ตอนที่แล้วเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 67 ตราบเท่าที่ซื่อสัตย์ (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 69 ชีวิตที่มีค่าน้อยกว่าต้นหญ้า (อ่านฟรี)

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 68 ธรรมชาติเป็นเช่นนี้ (อ่านฟรี)


เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 68 ธรรมชาติเป็นเช่นนี้ 

แปลโดย iPAT 

นักล่าสองคนรับแผนที่ไว้ด้วยดวงตาส่องประกาย

‘นี่เป็นสมบัติของครอบครัวหวัง’

‘ฮ่าฮ่า หุบเขาลูกนี้มีกว้างใหญ่มาก หากข้าสามารถจับกวางป่า ข้าไม่จำเป็นต้องออกล่าอีกสามเดือน อา...มีถ้ำหมีอยู่ที่นี่งั้นหรือ? โอ้ คราวก่อนข้าเกือบเข้าไปที่นั้น ข้าต้องจำไว้ให้ดี’

นี่เป็นข้อมูลล้ำค่า มันเป็นหม้อข้าวของนักล่าทุกคน

โดยปกติมันจะถูกส่งต่อภายในครอบครัวจากรุ่นสู่รุ่นเท่านั้นเพราะมันเป็นข้อมูลที่ต้องจ่ายด้วยเลือดและชีวิตเพื่อให้ได้รับ

ชายชราแซ่หวังเคยเป็นนักล่าอันดับหนึ่ง ข้อมูลเหล่านี้จึงยิ่งล้ำค่า

นักล่าหนุ่มทั้งสองใช้เวลาตรวจสอบกว่าสิบห้านาทีก่อนจะกลับมาหาฟางหยวนและคืนแผ่นกระดาษให้ฟางหยวนอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก

ชายชรายังหมอบอยู่บนพื้น เด็กสาวนอนเอยกายอยู่ด้านข้างราวกับว่านางได้สิ้นใจไปแล้ว

“นายท่าน มันไม่มีปัญหา”

“กับดักในแผนที่ถูกต้องทั้งหมด”

นักล่าหนุ่มทั้งสองตอบ

“นายท่าน เรื่องนี้เกี่ยวพันกับชีวิตของข้าและบุตรสาว ข้าย่อมไม่กล้าโกหก” ชายชรากล่าว

“อืม ไม่เลว” ฟางหยวนสะบัดแผ่นกระดาษแต่การแสดงออกของเขากลับค่อยๆเปลี่ยนไป “แต่ข้าไม่เชื่อ”

ชายชราส่ายศีรษะขณะมองแสงสีฟ้าส่องประกายขึ้นบนฝ่ามือของฟางหยวน

“ฉัวะ!”

ศีรษะบินออกจากลำคอของชายชราพร้อมกับเลือดที่สาดกระจาย

“อา...”

“นายท่าน...”

นักล่าหนุ่มทั้งสองตกตะลึง

“ท่านพ่อ!” เด็กสาวกรีดร้องและพุ่งเข้าไปหาร่างที่ไร้ศีรษะของชายชราแต่นางกลับไม่สามารถเข้าถึงตัวชายชราเมื่อดาบแสงจันท์พุ่งเข้ามาหานาง

“ตุบ!”

นางล้มลงบนพื้นอย่างไร้ชีวิต

ใบหน้าอันงดงามของนางตั้งแต่หน้าผากยาวลงมาจนถึงปลายคางปรากฏเส้นบางๆสีแดงพาดผ่าน

ของเหลวสีแดงค่อยๆไหลออกจากจมูกลงมาถึงปากและหยดลงบนพื้นดินก่อนจะอาบย้อมใบหน้าครึ่งซีกของนางให้กลายเป็นสีแดงเลือด ขณะที่ใบหน้าอีกครั้งซีกของนางยังคงไว้ซึ่งความงามของเด็กสาววัยแรกแย้ม

เมื่อแสงแดดสาดส่อง มันสร้างเป็นผลงานศิลปะที่เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก

“อย่างน้อยนางก็ดูใช้ได้” ฟางหยวนมองเด็กสาวที่ตายแล้วพร้อมกับพยักหน้าอย่างพึงพอใจ

ดาบแสงจันทร์ระดับหนึ่งขั้นสูงสามารถตัดเนื้อเฉือนกระดูกได้อย่างง่ายดาย มันกระทั่งสามารถตัดเหล็กได้อย่างไม่มีปัญหา

“น้องหวัง!” นักล่าหนุ่มผู้หนึ่งทรุดร่างลงบนพื้นเมื่อเห็นเด็กสาวตกตาย

“นายท่าน โปรดไว้ชีวิตพวกเราด้วย” นักล่าอีกคนเร่งกล่าวด้วยสังหรณ์ร้าย

“ลุกขึ้น เข้าไปในบ้านและค้นหา” ฟางหยวนออกคำสั่ง “ข้ารู้ว่าครอบครัวหวังเก็บแผ่นที่เอาไว้ หามันมาให้ข้า แล้วข้าจะไว้ชีวิตพวกเจ้า”

“ได้ ได้ พวกเราจะทำทันที” นักล่าหนุ่มทั้งสองเร่งเข้าไปค้นหาแผนที่ในบ้านไม้ด้วยความรนราน

แต่หลังจากพลิกโต๊ะ คว่ำตู้ ยกเตียง ค้นหาจนทั่วทั้งบ้าน พวกเขากลับไม่พบแผนที่ดังกล่าว

“นายท่านโปรดให้เวลาพวกเราอีกสักครู่ พวกเขาจะหามันมาให้ได้” นักล่าทั้งสองเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

“บัดซบ! มันอยู่ที่ใด?”

“ออกมา จงออกมา”

นักล่าหนุ่มสบถออกมาด้วยความร้อนรน

“ขยะ! ไร้ประโยชน์” ฟางหยวนเดินเข้าไปในบ้าน

“นายท่านโปรดอภัยให้กับพวกเราด้วย...” ร่างกายของนักล่าทั้งสองสั่นเทาอย่างไม่หยุดยั้งอยู่บนพื้น

ฟางหยวนเพิกเฉยต่อคนทั้งสองและเข้าไปในบ้าน

ภายในบ้านมีสี่ห้อง รวมห้องโถงและห้องครัว ทุกสิ่งกระจัดกระจายดังที่มันถูกรื้อค้น

‘มันเป็นความจริงที่ได้รับการพิสูจน์มานักต่อนักแล้วว่านักล่าทุกคนจะต้องมีแผนที่เป็นของตนเอง นี่คือวิถีของนักล่า แล้วมันจะไม่มีได้อย่างไร?’

ฟางหยวนคิด ‘นอกจากนั้นข้ายังทดสอบเฒ่าหวังอย่างง่ายๆโดยการให้นักล่าสองคนเข้าไปหยิบกระดาษและพู่กัน เฒ่าหวังรีบตะโกนบอกตำแหน่งเพราะเขากังวลว่าพวกเขาจะพบแผนที่ที่ซ่อนไว้’

ฟางหยวนตรวจสอบรอบๆและเกิดแรงบันดาลใจเมื่อมองเห็นเตาผิง

เตาผิงนี้เชื่อมต่อกับปล่องไฟบนหลังคา มันมีไว้ใช้ในฤดูหนาว แม้แต่ตอนนี้มันก็ยังมีถ่านตกค้างอยู่ภายใน แต่มันเป็นถ่านที่ยังอยู่ในสถานค่อนข้างสมบูรณ์

“หือ?” หลังจากตรวจสอบ ฟางหยวนพบว่ามันค่อนข้างดำและหนักกว่าถ่านทั่วไป

เขาใช้พลั่วทุบมันเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยก่อนจะมองเห็นกระบอกไม้ไผ่ที่ซ่อนอยู่ภายใน

นักล่าทั้งสองอ้าปากค้างเมื่อเห็นสิ่งนี้

ฟางหยวนหยิบกระบอกไม้ไผ่ขึ้นมาก่อนจะเขย่ามันและทำให้แผนที่หลุดออกมา

มันเป็นแผนที่ที่ถูกเขียนเอาไว้บนแผ่นหนังสัตว์สีขาวที่ยาวกว่าหนึ่งเมตรและมีความกว้างครึ่งเมตร ปรากฏเส้นสายสีเขียว สีฟ้า สีแดง และสีเหลืองอยู่บนแผ่นหนังสัตว์

ฟางหยวนรู้สึกประหลาดใจที่เห็นเช่นนั้น

เนื่องจากมันเป็นแผนที่ขนาดใหญ่และขยายวงกว้างออกไปไกลมาก ในฐานะมนุษย์ธรรมดา นี่ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะสามารถทำขึ้นมาได้โดยง่าย

สายตาของฟางหยวนหยุดอยู่ตรงจุดที่บ่งบอกว่ามีฝูงหมูป่า

มันมีทั้งฝูงเล็กและฝูงใหญ่อยู่หลายจุด นอกจากนั้นยังมีสัญลักษณ์กากบาทสีแดงขนาดใหญ่อยู่บนแผ่นหนัง แต่บนกระดาษที่เฒ่าหวังวาดให้เขาก่อนหน้ากลับไม่ปรากฏเครื่องหมายดังกล่าว

นี่บ่งบอกถึงความเจ้าเล่ห์ของเฒ่าหวังได้เป็นอย่างดี

มันคือเหตุผลที่ฟางหยวนฆ่าชายชรา

ฟางหยวนเคยได้ยินคำวิงวอนร้องขอชีวิตมาแล้วทุกรูปแบบ แต่เสียงกรีดร้องเหล่านั้นไม่สามารถทำให้จิตใจของเขาสั่นไหว

ตั้งแต่แรกเริ่มเมื่อฟางหยวนได้ยินบทสนทนาของนักล่าหนุ่มทั้งสี่ที่กับดักหมูป่า ฟางหยวนก็วางแผนที่จะฆ่าพวกเขาแล้ว

การสังหารหวังเอ้อคือการลดจำนวนศัตรูและเป็นข้ออ้างที่จะทำให้เขาได้รับแผนที่ เหตุใดเขาถึงไม่ควรสังหาร?

ฟางหยวนไม่ได้กระหายเลือด การฆ่าเป็นเพียงหนึ่งในวิธีการเพื่อให้ได้รับมาซึ่งสิ่งที่เขาปรารถนา หากวิธีการนี้สามารถแก้ปัญหา แล้วเหตุใดเขาจะไม่ทำ?

ชายชราจำเป็นต้องตาย ไม่ว่าอย่างไรเขาย่อมไม่พอใจที่บุตรชายถูกสังหาร มิฉะนั้นมันจะทำให้ฟางหยวนไม่สามารถผ่อนคลายได้ในอนาคต ดั่งคำกล่าวที่ว่า ตัดรากต้องถอนโคน มิฉะนั้นวัชพืชจะกลับมาอีกครั้งในฤดูใบไม้ผลิ

กระไรนะ? โหดร้ายงั้นหรือ? ฆ่าคนบริสุทธิ์งั้นหรือ?

ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ไม่ว่าโลกใบใด ตราบเท่าที่มีชีวิตอยู่บนโลกใบหนึ่ง พวกเขาย่อมเกี่ยวพันกันด้วยชะตากรรม บริสุทธิ์งั้นหรือ? มนุษย์ฆ่าหมู แล้วหมูบริสุทธิ์หรือไม่?

ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ปลาเล็กกินกุ้ง ในธรรมชาติมีเพียงห่วงโซ่อาหาร ไม่มีสิ่งใดบริสุทธิ์อย่างเที่ยงแท้!

ในโลกนี้ ทุกคนสามารถมีชีวิต ทุกคนสามารถตาย แต่ไม่มีผู้ใดบริสุทธิ์!