ตอนที่แล้วตอนที่ 46 ช่วยชีวิต
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 48 ผู้ลี้ภัย

ตอนที่ 47 สิ่งไม่คาดคิด


 

“เจียงเฉินออกไปจากที่นี่ หน่วยลาดตะเวนของไอเอสได้สังเกตเห็นความวุ่นวายในด้านนี้แล้วและพวกเขาจะส่งกำลังเสริมมา” เสียงของนิคส่งผ่านมาจากอุปกรณ์สื่อสาร

 

“รับทราบ” นิคโบกมือให้กับโรเบิร์ตและตะโกนว่า “เร็ว! เริ่มวิ่ง”

 

ก่อนที่เขาจะจบประโยค เจียงเฉินก็พุ่งออกมาจากอาคารและยิงเข้าไปในท้องฟ้า กระสุนปืนทำให้พลเรือนทั้งหมดกระจัดกระจายด้วยความสับสน ในเวลาเดียวกันเขาเรียกโรเบิร์ตและมุ่งตรงเข้าไปในซอย

 

“ให้ตายเถอะ! มีปืนกลหนัก” นิคสบถขณะที่รีบเริ่มเคลื่อนที่ ตำแหน่งของเขาได้รับการเปิดเผยเมื่อพวกมันสวนมา

 

รถกระบะโตโยต้าที่ติดตั้งปืนกลหนักขับผ่านถนนและมุ่งหน้าไปยังอาคารที่ได้จับตัวประกันไว้ ทหารบนรถกระบะเรียกทหารคนอื่นๆพร้อมกับเปิดสวิตช์อย่างเฉียบพลันเพื่อเตรียมพร้อมยิง

 

ทาทาทา!

 

กระสุนยิงออกมาเหมือนฝนตก ยับยั้งตำแหน่งของนิคได้อย่างรวดเร็วซึ่งบังคับเขาให้เขาออกจากพื้นและคลานไปที่บันได จากนั้นเขาก็กระโดดและหนีลงไปที่ชั้นล่าง

 

ทหารไอเอสไม่สามารถดูถูกได้ขณะที่ทีมลาดตระเวนสิบคนได้ถือปืนไรเฟิลจู่โจมและเดินไปยังสถานที่ตั้งของนิคพร้อมกับตั้งใจจะล้อมรอบเขา อย่างไรก็ตามในฐานะทหารผ่านศึกผู้ช่ำชอง เขาถอยกลับและยืงปืน M27 ขณะที่เคลื่อนที่กลับไปที่รถ

 

อีกด้านหนึ่ง เจียงเฉินใช้อีพีเพื่อควบคุมโดรนและหลีกเลี่ยงการไล่ล่าของทหารไอเอสขณะที่พวกเขาเดินผ่านเขตวงล้อมของศัตรูไปที่ปลอดภัย

 

“เร็ว! เข้าไปในรถ! คุณขับ!” เจียงเฉินเปิดประตูและผลักโรเบิร์ตเข้าไป จากนั้นเขาก็บินโดรนไปในทิศทางของนิค

 

“ฉันถูกล้อมรอบ พวกคุณออกไปก่อน” นิคกัดฟันและเหลือบมองไปที่บาดแผลบนไหล่ซ้ายของเขา เขายิงสองสามนัดด้วยหนึ่งมือและวิ่งเข้าไปในอีกซอย

 

แม้ว่าเขาจะจำแผนผังของสถานที่แห่งนี้ได้ ความรู้ของเขาไม่สามารถเทียบได้กับทหารไอเอสที่ประจำการลาดตระเวนแถวนี้ นิคได้ยอมรับชะตากรรมของเขาแล้วหรืออย่างน้อยเขาควรตายไปแล้วในเมืองเล็กๆในเคน

 

เขาจะต้องชดใช้ผู้มีพระคุณ

 

รอยยิ้มแสยะปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนิคขณะที่เขากระแทกผนังไม้ออกไปที่ด้านข้างของถนน

 

เขาตัดสินใจจะไม่วิ่งอีกต่อไป เขาต้องการสอนเหล่าคนเลวที่โหดร้ายนี้รู้จักคนที่เป็นนับรถที่แท้จริง

 

“ทิศทางหกนาฬิกา  ไปที่ซอยนั่น เร็ว!”

 

เสียงจากหูฟังทำให้เขาหยุดชั่วครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะกัดฟันของเขาและไปตามทิศทางที่เจียงเฉินให้เข้าไปในซอย เกือบจะในเวลาเดียวกันเขาชะงักหยุดด้วยมุมดวงตาของเขา รถกระบะโตโยต้าเพิ่งวิ่งผ่านสถานที่เขาเคยอยู่

 

หยาดเหงื่อเย็นท่วมใบหน้าของเขาขณะที่เขารีบทำตามคะแนะนำของเจียงเฉินและรีบไป

 

“มีร้านขายผลไม้ เข้าไปข้างในแล้วในห้องจะมีประตูหลัง” ภายใต้การแนะนำของโดรน การเคลื่อนไหวทั้งหมดของไอเอสถูกเปิดเผย

 

แม้ว่าจะเป็นทิศทางที่ตรงกันข้ามอย่างสมบูรณ์แบบกับรถ นิคเลือกที่จะไว้ใจคำแนะนำของเจียงเฉิน เขาเตะเปิดประตูไม้ขณะที่เขาไม่สนใจผู้หญิงที่กำลังกรีดร้อง ผู้ชายหวาดกลัวเช่นเดียวกับเด็กที่ไร้เดียงสา เขาขู่ด้วยการถือปืนขึ้นมาและรีบก้าวอย่างรวดเร็วมุ่งไปที่ประตูหลัง

 

ปัง!

 

นิคใช้ไหล่ขวาของเขาเพื่อกระแทกเปิดประตูและเดินไปที่อีกถนน

 

“ข้ามถนนและเข้าไปในซอยก่อนที่คุณจะทำการเลี้ยวซ้าย”

 

เสียงฝีเท้าของทหารไอเอสและเสียงตะโกนดังมาจากระยะไกล นิคต่อต้านความเจ็บปวดที่ไหล่ของเขาและถือปืนไรเฟิลของเขาข้ามถนน

 

รอยเท้ากำลังเคลื่อนห่างออกไป มันดูเหมือนว่าพวกเขาแพ้เขา นิครีบถอนหายใจก่อนที่เขาจะหยิบผ้าพันแผลออกมา เขาห่อบาดแผลขณะวิ่ง ภายใต้ทิศทางของเจียงเฉิน เขารีบกลับไปที่รถ

 

“เราต้องรีบ มีทหารมากขึ้นและทหารไอเอสจำนวนมากกำลังมาในทิศทางนี้” เจียงเฉินช่วยนิคโดยการเปิดประตูหลังขณะที่เขานั่งอยู่ที่เบาะผู้โดยสารด้านหน้า โรเบิร์ตนั่งตรงข้ามพวงมาลัยขณะที่เขาเริ่มออกรถ นิคถอดเสื้อเชิ้ตของเขาออกและเปลี่ยนเสื้อเชิ้ตที่เขาเตรียมไว้ก่อนหน้าเพื่อปกปิดแผลของเขา

 

"เราจะไปที่ไหน?" โรเบิร์ตขับรถออกจากซอยและตรวจสอบรอบๆ

 

เจียงเฉินเอื้อมมือออกไปนอกหน้าต่างเพื่อที่จะดึงโดรนขนาดเท่าฝ่ามือเข้ามาข้างในขณะที่เขายัดมันกลับเข้าไปในกระเป๋าของเขา

 

"มุ่งหน้าไปยังทะเลทราย ถนนทุกสายจะถูกปิดกั้น"

 

“พระเจ้า...ฉันยังมีชีวิตอยู่ นี้มันไม่น่าเชื่อเลย” โรเบิร์ตขับรถขณะที่เขาถอนหายใจยาวออกมา

 

“เรายังหนีไม่เสร็จเลย” เจียงเฉินกล่าวด้วยรอยยิ้มขม เขาได้ประเมินต่ำความสามารถของผู้ก่อการร้ายในขณะที่พวกมันตอบโต้ด้วยความรวดเร็วดังกล่าว แผนเดิมคือไปตามถนนและมุ่งหน้ากลับเข้าไปในกรุงแบกแดด

 

“ไอเอสแข็งแกร่งมากเมื่อเทียบกับหัวรุนแรงอื่นๆ ฉันคิดว่าคุณมีแผน” นิคลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูด

 

เจียงเฉินได้ยินคำพูดขณะที่เขายิ้มด้วยความขมขื่น

 

[ฉันจริงๆแล้วไม่มีแผน ดูเหมือนว่าฉันจะมั่นใจในตัวเองมากเกินไปในเวลานี้]

 

เขาไม่ได้กังวลกับการถูกจับโดยไอเอสเนื่องจากเขาสามารถซ่อนได้ตลอดเวลาในโลกที่เกิดหายนะ อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถพาโรเบิร์ตและนิคไปได้

 

"..." โรเบิร์ตรู้สึกถึงความอึดอัดใจที่ใบหน้าของเจียงเฉินขณะที่เขาหัวเราะ “อย่ากังวล เรนาจะเห็นขณะที่เราไป พวกมันไม่สามรถไล่ตามเราได้ตลอดไป”

 

เขาเปิดจีพีเอสบนรถ

 

“เรายังมีเชื้อเพลิงเพียงพอ เราจะข้ามทะเลทรายไปทางด้านเหนือของทะเลสาบทาทาแล้วไปติกรีต ถ้าเราโชคดี กองกำลังรัฐบาลควรจะควบคุมพื้นทิ่อยู่” รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยการยอมรับสภาพปรากฏขึ้นบนใบหน้าโรเบิร์ตแต่เจียงเฉินไม่สามารถแม้แต่จะยิ้มได้

 

กล่าวอีกนัยหนึ่งถ้าติกรีตอยู่ภายใต้การควบคุมของไอเอส

 

พวกเขาจะต้องเล่นพนัน

 

ถ้าเขารู้ว่ามันเป็นปัญหามาก...ไม่เป็นไรเขาอยู่ที่นี่แล้วและมีโอกาสทดสอบความแข็งแกร่งของอุปกรณ์นี้ เจียงเฉินส่ายหัวขณะที่เขาหลับตาลงเพื่อผักผ่อน น่าแปลกใจที่เขาตระหนักว่าไม่รู้สึกอึดอัดอีกต่อไปในการฆ่าคน

 

มันยากที่จะบอกว่ามันเป็นสิ่งที่ดีหรือไม่

 

อาจเป็นเพราะทุกคนที่เขาฆ่าสมควรได้รับมัน เจียงเฉินจำเหตุการณ์เลวร้ายที่ดำเนินการโดยไอเอสขณะที่เขาพยายามจะปรับตัวเข้ากับการกระทำของเขา

 

โรเบิร์ตมองในแง่ดีในขณะที่เขาฮัมเพลงไปพร้อมกับทำนองเพลงบนรถ ผู้ชายคนนี้อาจได้เห็นความตายมามากเกินไปที่จะไปใส่ใจกับมัน

 

เมื่อเพลงเล่นเสียงดังพร้อมกับรถยกฝุ่นบนพื้นทรายขึ้นและขับรถเข้าไปในทะเลทรายที่ไม่มีที่สิ้นสุด

 

ทรายทุกเม็ดที่นี่ปกคลุมไปด้วยกลิ่นของความสับสนวุ่นวาย

 

 

เซียชียูนั่งบนโซฟาพร้อมกับหัวของเธอห่อด้วยผ้าเช็ดตัว ภายใต้เสื้อคลุมอาบน้ำ ขาเรียบและอ่อนนุ่มของเธออาจมองเห็นได้ชัดเจนจากผิวที่มีหยดน้ำปกคลุม มันอยู่ในช่วงกลางฤดูร้อนขณะที่ห้องมีแอร์ปรับอากาศ เธอไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าเลยขณะที่เธอมีความสุขกับสายลมอ่อนๆ

 

แม้ว่าเธอจะมีใบหน้าที่น่าสนใจมากกว่าคนดัง แม้ในเวลาว่างของเธอ แต่มันก็ปราศจากความรู้ศึก

 

เธอเอนตัวลงกับโซฟาขณะที่เธอยกขาขึ้น เธอเปิดทีวีด้วยรีโมท

 

“ตอนนี้เราจะดำเนินข่าวชิ้นต่อไป เช้านี้ ไอเอสริเริ่มการโจมตีติกรีต ประธานาธิบดีอิรักกล่าวว่าพวกเขาจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องติกรีต”

 

เซียชียูไม่ค่อยสนใจข่าวต่างประเทศ เช่นเดียวกับมืออาชีพที่ทันสมัย เธอสนใจในการแสดงตลก โดยเฉพาะคนที่ทให้ผู้คนหัวเราะ

 

น่าแปลกใจสำหรับคนที่ไม่ชอบยิ้มสนุกกับอารมณ์ขัน

 

[วันนี้ไม่มีข่าวอะไร?]

 

เซียชียูหายใจออกด้วยเหตุผลที่ไม่สามารถอธิบายได้

 

[ไม่มีข่าวอาจหมายความว่าเขาปลอดภัย]

 

อย่างน้อยข่าวไม่ได้บอกว่าชายชาวจีนถูกลักพาตัวและจับเป็นตัวประกัน กระทรวงการต่างประเทศให้คำแนะนำแก่ประชาชน...และข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

[หืมม? ทำไมฉันถึงเป็นห่วงเขา?]

 

เซียชียูรู้สึกตกใจอย่างกะทันหันขณะที่เธอสัมผัสริมฝีปากของเธอตามมาด้วยความสับสนกระพริบผ่านดวงตา

 

เธอส่ายหัวและผลักใบหน้ายิ้มตลอดเวลาออกจากศีรษะขณะที่เธอเริ่มเปลี่ยนช่อง

 

[มันต้องเป็นเพราะฉันรู้สึกเหนื่อยเกินไปเมื่อไม่นานนี้]

 

ด้วยนักแสดงตลกบนหน้าจอและเสียงหัวเราะจากผู้ชม เซียชียูก็ลืมเกี่ยวกับสิ่งที่ทำให้เธอตกใจ

 

การหายใจของเธอกลับมาเป็นปกติตามมาด้วยอารมณ์ของเธอกลับสู่ภาวะปกติ

 

 

เมื่อค่ำคืนมาถึง เจียงเฉินพิงเบาะรถขณะที่บุหรี่อยู่ในปากของเขา

 

เพื่อป้องกันการถูกเห็น ไฟหน้าจะต้องปิด มันจะเป็นอันตรายเกินไปที่จะไปต่อโดยไม่มีแสงใดๆ โรเบิร์ตจึงหยุดรถ

 

“ถ้าคุณไม่สามารถนอนหลับ ทำไมคุณไม่ออกมาเฝ้าตอนนี้?” โรเบิร์ตยิ้มอย่างขมขื่นขณะที่เขาเอาตัวกดกับพวงมาลัย นิคในด้านหลังกำลังกรนอย่างกับพายุ

 

“ไกลแค่ไหน?” เจียงเฉินเป่าเป็นรูปวงแหวนขณะที่เขาถอนหายใจ

 

“อาจจะอีกสองวัน มีน้ำและอาหารเพียงพอ คุณไม่ต้องกังวลเกินไป” โรเบิร์ตยักไหล่

 

เจียงเฉินกลิ้งดวงตาของเขา [ใครเป็นคนช่วยใครกันแน่?]

 

“ฉันทำเพื่อกำจัดทองสิบตัน” เจียงเฉินม้วนริมฝีปากของเขา

 

"สิบตัน!?" โรเบิร์ตก็ลุกขึ้นยืนแต่แล้วมันก็เกิดเสียงดังขึ้น หัวของเขาชนกับหลังคาแต่เขาต่อต้านความเจ็บปวดขณะที่เขาจ้องเจียงเฉินเต็มไปด้วยความคิด

 

“...เหี้ย อย่ามองมาที่ฉันแบบนั้น” เจียงเฉินรู้สึกขนลุกขณะที่เขากลับไปดูถูก

 

“ฮิฮิ” โรเบิร์ตสัมผัสผมสีบลอนด์ของเขาและเดินกลับ “ฉันรู้ว่ามีข้อตกลงหนึ่งร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ทำไมฉันถึงมาค้าอาวธใช่มั้ย? ฉันจะช่วยคุณในการขายทอง”

 

“ไม่ ฉันเพียงเก็บทองคำมาหลายปีได้เป็นจำนวนมาก ฉันจะเริ่มเปลี่ยนไปอุสาหกรรมอื่นๆที่ดีกว่า” เจียงเฉินถอนหายใจ

 

“เปลี่ยนอะไร? จะมีอะไรที่ง่ายกว่าการขาย?” โรเบิร์ตไม่สามารถหลับได้อีกต่อไปในขณะที่เขาจะสูบบุหรี่ด้วยเช่นกัน

 

"เทคโนโลยี"

 

“เทคโนโลยี? บุฟเฟ่ต์ยังไม่กล้าแม้แต่จะสัมผัส” โรเบิร์ตหัวเราะเยาะจนท้องแข็ง “ฉันพยายามที่จะเปิดบริษัทอาวุธปืนของตัวเองก่อนมาก่อนแต่ไม่นานก็ยอมแพ้ ความเสี่ยงในการพัฒนาสูงเกินไปดังนั้นฉันจึงขายผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปเท่านั้น มันง่ายที่จะทำเงินด้วยวิธีนี้”

 

“มันยังอันตรายมากกว่า” เจียงเฉินไม่เห็นด้วย

 

"แน่นอน แต่ฉันชอบการผจญภัย" โรเบิร์ตหัวเราะอย่างงุ่มง่ามในขณะที่เขาหลีกเลี่ยงหัวข้อนี้

 

ค่ำคืนในทะเลทรายอยู่ในความเงียบและความสงบโดยปราศจากจิตวิญญาณที่สามารถมองเห็น ขณะที่พวกเขาออกห่างจากเมืองฮาดิธา การระเบิดเกิดขึ้นเป็นครั้งคราวเริ่มจางหายไปเช่นกัน แต่ภายในท้องฟ้ายามค่ำคืนที่เงียบสงบ เสียงระเบิดใกล้ๆจนทำให้พื้นดินสั่นสามารถได้ยินในชั่วขณะหนึ่ง

 

“F-22 มันอาจเป็นสหรัฐที่กำลังทำภารกิจสอดแนม บางทีเราอาจจะอยู่บนแผนที่ความร้อนแล้ว” โรเบิร์ตยกศีรษะขึ้น

 

“โอ้? ทหาทรสหรัฐกระโดดออกมาและช่วยคุณ?” เจียงเฉินยิ้ม

 

“ไม่มีทาง เราเป็นเพียงจุดสีขาวบนแผนที่ความร้อน มีผู้ลี้ภัยมากมายในทะเลทราย สิ่งที่ดีคือไม่มีอาวุธอยู่ด้านหลังของรถหรือบางทีกระสุนจะบินลงมาหาเรา” โรเบิร์ตหัวเราะที่ข้อคิดเห็น

 

เจียงเฉินจ้องไปที่ท้องฟ้าที่ห่างออกไป เมฆบางและดวงจันทร์ก็สว่าง แต่แม้ในแสงจันทร์เขาไม่เห็นอะไรเลย

 

“ฉันไม่เข้าใจ ฉันรู้สึกว่าทหารไอเอสไม่ได้แข็งแกร่ง ด้วยการโจมตีทางอากาศของหลายๆประเทศ พวกเขาสามารถจัดการปัญหาได้แต่ทำไมถึงยังไม่ทำ?” เจียงเฉินไม่ได้มีความรู้สึกอะไรเลยกลับกลุ่มนี้

 

ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมืองหรือสัญชาติ จากมุมมองของมนุษย์ที่ได้เห็นภาพรวม กลุ่มใดก็ตามที่ฆ่าพลเรือนและข่มขืนผู้หญิงจะเป็นที่น่เกลียดชังและน่ารังเกียจ ด้วยเหตุผลใดก็ตามมันไม่สามารถแสดงให้เห็นถึงอาชญกรรมกับความเป็นมนุษย์

 

เขาต้องการที่จะหัวเราะเยาะกลุ่มคนบ้าที่กล่าวอ้างสิทธิ์ที่น่าหัวเราะหลายอย่าง แต่เขาไม่สามารถทำได้

 

"เป็นเรื่องปกติ" โรเบิร์ตยักไหล่ “ไม่ใช่แค่กลุ่มผู้ก่อการร้าย มันเป็นกองทัพที่น่าสะพรึ่งกลัวที่รวมเข้ากับรัฐบาลที่มีความทะเยอทะยาน หลายคนได้รับการศึกษาที่สูงขึ้นและการฝึกฝนชั้นยอดซึ่งสอนให้หลีกเลี่ยงการถูกโจมตีทางอากาศและการสอดแนม นอกจากนี้ฝ่ายตรงข้ามจะมีสายลับของพวกเขาเอง ใช้ตุรกีเป็นตัวอย่าง จุดยืนของพวกเขาในไอเอสก็ไม่ชัดเจน”

 

ในขณะนั้นโรเบิร์ตก็ยิ้มอย่างสงสัย

 

“นอกจากนี้ถ้าสงครามสิ้นสุดลงอย่างรวดเร็ว เราจะเลี้ยงตัวเองได้อย่างไร? อัตราว่างงานจะลดลงไปเท่าไหร่?”

 

เจียงเฉินคิดเกี่ยวกับมันขณะที่เขาหัวเราะ

 

เขาพูดถูก

 

ใครจะสนใจ ตะวันออกกลางห่างไกลจากฮัน

 

แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างเขาจำได้ถึงโลกที่เกิดหายนะเนื่องจากสงครามนิวเคลียร์

 

โลกที่แม้แต่ดวงอาทิตย์ในช่วงกลางฤดูร้อนไม่สามารถส่องผ่านเมฒรังสีที่หนาแน่นได้ โลกที่ไม่มีสักเม็ดข้าวเติมโตขึ้นและโลกที่หลายล้านคนเกิดมาต้องเผชิญหน้ากับประสบการณ์ของความรุนแรง

 

เจียงเฉินทันทีก็รู้สึกหนาวเหน็บ เขาพยายามที่จะห่อตัวเองให้แน่นกับเสื้อผ้าของเขา

 

ค่ำคืนในทะเลทรายเย็นเกินไป

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด