นแรกผมจะให้คุณลองกลึงน็อตก่อน”

 

          “ค่ะ” จูเสี่ยวหงยืนหน้าเครื่องกลึงและไม่รู้ว่าจะเริ่มอย่างไรดี.....

 

          เซี่ยเหล่ยยืนอยู่ข้างหลังเธอจากนั้นเขาจับมือเธอและแสดงวิธีการกลึงอย่างช้าๆให้เธอเห็น

 

          เซี่ยเหล่ยเป็นผู้สอนที่ดี ส่วนเธอก็เป็นนักเรียนที่ดีพวกเขาเรียนรู้งานกันอย่างจริงจัง หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็ขยับตัวมาใกล้กันโดยไม่รู้ตัว เสี่ยวหงเอนตัวไปข้างหน้าทำให้ก้นของเธอชนตัวของเซี่ยเหล่ย เมื่อก้นของเธอไปโดนตัวเซี่ยเหล่ย เขารีบดึงสติกลับมาและรีบถอยห่างออกจากตัวเธอทันที..

 

          การสัมผัสเมื่อครู่นี้ระหว่างเขา 2 คนทำให้ใบหน้าทั้งคู่กลายเป็นสีชมพู...

 

          ในขณะนั้นหม่าเสี่ยวอันก็เดินเข้ามา มันช้าเกินไป....เขาไม่เห็นฉากอันหวานแหววระหว่างเซี่ยเหล่ยกับจูเสี่ยวหง เขาเห็นโต๊ะทำงานที่สะอาดสะอ้านจากนั้นเขารู้สึกหดหู่และพูดว่า “เสี่ยวหง ทำไมคุณถึงรีบเช็ดโต๊ะล่ะ ?”

 

          การเฝ้าดูจูเสี่ยวหงเช็ดโต๊ะเป็นเรื่องที่บันเทิงและมีความสุขสำหรับเขา ในครั้งนี้เธอเช็ดโต๊ะและทำความสะอาดเครื่องมือทุกอย่างเรียบร้อยก่อนที่เขาจะมาถึงร้าน เขาจึงไม่มีอะไรดูเพื่อความบันเทิงทำให้เขารู้สึกหดหู่ใจเป็นอย่างมาก

 

          จูเสี่ยวหหัวเราะคิกคักอย่างมีความสุข

 

          มันเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขเมื่อพวกเขา 3 คนอยู่ด้วยกัน

 

          ทันใดนั้นหนิงจิงขับรถมาจอดที่หน้าร้านอาชาสายฟ้าเวิกค์ช็อปและทันที่ที่เธอเห็นเซี่ยเหล่ยเธอกล่าวว่า “ไปกันเถอะ คุณเซี่ย”

 

          “ไปไหน ?” เซี่ยเหล่ยถาม

 

          “คุณลืมสิ่งที่คุยกันไว้แล้วหรอ ? ลุงของฉันว่างในวันนี้ ฉันจะพาคุณไปเจอลุงของฉันวันนี้เพื่อพูดคุยกัน...”

 

          เซี่ยเหล่ยตบหน้าตัวเองเบาๆและหัวเราะขณะที่เขาพูด “ผมลืมไปเลย วันนี้งานยุ่งทั้งวันเลยด้วย ผมขอไปเปลี่ยนเสื้อก่อนผมอยากแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนที่จะเจอลุงของคุณ”

 

          หนิงจิงยิ้ม “ค่ะ ฉันจะรอคุณ”

 

          เซี่ยเหล่ยเช็ดหน้าเช็ดตาหลังจากนั้นเขาเดินไปข้างหลังร้านอาชาสายฟ้าเวิกค์ช็อป ที่ร้านแห่งนี้ไม่มีห้องสำหรับเปลี่ยนเสื้อผ้า เซี่ยเหล่ยเผลอเดินเข้าไปในห้องของจูเสี่ยวหงเธอในขณะที่เธอหลับอยู่ เธอแขวนชุดชั้นในสีแดง กางเกงในสีขาวและยกทรงสีม่วงไว้ที่ราวตากผ้า ทันใดนั้นเขาก็นึกภาพเมื่อตอนเช้าที่เธอใส่ชุดสีฟ้าน่ารักมันแล่นผ่านสมองของเขาอย่างรวดเร็วจากนั้นมีความคิดผุดขึ้นมา “มันคงจะไม่ดีแน่ถ้าเธอเห็นเราเดินเข้ามาในห้องของเธอ...”

 

          หลังจากนั้นไม่นานเซี่ยเหล่ยแต่งตัวเสร็จ เขาเดินไปที่รถของหนิงจิงจากนั้นพวกเขาก็ออกเดินทาง

 

          “พี่หนิง ลุงของคุณชื่ออะไร  ?” เซี่ยเหล่ยถาม “ถ้าผมจะพูดคุยเรื่องงานกับลุงของคุณมันคงจะเป็นการเสียมารยาทหากผมไม่รู้จักชื่อเขา”

 

          “คุณเซี่ย คุณคิดไว้รึยังว่าคุณจะทำอะไร ?” หนิงจิงถาม

 

          เซี่ยเหล่ยยิ้มและไม่พูดอะไรอออกมา

 

          “เขาชื่อ หนิงเหยี่ยซาน ประธานบริษัทบูรพาอุตสาหกรรม”

 

          เซี่ยเหล่ยตกใจมากเมื่อได้ยินชื่อ บูรพาอุตสาหกรรม บริษัทนี้เป็นองค์กรของรัฐบาลที่มีเงินหมุนเวียนหลายพันล้านหยวน “ประธานของบริษัทองค์กรใหญ่ขนาดนี้มาเจรจาต่อรองกับช่างริมถนนเช่นนี้ ? เขาจะพูดคุยกับเราเหมือนนักธรุกิจคนอื่นไหม ? ไม่น่าเชื่อเลยว่าเขาจะให้เราไปช่วยงานที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้หรือว่าสิ่งนี้คือความช่วยเหลือจาหนิงจิงที่เธออยากตอบแทนที่เราที่ช่วยซ่อมเข็มทิศ แต่ช่างมันเถอะเราไปคุยกับเขาด้วยเรื่องธรุกิจเท่านั้น”

 

          “ขอบคุณนะ ผมรู้ว่าคุณอยากช่วยผมและผมก็ขอน้อมรับไว้” เซี่ยเหล่ยกล่าว

 

          “ทำไมคุณพูดเป็นทางการจังเลย ? ลุงของฉันไม่ใช่คนใหญ่คนโตอย่างที่คุณคิดเขาเป็นคนเรียบง่ายและมีนิสัยเป็นกันเอง ตอนนี้เขาประสบปัญหาบางอย่างที่มีคุณเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถช่วยแก้ปัญหานี้ได้และเป็นที่แน่นอนว่าเขาอยากพบคุณมาก รู้ไหมตอนที่ฉันบอกว่าคุณสามารถทำอะไรได้บ้าง เมื่อเขารู้เรื่องนี้เขารีบเคลียร์งานเพื่อวันนี้ และเขาก็อยากพบคุณมาก” หนิงจิงกล่าว

 

          “ผมจะพยายามให้ดีที่สุด” เซี่ยเหล่ยกล่าว

 

          “อย่าถ่อมตัวเลย ฉันรู้ว่าคุณเป็นคนที่มีทักษะดีมากๆและฉันก็มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าคุณสามารถทำงานนี้ได้อย่างแน่นอนและอีกอย่างฉันได้ไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลมาและมันก็เป็นจริงในสิ่งที่คุณเคยพูด ฉันมีนิ่วในถุงน้ำดีจริงๆเป็นเรื่องที่ดีมากเลยล่ะ ! ที่ฉันไปตรวจก่อนจึงไม่ต้องทำการผ่าตัดเพราะมันเป็นระยะเริ่มต้นเท่านั้นขอบคุณสำหรับหลายๆที่คุณทำให้ฉัน”

 

          “ผมว่าพวกเราควรจะหยุดพูดแบบนี้ได้แล้วนะ เราไม่จำเป็นต้องพูดเป็นทางการก็ได้ เพราะพวกเราเป็นเพื่อนกัน” เซี่ยเหล่ยกล่าว

 

          หนิงจิงพยักหน้า “ได้เลย เราเป็นเพื่อนกันเนอะ”

 

          ครึ่งชั่วโมงต่อมาหนิงจิงขับรถข้ามเขตของเมืองห่ายจูออกมาจนถึงริมชายทะเลมีเครนขนาดใหญ่หลายตัวตั้งอยู่และยังมีท่าเรืออู่ต่อเรืออีกมากมายที่ถูกสร้างไว้ ภาพบรรยากาศนี้ช่างยุ่งเหยิงเหลือเกิน หนิงจิงขับรถมาบนลานจอดรถระดับ VIP จากนั้นพวกเขาเดินต่อไปอีกสักครู่หนึ่งก่อนที่พวกเขาจะเห็นโรงงานขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ริมชายทะเล

 

          หลังจากนั้นพวกเขาเดินเข้าไปในบริษัทบูรพาอุตสาหกรรม หนิงจิงนำทางเซี่ยเหล่ยมาที่ห้องรับแขก “ฉันจะไปหาลุงของฉัน รอฉันอยู่ที่นี่ก่อน”

 

          เซี่ยเหล่ยพยักหน้า “ได้เลย ผมจะรอคุณที่นี่”

 

          เซี่ยเหล่ยมองไปรอบๆห้องรับแขกเขาเห็นภาพวาดที่สวยงามอย่างมากภาพนั้นสื่อถึงความงดงามของภูเขาที่ชะล้างด้วยสายฝนและมันถูกวาดโดยหนิงเหยี่ยซาน บ่งบอกได้เลยว่าห้องนี้เป็นห้องสำหรับแขกพิเศษจริงๆ ไม่ใช่ห้องรับแขกสำหรับคนธรรมดาทั่วไป

 

          “ทั้งหมดนี้คงเป็นเพราะหนิงจิง เราติดหนี้เธอ เราจะตอบแทนเธอยังไงดีเนี๊ย” เซี่ยเหล่ยรู้สึกเป็นกังวล

 

          ในขณะนั้นมีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาเธอเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์และสวยมาก เธอสวมชุดคลุมสีดำ เสื้อเชิ้ตขาวสวมคู่กับรองเท้าส้นสูงสีน้ำตาล เธอมีอายุไล่เลี่ยกับเซี่ยเหล่ย เขาหยุดมองที่หน้าเธอสักครู่หนึ่งและชะงักไป !

 

          ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ใครที่ไหนเลยเธอเป็นเพื่อนร่วมห้องสมัยมัธยปลายของเซี่ยเหล่ย เธอมีชื่อว่า สือจิงชิว

 

          สือจิงชิวเป็นเด็กผู้หญิงคนแรกที่เซี่ยเหล่ยตกหลุมรักและเขาหลงรักเธอมาเป็นเวลา 1 ปีก่อนที่เขาจะตัดสินใจเขียนจดหมายรักให้เธอ เขาไม่เคยลืมสือจิงชิวเลยเมื่อสือจิงชิวอ่านจดหมายที่เขามอบให้เธอจากนั้นเธอหยิบปากกาขึ้นมาและเขียนไว้หน้าจดหมายว่า ‘ฉันชอบ หวู่ชิหลง (เป็นดาราคนหนึ่งที่มีชื่อเสียงมาก) คนแบบนายจะเทียบกับเขาได้หรอ ? ’ เพราะฉะนั้นแล้วเซี่ยเหล่ยจึงผิดหวังจากความรักเธอและเสียใจเป็นอย่างมาก

 

          จากนั้นเธอวางจดหมายลงและคืนให้กับเเขา เธอหันไปหัวเราะแบบไม่เต็มใจกับเซี่ยเหล่ย….

 

          มันเป็นสิ่งที่น่าเสียใจที่เกิดขึ้นกับเซี่ยเหล่ยและสร้างรอยแผลเป็นไว้ในหัวใจของเขาในตอนนั้นความเจ็บปวดเหล่านั้นก็ได้กลับมาหาเขาอีกครั้งกับคำพูดที่ว่า “ฉันชอบหวู่ชิหลง คนแบบนายจะเทียบกับเขาได้หรอ ?”

 

          มันเป็นสิ่งที่ทำร้ายจิตใจของเซี่ยเหล่ยเป็นอย่างมาก จนแทบทำใจไม่ได้…..

 

          เมื่อพวกเขาได้สบตากันความเงียบได้โอบล้อมพวกเขาไว้.....และทั้ง 2 คนไม่มีคำพูดใดๆออกมา จากนั้นสือจิงชิวแสร้งทำเป็นตกใจว่า “อ้าว เซี่ยเหล่ยหนิ  ! คุณมาทำอะไรที่นี่ ?”

 

          “ผม...” เซี่ยเหล่ยพยายามจะตอบคำถามเธอ แต่ไม่สามารถพูดออกมาได้ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกตลกกับความคิดตัวเอง เหตุการณ์ั้มันก็ได้เกิดขึ้นมานานแล้วทำไมเราต้องมาคิดถึงมันอีกล่ะ ?

 

          “คุณมาสมัครงานหรอ ?” สือจิงชิวถาม

 

          เซี่ยรวบรวมสมาธิก่อนที่จะตอบว่า “คุณจะคิดอย่างนั้นก็ได้ ใช่แล้ว ผมมาสมัครงาน แล้วคุณล่ะ ทำอะไรที่นี่ ?”

 

          รอยยิ้มที่น่าหลงใหลปรากฏขึ้นบนใบหน้าของสือจิงชิว “ฉันทำงานที่นี่ ตอนนี้ฉันเป็นเลขาของประธานหนิง”

 

          “เยี่ยมเลย ขอแสดงความยินดีกับคุณด้วย” เซี่ยเหล่ยเดินไปหาเธอและยื่นมือของเขาออกไป….

 

          สือจิงชิวไม่ได้สนใจมือที่เซี่ยเหล่ยยื่นออกมาเลย เธอหันไปดูนิตยสารที่ตั้งอยู่บนโต๊ะอย่างเย็นชาจากนั้นเธอกล่าวว่า “เซี่ยเหล่ย คุณไม่สามารถเข้ามาที่นี่ได้เพราะที่นี่คือห้องรับรองพิเศษของด็อกเตอร์หนิงและคนเข้ามาห้องนี้ได้จะต้องเป็นคนที่มีฐานะและมีตำแหน่งสูง คุณควรไปที่ฝ่ายบุคคล ถ้าคุณมาสมัครทำงานที่นี่ ออกจากประตูและเลี้ยวซ้ายจากนั้นเดินออกไป 20 เมตรคุณจะพบมัน”

 

          เซี่ยเหล่ยยืนนิ่งความรู้สึกของเขาถูกแช่แข็งไว้ เขาเงยหน้าขึ้นอย่างช้าๆจากนั้นเขากลับไปนั่งที่โซฟา

 

          ริมฝีปากของสือจิงชิวเริ่มบิดเล็กน้อย คิ้วของเธอเริ่มขมวด “เซี่ยเหล่ยคุณไม่สามารถเข้ามาที่นี่ได้คุณจะทำให้ฉันเดือดร้อนถ้าคุณทำแบบนี้”

 

          เซี่ยเหล่ยหัวเราะออกมา “ผมก็ไม่ได้ทำอะไรนี่ แกล้งทำเป็นว่ามองไม่เห็นผมก็ได้ ไม่ต้องกังวลไปหรอก ผมนั่งที่ห้องนี้มันไม่มีผลกระทบต่อการงานของคุณหรอก”

 

          สือจิงชิวเริ่มไม่พอใจ เธอจ้องมองไปที่เซี่ยเหล่ย “เฮ้...เพื่อนร่วมห้องเซี่ย คุณทำแบบนี้ทำไม ?”

 

          “ทำไปเพื่ออะไร ?”

 

          “คุณมาที่นี่ มาเพื่อสร้างความเดือดร้อนให้ฉัน ?”

 

          เซี่ยเหล่ยหัวเราะและพูดว่า “คุณคิดมากเกินไปนะ คุณลองคิดดูดีๆผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณทำงานที่นี่แล้วผมจะมาที่นี่เพื่อสร้างปัญหาให้คุณได้อย่างไรล่ะ ?”

 

          สือจิงชิวไม่เชื่อเรื่องที่เซี่ยเหล่ยพูด “ฉันรู้ว่าคุณโกรธแค้นฉันกับสิ่งที่เกิดขึ้นฉันยอมรับว่าฉันเป็นคนผิดแต่ในตอนนั้นเรายังเด็กอยู่แถมยังไม่ได้บรรลุนิติภาวะ ฉันปฏิเสธคุณเพราะว่าคุณไม่คู่ควรกับฉันจริงๆ หลังจากนั้นฉันก็ได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยจินตู่และหลังจากนั้นฉันก็ไม่เจอคุณอีกเลย….”

 

          เซี่ยเหล่ยไม่เคยลืมเรื่องนี้เลยมันอยู่ในใจเขาตลอดเวลาแต่เมื่อเธอนำมันมาพูดอีกครั้งทำให้เขารู้สึกไม่พอใจ

 

           สือจิงชิวพูดต่อว่า “เอาล่ะไปที่ฝ่ายบุคคลได้แล้ว ถ้าคุณหามันไม่เจอฉันจะพาคุณไปที่นั่น คุณไม่สามารถอยู่ในห้องได้อีกต่อไปถ้าคุณมีโชคพอ คุณอาจจะได้ทำงานที่นี่และฉันจะหาตำแหน่งที่สะดวกสบายให้คุณในฐานะเพื่อนร่วมชั้นเรียนฉันจะดูแลคุณอย่างแน่นอน”

 

          “ขอบคุณสำหรับน้ำใจนะ” เซี่ยเหล่ยกล่าว “แต่ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อสมัครงาน ผมมาที่นี่เพราะประธานหนิงต้องการเจอผม...”

 

          สือจิงชิวตกตะลึงกับคำพูดของเซี่ยเหล่ยแล้วชี้ไปที่เซี่ยเหล่ยและพูดว่า “คุณ ? อย่างคุณเนี่ยนะ จะมาเจอกับประธานหนิง ? นี่คุณกำลังฝันอยู่รึปล่าว….. ?”

 

          ขอบคุณครับ แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้า ติดตามข่าวสารและเรื่องราว https://www.facebook.com/Tranxending-Vision-1843606792370694/ ขอเพียงแค่กดไลค์กดติดตาม ก็เป็นกำลังใจให้ผมแปลต่อได้แล้วคร้าบบบ ฝากด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

 

###################################################################

 

         

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด