ตอนที่แล้วตอนที่ 152: ออกเดินทางอีกครั้ง (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 154: เกิดเรื่องขึ้น (1)

ตอนที่ 153: ออกเดินทางอีกครั้ง (2)


ตามผมของการจำลองพลังจิตของแองเจเล่จะถึงขีดจำกัดหลังจากผ่านไปประมาณสองปี ถ้าเขาต้องการที่จะก้าวหน้าต่อไปเขาจะต้องหาวิธีการอื่น

มันเป็นเหตุผลว่าทำไมแองเจเล่ถึงต้องการที่จะเดินทางกลับไปที่นั่น

"ไม่สงสัยเลยว่าทำไมพ่อมดถึงไม่อยากอยู่ที่นี่" แองเจเล่ส่ายหัวขณะที่เขาเปิดประตูและเดินไปที่ชายหาด

"ไม่มีวัสดุคาถา ไม่มีทรัพยากรเวทมนต์และไม่มีพ่อมดคนอื่นอยู่ที่นี่ คนที่ข้าสามารถพูดด้วยได้มีเพียงคนธรรมดา"

'ซีโร่ ข้าต้องการที่จะเข้าถึงขั้นของเหลวข้าจะต้องมีเงื่อนไขอะไรบ้าง'

[ความต้องการ: 1.พลังจิตถึง 40 2.ยาต้นสังหารสามขวดเพื่อเพิ่มอัตราความสำเร็จ ตามความต้องการเหล่านี้จะเพิ่มอัตราความสำเร็จ 45.14%]

'ข้าสามารถปรุงยาสงบจิตเพื่อเพิ่มพลังจิตได้แต่ไม่มีวัสดุหรือวัสดุทดแทนที่นี่ ข้าต้องหาพ่อมดคนอื่นเพื่อทำการแลกเปลี่ยน ข้าให้ขวดสุดท้ายกับเวลเว็ต......อย่างไรก็ตามข้าต้องเดินทางกลับไปที่ดินแดนพ่อมดก่อน'

แองเจเล่ออกมาเดินท่ามกลางแสงแดดอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะกลับไปที่บ้านไม้หลังจากที่ร่างกายของเขาอุ่นขึ้น

เขาเดินไปที่โต๊ะ ทางด้านขวามีหลอดทดลองที่เต็มไปด้วยเลือดสีม่วง

ทางด้านซ้ายมีแก้วทรงกลมขนาดเล็กที่ถูกทำให้ร้อนขึ้นด้วยโคมไฟน้ำมัน มีของเหลวสีน้ำตาลเดือดอยู่ภายใน มันดูเหมือนกองโคลนและมีหนอนสีขาวอยู่บนผิวของมัน

ดูเหมือนว่าหนอนจะไม่ได้รับบาดเจ็บจากความร้อนแต่พวกมันก็ยังพยายามไต่ผนังด้านในของภาชนะแก้ว

ภาชนะแก้วนี้มีขนาดเท่ากำปั้น มันมีรูที่ช่วยให้ไอออกจากภาชนะ

หนอนเหล่านี้ยังคงปีนขึ้นและตกลง มีพวกมันอย่างน้อยหนึ่งพันตัวอยู่ภายใน

ของเหลวสีน้ำตาลถูกหลั่งออกมาจากอวัยวะของหนอนและมันทิ้งไว้ที่ผนังด้านในในขณะที่พวกมันกำลังปีน

แองเจเล่ดับโคมไฟน้ำมันภายใต้แก้วและเอามันออกมาจากโครงโลหะ

"ในที่สุดมันก็เสร็จ ข้าใช้เวลามากเกินไปในการผสมพันธุ์พวกมัน" เขาพึมพำ

แองเจเล่เอาจุกออกมาและคว้าหลอดทดลองที่เต็มไปด้วยเลือดสีม่วง

เขาเทเลือดเข้าไปในแก้วอย่างระมัดระวังและเลือดมันปกคลุมหนอนไปครึ่งหนึ่ง

ฟู่

มีเปลวไฟสีม่วงระเบิดภายในหลังจากที่ผ่านไปหลายวินาที

แองเจเล่ตกใจ เขาเอนไปข้างหลังและวางหลอดทดลองลง เปลวไฟเกือบจะโดนใบหน้าของเขาและถ้าเขาวางแก้วลงมันก็จะทำให้บ้านไฟไหม้

หนอนทั้งหมดภายในถูกทำให้ติดไฟด้วยเปลวไฟสีม่วง

หนอนขาวมันผสมกับของเหลวสีน้ำตาลและเปลวไฟก็ทำให้มันเข้มขึ้นในขณะที่หนอนเริ่มลุกไหม้

เปลวไฟสีม่วงทำให้ทุกอย่างในห้องดูเป็นสีม่วง กลิ่นไอเหม็นลอยอยู่ในอากาศ มันเกือบจะรู้สึกเหมือนมีคนกำลังปลาเน่าคลุกพริกป่น

แองเจเล่จับภาชนะแก้วไว้ในมือและรอปฏิกิริยาภายในเสร็จสิ้น

หนอนภายในถูกเผาเป็นขี้เถ้าสีดำและบางส่วนติดอยู่ที่ผนังด้านใน

สิบนาทีต่อมาเปลวไฟสีม่วงก็หายไปและควันสีเขียวก็เริ่มลอยออกมาจากภาชนะทรงกลม

แองเจเล่รอควันสีเขียวหายไปและเขาก็วางไว้ที่โครงโลหะอีกครั้ง เขาขูดกองขี้เถ้าสีดำทั้งหมดรวมกัน

จากนั้นเขาก็นำขวดคริสตัลขนาดเล็กออกมาจากกระเป๋าและชี้ไปในอากาศ มีจุดแสงปรากฏที่ปลายนิ้วของเขาทันที

แองเจเล่รีบวาดรูนสีแดงในอากาศอย่างรวดเร็วซึ่งมันดูเหมือนตรีศูลไขว้กัน รูนลอยอยู่ในอากาศอย่างเงียบๆแล้วก็เปลี่ยนเป็นแสงสีแดงและตกลงไปในภาชนะแก้วทรงกลม

ดวงตาของเขาแคบลงและเขาก็เอานิ้วมือซ้ายจิ้มเข้าไปในทรงกลมหลังจากที่รูนหล่นลงไป

ชี่

เสียงมันฟังเหมือนนิ้วของเขากำลังถูกย่าง

มีเหงื่อเริ่มหยดลงมาจากคางของแองเจเล่ เขากำลังทุกข์ทรมานจากอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรง

มีสายสีดำค่อยๆปีนขึ้นไปบนนิ้วของเขาและเปลี่ยนเป็นลูกขนาดเท่าฝ่ามือ

มีจุดแสงสีน้ำเงินอยู่ในดวงตาของเขา แองเจเล่จ้องไปที่มือซ้ายและกัดฟัน

"อา!"

เสียงมันฟังเหมือนเสียงกรีดร้องของผู้หญิงที่สิ้นหวัง

บ้านไม้ทั้งหลังสั่นหลายครั้ง มือซ้ายของแองเจเล่ถูกผลักออกมาจากภาชนะด้วยอะไรบางอย่าง

แองเจเล่กำลังหายใจอย่างแรง เขายกมือซ้ายและดูที่ฝ่ามือ มีไอน้ำสีดำค่อยๆออกมาจากผิวของเขา

อย่างไรก็ตามไอน้ำได้หายไปหลังจากที่ผ่านไปหลายวินาทีโดยไม่ทิ้งร่องรอยใดๆ

"ข้าล้มเหลว.....มีโอกาสอีกครั้ง" แองเจเล่ถอนหายใจ

เขาเปิดลิ้นชักและเอาภาชนะทรงกลมขนาดเล็กออกมา มันเต็มไปด้วยหนอนสีขาวและของเหลวสีน้ำตาล

แองเจเล่ทำขั้นตอนเดิมอีกครั้งและจิ้มนิ้วเข้าไปในทรงกลม

มีสายสีดำค่อยๆดูดซับขี้เถ้าในภาชนะและปีนขึ้นมาที่นิ้วของเขา

ชี่

มีลวดลายสีดำปรากฏที่ฝ่ามือของเขาและครั้งนี้ทุกสิ่งทุกอย่างมันเป็นไปตามแผน ขี้เถ้าสีดำถูกสายสีดำดูดซับอย่างสมบูรณ์หลังจากที่ผ่านไปหลายนาที

แองเจเล่ขยับนิ้วออกจากภาชนะและก้าวถอยหลัง ชุดของเขาเปียกโชก

เขายกมือซ้ายขึ้นและเฝ้าดูลวดลายที่ฝ่ามือของเขาขยับ

เมื่อเวลาผ่านไปลวดลายสีดำก็หยุดเปลี่ยนรูปร่างหลังจากที่ผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมง

มีลวดลายอยู่ที่มือซ้ายของเขา มันดูเหมือนกับปีกที่กำลังสยาย

"ในที่สุดก็ได้ตราเลือด ข้าประสบความสำเร็จ" แองเจเล่ตื่นเต้นในขณะที่มองไปที่ฝ่ามือซ้าย

"แม้ว่าเลือดโบราณของฮาร์ปี้จะมีพิษร้ายแรงและข้าไม่สามารถใช้มันได้ แต่ข้าก็ยังสามารถสร้างตราเลือดได้ นอกจากนี้ข้าคิดว่าข้าเป็นเพียงพ่อมดคนเดียวในโลกนี้ที่สามารถสกัดเลือดโบราณของฮาร์ปี้ได้" แองเจเล่พอใจกับผลลัพธ์

"ตำนานบอกว่าฮาร์ปี้โบราณสามารถลากศัตรูของพวกมันลงนรกได้ ตรานี้ทำจากเลือดโบราณของพวกมัน แม้ว่ามันจะใช้ได้เพียงห้าครั้งแต่ข้าก็ยังทำให้คู่ต่อสู้เห็นภาพหลอนได้เมื่อจำเป็น"

***********************

หลายเดือนต่อมาแองเจเล่ก็มาที่ท่าเรือมารัวอีกครั้งและมอบของให้พ่อของเขาและอาจารย์ก่อนที่จะขึ้นฟิวเจอร์

บนดาดฟ้าที่มืดมิดของฟิวเจอร์

แองเจเล่กำลังสวมชุดคลุมสีดำพร้อมกับดึงฮู้ดขึ้นมา เขายืนอยู่ข้างราวและมองไปที่ท่าเรือ เขายังเห็นผู้คนกำลังโบกมือไปทางเรือที่ออกเดินทาง มีพ่อมดฝึกหัดคนใหม่กำลังคุยกันอยู่ข้างหลังเขา ดาดฟ้าเรือค่อนข้างเสียงดัง

แองเจเล่กะพริบตาและหันกลับไป มีลมแรงพัดมาจนทำให้ฮู้ดของเขาเปิดออกและผมน้ำตาลที่ยาวของเขาก็ลอยอยู่ในอากาศ

ด้านซ้ายมือของเขามีพ่อมดกำลังมองไปที่ทะเล เขาเป็นพ่อมดมืด แองเจเล่มองเห็นอนุภาคพลังงานเชิงลบรอบตัวเขา

นอกจากนี้ยังมีหญิงสาวสวมชุดคลุมสีขาวพูดกับพ่อมดฝึกหัดหลายคนที่อยู่ข้างบันได มันดูเหมือนว่าเธอกำลังตรวจสอบอะไรบางอย่างกับพวกเขา

แองเจเล่มองไปรอบๆและเห็นชายหนุ่มในชุดคลุมสีขาวเดินขึ้นบันไดและเริ่มพูดคุยกับหญิงสาว

ดาดฟ้ามีเสียงดังดังนั้นแองเจเล่จึงไม่ได้ยินว่าพวกเขากำลังพูดเรื่องอะไร เขารู้ว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง

ในขณะนี้มีพ่อมดทางการอยู่สี่คนรวมถึงตัวเขา แองเจเล่ตื่นตัวกับสถานการณ์ที่ผิดปกติ

พ่อมดแสงสองคนโบกมือของพวกเขาและบอกให้พ่อมดฝึกหัดกลับไปที่ห้องโดยสารของพวกเขา

ผู้หญิงเหลือบมาทางแองเจเล่ก่อนที่เธอจะหันกลับไป

"ฟรานซิสเจ้ารู้จักชุดคลุมดำทั้งสองคนไหม ทำไมมีพ่อมดมากมายอยู่บนเรือ แม้ว่าเผ่าใต้ดินจะบุกรุกดินแดนอยู่แต่มันก็ค่อนข้างแปลก" ริมฝีปากของเธอขยับเล็กน้อยและคำพูดของเธอดังก้องอยู่ในหูของพ่อมดชุดคลุมขาว

ผู้ชายขมวดคิ้วและส่ายหัว เขาใช้วิธีเดียวกันในการส่งข้อความ

"ข้าไม่รู้ แม้ว่าข้าจะเป็นผู้รับผิดชอบของการเดินทางครั้งนี้ข้าก็ยังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าใครจะขึ้นเรือ"

"มีคนทำแผนรั่วงั้นหรือ" ทันใดนั้นผู้หญิงก็คิดอะไรบางอย่างและการแสดงออกของเธอก็เปลี่ยนไป

"มันเป็นไปไม่ได้บียอนเซ่" ฟรานซิสส่ายหัวอีกครั้ง

"เฉพาะคนในองค์กรที่รู้เกี่ยวกับภารกิจที่แท้จริงของเราในครั้งนี้ อุปกรณ์นี้เป็นสิ่งสำคัญกับเรา เราไม่สามารถปล่อยให้คนอื่นเอามันไปได้"

"เอาล่ะ เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับสิ่งที่แย่ที่สุด" ดวงตาของเธอส่องแสงวูบ

"ถ้าพวกเขามาที่นี่เพื่ออุปกรณ์จริงๆข้าจะแสดงให้พวกเขาเห็นถึงพลังที่แท้จริงของข้า"

"เราอยู่บนเรือ การโยนพ่อมดหนึ่งหรือสองคนลงไปในทะเลไม่ใช่ปัญหาใหญ่" ฟรานซิสยิ้มด้วยความมั่นใจ

อีกด้านหนึ่งของดาดฟ้า มีชายชุดคลุมดำเฝ้าดูชุดคลุมขาวสองคนคุยกันและหัวเราะเยาะ

"ดูเหมือนพวกเขามีอุปกรณ์บางอย่างบนเรือนี้เดฟ" มีเสียงแหลมสูงออกมาจากคอของเขา

มีตาขาบสีแดงเข้มเคลื่อนไหวอยู่ที่คอของเขา ตะขาบมีขนาดเท่าฝ่ามือและมีแสงสีเงินอยู่บนร่างของมัน

ชายชุดคลุมดำหันกลับไป "ดี ข้าไม่ได้มาที่นี่อย่างไร้ความหมาย ขอบคุณสำหรับข้อมูล" เขาพูดเสียงเบา

"ข้าทำเพราะเจ้าสัญญากับข้าไว้ อย่าทำให้ข้าผิดหวัง" ตะขาบตอบ

"มันใช้พลังจิตมากเกินไปในการควบคุมสิ่งมีชีวิตจากระยะไกลเช่นนี้ ข้าจะปล่อยให้เจ้าจัดการ ขอให้เจ้าโชคดี"

"ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้" คาเลลโล่คว้าไปที่ตะขาบและเอาหัวใส่เข้าไปในปากของเขา มีน้ำสีเหลืองของตะขาบหยดลงที่คางของเขาขณะที่เขาเคี้ยว ร่างกายครึ่งหนึ่งของมันยังขยับอยู่

คาเลลโล่ดันส่วนที่เหลือเข้าไปในปากและกลืนมันลงไป

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด