ตอนที่แล้วเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 53 หัวหน้าชั้น (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเทพปีศาจหวนคืน บทที่ 55 คำที่ข้าต้องการได้ยิน (อ่านฟรี)

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 54 แต่ข้าเป็นหัวหน้าชั้น (อ่านฟรี)


เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 54 แต่ข้าเป็นหัวหน้าชั้น 

แปลโดย iPAT 

ยามเย็น แสงอาทิตย์สีแดงเข้มทาบทอลงบนภูเขาชิงเหมา

สายลมเคลื่อนผ่านอย่างแผ่วเบาขณะที่เด็กหนุ่มสาวเดินออกจากห้องเรียนพร้อมกับหินวิญญาณที่อยู่ในมือ

“ข้าไม่รู้จริงๆว่าเหตุใดฟางหยวนถึงปฏิเสธตำแหน่งหัวหน้าชั้น”

“ฮ่าฮ่าฮ่า สมองของเขาจะต้องพิการไปแล้วหลังจากฆ่าคนทุกวัน”

“นึกถึงวันนั้น วันที่เขาเข้ามาในห้องเรียนพร้อมกับร่างกายที่อาบย้อมไปด้วยเลือด ข้ากลัวจนเก็บไปฝันร้ายอยู่หลายคืน”

เป็นเพียงเวลานี้ที่เด็กหนุ่มสองสามคนเริ่มทักทาย

“ท่านหัวหน้า”

“อืม”

“คารวะท่านหัวหน้า”

“อืม”

โม่เป่ยวางตัวหยิ่งผยองไปรอบๆ ไม่ว่าเขาจะเดินไปที่ใดเด็กหนุ่มสาวต้องทักทายและทำความเคารพเขาโดยไม่มีข้อยกเว้น สิ่งนี้ทำให้ใบหน้าของเขาจะเต็มไปด้วยความสุขและความตื่นเต้น

นี่คือเสน่ห์ของอำนาจ

แม้จะเป็นความแตกต่างเล็กๆ แต่มันกลับสามารถสร้างความมั่นใจให้กับผู้คน

โม่เป่ยมองไปยังดวงอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้าและพึมพำ “ข้าไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าดวงอาทิตย์จะงดงามถึงเพียงนี้”

“ฮืม ทำตัวยโสเพียงเพราะได้เป็นหัวหน้าชั้น” ซื่อเฉินบ่นอยู่ในระยะไกล

“ข้าไม่รู้จริงๆว่าฟางหยวนคิดสิ่งใดอยู่ถึงได้สละตำแหน่งหัวหน้าชั้น แต่มันถือเป็นเรื่องดีเพราะมันทำให้ข้าได้รับตำแหน่งรองหัวหน้า” ซื่อเฉินรู้สึกสับสนแต่ขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกมีความสุขและโล่งใจ

“ท่านรองหัวหน้า ขอให้เป็นวันที่ดี” เมื่อเด็กหนุ่มสาวเดินผ่านซื่อเฉิน พวกเขาต้องทำความเคารพเช่นกัน

“ฮ่าฮ่า ดี พวกเจ้าก็จงมีวันเวลาที่ดีเช่นกัน” ซื่อเฉินพยักหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

เมื่อเด็กหนุ่มสาวเดินห่างออกไป ซื่อเฉินจึงกล่าวกับตนเองอีกครั้ง “ความรู้สึกที่ได้เป็นรองหัวหน้าชั้นช่างยอดเยี่ยมนัก แต่หากได้เป็นหัวหน้าชั้นคงจะดียิ่งกว่านี้”

ซื่อเฉินที่ได้สัมผัสกับพลังอำนาจเต็มไปด้วยความโลภอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

‘แม้ข้าจะมีพรสวรรค์เพียงนภาที่สาม แต่ทุกอย่างจะต้องดีขึ้นและดีขึ้น’ ซื่อเฉินคิดและคาดหวังกับอนาคตที่ยิ่งใหญ่ของตน

อย่างไรก็ตามรองหัวหน้าชั้นอีกคนฟางเจิ้งกลับดูมืนมน การแสดงออกของเขาค่อนข้างน่าเกลียด

“พี่ใหญ่ ท่าน!” เขาเบิกตากว้างขณะมองเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ที่ประตูทางออกของสถานศึกษา

“กฎเดิม หินวิญญาณหนึ่งก้อนต่อคน” ฟางหยวนยืนกอดอกอยู่ที่นั่นและกล่าวเสียงเรียบ

ปากของฟางเจิ้งอ้าและหุบ แต่หลังจากใช้ความพยายามอยู่เป็นเวลานาน เขาจึงสามารถกล่าวบางคำออกมา “พี่ใหญ่ แต่ข้าเป็นรองหัวหน้าชั้น!”

“นั่นเป็นความจริง” ฟางหยวนพยักหน้าอย่างไม่แยแส “เจ้าเป็นรองหัวหน้าชั้นที่ได้รับหินวิญญาณห้าก้อน ดังนั้นส่งหินวิญญาณสามก้อนมาให้ข้า”

ฟางเจิ้งโกรธมากแต่เขาก็ไม่สามารถกล่าวสิ่งใดออกมาอีก

เป็นเพียงเวลานี้ที่กลุ่มของโม่เป่ยเดินเข้ามา

เมื่อพวกเขาเห็นฟางหยวนยืนอยู่ที่ประตูทางเข้าออก โม่เป่ยชี้นิ้วไปที่ฟางหยวนด้วยความโกรธ “ตอนนี้ข้าเป็นหัวหน้าชั้น เมื่อเจ้าพบข้า เจ้าต้องทำความเคารพข้า!”

แต่สิ่งที่ฟางหยวนตอบกลับไปคือกำปั้น!

โม่เป่ยไม่คาดหวังว่าเหตุการณ์จะกลายเป็นเช่นนี้ เขากระเด็นกลับหลังพร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ “เจ้าทำร้ายข้า เจ้ากล้าทำร้ายข้าจริงๆ แต่ข้าเป็นหัวหน้าชั้น!”

สิ่งที่ฟางหยวนตอบกลับไปอีกครั้งยังเป็นกำปั้น!

“ปัง ปัง ปัง”

หลังจากไม่กี่กระบวนท่า โม่เป่ยก็ล้มลงบนพื้นและหมดสติไปในที่สุด

เด็กหนุ่มสาวเบิกตากว้างจ้องมองสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความไม่แน่ใจว่าควรตอบสนองต่อเหตุการณ์นี้อย่างไร

นี่ต่างจากจินตนาการของพวกเขาอย่างสิ้นเชิง

ยามชำเลืองมองสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนจะเริ่มซุบซิบ

“ฟางหยวนทำร้ายหัวหน้าชั้นคนใหม่ พวกเราควรทำอย่างไร?”

“งี่เง่า”

“เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”

“ก็หมายความว่าอย่าเข้าไปยุ่งและรอเก็บกวาดสถานที่เช่นเดิม!”

“แต่...”

“เจ้าต้องการยั่วยุคนเช่นฟางหยวนงั้นหรือ เจ้ายังจำสิ่งที่เกิดขึ้นกับวูเอ๋อได้หรือไม่?”

เมื่อได้ยินถ้อยคำเหล่านี้ ยามผู้นั้นก็หุบปากลงทันที

ยามทั้งสองยืนตัวตรงอยู่ที่หน้าประตูทางเข้าออกของสถานศึกษาราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น

หลังจากต่อยโม่เป่ย ฟางหยวนยังต่อสู้กับฟางเจิ้งและซื่อเฉิน

เป็นเพียงเวลานี้ที่เด็กหนุ่มสาวตระหนักว่าไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลง ฟางหยวนยังกรรโชกหินวิญญาณเหมือนเดิม

“ทุกคน มอบหินวิญญาณให้ข้าหนึ่งก้อน สำหรับรองหัวหน้าชั้น ส่งหินวิญญาณให้ข้าสามก้อน และหัวหน้าชั้น...แปดก้อน!” ฟางหยวนประกาศกฎใหม่

เด็กหนุ่มสาวถอนหายใจก่อนจะส่งหินวิญญาณให้ฟางหยวนอย่างเชื่อฟัง

เมื่อพวกเขาเดินออกไปสถานศึกษา บางคนถึงกับตบศีรษะของตนเองก่อนตะโกน “ข้าไม่แปลกใจแล้วว่าเหตุใดฟางหยวนถึงปฏิเสธตำแหน่งหัวหน้าชั้น นั่นเป็นเพราะเขาต้องการกรรโชกหินวิญญาณของพวกเราต่อไป!”

“ถูกต้อง ทุกครั้งเขาจะได้รับหินวิญญาณมากว่าห้าสิบก้อนและตอนนี้มันกระทั่งเพิ่มขึ้นเป็นหกสิบแปดก้อน หากเขารับตำแหน่งหัวหน้าชั้น เขาจะได้รับหินวิญญาณเพียงสิบก้อน!” เด็กบางคนเริ่มตาสว่าง

“เขารอบคอบเกินไป เจ้าเล่ห์เกินไป และโหดเหี้ยมที่สุด!” บางคนสบถออกมาด้วยความเกลียดชัง

“เห้อ...นี่หมายความว่าตำแหน่งหัวหน้าชั้นกับรองหัวหน้าชั้นไม่มีสิ่งใดพิเศษ พวกเรายังถูกกรรโชกหินวิญญาณเช่นเดิม”

“ปัง!”

อาจารย์อาวุโสตบโต๊ะเสียงดังด้วยความโกรธ

“ฟางหยวน นี่มันเรื่องเหลวไหลอันใด เขากล้ากรรโชกหินวิญญาณหัวหน้าชั้นถึงแปดก้อนและสามก้อนจากรองหัวหน้าชั้น นี่เป็นการเอาเปรียบเด็กคนอื่นๆมากเกินไปหรือไม่?” อาจารย์อาวุโสพยายามสะกดข่มอารมณ์ของตนเองแต่น้ำเสียงของเขายังคงเต็มไปด้วยความโกรธ

เมื่อฟางหยวนปฏิเสธตำแหน่งหัวหน้า นั่นก็หมายว่าเขาปฏิเสธการเข้าสู่ระบบตระกูล หากมองในแง่นี้ มันคือการทรยศต่อตระกูลของตนเอง นี่เป็นสาเหตุที่อาจารย์อาวุโสโกรธ

หลังจากฟางหยวนกรรโชกหินวิญญาณ อิทธิพลของเขายิ่งเพิ่มสูงขึ้น ตำแหน่งหัวหน้าชั้นและรองหัวหน้าชั้นกลายเป็นไร้ค่า

เมื่อเวลาผ่านไปเด็กหนุ่มสาวจะสูญเสียความต่อเคารพที่มีต่อตำแหน่งเหล่านี้

การกระทำของฟางหยวนอาจดูเหมือนเรื่องเล็กน้อยแต่ผลกระทบของมันกลับใหญ่มาก

มันเป็นการใช้ความแข็งแกร่งท้าทายระบบตระกูล!

นี่เป็นสิ่งที่อาจารย์อาวุโสไม่อยากเห็น เขาต้องการสร้างความหวังใหม่ให้กับตระกูล ไม่ใช่ศัตรู อย่างไรก็ตามอาจารย์อาวุโสไม่สามารถทำสิ่งใดฟางหยวนได้ในเวลานี้

หากเขาทำบางสิ่ง คนแรกที่จะไม่ยอมปล่อยเขาก็คือผู้นำตระกูล คนที่สองและสามจะเป็นโม่เฉินและซื่อเหลียน

ผู้นำตระกูลคาดหวังกับฟางเจิ้งเพราะเขาเป็นคนเดียวที่มีพรสวรรค์นภาที่หนึ่ง

ในเวลาเดียวกันโม่เฉินและซื่อเหลียนยังคาดหวังให้หลานชายของพวกเขาสามารถเติบโตขึ้นท่ามกลางความพ่ายแพ้และความยากลำบาก

หากอาจารย์อาวุโสลงโทษฟางหยวน บางคนอาจกล่าวว่า “ทายาทสกุลโม่และสกุลซื่อไม่สามารถเอาชนะฟางหยวนจนต้องขอความช่วยเหลือจากอาจารย์อาวุโส”

นี่เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้และมันจะทำให้ชื่อเสียงของสกุลโม่กับสกุลซื่อเสื่อมเสีย

แน่นอนว่าอาจารย์อาวุโสไม่กลัวฟางหยวนแต่เขากังวลว่าการแทรกแซงของตนจะดึงดูดความไม่พอใจจากผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสามฝ่าย ในฐานะผู้อาวุโสระดับล่าง เขาไม่สามารถเผชิญหน้ากับตัวตนที่ยิ่งใหญ่ทั้งสาม

“ต้นกำเนิดของสิ่งเหล่านี้ต้องย้อนกลับไปถึงความลับของฟางหยวน สิ่งที่ทำให้เขาสามารถก้าวเข้าสู่ขั้นกลางได้อย่างรวดเร็ว” อาจารย์อาวุโสพยายามสงบจิตใจและมองไปยังรายงานที่อยู่บนโต๊ะ

รายงานฉบับแรกปรากฏข้อมูลเกี่ยวกับประวัติครอบครัวของฟางหยวน

ฟางหยวนเกิดมาในครอบครัวที่ดี ไม่มีสิ่งผิดปกติเกี่ยวกับตัวตนของเขา ประวัติของเขาสะอาดหมดจดและไร้มลทิน บิดามารดาของเขาล่วงลับไปแล้ว เขาจึงต้องอาศัยอยู่กับลุงและป้า อย่างไรก็ตามตั้งแต่เข้าเรียน เขาย้ายมาอยู่ที่หอพักของสถานศึกษา

รายงานฉบับที่สองเป็นเรื่องราวในชีวิตของฟางหยวน

เขาแสดงให้เห็นถึงความฉลาดเฉลียวมาตั้งแต่ยังเด็ก เขาได้รับคำชื่นชมจากผู้นำตระกูลและถูกคาดหวังว่าจะมีพรสวรรค์นภาที่หนึ่ง แต่หลังจากพิธีเผยลิขิตสวรรค์ พรสวรรค์นภาที่สามของเขาทำให้ผู้นำตระกูลรู้สึกผิดหวังมาก

รายงานฉบับที่สามเป็นข้อมูลล่าสุดของฟางหยวน

รูปแบบชีวิตประจำวันของฟางหยวนเรียบง่ายมาก เขามีตารางเวลาที่ชัดเจนและเข้มงวด ในช่วงกลางวัน เขาจะเข้าเรียนในสถานศึกษา ในยามค่ำคืนเขาจะอยู่ในหอพักตลอดเวลา เขาขยันบ่มเพาะและจะบ่มเพาะทุกคืน บางครั้งเขาจะไปที่โรงเตี้ยมเพื่อกินดื่ม เขาชื่นชอบสุราไผ่เขียวเป็นพิเศษ ในห้องพักของเขายังเก็บไหสุราไผ่เขียวเอาไว้นับสิบไห

อาจารย์อาวุโสอ่านรายงานอีกครั้งและรู้สึกประทับใจในตัวของฟางหยวนอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยง

“บิดามารดาของเขาเสียชีวิตตั้งแต่เขายังเด็ก เขาไม่สามารถอยู่ร่วมกับลุงและป้า ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเหตุใดเด็กบ้าฟางหยวนถึงไม่ศรัทราในตระกูล เขาถูกยกย่องจากทุกคนว่าเป็นอัจฉริยะมาตลอด แต่ผู้คนกลับเตะเขาลงมาจากสวรรค์ ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดเขาถึงมีบุคลิกดื้อรั้น เย็นชา และแยกตัวเช่นนี้ เขาใช้ชีวิตเรียบง่ายและขยันบ่มเพาะ นี่แสดงให้เห็นว่าเขาไม่เต็มใจยอมรับความพ่ายแพ้และต้องการพิสูจน์ตนเองให้ตระกูลเห็นว่าเขามีความสามารถ นั่นเป็นเหตุผลที่เขาโต้ตอบข้าอย่างดุเดือด”

เมื่ออาจารย์อาวุโสคิดอย่างรอบคอบ เขาจึงเข้าใจฟางหยวนมากขึ้นและทำให้เขาต้องถอนหายใจออกมา

ยิ่งเขารับรู้เรื่องราวของฟางหยวนมากเท่าใด เขาก็ยิ่งเข้าใจฟางหยวนมากเท่านั้น

แต่ความเข้าใจก็ส่วนเข้าใจ มันไม่ได้หมายความว่าเขาจะให้อภัย การต่อต้านตระกูลไม่ใช่สิ่งที่อาจารย์อาวุโสจะสามารถยอมรับได้

“แม้รายงานเหล่านี้จะค่อนข้างละเอียด แต่มันไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับความลับของฟางหยวนอยู่เลย กี่วันมาแล้ว คนเหล่านี้ทำงานแย่มาก!”

“ก๊อก ก๊อก ก๊อก”

เป็นเพียงเวลานี้ที่เสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างกะทันหัน

“เข้ามา” อาจารย์อาวุโสกล่าว

ประตูเปิดออก

มันเป็นผู้คุ้มกันของผู้นำตระกูลที่เดินเข้ามา “ท่านผู้นำมีคำสั่งให้อาจารย์อาวุโสเข้าร่วมการประชุมที่ห้องโถงกลางของตระกูลโดยด่วน”

“โอ้ เกิดสิ่งใดขึ้น?” อาจารย์อาวุโสผุดลุกขึ้นยืนทันทีเมื่อเห็นการแสดงออกที่จริงจังของคนผู้นี้

“ผู้ใช้วิญญาณระดับสี่เจียฟู่ย้อนกลับมาที่นี่ น้องชายของเขาเจียชิงเฉิงหายตัวไป”

“อา...” เมื่อได้ยินถ้อยคำเหล่านี้ อาจารย์อาวุโสรู้สึกหนาวเย็นไปจนถึงแกนกระดูก