ตอนที่แล้วเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 69 ชีวิตที่มีค่าน้อยกว่าต้นหญ้า (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 71 กดตนเองให้ต่ำ (อ่านฟรี)

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 70 ความแข็งแกร่งจากวิญญาณหมูขาว (อ่านฟรี)


เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 70 ความแข็งแกร่งของหมูขาว  

 แปลโดย iPAT 

ในยามดึกสงัด จันทร์เต็มดวงลอยสูงอยู่บนท้องฟ้า

ท่ามกลางป่าอันรกทึบ ฟางหยวนเดินอยู่บนพื้นหญ้าสีเขียวและลอบเข้าไปใกล้หมู่ป่าตัวหนึ่งอย่างเงียบเชียบ

หมูป่าตัวนี้กำลังก้มศีรษะและใช้จมูกของมันดมกลิ่นที่อยู่บนพื้นดินเพื่อหาอาหาร

หมูป่าสามารถกินหนอน แมลง ไข่นก หนู กระต่าย หรือกระทั่งสิ่งมีชีวิตเช่นงูหรือแมงป่อง

ฟางหยวนค่อยๆก้าวเข้าไปด้านหลังของหมูป่า

ภายใต้แสงจันทร์ คนผู้หนึ่งสามารถมองเห็นผิวสีเทาที่แข็งกระด้างของหมู่ป่าได้อย่างชัดเจน บนแผ่นหลังของมันมีขนที่หยาบหนาราวกับเข็มเย็บผ้ากระจายอยู่ทั่วไป ตอนนี้มันกำลังใช้เท้าหน้าขุดดินเพื่อค้นหาบางสิ่ง แต่ในเวลาต่อมามันกลับกระโดดไปรอบๆราวกับต้องการจับแมลงบางอย่าง

ทันใดนั้นหมูป่าพลันหยุดการล่าอาหารและเงยศีรษะขึ้น หูของมันกระดิกสองสามครั้งก่อนจะหันหลังกลับและคำรามเสียงต่ำ แม้ฟางหยวนจะเคลื่อนไหวอย่างแผ่วเบา แต่หมูป่ายังรับรู้ถึงการคงอยู่ของเขา

ฟางหยวนไม่แปลกใจกับเรื่องนี้ สัตว์ป่าไม่ใช่สัตว์เลี้ยง พวกมันมีสัญชาตญาณและประสาทสัมผัสที่แหลมคม โดยเฉพาะหมูป่าที่มีความชำนาญในการค้นหารังนกที่ถูกซ่อนไว้ตามสถานที่ต่างๆ

ฟางหยวนไม่ได้สร้างเสียงใดๆ แต่ในระยะหนึ่งร้อยเมตร หมูป่ายังสามารถได้กลิ่นมนุษย์

แม้ฟางหยวนจะมีวิญญาณอยู่ในร่างกายถึงห้าดวง แต่ไม่ว่าจะเป็นวิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณสุรา วิญญาณแสงดาว หรือวิญญาณหมูขาว พวกมันไม่มีความสามารถในการปกปิดตัวตน

หากฟางหยวนครอบครองวิญญาณที่สามารถลบกลิ่นอาย เขาจะสามารถเข้าใกล้หมูป่าในระยะสิบก้าวโดยที่มันไม่รู้ตัว

อย่างไรก็ตามหากเขาครอบครองวิญญาณมากกว่านี้ เขาจะประสบปัญหาใหญ่ในการเลี้ยงดูพวกมัน

โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณจะเลี้ยงวิญญาณเอาไว้เพียงสี่หรือห้าดวงเป็นอย่างมาก ดังนั้นผู้ใช้วิญญาณจึงมักจะสร้างกลุ่มเล็กๆประมาณห้าคนขึ้นมาเพื่อปฏิบัติภารกิจต่างๆ

ในกลุ่มห้าคนมักมีหนึ่งคนที่ทำหน้าที่ตรวจสอบพื้นที่ หนึ่งคนเป็นผู้ใช้วิญญาณสายต่อสู้ หนึ่งคนรับผิดชอบการป้องกัน อีกหนึ่งเป็นผู้ใช้วิญญาณสายรักษา และคนสุดท้ายจะเป็นผู้ใช้วิญญาณสายสนับสนุน

ฟางหยวนยังเดินหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง

หมูป่าคำรามต่อไปพร้อมกับเส้นขนที่ชูชันขึ้น

หลังจากชั่วครู่ฟางหยวนก็เข้าถึงจุดที่หมูป่าไม่สามารถนิ่งเฉย มันก้มศีรษะลงและใช้เท้าหน้ากระทืบพื้นก่อนจะพุ่งตัวเข้าโจมตีฟางหยวนอย่างรวดเร็ว

เขี้ยวอันแหลมคมในปากที่อ้ากว้างของมันส่องประกายเย็นเยียบ

ฟางหยวนไม่มีวิญญาณที่ใช้ป้องกันตัว หากเขี้ยวหมูป่าฝังเข้าไปในช่องท้องของเขา เขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัสหรืออาจจบชีวิตลงที่นี่

"วิญญาณแสงจันทร์" ฟางหยวนยังสามารถรักษาความสงบ เขายกมือขึ้นพร้อมกับแสงสีฟ้าที่ส่องประกาย

หมูป่ากระโดดขึ้นจากพื้นโดยหวังที่จะขย้ำลำคอของฟางหยวน

ด้วยเสียงตัดผ่านอากาศ ดาบแสงจันทร์โบยบินออกไปปะทะกับหมูป่ากลางอากาศเป็นเหตุให้เลือดสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณ

หมูป่าคำรามด้วยความโกรธ หลังจากได้รับบาดเจ็บ มันยิ่งดุร้าย

ฟางหยวนกระโดดม้วนตัวหลบออกไปด้านข้าง

หมูป่าพุ่งชนต้นไม้จนหักโค่น

ฟางหยวนลุกขึ้นก่อนจะเข้าประชิดตัวหมูป่าพร้อมกับส่งดาบแสงจันทร์ออกไปอีกครั้ง

ดาบแสงจันทร์สีฟ้าเปิดชั้นผิวหนังของหมูป่าและฝากบาดแผลลึกไว้บนร่างกายของมันพร้อมกับเลือดที่ไหลทะลัก

ดาบแสงจันทร์ของฟางหยวนสามารถตัดกระดูกของมนุษย์ แต่เผชิญหน้ากับหมูป่า ดาบแสงจันทร์ของเขาทำได้เพียงฝากบาดแผลไว้บนชั้นผิวหนังของมันเท่านั้น

หมูป่าคำรามเสียงต่ำและพุ่งเข้าโจมตีฟางหยวนอีกครั้งด้วยความเร็วสูง

ฟางหยวนใช้กลยุทธ์เดิมโดยการม้วนตัวหลบออกไปด้านข้าง

แม้หมูป่าจะแข็งแกร่งและรวดเร็ว แต่มันก็มีจุดอ่อนที่ความคล่องตัว มันไม่สามารถเปลี่ยนทิศทางได้โดยง่าย ดังนั้นวิธีการโจมตีของมันจึงมีเพียงรูปแบบเดียวคือพุ่งไปข้างหน้าเป็นเส้นตรงเท่านั้น หากผู้ใช้วิญญาณตระหนักถึงเรื่องนี้ พวกเขาจะสามารถหลบออกไปจากเส้นทางการโจมตีของมัน

“ฉัวะ!”

ฟางหยวนใช้ดาบแสงจันทร์โจมตีไปยังบาดแผลเดิมของหมูป่า นั่นจึงทำให้อาการบาดเจ็บของมันรุนแรงขึ้น

หลังจากสองสามครั้ง การเคลื่อนไหวของมันก็เริ่มช้าลง เสียงคำรามของมันแฝงไว้ด้วยความอ่อนล้า

“วิญญาณแสงดาว!”

ครั้งนี้ฟางหยวนไม่ได้ใช้วิญญาณแสงจันทร์เท่านั้นแต่เขายังใช้วิญญาณแสงดาวในเวลาเดียวกัน

จันทร์เสี้ยวส่องแสงสีฟ้าขึ้นกลางฝ่ามือข้างขวาของฟางหยวน ขณะที่ดาวห้าแฉกส่องแสงสีเงินขึ้นเคียงข้างจันทร์เสี้ยว

“ไป!”

แสงสีฟ้ากับแสงสีเงินรวมกันและก่อกำเนิดดาบจันทร์เสี้ยวที่มีขนาดใหญ่เป็นสองเท่าจากก่อนหน้า

ด้วยการสนับสนุนของวิญญาณแสงดาว ดาบแสงจันทร์ที่ทรงพลังขึ้นสองเท่าบินตรงไปยังหมูป่าด้วยความเร็วสูง

‘ฉัวะ!’

ดาบแสงจันทร์แทงเข้าไปยังลำคอของหมูป่าอย่างแม่นยำ มันยังทะลุผ่านออกมาอีกด้านหนึ่งและบินต่อไปกลางอากาศเป็นระยะทางประมาณสี่เมตรก่อนจะเลือนหายไปในที่สุด

“ซู่...”

หมูป่ายืนตัวแข็งอยู่ที่เดิมขณะที่เลือดสีแดงสดพุ่งออกจากบาดแผลของมันราวกับน้ำพุ

ศีรษะของมันห้อยลงมา ลำคอมากกว่าครึ่งหนึ่งของมันถูกตัดออกจากลำตัว

ฟางหยวนสะบัดมือขวาออกไปอีกครั้งขณะที่วิญญาณหมูขาวพุ่งไปที่ซากศพของหมูป่า

ฟางหยวนยืนอยู่ที่เดิมและเฝ้าระวังสิ่งแวดล้อม แม้สถานที่แห่งนี้จะค่อนข้างปลอดภัย แต่กลิ่นคาวเลือดมักดึงดูดสัตว์ร้ายเข้ามาเสมอ

หลังจากชั่วครู่วิญญาณหมูขาวก็บินกลับมาหาเขาและส่งเสียงที่แสดงถึงความพึงพอใจออกมา

ขณะนี้ซากศพของหมูป่าเหลืออยู่ไม่ถึงครึ่ง มีเพียงขาทั้งสี่ ลำไส้ และเศษเนื้ออีกเล็กน้อยเท่านั้นที่ถูกทิ้งไว้ สำหรับส่วนที่หายไป พวกมันอยู่ในท้องของวิญญาณหมูขาว

แต่เรื่องประหลาดก็คือแม้ว่าวิญญาณหมูขาวจะกินเนื้อหมูป่าไปเป็นจำนวนมากแต่ร่างกายของมันกลับไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆทั้งสิ้น

ไม่มีกระทั่งคราบเลือด ร่างกายของมันยังเป็นหมูสีขาวตัวน้อยที่ดูสะอาดสะอ้านเช่นเดิม

“ห้าวันหลังจากนี้ข้าต้องออกล่าอีกครั้ง” ฟางหยวนเก็บวิญญาณหมูขาวแต่เขายังไม่รีบจากไป เขานำมีดออกมาตัดเขี้ยวหมูป่าและเก็บไว้

ร่างกายของหมูป่ามีค่าเพียงบางส่วน

หนึ่งคือเนื้อหมู สองคือขน สามคือเขี้ยว

แต่ร่างกายส่วนใหญ่ถูกวิญญาณหมูขาวกินไปแล้ว ผิวหนังส่วนที่เหลือของมันกลายเป็นหลุมเป็นบ่อ มันไม่เหลือคุณค่าอยู่อีก สุดท้ายจึงมีเพียงเขี้ยวของมันที่ยังพอมีมูลค่าอยู่บ้าง

ฟางหยวนเก็บเขี้ยวหมูป่าไว้ในถ้ำก่อนจะกลับหมู่บ้าน

เขายังไม่รีบนอนแต่นั่งบ่มเพาะอยู่อย่างเงียบๆ

ฟางหยวนเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับหนึ่งขั้นกลาง ด้วยความช่วยเหลือจากวิญญาณสุรา พลังวิญญาณของเขากลายเป็นพลังวิญญาณระดับหนึ่งขั้นสูง

ตอนนี้ทะเลวิญญาณของเขาเหลือพลังวิญญาณอยู่เพียงยี่สิบสามในร้อยส่วน

การฆ่าหมูป่าหนึ่งตัวทำให้เขาสูญเสียพลังวิญญาณไปยี่สิบในร้อยส่วน

‘หมูขาว’

ดวงตาของฟางหยวนปิดสนิทขณะที่เขาเพิ่งจิตไปที่ทะเลวิญญาณ

ละอองน้ำสีครามประกายทองแดงพวยพุ่งเข้าสู่ร่างกายของหมูสีขาวก่อนที่ร่างของมันจะส่องแสงสีขาวนวลออกมา หากบางคนมองมาที่ฟางหยวนในเวลานี้ พวกเขาจะเห็นแสงสีขาวนวลส่องประกายขึ้นบนร่างของเขา

แสงสีขาวทำให้ชั้นผิวหนังและมัดกล้ามเนื้อของเขาแข็งแกร่งขึ้นอย่างช้าๆ

หลังจากผ่านไปชั่วระยะเวลาหนึ่งร่างกายของเขาก็เริ่มเกิดอาการด้านชาก่อนจะกลายเป็นความเจ็บปวด เขารู้สึกราวกับถูกสายฟ้าฟาดและถูกตัดเนื้อเฉือนหนังโดยใบมีดที่แหลมคม

ฟางหยวนหยุดใช้วิญญาณหมูขาว

หลายสิ่งหลายอย่างหากมากเกินไปอาจไม่เป็นผลดี

เขาไม่สามารถกินเนื้อหมูทั้งตัวได้ในหนึ่งมื้อ เช่นเดียวกับกรณีนี้ที่เขาไม่สามารถรับความแข็งแกร่งจำนวนมากจากวิญญาณหมูขาวได้ในครั้งเดียว เขาสามารถรับความแข็งแกร่งจากมันได้ครั้งละสิบห้านาที มิฉะนั้นเขาอาจตายด้วยความตะกละตะกลามของตนเอง