ตอนที่แล้วส่งจอมยุทธไปต่างโลก ตอนที่ 2 เวทเสริมพลัง และ การใช้งานพลังเวท
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปส่งจอมยุทธไปต่างโลก ตอนที่ 4 ค้นหาสาเหตุความวุ่นวาย ( 1 )

ส่งจอมยุทธไปต่างโลก ตอนที่ 3 เหตุวุ่นวายในป่า


ตอนที่ 3

เหตุวุ่นวายในป่า

 

กร๊อป! กิ่งไม้แห้งส่งเสียงดังพร้อมหักจากกิ่งทันทีเมื่อร่างในเงามืดร่างหนึ่งทะยานผ่านไป ดวงตาที่สะท้อนแสงยามค่ำคืนของวันวิ่งผ่านพุ่มไม้จนพวกมันเอนไหวไปมาตามแรง

 

ตุบ.. เท้าของสิ่งมีชีวิตตัวนั้นหยุดลงกับที่ขณะที่ดวงตาของมันจ้องมองไปยังหมู่บ้านท่ามกลางความเงียบงันของยามราตรี มันอ้าปากออกเผยให้เห็นเขี้ยวสีขาวขุ่นเรียงรายกันอยู่เต็มปาก น้ำลายเหนียวค่อยๆหยดลงมาจากริมฝีปากยาวๆของมันก่อนจะย้อยถึงพื้นหยดลงบนผืนหญ้าหน้าหมู่บ้าน มันหยัดกายส่วนหลังขึ้นพร้อมก้มส่วนหน้าลงต่ำ ดวงตาของมันยังคงจ้องมองไปยังหมู่บ้านตรงหน้า แต่ชั่ววินาทีต่อมาดวงตาของมันก็ถูกประกายแสงเส้นหนึ่งส่องเข้าอย่างจัง ไม่ทันจะได้สงสัยว่ามันคือแสงอะไรความรู้สึกเจ็บปวดก็แล่นวูบมาจากดวงตาด้านขวาของมัน

 

ฉึก! หอกที่ถูกตีจากเหล็กแทงใส่ดวงตาด้านขวาของหมาป่าสีขาวจนตายคาที่ ไม่มีแม้แต่เสียงร้องสักครึ่งคำหลุดออกมาจากปากของมัน

 

“หมาป่า?”ปู่แกรนพูดพลางดึงหอกของตนออกจากศพของหมาป่า มันเป็นหมาป่าธรรมดาไม่ใช่สัตว์อสูรเพราะหากเป็นสัตว์อสูรที่เกิดจากพลังเวทของแผ่นดินแล้ว มันจะสลายหายไปทันทีที่โดนสังหาร

 

“ทำไมหมาป่าถึงออกจากป่ามาไกลแบบนี้...”ปู่แกรนพึมพำอยู่ครู่หนึ่งก็ตัดสินใจมัดขาทั้งสี่ข้างของหมาป่าเอาไว้ด้วยเชือก ก่อนจะใช้หอกของตนแทนไม้หาบยกร่างของจิ้งจอกตรงไปที่บ้านของหัวหน้าหมู่บ้าน

 

“หัวหน้า อยู่หรือเปล่าครับ”ปู่แกรนตะโกนพลางใช้มือเคาะประตูหน้าบ้านของหัวหน้าหมู่บ้าน ตอนนี้เป็นเวลา 2 ทุ่ม หัวหน้าหมู่บ้านน่าจะยังไม่หลับ

 

“คุณแกรน? มีอะไรครับ”หัวหน้าหมู่บ้านที่แง้มประตูออกดูถามขึ้นอย่างแปลกใจ

 

“มีหมาป่าเข้ามาในหมู่บ้านครับ”ปู่แกรนพูดอย่างสุภาพแม้หัวหน้าหมู่บ้านจะอายุน้อยกว่าตนก็ตาม

 

“หมาป่า? มันมาถึงนี่ได้ไง”หัวหน้าหมู่บ้านขมวดคิ้วพลางมองไปด้านหลังของปู่แกรน ปกติแล้วหมาป่าขาวมักจะอยู่ลึกไปในป่าหลายกิโล นานๆคนล่าสัตว์ถึงจะเจอพวกมันสักตัวเพราะปกติแล้วหมาป่าจะไม่โจมตีหากมนุษย์มีพวกมากกว่าตน ขอแค่ไม่ล้ำเข้าไปในอาณาเขตของมันมากเกินไปคนล่าสัตว์ก็จะปรอดภัยจากดพวกมัน แต่นี่กลับมีหมาป่าหลุดออกมาจากอาณาเขต แถมยังเข้ามาในหมู่บ้านตัวเดียวอีก หากไม่เห็นศพหมาป่าบนหลังของปู่แกรน หัวหน้าหมู่บ้านคงคิดว่าเป็นแค่เรื่องล้อเล่นแน่ๆ

 

“บางที มันแจจะเป็นพวกที่ถูกไล่ออกจากฝูงก็ได้ อย่าพึ่งบอกลูกบ้านคนอื่นแล้วตรวจตราให้ละเอียด”หัวหน้าหมู่บ้านสั่งจบ ปู่แกรนก็พยักหน้าเป็นการรับคำสั่ง บางทีหมาป่าตัวนี้อาจจะถูกไล่ออกจากฝูงด้วยเหตุผลบางอย่าง ทำให้มันโซเซมาถึงหมู่บ้าน ด้วยความกหิวจัดมันจึงเตรียมจะเข้าโจมตีแม้จะรู้ว่ามันเสียเปรียบก็ตาม หัวหน้าหมู่บ้านคิดแบบนั้น ไม่สิ เขาหวังว่ามันคงจะเป็นแบบนั้นต่างหาก ถ้าคืนนี้ไม่มีอะไรผิดปกติ มันก็คงจะเป็นอย่างที่หัวหน้าหมู่บ้านคิด แต่ถ้ามีละก็ มันไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ

 

บรู๊ววววว!!! ปู่แกรนยังไม่ทันจะนำร่างของหมาป่าที่ตนฆ่าไปเก็บเสียงหรลากยาวก็ดังมาจากภายในเขตป่า ทันทีที่ร่างของปู่แกรนวิ่งมาถึงหน้าหมู่บ้านหลังของเขาก็รู้สึกเย็นยะเยียบขึ้นทันที ดวงตาที่สะท้อนแสงจันทร์ส่งแสงสีขาวสาดออกมาจากภายในป่านับร้อยคู่ เมื่อมันพ้นขอบชายป่ามาก็ปรากฏร่างของหมาป่านับร้อยตัวกำลังจ้องมองหมู่บ้านด้วยดวงตาสีทองของพวกมัน

 

วูบ ปู่แกรนเหวี่ยงศพของหมาป่าตัวแรกออกไปตรงหน้าฝูงหมาป่า ก่อนจะยกหอกของตนขึ้นเตรียมตัว

 

“ถ้าเข้ามา พวกแกจะเป็นแบบนั้น”แม้ไม่รู้ว่าหมาป่าจะฟังเขารู้เรื่องหรือไม่ แต่ปู่แกรนก็ยังพูดขู่ พลางชี้หอกมาทางฝูงหมาป่า

 

เมื่อเห็นว่าชายตรงหน้ามีท่าทีคิดต่อสู้ หมาป่าตัวหน้าสุดก็หันซ้ายหันขวาราวกับกำลังสั่งลูกน้องของตน ทันทีที่ได้รับคำสั่งหมาป่าแถวหลังก็ค่อนเดินไปทางซ้ายและขวา ค่อยๆโอบล้อมร่างของปู่แกรนเอาไว้ การล่าของหมาป่าเป็นการล่าแบบเป็นฝูง บ่อยครั้งพวกมันจะล้อมเหยื่อเอาไว้แล้วจัดการอย่างระมัดระวัง

 

กรรรร!!! หมาป่าตัวหนึ่งพุ่งเข้ามาหาแกรนทันทีเมื่อทั้งฝูงล้อมชายชราเอาไว้ได้ แต่ปู่แกรนก็เหวี่ยงหอกของตนจนเกิดเสียงลมหวีดหวิวคอยป้องกันหมาป่าเอาไว้

 

รุ่งเช้าคนในหมู่บ้านต่างวิ่งมาที่ทางเข้าหมู่บ้านเพราะกลิ่นของเลือดที่ลอยไปปลุกพวกเขาจากนิทรา

 

“คุณแกรน เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”ชายในหมู่บ้านถามหลังจากวิ่งมาทางกลิ่นเลือด สิ่งแรกที่เขาเห็นคือร่างของชายชราที่กำลังยืนอยู่ท่ามกลางพื้นที่เต็มไปด้วยเลือด ศพของหมาป่านับร้อยนอนเรียงเป็นวงอยู่รอบกายของชายชรา

 

“ไม่เป็นไร โชคยังดีที่มีแค่หมาป่าธรรมดา”ปู่แกรนตอบด้วยน้ำเสียงหนักๆทำให้คนรอบๆรู้ทันทีว่าเขาเองก็เจอเรื่องใหญ่มาไม่ใช่น้อย ถึงจะจัดการหมาป่าได้แต่บนร่างของปู่แกรนก็ยังมีรอยเขี้ยวและรอยเล็บอยู่ประปราย แม้จะไม่ใช่แผลใหญ่ถึงชีวิต แต่ก็มีเลือดไหลออกมาไม่ใช่น้อย

 

“ในป่ามันเกิดอะไรขึ้นกัน พวกหมาป่าถึงออกมาไกลขนาดนี้”ชายคนหนึ่งพูดพลางก้มลงมองศพของหมาป่า เขาคือนายพรานประจำหมู่บ้านนั่นเอง

 

“พวกมันยังอ้วนอยู่เลย คงไม่ใช่ปัญหาเรื่องอาหาร”นายพรานพูดพลางกดไปที่ท้องของหมาป่าที่มีแผลไม่มากนัก เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้ด้วยเหตุผลไม่กี่ข้อ ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นง่ายที่สุดคือเรื่องของ อาหาร หากถิ่นที่พวกหมาป่าอยู่ขาดแคลนอาหารละก็ พวกมันก็คงย้ายถิ่นเป็นเรื่องธรรมดา แต่ในศพของพวกมันไม่มีตัวไหนผอมแห้งเลยสักตัว ปัญหาเรื่องอาหารคงไม่ใช่

 

“พวกมันน่าจะโดนไล่ที่มา”นายพรานสรุปพลางมองเหล่าหมาป่าอย่างวิตก หมาป่าทั้งฝูงออกจากเขตของตน หากไม่ใช่เรื่องอาหาร ก็ต้องเป็นเรื่องของศัตรูทางธรรมชาติ หากมีสัตว์หรือสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งกว่าเข้ามาในพื้นที่ พวกมันก็ต้องย้ายหนี แต่นายพรานกลับไม่อยากนึกเลยว่าตัวอะไรกันแน่ที่ทำให้พวกหมาป่ากว่าร้อยตัวต้องย้ายหนีมาแบบนี้

 

กึกๆๆๆ ขณะกำลังถกเถียงกันอยู่นั้นภายในป่าก็ปรากฏเสียงกิ่งไม้ไหว พร้อมการสั่นสะเทือนราวกับแผ่นดินไหว เมื่อปู่แกรนหันไปมองภายในป่าดวงตาของเขาก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ

 

“หลบๆ”ปู่แกรนตะโกนบอกคนในหมู่บ้าน ก่อนจะวิ่งนำทุกคนไปที่บ้านหลังที่ใกล้ที่สุด ตอนนี้ไม่มีใครขัดคำสั่งของปู่แกรนแม้แต่คำเดียว พวกเขารีบไปหลบในบ้านของตนเองหรือไม่ก็บ้านที่ใกล้ที่สุกเท่าที่จะเป็นไปได้เพราะสิ่งที่พวกเขาเห็นนั้นคือ ฝูงของสัตว์ป่าจำนวนมากกำลังวิ่งเข้ามาในหมู่บ้าน

 

ขณะกำลังคิดว่ามันเกิดอะไรขึ้นร่างของสัตว์เล็กสัตว์น้อยไม่ว่าจะกระต่าย กระรอก เก้ง กวาง ก็สิ่งผ่านหน้าต่างไปราวกำลังหนีบางอย่าง

 

“สวรรค์ ตัวอะไรกันแน่ที่ทำให้พวกมันหนีกันขนาดนี้”นายพรานอุทานพลางมองออกนอกหน้าต่างด้วยด้วงตาที่แฝงเอาไว้ด้วยความหวาดกลัว

 

ผ่านไปราวๆ 15 นาที ฝูงสัตว์ป่าก็วิ่งผ่านไปเหลือไว้แต่ฝุ่นละอองที่ลอยละล่องทั่วหมู่บ้าน พวกมันไม่ได้สนใจเลยว่ามีหมู่บ้านอยู่ตรงนี้ พวกมันแค่วิ่งผ่านไปเฉยๆเท่านั้น

 

โฮกกกก อยู่ๆเสียงๆหนึ่งก็ดังขึ้นเล่นเอานายพรานถึงกับทิ้งตัวลงนั่ง

 

“ไม่จริงน่า แม่แต่มันยังออกมาจากอาณาเขตของมันเลยงั้นเหรอ”นายพรานอุทานพลางเหลือบตามองไปนอกหน้าต่าง ร่างมหึมาที่สูงกว่า 4 เมตรทำเอาขนทั่วร่างของนายพรานตั้งชัน กรงเล็บใหญ่ของมันกำลังก้าวตะปบไปบนพื้นอย่างเชื่องช้า แต่แค่การก้าวเดินของมันก็ทำเอาบ้านสั่นสะเทือนเป็นการใหญ่ เจ้าของร่างใหญ่โตนั้นคือ หมียักษ์ท้องขาว สัตว์อสูรเจ้าถิ่นของป่าแถบนี้ มันเป็นดั่งตัวตนในตำนานของหมู่บ้านและเมืองในแถบนี้ทั้งหมด กล่าวกันว่ามันคือผู้ปกครองป่าเขาลำเนาไพร มันมักจะอาศัยอยู่ในป่าลึกเท่านั้นจึงมีน้อยคนที่จะเคยเห็นมัน แม้แต่ตัวนายพรานเองยังเคยได้ยินมาแต่เรื่องราว แต่ถึงจะเคยได้ยินมาเท่านั้นเขาก็มั่นใจได้ทันทีว่าหมีตัวนี้ต้องเป็น หมียักษ์ท้องขาวอย่างแน่นอน ไม่ใช่เพราะเขาเห็นว่าที่ท้องของมันมีขนสีขาวอยู่ แต่เพราะมันมีหมีบ้านี่ตัวเดียวเท่านั้นที่มีขนาดใหญ่แบนี้ ขนาดมันยังไม่ยืน 2 ขา มันยังสูงร่วม 4 เมตร หากมันยืนละก็คงสูงลิ่วราวกับยักษ์ปักหลั่นเลยทีเดียว

 

“ขอร้องละ ให้มันผ่านไปเฉยๆเถอะ”นายพรานภาวนา พลางมองลอดช่องหน้าต่างบ้านออกมามองหมียักษ์ท้องขาวอย่างหวาดๆ หากมันผ่านมาแล้วก็ไปเหมือนสัตว์ป่าพวกที่แล้วย่อมดีเป็นที่สุด

 

ฟืดๆ หมียักษ์ท้องขาวกำลังเดินผ่านบ้านหลังหนึ่ง แต่มันก็หยุดชะงักลงก่อนจะยื่นจมูกของมันไปที่ประตูเพื่อดมกลิ่น ทำเอาคนในบ้านต่างขวัญหนีดีฝ่อกันถ้วนหน้า แต่เมื่อมันดมได้พักหนึ่งมันก็หันหน้าหนีไปทางอื่น ทำเอาคนในบ้านโล่งใจไปตามๆกัน

 

โฮกกก หมียักษ์ท้องขาวส่งเสียงคำรามขึ้นก่อนจะหยัดตัวขึ้นยืน 2 ขา เผยให้เห็นขนบริเวณท้องที่เป็นสีขาวอย่างชัดเจน

 

“กรีดดด”ขณะกำลังสงสัยว่าหมียักษ์ท้องขาวยืน 2 ขาทำไมเสียงกรีดก็ดังมาจากหลังคาบ้านหลังหนึ่ง มันเป็นเสียงของเด็กสาวในหมู่บ้านซึ่งเป็นเสียงของโรสนั่นเอง เพราะความตกใจที่เห็รสัตว์ป่าวิ่งโถมเข้ามาในหมู่บ้าน เธอจึงใช้บันไดที่เธอใช้ปีนขึ้นมาเมื่อวานเพื่อขึ้นมาบนหลังคาอีกครั้ง ใครจะไปคิดละว่าหมีตัวใหญ่ขนาดนี้จะเดินเข้ามาในหมู่บ้าน ขนาดว่าเธออยู่บนหลังคาแท้ๆยังอยู่แค่บริเวณท้องของมันเท่านั้น

 

“หยุดนะ”ขณะทุกคนกำลังตกใจเพราะเห็นโรสอยู่บนหลังคา เสียงๆหนึ่งก็ดังขึ้นพร้อมร่างของชายชราที่ยืนตระหง่านอยู่ตรงหน้าหมียักษ์ท้องขาว

 

“ทำบ้าอะไรนะคุณแกรน ออกมาเถอะ”หัวหน้าหมู่บ้านตะโกนเมื่อเห็นปู่แกรนออกไปยืนขวางระหว่างหมียักษ์ท้องขาวกับโรสเอาไว้

 

“ข้าคือผู้คุ้มกันของหมู่บ้าน หากจะทำร้ายใครในหมู่บ้านต้องข้ามศพข้าไปก่อน”ชายชราประกาศเสียงดังลั่น พลางกระทุ้งด้ามหอกลงพื้นเสียงดังสนั่นสร้างความสนใจให้แก่หมียักษ์ท้องขาวอย่างมาก

 

“ทำอะไรของคุณกัน ไม่มีทางที่มนุษย์จะไปสู้ไอ้ตัวพันธุ์นั้นได้หรอก”นายพรานตะโกนพลางเปิดหน้าต่างออกมา แต่สิ่งที่เขาเห็นกลับมีเพียงสายตาที่เด็ดเดี่ยวของชายชราเท่านั้น

 

“ออกไปซะ”ปู่แกรนกำด้ามหอกแน่น ก่อนจะกระโดดใส่ท้องของหมียักษ์ท้องขาวอย่างรุนแรง ทันทีที่ปลายหอกกระแทกใส่พุงของหมีภาพที่ทำเอาคนทั้งหมู่บ้านตกตะลึงอย่างมากก็ปรากฏขึ้น ร่างของหมีเซถอยหลังออกไปร่วมเมตรจากแรงกระแทกของหอก

 

โฮกกกก หมียักษ์ท้องขาวคำรามเสียงดัง ก่อนจะเหวี่ยงอุ้งมือของมันใส่ร่างของปู่แกรน เขายกหอกขึ้นก่อนจะใช้หอกของเขารับอุ้งมือนั่นเอาไว้ อุ้งมือใหญ่ยักษ์ของหมียักษ์ท้องขาวกระแทกใส่ปู่แกรนอย่างรุนแรงจนหอกสั่นไหวราวกับหญ้าต้องแรงลม แต่ปู่แกรนกลับไม่ขยับแม้แต่น้อย ภาพตรงหน้าทำเอาคนในหมู่บ้านมองปู่แกรนตาค้างเพราะไม่คิดว่าคนตัวเล็กๆอย่างเขจะสามารถต้านอุ้งมือที่มีขนาดใหญ่กว่าร่างของมนุษย์เอาไว้ได้

 

“โรส เป็นอะไรหรือเปล่า”ขณะที่ปู่แกรนกำลังต่อสู้กับหมียักษ์ท้องขาว ลูเซียสก็ขึ้นมาบนหลังคาเพื่อมารับตัวโรสลงไปด้านล่าง เพราะตั่งแต่เริ่มการต่อสู้มาโรสยังก้าวขาไม่ออกแม่แต้ก้าวเดียว

 

“ฮึก...”โรสไม่ได้ตอบคำถามของลูเซียส เอเพียงส่งเสียงร้องให้ออกมาเท่านั้น ลูเซียสดึงร่างของเด็กสาวมาไว้ในอ้อมกอด ก่อนจะยกร่างของเธอขึ้นกระโดดวูบลงจากหลังคาอย่างรวดเร็ว เมื่อหันไปมองทางปู่แกรนที่กำลังต่อสู้อยู่ ลูเซียสก็อดชื่นชมในความเด็ดเดี่ยวของปูแกรนไม่ได้ ทั้งๆที่ปู่แกรนอ่อนแอกว่าหมียักดษ์ท้องขาวตั้งมากแท้ๆ แต่ก็ยังออกมาสู้เพื่อปกป้องโรสและคนในหมู่บ้าน

 

“อัก”ปู่แกรนรับอุ้งมือของหมียักษ์ท้องขาวเอาไว้อย่างฝืนทนด้วยพลังทั้งหมดที่มี เป็นอย่างที่ลูเซียสคิดไม่มีผิด ถึงภายนอกปู่แกรนจะรับมือหมียักษ์ท้องขาวได้อย่างสูสี แต่ทั้งหมดนั้นก็พึ่งพาเพียงความสามารถของเวทเสริมพลังเท่านั้น แน่นอนว่าพลังเวทในร่างกายของปู่แกรนมีจำกัด ไหนจะความเหนื่อยล้ากับการต่อสู้กับหมาป่าตลอดคืนที่ผ่านมาอีก แค่รับการโจมตีจากอุ้งมือใหญ่ๆของหมียักษ์ท้องขาวก็เต็มกลืนแล้ว และยิ่งเมื่อไดที่พลังเวทในร่างกายแห้งเหือดเมื่อนั้นแม้แต่เล็บเพียงเล็บเดียวของหมียักษ์ท้องขาวเขาก็ไม่สามารถรับได้

 

“อย่ามายุ่ง กับหมู่บ้านของฉัน”ปู่แกรนตะโกนลั่น ก่อนจะแทงหอกใส่หมียักษ์ท้องขาวอีกที แต่หอกธรรมดาๆที่ตีจากนายช่างในหมู่บ้านกลับมีความคมไม่พอ มันทำได้แค่ดันร่างของหมียักษ์ให้ออกห่างหมู่บ้านเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

 

โฮกกกก หมียักษ์ตะปบใส่ปู่แกรนอีกครั้ง แต่คราวนี้ปู่แกรนไม่ได้ป้องกันอย่างคราวก่อน เขาแทงหอกสวนใส่อุ้งมือของหมียักษ์ท้องขาวเสียดื้อๆ

 

ตอนนี้ปู่แกรนมีพลังเวทเหลือไม่มาก ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ใช่จอมเวท เป็นเพียงนักรบที่มีพลังเวทในกายเท่านั้น ทำให้การปะทะไม่กี่ทีกับหมียักษ์ท้องขาวกัดกินพลังเวทในกายของเขาไปแทบหมดสิ้น หากเขายังป้องกันต่อไปก็ทำได้แต่ถ่วงเวลารอพลังเวทหมดเท่านั้น เขาจึงเลือกที่จะโจมตี ถึงแม้จะมีโอกาสไม่มากแต่หากสร้างความเจ็บปวดให้หมียักษ์มากพอมันอาจจะหันหลังหนีก็ได้

 

“อัก!”ปู่แกรนร้องออกมาเสียงดังขณะกระอักเลือดออกมา ลูกคิดรางแก้วของเขาพังทลายลงทันทีเมื่อหมียักษ์ท้องขาวคว้าตัวเขาเอาไว้ได้ แรงจากการโจมตีของอุ้งมือยักษ์ของมันโดยไม่มีการป้องกันส่งร่างของปู่แกรนกระแทกเข้ากับบ้านด้านหลังอย่างจัง ทำเอากระดูกทั่วร่างแทบแหลกสลาย

 

โฮกกกกก หมียักษ์ท้องขาวคำรามลั่น พร้อมตรงเข้ามาโจมตีใส่ชายชรา

 

ฉึก!! แต่ไม่ทันเดินเข้ามาใกล้ หอกเล่มหนึ่งก็ถูกปาใส่ดวงตาของมันอย่างแม่นยำ ส่งผลให้เลือดสีแดงสดไหลออกมาจากดวงตาของมัน

 

“ลูเซียส?!!” เสียงคนในหมู่บ้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวพร้อมกับความรู้สึกประหลาดใจ ภาพที่พวกเขาเห็นคือร่างของเด็กชายวัย 7 ขวบกำลังแบกหอก 2 เล่มไว้บนหลังยืนอยู่บนหลังคาบ้านที่แกรนถูกซัดไปโดนพอดี

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด