ตอนที่แล้วChapter 57 - เจ้าสามารถที่จะละใจบ้างสักนิดได้ไหม?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 59 - ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยอีกต่อไป

Chapter 58 - โอ้ เชี่ยละ บอสใช้สกิลอันติ


 

Chapter 58 - โอ เชี่ยละ บอสใช้สกิลอันติ

เขายอมรับมันตรงๆ!

มันทำให้ลั่วจินซานประหลาดใจ เขาคิดว่าลั่วเทียนจะปฎิเสธข้อกล่าวหา แต่ไม่เคยคิดว่าเขาจะยอมรับมันตรงๆ

ใบหน้าของลั่วจินซานมองมาอย่างรังเกียจขณะที่ยิ้ม จากนั้นเขาก็เชิดหน้าและพูดว่า “ทุกคนได้ยินแล้ว ลั่วเทียนได้ก่ออาชญากรรมที่เลวร้ายดังนั้นไม่ต้องสืบสวน เขาจะถูกลงโทษโดยทันที!”

เมื่อลั่วเทียนตาย แกนปีศาจก็จะอยู่ในตัวเขา

555...

ลั่วจินซานหัวเราะภายใน ตราบเท่าที่เขาได้รับแกนปีศาจเขาจะสามารถทะลวงผ่านปราณเชี่ยวชาญได้ เมื่อถึงเวลานั้นใครในตระกูลลั่วจะกล้าต่อต้านเขา?

นอกโถงหลัก.

ทุกคนมองดูด้วยสายตาแปลกๆ แต่ก็กลับมามั่งคงอีกครั้งราวกับว่าพวกเขาคิดได้แล้ว พวกเขาสังเกตเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นในห้องโถงอย่างเงียบๆราวกับพวกเขาเป็นหมาป่าที่เฝ้ารอ.

“จะมีหอคุมกฏเพื่ออะไร?”

“จับเขา! ถ้าเขากล้าที่จะต่อต้านให้ดำเนินการตามนั้นทันที!”ลั่วจินซานคำรามออกมา.

ดวงตาปราณเชี่ยวชาญทั้ง 8 มืดลง.

หัวหน้าแผนกผู้คุมกฏ ลั่วเล่ยกล่าวว่า “ลั่วเทียน ข้าแนะนำไม่ให้เจ้าต่อต้านเพื่อให้เจ้าไม่ต้องเจ็บปวดมากยิ่งนักและมีร่างกายที่ครบส่วน ไม่อย่างนั้น…”

“ไม่อย่างนั้นอะไร?”

“ถ้าพวกเจ้าคิดว่ามีความสามารถพาบิดาคนนี้ไปได้!”คำพูดของลั่วเทียนเต็มไปด้วยความหยิ่งยโสอย่างมาก ร่างกายของเขาระเบิดเจตนาฆ่าที่รุนแรงและทำให้ห้องโถงสั่นสะเทือนเต็มไปด้วยบรรยากาศที่หนาวเหน็บ โดยไม่รอให้พวกเขาเคลื่อนไหวลั่วเทียนก็ยิ้มเย้ย: “พวกเจ้ากล้าที่จะตัดสินว่าบิดาคนนี้ผิด? ลั่วจินซานลองดูว่าเจ้ามีความสามารถถึงขึ้นนั้นไหม!”

“เจ้าต้องการตัดสินบิดาคนนี้?”

“ฮึ่ม! ถ้าอย่างนั้นข้าจะกล่าวถึงความชั่วร้ายของเจ้าบ้าง!”

ลั่วเทียนเหลือบไปมองที่ลั่วเล่ยก่อนจะพูดว่า“ลั่วจินซาน ในฐานะผู้รักษาการผู้นำ เจ้าได้รู้กฏอย่างชัดเจนในตอนที่มีการแข่งขันล่าสัตว์ แต่เจ้าอนุญาติให้ลั่วหมิงผู้ที่อยู่ปราณเชี่ยวชาณขั้น 3 ให้ช่วยลูกชายของเจ้า เจ้าได้ใช้อำนาจในทางที่ชั่วร้ายและมีความลำเอียงต่อคนอื่นเป็นอย่างมาก แค่ความผิดนี้ก็เพียงพอที่จะทำให้เจ้าไม่อาจมาแสดงการเป็นผู้นำได้แล้ว นั่นเป็นเพียงแค่ข้อแรกเท่านั้น!”

“ข้อสอง: เจ้าคิดว่าการบ่มเพาะของลูกชายของเจ้าสูงที่สุดดังนั้นเจ้าจึงคิดว่าลูกของเจ้าจะได้ที่ 1? เศษขยะอย่างเขามีความสามารถอะไร? ในฐานะผู้นำเจ้าไม่เพียงไม่รอการตัดสินแต่เจ้ากลับมอบรางวัลที่ 1 ให้กับลูกของเจ้า เจ้าคิดว่าความผิดนี้สมควรถูกลงโทษด้วยหรือไม่?”

“เจ้ากำลังมองหาอะไรอยู่? บอกบิดาทีว่ามันผิดหรือไม่ ถ้าเจ้ามีความกล้าก็เอาหินหยวนออกมา ถ้าเจ้าสามารถเอาหินหยวนอีกก้อนออกมาได้ บิดาคนนี้จะไม่ต่อต้านและจะยอมรับผิด!”ลั่วเทียนคำรามอย่างน่าหวาดกลัวและจ้องมองอย่างแค้นเคืองไปที่ลั่วจินซาน.

หลังจากนั้น..

ลั่วเทียนก็กล่าวต่อ “ข้อสาม: ก่อนที่น้องชายตัวน้อยๆของเจ้าจะตายเขาได้บอกว่า เจ้าได้วางแผนที่จะกำจัดข้าอย่างไร ปล่อยให้ข้าตายจากการสูญเสียการบ่มเพาะพร้อมกับตันเถียนที่พิการและต้องการให้ข้าตาย โชคดีที่พระเจ้ามีเมตตาและทำให้ข้ามีโอกาสบ่มเพาะอีกครั้ง ตอนนี้เจ้าได้เสียใจแล้วหรือยัง?”

“กับนายน้อยที่จะเป็นผู้นำตระกูลในอานาคตเจ้าคิดว่าความผิดแค่นี้จะลงโทษข้าได้?”

“สำหรับสาวกภายนอกของตระกูลลั่วที่สบประมาทก่อนหน้า ฮี่ฮี่…” หลังเทียนหัวเราะอย่างเย็นชาก่อนที่จะมองไปยังนอกห้องโถงใหญ่ จากนั้นเขาก็ตะโกนเสียงดัง“บอกเขาใครสมควรตาย!”

“พวกเขาถูกบังคับให้ตายโดยลั่วหลิน!”

ผู้คนหลายสิบคนข้างนอกพูดพร้อมกัน.

บรรดาสาวกภายนอกตายด้วยมือของลั่วเทียนจริงๆ แต่ถ้าไม่ใช่เพราะลั่วหลินบังคับให้พวกเขาไป มันก็ไม่มีทางที่เขาจะส่งตัวเองไปสู่ความตาย.

เนื่องจากพวกเขาต้องการพัวพันกับความตายก็ไม่สามารถตำหนิกับการกระทำของเขา

ถึงแม้ว่าแรงผลักดันจะมีผลเล็กน้อยก็ตามแต่มันก็เป็นเทคนิคของต่างโลก-ผู้แข็งแกร่งเป็นราชา นี่คือสถานที่ๆหมัดของคุณจัดการได้ทั้งหมด

ลั่วเทียนกำลังพูดสิ่งต่างๆมากมายเพื่อให้ทั้งตระกูลลั่วรู้ถึงความน่ารังเกียจที่ลั่วจินซานเป็นคนทำ

ใบหน้าของลั่วจินซานเริ่มหน้าเกลียดมากขึ้นไปทุกที กำปั้นที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้่อของเขาเริ่มกำแน่นขึ้นเรื่อยๆและมีบรรยากาศหนาวเย็นออกมาจากตัวเขา.ทันใดนั้น...

ลั่วเทียนคำราม “จะมีหอคุมกฏเพื่ออะไร?”

คิ้วของลั่วเล่ยขมวดแน่นก่อนที่จะเหลือบไปมองลั่วเทียนและจ้องมองไปที่ลั่วจินซานก่อนจะถามว่า “ลั่วเทียนเจ้ามีหลักฐานเกี่ยวกับสิ่งที่เจ้าพูดหรือไม่?”

“หลักฐาน?”

เมื่อได้ยินคำพูดนั้น ลั่วจินซานยิ้มอย่างเย่อหยิ่ง “ใช่แล้วลั่วเทียน เจ้ามีหลักฐานยืนยันสิ่งที่เจ้าพูดหรือไม่?”

“พ่องตาย

!”

“เขาบอกว่าบิดาคนนี้มีความผิด พวกเจ้าก็วิ่งออกมาเหมือนกับสุนัข บิดาคนนี้กล่าวว่าเขามีความผิด เจ้ากลับถามว่าข้ามีหลักฐานหรือไม่? ลั่วเล่ยดูเหมือนว่าจะไม่ต้องมีหอผู้คุมกฏอีกต่อไปแล้ว?”ลั่วเทียนแสยะยิ้มอย่างเย็นชาโดยไม่ต้องปิดบัง.คนที่อยู่ในหอผู้คุมกฎอยู่ในขั้นปราณเชี่ยวชาญ พลังของพวกเขาอาจเทียบได้กับผู้นำตระกูล

แต่..

ช่วงเวลาหลายปีมานี้หอผู้คุมกฏเปรียบกับเครื่องมือส่วนตัวของลั่วจินซานเพื่อกำจัดฝ่ายตรงข้ามของเขา.

“หอผู้คุมกฏน่ารังเกียจหรือไม่?”

“ทำไมพวกเจ้าไม่จับผู้ทรยศตัวนี้ไว้?”ทันใดนั้นลั่วจินซานก็คำรามออกมา.

การแสดงออกของผู้คุมกฏทั้ง 8 คนเปลี่ยนแปลงไปเนื่องจากพวกเขาไม่สามารถทนการดูถูกของลั่วเทียนได้อีกต่อไป พวกเขาชักอาวุธออกมาดัง “ชวิ้ง” ขณะที่พวกเขาโจมตีลั่วเทียน.

ลั่วเทียนหัวเราะอย่างเย็นชากลางอากาศก่อนที่จะพึมพำ“ตระกูลลั่วมันเน่าเสียลึกไปยันกระดูก แม้แต่หอผู้คุมกฏก็กลายเป็นเครื่องมือส่วนตัวของลั่วจินซาน!”

“ดูเหมือนตระกูลลั่วจะช่วยเหลือไม่ได้แล้ว.”

“ดี ดี ดี!”

ขณะที่ลั่วเทียนกล่าวคำว่า “ดี” สามครั้งโดยแต่ละครั้งก็ออกเสียงหนักขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายลั่วเทียนก็กำหมัดและตะโกนว่า “เนื่องจากมาถึงขึ้นนี้แล้วข้าจะสร้างตระกูลลั่วขึ้นมาใหม่เอง.”

“พวกเจ้าทั้งหลาย…”

“ทุกคนจะต้องตาย!”

เสียงของเขาจางหายไป...

กลิ่นอายของลั่วเทียนได้เพิ่มอีกครั้งนึงนับแต่นี้เขาไม่กล้าที่จะประมาทอีกต่อไปเมื่อต้องเผชิญกับผู้เชียวชาญทั้ง 8 คน จากปราณเชี่ยวชาณ แม้พวกเขาจะอยู่ขั้น 1 ปราณเชี่ยวชาญก็ไม่อาจประมาทได้เนื่องจากพวกเขาทำงานร่วมกัน!

“Level 2 Berserk!”

“ตูมม~!”

ภายในร่างกายของเขาก็มีเสียงระเบิดเบาๆออกมา ความสามมารถของเขาเพิ่มขึ้นเป็น 4 เท่าจากร่างกายเดิมๆของเขา ร่างกายของเขากลายเป็นสีแดงและเกิดหมอกสีขาว.

พลัง!

พลังที่เหนือชั้นถูกปล่อยออกมาอย่างไม่สนใจ.

กลิ่นอายที่ปล่อยออกมาเป็นเรื่องยากที่จะทำให้คนทั้ง 8 คนอดทนต่อไปได้พวกเขาต้องชะลอความเร็วลงอย่างเห็นได้ชัด.

สายตาของลั่วจินซานหดเกร็งขณะที่เขาหันไปทางอาวุโสทั้งสองและตะโกน “พวกเจ้ากำลังรอเขาเพื่อ? เข้าร่วมกับพวกเขาและฆ่าคนทรยศนั่น!”

อาวุโสทั้งสองลุกขึ้นมองดูกันและกันและทำราวกับว่าพวกเขาไม่ได้เห็นหรือไม่ยินอะไร.

ในเวลาเดียวกัน...

ด้วยพลังที่ฉีกออกมา. ลั่วเทียนเยาะเย้ยอย่างดุเดือดและพูดอย่างเย็นชา “ข้าจะช่วยให้พวกเจ้ารู้สึกกับทักษะใหม่!”

“แมกม่าไฟ!”

“ฮู่มมมมม~...”

“แผละ~… แผละ~…”

กำปั้นของลั่วเทียนเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีแดงเข้มจนกลายเป็นแมกม่า แมกม่าที่กำลังหยดออกจากกำปั้นของเขาสู่พื้ส่งเสียงดังออกมา เพียงได้ยินเสียงนี้ลั่วเทียนก็อธิบายได้แค่ว่า“โครตน่ากลัว!”

ทุกคนในตอนนี้ตกใจกับลั่วเทียนอย่างมาก!

เขารู้จักทักษะของกิ้งก่าลาวาได้อย่างไร?

ไม่มีใครสักคนรู้.

แม้แต่ฟางเล่ยที่โง่เง่า แต่เมื่อได้เห็นลั่วเทียนที่เป็นอยู่ เขาก็บ่นกับตัวเองอย่างโง่ๆออกมาว่า “นายท่าน นายน้อยแข็งแกร่งขึ้นแล้ว เขาแข็งแกร่งอย่างมาก.”

เหล่าสาวกตระกูลลั่วที่อยู่ภายนอกเมื่อเห็น สายตาของพวกเขากลายเป็นเทิดทูนยิ่งขึ้น

มีบางอย่างที่ไม่สามารถทำให้เขาหยุดกรีดร้องได้ “บอสที่ทรงพลัง บอสมีพลังที่ถ่วมท้น ข้ารักบอส…”

ในโถงหลักจิตใจของลั่วจินซานสั่น เขากำลังกัดฟันแน่นจนะได้ยินเสียงแตกหักเจตนาฆ่าก็เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน เมื่อเขาพูดกับตัวเอง “ไม่สำคัญว่าจะเกิดอะไรขึ้น ลั่วเทียนต้องตายวันนี้!”

หลังจากนั้นทันที...

ลั่วจินซานก็ปล่อยพลังขั้น 9 ปราณเชี่ยวชาญออกมาขณะเริ่มกลอกตาไปมองลั่วเทียน!

“สาฟฟ้าฟาด!”

“พยัคฆ์กระโจน!”

หมัดคู่ของลั่วเทียนเพิ่มพลังขึ้นด้วยแมกม่าไฟและปราณเชี่ยวชาญขั้น 3 ของเขาและยังมีความสามารถเพิ่มขึ้นอีก 4 เท่าจากของเดิม การจัดการกับ ปราณเชี่ยวชาญทั้ง 8 ที่อยู่เพียงขั้น 1 เป็นการฆ่าอย่างง่ายดาย.

เพียงหมัดเดียวก็ทะลุอกของพวกเขา

ฆ่าทันที!

“ติ้ง!”

“ติ้ง ติ้ง ติ้ง…”

การต่อย 8 ครั้งเหมือนกับเป็นเสียงฟ้าผ่าของการแจ้งเตือนของระบบที่เจ็ดครั้ง แถบประสบการณ์ของเขาเพิ่มสูง พลังปราณของเขาเพิ่มขึ้นและแต้มไร้พ่ายของเขาก็เพิ่มขึ้น.

จากคนทั้ง 8 คนของหอผู้คุมกฏเหลือเพียงลั่วเล่ยที่หลบหนีความตายได้ ใบหน้าของเขาดูน่าเกลียดมากยิ่งขึ้น

ลั่วเทียนเยาะเย้ย “ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่จะต่อสู้ได้ดี.”

ในตอนนั้นเอง...

ลั่วจินซานที่เหมือนผีก็วิ่งออกมาพร้อมกับคำราม“ฝ่ามือพุทธศักดิ์สิทธิ์!”

ใบหน้าของลั่วเทียนเปลี่ยนไป เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าลั่วจินซานจะลอบโจมตีเขา...

เชี่ย บอสแม่งใช้อันติ! กรูกลัวแร้ววว!

----------------

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด